ค่ะ ตามคำถามเลย เรามีแฟนที่ห่างกับเราถึง 16 ปี ส่วนเรา พึ่ง18จะ19ค่ะ มันจะไวไปไหมถ้าเราจะคิดถึงเรื่องการที่อยู่ด้วยกัน วางแผนที่ใช้ชีวิตคู่ ในอีก 6-7ปีข้างหน้า
(คือเราเป็น INTJ ค่ะ เราจะเป็นคนจริงจังที่วางแผนชีวิตในระยะยาว ส่วนแฟนเราเป็น INFP ซึ่งจะใช้ชีวิตยืดหยุ่นมากเลยค่ะ อันนี้แล้วแต่ทัศนคติบุคคลนะคะ อาจมีผลไม่มากก็น้อย ในชีวิตคู่ แต่ขอเขียนซักหน่อยค่ะ)
เรากับแฟนเป็น LGBTQ+ (lesbian)ค่ะ เราห่างกัน16 ปี ตอนนี้เราคบกับแฟนเรามา1ปีแล้วค่ะ เราอยู่กทม ส่วนแฟนเราก็อยู่ภาคกลางเพชรบุรี เราเจอกันทางแอปนึง แต่ด้วยตอนนั้นที่เราปัดมาเจอกัน นางอยู่ออฟฟิตโฮมที่ใกล้เราค่ะ คือกินนอนทำงานที่นั่น ส่วนเราก็อยู่ซอยข้างเขาเลยค่ะ เรามาเจอกัน เขาบอกเรานะคะว่าเป็นคนที่เพชรบุรี แต่คือด้วยการทำงานของเขาที่เป็นฟรีแลนซ์สายงานทัวร์น่ะค่ะ ก็เลยอาจต้องขึ้นอยู่กทม ซะส่วนใหญ่ แต่ช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมานี้ เราก็เจอกันบ่อยนะคะ เดือนละครั้งสองครั้ง ครั้งนึงก็3-4วันค่ะ เราไปหาเขาบ้าง แต่นานๆทีค่ะ ด้วยโควิดด้วยที่เขาเองก็ไม่ได้มีงาน แต่เขาก็จะขึ้นมาเพราะมีงานอื่นติดต่อมาตลอดน่ะค่ะ ก็เจอกันทุกเดือน เพราะมีงานบ่อย เราเจอกันก่อนนางทำงาน 2-3 วันละก็ช่วงเวลาที่นางหยุด แต่พอเวลาเสร็จงาน นางอยู่กับเราได้แค่2-3วันนางก็ต้องกลับบ้าน เพราะพ่อตามกลับบ้าน คือเวลาที่นางไม่มีงานไม่มีอะไร นางก็จะกลับบ้านอยู่เฝ้าบ้าน คือพ่อก็แวะเอาของกินหรือเงินบ้างอะไรอย่างนี้ วันเว้นวัน เวลาทะเลาะกัน ก็อาจเป็นเพราะเราที่ซัพพอร์ตเขาเรื่องเงินไม่ได้ เขาเลยต้องกลับไปขอพ่อ ถึงจะเป็นอะไรมาอย่างไรเขาก็ยังเหลือพ่อค่ะ
เราต้องห่างไกลกันถึงมันจะไม่ไกลเท่าไหร่ แต่ระยะทางและเป้าหมายเรื่องชีวิตคู่ก็ต่างกัน ทำให้เราทะเลาะกันแล้วเลิกกันไปรอบนึงแล้วค่ะ
เราทะเลาะเรื่องนี้กันทุกครั้ง เพราะเราเกลียดความห่างไกลค่ะ ส่วนเรื่องที่เราช็อค ในอนาคตเขาไม่ได้อยากจะมาอยู่ใช้ชีวิตคู่กับเราเลยค่ะ เขามีบ้านอยู่ที่นั้น มีครอบครัวที่ยังอยู่ และถึงตอนนั้นเขาจะไม่เหลือใครเขาก็จะอยู่ที่นั่น เขาไม่จำเป็นจะต้องไปดินรนอยู่ที่อื่น มันใจสบายมากเลยค่ะตอนนั้นที่เขาไม่ได้คิดจะใช้ชีวิตอยู่กับเราในอนาคต แตกต่างจากเราที่อยากจะใช้ชีวิตคู่ด้วยกัน ถึงในอนาคตเราอาจไม่ได้คบกันถึงวันนั้น แต่ก็อยากให้เขาคิดเหมือนกันยังดีกว่าน่ะค่ะ มันยังทัชใจกว่า