เกริ่นก่อนเลยนะคะว่านี่เป็นกระทู้แรกที่ตั้งดังนั้นถ้าเราติดแท็กผิดหรืออะไรยังไง รบกวนชี้แนะด้วยความสุขภาพนะคะ ขอบคุณค่ะ
คือเรื่องมันเป็นแบบนี้ค่ะ ตอนนี้เรากำลังศึกษาอยู่ปีที่สามกำลังจะขึ้นปีที่สี่ค่ะ ช่วงปีที่แล้วเรามีแฟนคนนึง ซึ่งอายุมากกว่าเรา 10 ปี โดยที่ระหว่างที่คบกันยอมรับว่าไม่ค่อยรู้สึก in love เท่าไหร่ค่ะ เนื่องจากช่วงอายุที่มีช่องว่างห่างกันค่อนข้างมากเลยคุยกันไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่ก็ประคับประคองมาได้นานพอตัว เขาเป็นผช.ที่ ไม่ค่อยคิดถึงอนาคตค่ะ เท่าที่สัมผัสมานะคะ เขาทำงานเป็น Hr อยู่โรงงานแห่งหนึ่งในอำเภอใกล้เคียง เราไม่ได้อยู่ด้วยกันค่ะ ที่บอกว่าไม่ค่อยคิดถึงอนาคตคือ ช่วงที่เงินปันผลออก เขาจะนำเงินไปใช้จ่ายอย่างเดียว ซึ่งจุดนี้เราเข้าใจค่ะว่าทำงานเหนื่อยอาจจะให้ราวัลตัวเอง แต่คำพูดเขาบ่อยๆมันเริ่มจะทำให้เรารู้สึกว่าเขาสุรุ่ยสุร่ายจนเกินไป ยกตัวอย่างเช่น "มีเงินก็ต้องใช้สิ" อะไรทำนองนี้ค่ะ เราสังเกตุเห็นว่าเขาดูเป็นผช.ที่ไม่ได้มีเงินเก็บ กรณีจำเป็นหรือใดๆ บ้านก็ยังไม่มี รถก็ไม่มี เอาง่ายๆคือไม่มีอะไรเลยค่ะ ทำงานอยู่ที่เดียวให้เขากดหัวมา 5 ปีเงินเดือนไม่ขึ้น(ประมาณไม่เกินสองหมื่นค่ะ) แต่ก็ไม่ได้หาที่ทำงานที่อื่นหรืองานเสริมแต่อย่างใด ซึ่งตรงจุดนี้เรามองว่ายังโอเคอยู่ ถ้าเกิดคบกันแล้วมันไปรอดเราก็ช่วยกันสร้างได้ไม่เป็นไร ค่อยๆปรับกันไป แต่มาจุดนึง ความรักที่เขาให้เรามันเริ่มจืดจางยิ่งประกอบกับที่เราไม่ได้อินในความรักนั้นมากเท่าไหร่อยู่แล้ว การกระทำมันยิ่งทำร้ายความรู้สึกกัน เราคิดว่าเราจะออกจากความสัมพันธ์นี้ แต่เราก็ยังออกไปไม่ได้สักที คิดว่าถ้าเกิดพน.ไม่มีเขาแล้ว จะรู้สึกแย่ไหมก็เลยยังไม่ได้ออกจากจุดนี้ วันนั้นเราคุยกันแบบปกติ เขาก็พูดขึ้นมาว่ากำลังจะลาออกจากงานประจำนะ ไปขับรถตู้ ขับรถบรรทุก ออกตัวก่อนเลยว่าไม่ได้เหยียดใดๆทั้งสิ้นกับอาชีพนี้ค่ะ แต่ในหัวตอนนั้นคิดภาพที่ถ้าสมมุติคบกันยาวแล้วเอาไปแนะนำกับเพื่อน (เพื่อนคงไม่ได้คิดอะไรหรอกค่ะเรานี่แหละที่จะคิดว่าแอบรู้สึกตะหงิดๆนิดนึง) หรือครอบครัวคงจะแปลกๆค่ะและคิดว่าที่บ้านคงไม่อนุญาตด้วยเนื่องจากเรื่องฐานะ กลัวจะดูแลเราไม่ได้ บวกกับพอเขาพูดมาอย่างนั้นก็สบทบต่ออีกว่า เวลาที่มีให้ก็ยิ่งน้อยลงไม่ได้เจอไม่ได้คุย เราเลยรู้สึกว่าอยู่ก็จืดจางคบไปก็ไม่น่ามีอะไรดีขึ้น เราเลยตัดสินใจเลิกวันนั้นเลยค่ะโดยจากตอนแรกที่เหมือนคิดมากว่าจะตัดยากพอเอาเรื่องฐานะมาเกี่ยวก็ตัดง่ายกว่าเดิมมากเลยค่ะ ซึ่งเราก็คิดมาตลอดว่าที่เราคิดแบบนี้มันผิดไหม เรามองว่าถ้าคบกันมันต้องช่วยกันสร้างมีเก็บแต่ถ้าคบแล้วเอาตัวเองไปลำบากกว่าเดิมเราจะโสดดีกว่ามั้ย สรุปแล้วที่เราคิดแบบนี้มันผิดไหมคะ เพราะคุยกับเพื่อนสนิทแล้วเพื่อนว่าเราแปลก ฮ่าฮ่า
