☎️☎️☎️
เป็นซีรี่ส์ที่ฉายมานานแล้ว และก็โดนถอดออกจากโปรแกรม Netflix ไปแล้ว ผมก็ยังไม่มีเวลาตามเก็บซะที เพราะเป็นซีรี่ส์ที่มีความยาวถึง 20 ตอน และแต่ละตอนก็มีความยาวอย่างต่ำต้องมีชั่วโมงครึ่ง หรือบางตอนก็ร่วม 2 ชั่วโมง แต่สุดท้ายผมก็ไล่ตามเก็จนจบ หลังจากที่ได้ดูไปสามตอนแล้วรู้สึกว่าซีรี่ส์เรื่องนี้ดีมากๆ มีความอิ่มเอมในทุกๆ ตอน และยังดึงความทรงจำที่แสนสวยงามในวัยเด็กของผมออกมาได้ดีเหลือเกิน
☎️☎️☎️
เรื่องราวของการดำเนินชีวิต ความสัมพันธ์และความรักของห้าครอบครัวในซอยซังมุนดง ทางตอนเหนือของโซล ในปี 1988 ซึ่งแต่ละครอบครัวจะพาไปรัก ร้องไห้กับเรื่องราวที่เกิดขึ้น ทั้งในวันที่ล้ม ในวันที่มีความสุข ทุกคนในชุมชนเล็กๆนี้ก็จะอยู่ข้างกันและกันคล้ายครอบครัวขนาดย่อมที่ไม่ต้องใช้สายเลือดเพื่อสร้างความสัมพันธ์อันเหนียวแน่นนี้
☎️☎️☎️
ซีรี่ส์บอกเล่าผ่านเด็กวัยรุ่นมัธยม 5 คนจาก 5 ครอบครัวในซังมุนดง ซึ่งแต่ละครอบครัวก็จะมีเรื่องราวต่างๆ ที่มีทั้งความสุขความทุกข์หรือสิ่งที่เป็นเรื่องราวที่สามารถจะเกิดขึ้นได้ในทุกครอบครัว ซึ่งมีการนำเสนอถึงมุมที่ทั้งเรื่องตลก เรื่องความรักที่เกิดขึ้นระหว่างเพื่อน และการช่วยเหลือกันข้ามผ่านอุปสรรค การปลอบประโ,มและให้กำลังใจกันและกัน ความมีน้ำใจให้แก่กัน และเรื่องของความเหลื่อมล้ำของฐานะระหว่างครอบครัว แต่ซีรี่ส์ก็ไม่ได้ทำให้เกิดเป็นเรื่องของการกดขี่ข่มเหงกันของชนชั้น แต่กลับเลือกจะเล่าถึงมุมของคนรวยที่เคยจนที่คอยมอบน้ำใจและให้ความช่วยเหลือแก่เพื่อนร่วมซอยที่ไม่มีโอกาสอยู่ตลอดวลา
☎️☎️☎️
อีกหนึ่งประเด็นที่ดูโดดเด่นคือการนำเสนอให้เห็นมุมองของช่องว่างระหว่างวัยของคนสอง Generation ทั้งในวัยของพ่อแม่ที่ต้องหาเลี้ยงครอบครัว และดูแลลูกๆ ด้วยความเข้มงวด ซึ่งในยุคสมัยนั้น การถูกพ่อแม่ด่าหรือตี มันคือเรื่องปกติที่หล่อหลอมให้คนในยุคนั้นเติบโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ในยุคนี้ ซึ่งในแต่ละช่วงเวลามันก็มีข้อดีข้อเสียในแบบที่แตกต่างกัน เพียงแต่ว่ากาลเวลาและวัฒนธรรมทางสังคมอาจจะเปลี่ยนไป เลยทำให้คนในแต่ละยุคสมัยอาจจะไม่ได้เข้าใจกันและกันเท่านั้น
☎️☎️☎️
ในเรื่องราวของความรัก และเรื่องราวของมิตรภาพ เรื่องนี้ชูด้านมิตรภาพระหว่างกันและกันได้โดดเด่นมากกว่าด้านความรัก เพราะมิตรภาพของผู้คนในซังมุนดง มันดูแล้วอบอุ่นใจเหลือเกิน ทั้งมิตรภาพอันแน่นแฟ้นระว่างเด็กทั้ง 5 คน บวกกับคนที่เหลือรอบๆ ในวัยเดียวกัน หรือมิตรภาพระหว่างผู้ใหญ่ทั้ง 5 ครอบครัว มันถูกชูออกมาให้คนดูรู้สึกอินไปกับมันอย่างสุดซึ้ง แก๊งพ่อบ้านที่นั่งนินทาเมีย หรือแก๊งแม่บ้านที่นั่งนินทาผัว ที่ดูแล้วตลกแต่มันก็สะท้อนสังคมในยุคสมัยนั้นได้เป็นอย่างดี การที่สังคมถูกตีกรอบไว้ด้วยจารีตและวัฒนธรรม บางทีมันก็ทำให้คนในยุคนั้นอยากจะกาวิธีระบายออกด้วยอะไรหลายๆ อย่าง