เราแค่ไม่รู้ว่าเราต้องห่างไกลกันแบบนี้อีกนานไหม จะต้องทะเลาะเรื่องนี้กันอีกนานแค่ไหน เขาพูดกับเราว่าเราเองก็ต้องมีครอบครัวที่เรายังต้องดูแล ถ้าวันที่เขามาอยู่กับเราเขาใกล้ครอบครัวเรา แต่เขาล่ะ เขาไกลครอบครัวเขา เราก็ช็อคๆนะคะ แต่ก็จริงทั้งหมด เราแค่ไม่รู้ว่าจะทนอยู่แบบนี้ได้อีกนานแค่ไหน ถ้าวันนึงทางของเราสองคนมันไม่บรรจบกัน มันจะเสียเวลามากๆเลยค่ะ
อาจเป็นเพราะตอนนี้เรายังซัพพอร์ตเขาเรื่องการเงินไม่ได้ขนาดนั้นอ่ะค่ะ เขาเลยพูดแบบนั้นออกมา เราเลยถามคำถามนึงว่า ที่เธอทำอยู่ทุกวันนี้มันมีเราในในอนาคตอยู่บ้างมั้ย เราเคยอ่านในพันทิปอ่ะค่ะแล้วเจอคอมเม้นท์นึงว่า เขาอาจทำงานสร้างเนื้อสร้างตัวเพื่ออนาคตของเราทั้งคู่อ่ะค่ะ คือแบบการที่เราถามแบบนี้อาจเป็นเพราะ การที่เราต้องมาเข้าใจในสิ่งที่มันยาก เราเลยกลัวผลลัพธ์จะออกมาว่า สุดท้ายวันนึงแล้วเขาอาจเจอคนอื่น หรือไปใช้ชีวิตดีๆกับคนอื่น ทั้งๆที่เราเป็นคนอยู่ในช่วงเวลานั้นของเขา แต่เขาบอกว่า เขารักเรา แต่รักที่จำเป็นต้องห่าง เราจุกมากเลยค่ะ
ตอนนี้เราไม่ได้เจอกันมาเดือนนึงแล้วค่ะเราพยายามจะเข้าใจเขาทุกอย่างและก็ ให้กำลังใจเขาทุกวัน ถามสารทุกข์สุขดิบทุกวัน บอกรักกันและเราก็เป็นคนสุดท้ายที่เขาจะเจอก่อนนอนค่ะ
ถ้าความคิดของเราและเป้าหมายของเรามันไม่ตรงกัน เราตะตัดสินใจที่จะยังอยู่ต่อไหม
(คือเราเป็น INTJ ค่ะ เราจะเป็นคนจริงจังที่วางแผนชีวิตในระยะยาว ส่วนแฟนเราเป็น INFP ซึ่งจะใช้ชีวิตยืดหยุ่นมากเลยค่ะ อันนี้แล้วแต่ทัศนคติบุคคลนะคะ อาจมีผลไม่มากก็น้อย ในชีวิตคู่ แต่ขอเขียนซักหน่อยค่ะ)
เรากับแฟนเป็น LGBTQ+ (lesbian)ค่ะ เราห่างกัน16 ปี ตอนนี้เราคบกับแฟนเรามา1ปีแล้วค่ะ เราอยู่กทม ส่วนแฟนเราก็อยู่ภาคกลางเพชรบุรี เราเจอกันทางแอปนึง แต่ด้วยตอนนั้นที่เราปัดมาเจอกัน นางอยู่ออฟฟิตโฮมที่ใกล้เราค่ะ คือกินนอนทำงานที่นั่น ส่วนเราก็อยู่ซอยข้างเขาเลยค่ะ เรามาเจอกัน เขาบอกเรานะคะว่าเป็นคนที่เพชรบุรี แต่คือด้วยการทำงานของเขาที่เป็นฟรีแลนซ์สายงานทัวร์น่ะค่ะ ก็เลยอาจต้องขึ้นอยู่กทม ซะส่วนใหญ่ แต่ช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมานี้ เราก็เจอกันบ่อยนะคะ เดือนละครั้งสองครั้ง ครั้งนึงก็3-4วันค่ะ เราไปหาเขาบ้าง แต่นานๆทีค่ะ ด้วยโควิดด้วยที่เขาเองก็ไม่ได้มีงาน แต่เขาก็จะขึ้นมาเพราะมีงานอื่นติดต่อมาตลอดน่ะค่ะ ก็เจอกันทุกเดือน เพราะมีงานบ่อย เราเจอกันก่อนนางทำงาน 