เพื่อนๆ ... เชื่อว่า ผีมีจริงไหม ?
ผมคนหนึ่งล่ะ ที่ไม่เชื่อ...จนกระทั่ง
ช่วงต้น ปี พ.ศ. 2534...
ผมออกมอเตอร์ไซด์ Kawasaki KR-150 SP สีแดงคาดขาว
นังนี่...เป็นมอเตอร์ไซด์ตัวแรกในชีวิตผมเลยนะ
ล้อแม็กซ์ อีก...ซะด้วย
ที่เท่มากสุดๆ ก็เมื่อตอนที่ขี่พร้อมกับสวมชุดบิน
ถุงมือบิน หมวกกันน็อคสี ทอ. คาดแถบสะท้อนแสง
รองเท้าคีบ...แตะ ไม่สวมถุงเท้า !!
หัวตอนนั้นเงี้ย...ให้โกร๋นทีเดียวเชียว
เพิ่งจบหลักสูตรนายทหารชั้นผู้บังคับหมวดมา
ขับไปอวดพี่ ป้า น้า อา ที่สิงห์บุรีดีกว่า...
ผมเอาสาวเหน็บหลังไปด้วยคนนึงนะ
ขับรถประเภทนี้ มันต้องตามสโลแกนเค้าซะหน่อย
"ไข่ต้องติดถัง หลังต้องติดนม..."
แวะเข้าตลาดสดเมืองสิงห์ เหมือนเคย
อะไรจะบังเอิญปานนั้น
ผู้สาวผมดันไปเจอกับเพื่อนซี้สมัยเรียนเข้าให้
ทักทายกันเสร็จ เพื่อนสาวเจ้าก็ชวนเราไปพักที่บ้านหล่อน
" ไม่ไกลหรอก ขับตามมอเตอร์ไซด์เรามานะ..."
ออกจากตัวเมืองมานิดเดียว ก็แวะเข้าซอยแล้ว
วิ่งไปตามซอยแพร้บเดียว ก็กลายเป็นทุ่งนาถนนดิน
เลนเดียวเสียด้วย หญ้างี้ให้ขึ้นเต็มกลางถนน
เอ้า...ถึงเสียที นางจอดรถไขกุญแจรั้ว
ห่ะ...อะไรกันเนี่ย ไม่เห็นบ้านซักกะหลัง !!
ขับตามตูดนางต่อ...ฟ้าก็เริ่มมืดแล้วด้วย
15 นาทีผ่านไปได้มั้ง อารมณ์เหมือนขับรถอยู่ในสวนป่า
มีแต่ต้นยางนา หรือไม่ก็ต้นไม้ใหญ่ ๆ แผ่กิ่งก้านสาขา
จากที่เริ่มมืดอยู่แล้ว เลยกลายเป็นมืดหนักเข้าไปอีก
สุดท้ายก็ถึงลานบ้าน...เสียที
เป็นบ้านชั้นเดียวนะ ใหญ่โต มีใต้ถุน แต่ใต้ถุนสูงมาก
เดินขึ้นไปบนตัวบ้าน นึกว่ากำลังเดินขึ้นสะพานลอย
เจอชายคนหนึ่ง วัยกลางคน ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี
เมื่อเสร็จสรรพจากข้าวปลาอาหารกันแล้ว
ก็อาบน้ำ เตรียมตัวเข้านอน...
ห้องที่ผมพัก มีหน้าต่างเปิดโล่งทั้ง 2 ด้าน
มีผ้าม่านเล็กๆ ขึงขวางอยู่นิดหน่อย พอให้รู้ว่า
" อย่ากระโดดลงไปเล่นนะ...สูงอยู่นา !! "
ลมพัดมาแต่ละที ผ้าม่านเนี่ยสะบัด
ยังกับ...กำลังเรียกรถเข้าปั๊มน้ำมัน
ผมคงเพลียแดดจากการขับรถ หัวถึงหมอนก็หลับ
ตื่นขึ้นมาอีกที ก็กลางดึกแล้วมั้ง ?
เค้าเปิดไฟรอบๆ บริเวณบ้านทิ้งไว้ สว่างพอรำไร
นอนมองไปที่ผ้าม่าน แล้วกลอกตาไปรอบๆ ห้อง
" นี่กรูมาทำอะไรที่นี่วะ ว่าจะไปบ้านหาญาติๆ ไม่ใช่รึ ? "
ไม่ทันได้คำตอบ...
โต๊ะ เก้าอี้ ตู้ รอบๆ เตียงนอนเหมือนมีชีวิต มันขยับได้
แล้วในบัดดล ก็พากันปลิวเข้ามาหาผมบนเตียงนอน
ผมร้องเฮ้ย ทั้งมือและเท้ายกมากางแบกั้นไว้อย่างไม่รู้ตัว
ที่หนักสุด ก็เตียงที่ผมนอนอยู่นี่แหละ
มันพับ หับเข้ามาทับผมได้อีกด้วย...