☎️☎️☎️
กับเรื่องของความรัก อันนี้ส่วนตัวผมว่าเฉยๆ เพราะซีรี่ส์อาจจะไม่ได้เน้นอะไรที่มันดาเมจรุนแรงมากมาย มันคือความรักแบบ Puppy Love ซึ่งมีสองคู่ล่ะที่พัฒนาไปจนสุดทาง แต่ก็มีอะไรให้ได้ลุ้นอยู่ตลอด โดยเฉพาะคนที่ดูแล้วอินมากๆ ถึงขั้นแบ่งทีมสามีของดิกซอนกันเป็นสองฝ่ายเลยทีเดียว
☎️☎️☎️
ก็เอาเป็นว่า เรื่องนี้สมควรอย่ายิ่งที่จะสละเวลามานั่งดูให้จบทั้ง 20 ตอน ผมเองใช้เวลาเป็นเดือนกว่าจะดูจบ เพราะตัวเนื้อหาซีรี่ส์มันเล่าไปเรื่อยๆ แถมแต่ละตอนยังยาวเฉลี่ยเกิน 1 ชั่วโมงครึ่ง เลยต้องใช้เวลาดูนานหน่อย แต่ในแต่ละตอนก็มีอะไรให้อิ่มใจในตอนจบของทุกตอน และเรื่องนี้มันก็ยังพาความทรงจำวัยเด็กของผมกลับมามากมาย ถึงแม้ว่าวัฒนธรรมบางอย่างมันคือความเป็นเกาหลีจ๋า แต่มันก็ยังมีอะไรบางอย่างที่เป็นเรื่องของยุคสมัยคาบเกี่ยวระหว่างอะนาล็อกกับดิจิตอลให้คิดถึงอยู่ตลอดเวลา
ชอบอ่านรีวิวหนัง แวะมาพูดคุยกันได้นะครับ >>>
https://www.facebook.com/DooNangGunMai
[CR] [#Review] Reply 1988 - ย้อนอดีตสู่ความทรงจำที่แสนสวยงามของยุคที่ทุกอย่างยังคงเป็นอะนาล็อก
☎️☎️☎️
เป็นซีรี่ส์ที่ฉายมานานแล้ว และก็โดนถอดออกจากโปรแกรม Netflix ไปแล้ว ผมก็ยังไม่มีเวลาตามเก็บซะที เพราะเป็นซีรี่ส์ที่มีความยาวถึง 20 ตอน และแต่ละตอนก็มีความยาวอย่างต่ำต้องมีชั่วโมงครึ่ง หรือบางตอนก็ร่วม 2 ชั่วโมง แต่สุดท้ายผมก็ไล่ตามเก็จนจบ หลังจากที่ได้ดูไปสามตอนแล้วรู้สึกว่าซีรี่ส์เรื่องนี้ดีมากๆ มีความอิ่มเอมในทุกๆ ตอน และยังดึงความทรงจำที่แสนสวยงามในวัยเด็กของผมออกมาได้ดีเหลือเกิน
☎️☎️☎️
เรื่องราวของการดำเนินชีวิต ความสัมพันธ์และความรักของห้าครอบครัวในซอยซังมุนดง ทางตอนเหนือของโซล ในปี 1988 ซึ่งแต่ละครอบครัวจะพาไปรัก ร้องไห้กับเรื่องราวที่เกิดขึ้น ทั้งในวันที่ล้ม ในวันที่มีความสุข ทุกคนในชุมชนเล็กๆนี้ก็จะอยู่ข้างกันและกันคล้ายครอบครัวขนาดย่อมที่ไม่ต้องใช้สายเลือดเพื่อสร้างความสัมพันธ์อันเหนียวแน่นนี้
☎️☎️☎️