ผิดหรือไม่ ถ้าคบกันแล้วมองที่ฐานะ
คือเรื่องมันเป็นแบบนี้ค่ะ ตอนนี้เรากำลังศึกษาอยู่ปีที่สามกำลังจะขึ้นปีที่สี่ค่ะ ช่วงปีที่แล้วเรามีแฟนคนนึง ซึ่งอายุมากกว่าเรา 10 ปี โดยที่ระหว่างที่คบกันยอมรับว่าไม่ค่อยรู้สึก in love เท่าไหร่ค่ะ เนื่องจากช่วงอายุที่มีช่องว่างห่างกันค่อนข้างมากเลยคุยกันไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่ก็ประคับประคองมาได้นานพอตัว เขาเป็นผช.ที่ ไม่ค่อยคิดถึงอนาคตค่ะ เท่าที่สัมผัสมานะคะ เขาทำงานเป็น Hr อยู่โรงงานแห่งหนึ่งในอำเภอใกล้เคียง เราไม่ได้อยู่ด้วยกันค่ะ ที่บอกว่าไม่ค่อยคิดถึงอนาคตคือ ช่วงที่เงินปันผลออก เขาจะนำเงินไปใช้จ่ายอย่างเดียว ซึ่งจุดนี้เราเข้าใจค่ะว่าทำงานเหนื่อยอาจจะให้ราวัลตัวเอง แต่คำพูดเขาบ่อยๆมันเริ่มจะทำให้เรารู้สึกว่าเขาสุรุ่ยสุร่ายจนเกินไป ยกตัวอย่างเช่น "มีเงินก็ต้องใช้สิ" อะไรทำนองนี้ค่ะ เราสังเกตุเห็นว่าเขาดูเป็นผช.ที่ไม่ได้มีเงินเก็บ กรณีจำเป็นหรือใดๆ บ้านก็ยังไม่มี รถก็ไม่มี เอาง่ายๆคือไม่มีอะไรเลยค่ะ ทำงานอยู่ที่เดียวให้เขากดหัวมา 5 ปีเงินเดือนไม่ขึ้น(ประมาณไม่เกินสองหมื่นค่ะ) แต่ก็ไม่ได้หาที่ทำงานที่อื่นหรืองานเสริมแต่อย่างใด ซึ่งตรงจุดนี้เรามองว่ายังโอเคอยู่ ถ้าเกิดคบกันแล้วมันไปรอดเราก็ช่วยกันสร้างได้ไม่เป็นไร ค่อยๆปรับกันไป แต่มาจุดนึง ความรักที่เขาให้เรามันเริ่มจืดจางยิ่งประกอบกับที่เราไม่ได้อินในความรักนั้นมากเท่าไหร่อยู่แล้ว การกระทำมันยิ่งทำร้ายความรู้สึกกัน เราคิดว่าเราจะออกจากความสัมพันธ์นี้ แต่เราก็ยังออกไปไม่ได้สักที คิดว่าถ้าเกิดพน.ไม่มีเขาแล้ว จะรู้สึกแย่ไหมก็เลยยังไม่ได้ออกจากจุดนี้ วันนั้นเราคุยกันแบบปกติ เขาก็พูดขึ้นมาว่ากำลังจะลาออกจากงานประจำนะ ไปขับรถตู้ ขับรถบรรทุก ออกตัวก่อนเลยว่าไม่ได้เหยียดใดๆทั้งสิ้นกับอาชีพนี้ค่ะ แต่ในหัวตอนนั้นคิดภาพที่ถ้าสมมุติคบกันยาวแล้วเอาไปแนะนำกับเพื่อน (เพื่อนคงไม่ได้คิดอะไรหรอกค่ะเรานี่แหละที่จะคิดว่าแอบรู้สึกตะหงิดๆนิดนึง) หรือครอบครัวคงจะแปลกๆค่ะและคิดว่าที่บ้านคงไม่อนุญาตด้วยเนื่องจากเรื่องฐานะ กลัวจะดูแลเราไม่ได้ บวกกับพอเขาพูดมาอย่างนั้นก็สบทบต่ออีกว่า เวลาที่มีให้ก็ยิ่งน้อยลงไม่ได้เจอไม่ได้คุย เราเลยรู้สึกว่าอยู่ก็จืดจางคบไปก็ไม่น่ามีอะไรดีขึ้น เราเลยตัดสินใจเลิกวันนั้นเลยค่ะโดยจากตอนแรกที่เหมือนคิดมากว่าจะตัดยากพอเอาเรื่องฐานะมาเกี่ยวก็ตัดง่ายกว่าเดิมมากเลยค่ะ ซึ่งเราก็คิดมาตลอดว่าที่เราคิดแบบนี้มันผิดไหม เรามองว่าถ้าคบกันมันต้องช่วยกันสร้างมีเก็บแต่ถ้าคบแล้วเอาตัวเองไปลำบากกว่าเดิมเราจะโสดดีกว่ามั้ย สรุปแล้วที่เราคิดแบบนี้มันผิดไหมคะ เพราะคุยกับเพื่อนสนิทแล้วเพื่อนว่าเราแปลก ฮ่าฮ่า