ตกใจตี่น ผุดลุกขึ้นนั่ง เหงื่อโทรมตัว
มองไปรอบๆ ทุกอย่างเป็นปรกติดี
เชี่ย...กรูฝันไปหรือนี่ !!
เฮ้อ...โล่งอก
มอง กวาดสายตาไปรอบๆใหม่ ให้แน่ใจอีกที
เราคงฝันร้ายน่ะ...ก็แค่ฝัน
เฮ่ย...นั่นใคร ที่ประตูมุ้งลวดทางเข้าห้องวะ ?
ผมว่า...ผมมองเห็นเป็นหญิงแก่ๆ
หน้าตาคล้ายแม่มดอย่างในหนังหุ่นไล่กานะ
ขยี้ตาดูอีกที นางก็ยังยืนอยู่ที่หลังประตู
อารามตกใจ กลัว ผมตะโกนเรียกให้คนช่วย....
อึกๆ อั่กๆ ยังไงไม่รู้ เหมือนคนกำลังจมน้ำ
เสียงไม่ยอมออกจากลำคอเลย หายใจก็ขัดๆ
แขนขาที่ตะเกียกตะกายจะเรียกให้คนมาช่วย
ก็รู้สึกหนักเอามากๆ ยกไม่ไหว ติดขัดไปหมด
" พี่ๆ เป็นอะไรหรือเปล่า...พี่ ?!! "
ทุกอย่างเหมือนหลุดหมด ผมลืมตาตื่น
เห็นสาวเจ้าที่ผมพามาด้วย เขย่าตัวผมอยู่...
โอ้ว...ไม่เคยเจอมาก่อน ฝันซ้อนฝัน !!
" นี่กรูตื่นจริงๆ หรือยังวะเนี่ย หรือฝันซ้อนอยู่อีก ? "
ผมรีบลุกเดินไปที่ประตู เปิดหาดูยายแก่คนเมื่อกี้
ไม่มี...
" หนู...จู่ๆ ก็ตื่นขึ้นมา ตะแคงตัว นอนหันไปทางพี่
แต่...ไม่ใช่พี่ ดันเป็นหน้าของผัวอีอ้อยจ้องมองอยู่
หนูก็ตกตะลึงอยู่อย่างนั้นเป็นนาน ก็หนูนอนอยู่กับพี่นี่
ทำไมกลายเป็นผู้ชายคนนั้นไปได้...
จนได้ยินเสียงอึกอัก ก็เลยเขย่าตัวดู หน้านั้นก็หายไป
กลายเป็นหน้าพี่..."
ผมนอนตาแข็งทั้งคืน อย่างอี่นก็แข็งด้วย
ยันเช้า...
เห็นสาว 2 คนซุบซิบๆ อะไรกันอยู่ ตอนก่อนจะจาก
พอพ้นประตูรั้วบ้านที่นางพามาส่ง อีสาวผมก็เล่าให้ฟัง...
" ผัวมันเลี้ยงผี...คงให้ผีที่เลี้ยงไว้มากวนพี่
เห็นนังอ้อยบอกว่า ผัวมัน...แอบชอบหนู "
ผมขับมาถึงบ้านสิงห์จนได้ ญาติๆ พากันชม
เอ้อ...ไม่ได้ชมรถกับที่ผมได้เป็นนายทหารเลยหรอกนะ
ชมว่า...อีหนูมันขาวดี อวบด้วย นมงี้ให้ตั้งเต้าเชียว
ผมเริ่มเข้าใจแล้ว ว่าทำไม ผอ. ถึงได้ส่งผีมาเล่นงานเมื่อคืน
ผอ. เนี่ย ไม่ใช่ผู้อำนวยการหรอกนะ...ผัวอีอ้อยน่ะ
ทุกวันนี้ อยู่กับอีแก่ผม...
จอก็แบน แถมขาวดำ หัวนมเนี่ยไม่ต้องพูดถึง
ได้กันใหม่ๆ ผมยังเผลอแกะ นึกว่า...หัวสิวเพิ่งขึ้น
ไม่มีใครชมว่าอวบสวย ไม่ต้องกลัวใครมาแย่ง
ขนาดเคยนำไปถวายสังฆทานนะ...พระก็ยังไม่รับ
ก็ดีอย่าง สบายใจดี...
อ้อ แถมตายยากอีกต่างหากนะ !!
