รายละเอียดข้อเท็จจริงว่าเกิดอะไรขึ้นกับการระบาดโควิดในเยอรมนีขณะนี้ซึ่งอยู่ในสถานะการณ์แย่กว่าระลอกที่ผ่านมา  และเป็นที่จับตามองของทุกประเทศในยุโรปและทั่วโลก

ในเยอรมนีเรียกสถานะการณ์ขณะนี้ว่า  "การระบาดโควิดในหมู่ผู้ไม่ฉีดวัคซีน"  เพราะตัวเลขสถิติยืนยันชัดเจนว่าการติดเชื้อ  ป่วย  และตาย  ในระลอกนี้เกิดขึ้นในหมู่ที่ไม่ฉีดเป็นส่วนใหญ่ตามกราฟสถิติที่เห็นข้างล่างนี้  โดยแยกตามกลุ่มอายุจะเห็นว่ากลุ่มอายุระหว่าง 12-7 ปี จะสูงสุด  แต่ที่ป่วยเข้า รพ เป็นกลุ่มเกิน 60 ปีขึ้นไป

เมื่อพิจารณาจากภาพรวมว่าปัจจุบันเยอรมนีฉีดครบ 2 เข็มไปแล้ว 55,7 ล้านคนจากจำนวนคนทั้งประเทศ 83 ล้านคน   หลังจากหักลบคนที่ฉีดเข็ม 1 ออกไปเสียราว 2 ล้านคน  หักคนที่ไม่สามารถฉีดวัคซีนได้ด้วยเหตุผลทางสุขภาพและเด็กต่ำกว่า 12 ปีลงไที่ยังไม่อนุญาตให้ฉีด   จะเหลือคนที่ยังไม่ฉีดสุทธิอยู่ที่ 14 ล้านคน   และจากการสำรวจล่าสุด  2 ใน 3 ของจำนวนคนกลุ่มนี้หรือคิดเสียว่าราว 10 ล้านคนยืนยันนั่งยันไม่ฉีดวัคซีนเด็ดขาด  ส่วนใหญ่เป็นคนอายุน้อยต่ำกว่า 50 ปีลงไปและเป็นผู้หญิงเพราะกลัวเป็นหมันหรือมีผลต่อเด็กที่จะเกิดมาในภายหลัง

ในเมื่อจำนวนคนถึง 10 ล้านคนไม่ฉีดก็ต้องติดโควิดทุกวันได้เป็นแสนอย่างไม่ยาก   ตราบใดที่ไม่มีมาตรการเข้มงวดมาป้องกันไว้   โดยเฉพาะอยู่ช่วงเปลี่ยนรัฐบาลซึ่งหนึ่งพรรคร่วมในรัฐบาลใหม่คือพรรค  FDP ซึ่งเป็นพรรค liberal มีนโยบาย  ไม่ lockdown และ ไม่บังคับฉีดวัคซีน  ที่จะทำคือใช้มาตรการ 3G (ฉีดวัคซีน, ป่วยโควิดหายแล้ว, และผ่านการ test) หรือถ้ายังไม่ดีขึ้นเข้มงวดขึ้นอีกเป็นเหลือแค่ 2G คือให้แค่คนฉีดวัคซีนกับคนหายป่วยเท่านั้นที่ใช้บริการสาธารณะได้

ปัจจุบันเยอรมันยังไม่บังคับ จนท สาธารณสุขฉีดวัคซีนด้วยซ้ำ ในขณะที่ ฝรั่งเศส อิตาลี หรือประเทศยุโรปอื่นบังคับไปแล้ว

กราฟสถิติผู้ป่วยใหม่แยกระหว่างคนไม่ฉีด  Ungeimpft กับ ฉีดแล้ว  Geimpft  ตามกลุ่มอายุ  เส้นสีส้มคือคนที่ไม่ฉีด





ส่วนกราฟนี้เป็นสถานะการณ์เตียง  ICU ที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ    เยอรมันใช้ตัวเลขจำนวนเตียงที่ผู้ป่วยโควิดต่อประชากร 1แสนคนเป็นตัววัดความรุนแรงของการระบาดซึ่งในระลอกที่สูงสุดผ่านมาในช่วงคริสมาสต์จำนวนเตียง  ICU ใช้รักษาผู้ป่วยโควิด 15,5 ต่อ 1 แสน   ปัจจุบันยังอยู่ที่ 4,5  แต่กำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ


คนอายุเกิน 60 ปีเส้นไต่สูงโด่ง




แผนที่ทั้งประเทศ  รัฐที่ติดเชื้อมากที่สุดคือ  Sachsen, Thüringen  (เยอรมันตะวันออก) และ Bayern  ซึ่งทั้ง 3 รัฐมีอัตราฉีดต่ำสุดจากอันดับล่างสุดขึ้นมา




นั่นคือสถานะการณ์ล่าสุด