2-3 วันละก็ช่วงเวลาที่นางหยุด แต่พอเวลาเสร็จงาน นางอยู่กับเราได้แค่2-3วันนางก็ต้องกลับบ้าน เพราะพ่อตามกลับบ้าน คือเวลาที่นางไม่มีงานไม่มีอะไร นางก็จะกลับบ้านอยู่เฝ้าบ้าน คือพ่อก็แวะเอาของกินหรือเงินบ้างอะไรอย่างนี้ วันเว้นวัน เวลาทะเลาะกัน ก็อาจเป็นเพราะเราที่ซัพพอร์ตเขาเรื่องเงินไม่ได้ เขาเลยต้องกลับไปขอพ่อ ถึงจะเป็นอะไรมาอย่างไรเขาก็ยังเหลือพ่อค่ะ
เราต้องห่างไกลกันถึงมันจะไม่ไกลเท่าไหร่ แต่ระยะทางและเป้าหมายเรื่องชีวิตคู่ก็ต่างกัน ทำให้เราทะเลาะกันแล้วเลิกกันไปรอบนึงแล้วค่ะ
เราทะเลาะเรื่องนี้กันทุกครั้ง เพราะเราเกลียดความห่างไกลค่ะ ส่วนเรื่องที่เราช็อค ในอนาคตเขาไม่ได้อยากจะมาอยู่ใช้ชีวิตคู่กับเราเลยค่ะ เขามีบ้านอยู่ที่นั้น มีครอบครัวที่ยังอยู่ และถึงตอนนั้นเขาจะไม่เหลือใครเขาก็จะอยู่ที่นั่น เขาไม่จำเป็นจะต้องไปดินรนอยู่ที่อื่น มันใจสบายมากเลยค่ะตอนนั้นที่เขาไม่ได้คิดจะใช้ชีวิตอยู่กับเราในอนาคต แตกต่างจากเราที่อยากจะใช้ชีวิตคู่ด้วยกัน ถึงในอนาคตเราอาจไม่ได้คบกันถึงวันนั้น แต่ก็อยากให้เขาคิดเหมือนกันยังดีกว่าน่ะค่ะ มันยังทัชใจกว่า เราแค่ไม่รู้ว่าเราต้องห่างไกลกันแบบนี้อีกนานไหม จะต้องทะเลาะเรื่องนี้กันอีกนานแค่ไหน เขาพูดกับเราว่าเราเองก็ต้องมีครอบครัวที่เรายังต้องดูแล ถ้าวันที่เขามาอยู่กับเราเขาใกล้ครอบครัวเรา แต่เขาล่ะ เขาไกลครอบครัวเขา เราก็ช็อคๆนะคะ แต่ก็จริงทั้งหมด เราแค่ไม่รู้ว่าจะทนอยู่แบบนี้ได้อีกนานแค่ไหน ถ้าวันนึงทางของเราสองคนมันไม่บรรจบกัน มันจะเสียเวลามากๆเลยค่ะ
อาจเป็นเพราะตอนนี้เรายังซัพพอร์ตเขาเรื่องการเงินไม่ได้ขนาดนั้นอ่ะค่ะ เขาเลยพูดแบบนั้นออกมา เราเลยถามคำถามนึงว่า ที่เธอทำอยู่ทุกวันนี้มันมีเราในในอนาคตอยู่บ้างมั้ย เราเคยอ่านในพันทิปอ่ะค่ะแล้วเจอคอมเม้นท์นึงว่า เขาอาจทำงานสร้างเนื้อสร้างตัวเพื่ออนาคตของเราทั้งคู่อ่ะค่ะ คือแบบการที่เราถามแบบนี้อาจเป็นเพราะ การที่เราต้องมาเข้าใจในสิ่งที่มันยาก เราเลยกลัวผลลัพธ์จะออกมาว่า สุดท้ายวันนึงแล้วเขาอาจเจอคนอื่น หรือไปใช้ชีวิตดีๆกับคนอื่น ทั้งๆที่เราเป็นคนอยู่ในช่วงเวลานั้นของเขา แต่เขาบอกว่า เขารักเรา แต่รักที่จำเป็นต้องห่าง เราจุกมากเลยค่ะ
ตอนนี้เราไม่ได้เจอกันมาเดือนนึงแล้วค่ะเราพยายามจะเข้าใจเขาทุกอย่างและก็ ให้กำลังใจเขาทุกวัน ถามสารทุกข์สุขดิบทุกวัน บอกรักกันและเราก็เป็นคนสุดท้ายที่เขาจะเจอก่อนนอนค่ะ