เนี่ย...พอพูดถึงปุ๊บ ก็โผล่มาเรียกให้ไปซักผ้าปั๊บ
ไปแระ...ทำหน้าที่
คนเลี้ยง...ผี
ผมคนหนึ่งล่ะ ที่ไม่เชื่อ...จนกระทั่ง
ช่วงต้น ปี พ.ศ. 2534...
ผมออกมอเตอร์ไซด์ Kawasaki KR-150 SP สีแดงคาดขาว
นังนี่...เป็นมอเตอร์ไซด์ตัวแรกในชีวิตผมเลยนะ
ล้อแม็กซ์ อีก...ซะด้วย
ที่เท่มากสุดๆ ก็เมื่อตอนที่ขี่พร้อมกับสวมชุดบิน
ถุงมือบิน หมวกกันน็อคสี ทอ. คาดแถบสะท้อนแสง
รองเท้าคีบ...แตะ ไม่สวมถุงเท้า !!
หัวตอนนั้นเงี้ย...ให้โกร๋นทีเดียวเชียว
เพิ่งจบหลักสูตรนายทหารชั้นผู้บังคับหมวดมา
ขับไปอวดพี่ ป้า น้า อา ที่สิงห์บุรีดีกว่า...
ผมเอาสาวเหน็บหลังไปด้วยคนนึงนะ
ขับรถประเภทนี้ มันต้องตามสโลแกนเค้าซะหน่อย
"ไข่ต้องติดถัง หลังต้องติดนม..."
แวะเข้าตลาดสดเมืองสิงห์ เหมือนเคย
อะไรจะบังเอิญปานนั้น
ผู้สาวผมดันไปเจอกับเพื่อนซี้สมัยเรียนเข้าให้
ทักทายกันเสร็จ เพื่อนสาวเจ้าก็ชวนเราไปพักที่บ้านหล่อน
" ไม่ไกลหรอก ขับตามมอเตอร์ไซด์เรามานะ..."
ออกจากตัวเมืองมานิดเดียว ก็แวะเข้าซอยแล้ว
วิ่งไปตามซอยแพร้บเดียว ก็กลายเป็นทุ่งนาถนนดิน
เลนเดียวเสียด้วย หญ้างี้ให้ขึ้นเต็มกลางถนน
เอ้า...ถึงเสียที นางจอดรถไขกุญแจรั้ว
ห่ะ...อะไรกันเนี่ย ไม่เห็นบ้านซักกะหลัง !!
ขับตามตูดนางต่อ...ฟ้าก็เริ่มมืดแล้วด้วย
15 นาทีผ่านไปได้มั้ง อารมณ์เหมือนขับรถอยู่ในสวนป่า
มีแต่ต้นยางนา หรือไม่ก็ต้นไม้ใหญ่ ๆ แผ่กิ่งก้านสาขา
จากที่เริ่มมืดอยู่แล้ว เลยกลายเป็นมืดหนักเข้าไปอีก
สุดท้ายก็ถึงลานบ้าน...เสียที
เป็นบ้านชั้นเดียวนะ ใหญ่โต มีใต้ถุน แต่ใต้ถุนสูงมาก
เดินขึ้นไปบนตัวบ้าน นึกว่ากำลังเดินขึ้นสะพานลอย
เจอชายคนหนึ่ง วัยกลางคน ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี
เมื่อเสร็จสรรพจากข้าวปลาอาหารกันแล้ว
ก็อาบน้ำ เตรียมตัวเข้านอน...
ห้องที่ผมพัก มีหน้าต่างเปิดโล่งทั้ง 2 ด้าน
มีผ้าม่านเล็กๆ ขึงขวางอยู่นิดหน่อย พอให้รู้ว่า
" อย่ากระโดดลงไปเล่นนะ...สูงอยู่นา !! "
ลมพัดมาแต่ละที ผ้าม่านเนี่ยสะบัด
ยังกับ...กำลังเรียกรถเข้าปั๊มน้ำมัน
ผมคงเพลียแดดจากการขับรถ หัวถึงหมอนก็หลับ
ตื่นขึ้นมาอีกที ก็กลางดึกแล้วมั้ง ?
เค้าเปิดไฟรอบๆ บริเวณบ้านทิ้งไว้ สว่างพอรำไร
นอนมองไปที่ผ้าม่าน แล้วกลอกตาไปรอบๆ ห้อง
" นี่กรูมาทำอะไรที่นี่วะ ว่าจะไปบ้านหาญาติๆ ไม่ใช่รึ ? "
ไม่ทันได้คำตอบ...
โต๊ะ เก้าอี้ ตู้ รอบๆ เตียงนอนเหมือนมีชีวิต มันขยับได้
แล้วในบัดดล ก็พากันปลิวเข้ามาหาผมบนเตียงนอน
ผมร้องเฮ้ย ทั้งมือและเท้ายกมากางแบกั้นไว้อย่างไม่รู้ตัว
ที่หนักสุด ก็เตียงที่ผมนอนอยู่นี่แหละ
มันพับ หับเข้ามาทับผมได้อีกด้วย...
ตกใจตี่น ผุดลุกขึ้นนั่ง เหงื่อโทรมตัว
มองไปรอบๆ ทุกอย่างเป็นปรกติดี
เชี่ย...กรูฝันไปหรือนี่ !!
เฮ้อ...โล่งอก
มอง กวาดสายตาไปรอบๆใหม่ ให้แน่ใจอีกที
เราคงฝันร้ายน่ะ...ก็แค่ฝัน
เฮ่ย...นั่นใคร ที่ประตูมุ้งลวดทางเข้าห้องวะ ?
ผมว่า...ผมมองเห็นเป็นหญิงแก่ๆ
หน้าตาคล้ายแม่มดอย่างในหนังหุ่นไล่กานะ
ขยี้ตาดูอีกที นางก็ยังยืนอยู่ที่หลังประตู
อารามตกใจ กลัว ผมตะโกนเรียกให้คนช่วย....
อึกๆ อั่กๆ ยังไงไม่รู้ เหมือนคนกำลังจมน้ำ
เสียงไม่ยอมออกจากลำคอเลย หายใจก็ขัดๆ
แขนขาที่ตะเกียกตะกายจะเรียกให้คนมาช่วย
ก็รู้สึกหนักเอามากๆ ยกไม่ไหว ติดขัดไปหมด
" พี่ๆ เป็นอะไรหรือเปล่า...พี่ ?!! "
ทุกอย่างเหมือนหลุดหมด ผมลืมตาตื่น
เห็นสาวเจ้าที่ผมพามาด้วย เขย่าตัวผมอยู่...
โอ้ว...ไม่เคยเจอมาก่อน ฝันซ้อนฝัน !!
" นี่กรูตื่นจริงๆ หรือยังวะเนี่ย หรือฝันซ้อนอยู่อีก ? "
ผมรีบลุกเดินไปที่ประตู เปิดหาดูยายแก่คนเมื่อกี้
ไม่มี...
" หนู...จู่ๆ ก็ตื่นขึ้นมา ตะแคงตัว นอนหันไปทางพี่
แต่...ไม่ใช่พี่ ดันเป็นหน้าของผัวอีอ้อยจ้องมองอยู่
หนูก็ตกตะลึงอยู่อย่างนั้นเป็นนาน ก็หนูนอนอยู่กับพี่นี่
ทำไมกลายเป็นผู้ชายคนนั้นไปได้...
จนได้ยินเสียงอึกอัก ก็เลยเขย่าตัวดู หน้านั้นก็หายไป
กลายเป็นหน้าพี่..."
ผมนอนตาแข็งทั้งคืน อย่างอี่นก็แข็งด้วย
ยันเช้า...
เห็นสาว 2 คนซุบซิบๆ อะไรกันอยู่ ตอนก่อนจะจาก
พอพ้นประตูรั้วบ้านที่นางพามาส่ง อีสาวผมก็เล่าให้ฟัง...
" ผัวมันเลี้ยงผี...คงให้ผีที่เลี้ยงไว้มากวนพี่
เห็นนังอ้อยบอกว่า ผัวมัน...แอบชอบหนู "
ผมขับมาถึงบ้านสิงห์จนได้ ญาติๆ พากันชม
เอ้อ...ไม่ได้ชมรถกับที่ผมได้เป็นนายทหารเลยหรอกนะ
ชมว่า...อีหนูมันขาวดี อวบด้วย นมงี้ให้ตั้งเต้าเชียว
ผมเริ่มเข้าใจแล้ว ว่าทำไม ผอ. ถึงได้ส่งผีมาเล่นงานเมื่อคืน
ผอ. เนี่ย ไม่ใช่ผู้อำนวยการหรอกนะ...ผัวอีอ้อยน่ะ
ทุกวันนี้ อยู่กับอีแก่ผม...
จอก็แบน แถมขาวดำ หัวนมเนี่ยไม่ต้องพูดถึง
ได้กันใหม่ๆ ผมยังเผลอแกะ นึกว่า...หัวสิวเพิ่งขึ้น
ไม่มีใครชมว่าอวบสวย ไม่ต้องกลัวใครมาแย่ง
ขนาดเคยนำไปถวายสังฆทานนะ...พระก็ยังไม่รับ
ก็ดีอย่าง สบายใจดี...
อ้อ แถมตายยากอีกต่างหากนะ !!
เนี่ย...พอพูดถึงปุ๊บ ก็โผล่มาเรียกให้ไปซักผ้าปั๊บ
ไปแระ...ทำหน้าที่