ซีรี่ส์บอกเล่าผ่านเด็กวัยรุ่นมัธยม 5 คนจาก 5 ครอบครัวในซังมุนดง ซึ่งแต่ละครอบครัวก็จะมีเรื่องราวต่างๆ ที่มีทั้งความสุขความทุกข์หรือสิ่งที่เป็นเรื่องราวที่สามารถจะเกิดขึ้นได้ในทุกครอบครัว ซึ่งมีการนำเสนอถึงมุมที่ทั้งเรื่องตลก เรื่องความรักที่เกิดขึ้นระหว่างเพื่อน และการช่วยเหลือกันข้ามผ่านอุปสรรค การปลอบประโ,มและให้กำลังใจกันและกัน ความมีน้ำใจให้แก่กัน และเรื่องของความเหลื่อมล้ำของฐานะระหว่างครอบครัว แต่ซีรี่ส์ก็ไม่ได้ทำให้เกิดเป็นเรื่องของการกดขี่ข่มเหงกันของชนชั้น แต่กลับเลือกจะเล่าถึงมุมของคนรวยที่เคยจนที่คอยมอบน้ำใจและให้ความช่วยเหลือแก่เพื่อนร่วมซอยที่ไม่มีโอกาสอยู่ตลอดวลา
☎️☎️☎️
อีกหนึ่งประเด็นที่ดูโดดเด่นคือการนำเสนอให้เห็นมุมองของช่องว่างระหว่างวัยของคนสอง Generation ทั้งในวัยของพ่อแม่ที่ต้องหาเลี้ยงครอบครัว และดูแลลูกๆ ด้วยความเข้มงวด ซึ่งในยุคสมัยนั้น การถูกพ่อแม่ด่าหรือตี มันคือเรื่องปกติที่หล่อหลอมให้คนในยุคนั้นเติบโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ในยุคนี้ ซึ่งในแต่ละช่วงเวลามันก็มีข้อดีข้อเสียในแบบที่แตกต่างกัน เพียงแต่ว่ากาลเวลาและวัฒนธรรมทางสังคมอาจจะเปลี่ยนไป เลยทำให้คนในแต่ละยุคสมัยอาจจะไม่ได้เข้าใจกันและกันเท่านั้น
☎️☎️☎️
ในเรื่องราวของความรัก และเรื่องราวของมิตรภาพ เรื่องนี้ชูด้านมิตรภาพระหว่างกันและกันได้โดดเด่นมากกว่าด้านความรัก เพราะมิตรภาพของผู้คนในซังมุนดง มันดูแล้วอบอุ่นใจเหลือเกิน ทั้งมิตรภาพอันแน่นแฟ้นระว่างเด็กทั้ง 5 คน บวกกับคนที่เหลือรอบๆ ในวัยเดียวกัน หรือมิตรภาพระหว่างผู้ใหญ่ทั้ง 5 ครอบครัว มันถูกชูออกมาให้คนดูรู้สึกอินไปกับมันอย่างสุดซึ้ง แก๊งพ่อบ้านที่นั่งนินทาเมีย หรือแก๊งแม่บ้านที่นั่งนินทาผัว ที่ดูแล้วตลกแต่มันก็สะท้อนสังคมในยุคสมัยนั้นได้เป็นอย่างดี การที่สังคมถูกตีกรอบไว้ด้วยจารีตและวัฒนธรรม บางทีมันก็ทำให้คนในยุคนั้นอยากจะกาวิธีระบายออกด้วยอะไรหลายๆ อย่าง
☎️☎️☎️
กับเรื่องของความรัก อันนี้ส่วนตัวผมว่าเฉยๆ เพราะซีรี่ส์อาจจะไม่ได้เน้นอะไรที่มันดาเมจรุนแรงมากมาย มันคือความรักแบบ Puppy Love ซึ่งมีสองคู่ล่ะที่พัฒนาไปจนสุดทาง แต่ก็มีอะไรให้ได้ลุ้นอยู่ตลอด โดยเฉพาะคนที่ดูแล้วอินมากๆ ถึงขั้นแบ่งทีมสามีของดิกซอนกันเป็นสองฝ่ายเลยทีเดียว
☎️☎️☎️
ก็เอาเป็นว่า เรื่องนี้สมควรอย่ายิ่งที่จะสละเวลามานั่งดูให้จบทั้ง 20 ตอน ผมเองใช้เวลาเป็นเดือนกว่าจะดูจบ เพราะตัวเนื้อหาซีรี่ส์มันเล่าไปเรื่อยๆ แถมแต่ละตอนยังยาวเฉลี่ยเกิน 1 ชั่วโมงครึ่ง เลยต้องใช้เวลาดูนานหน่อย แต่ในแต่ละตอนก็มีอะไรให้อิ่มใจในตอนจบของทุกตอน และเรื่องนี้มันก็ยังพาความทรงจำวัยเด็กของผมกลับมามากมาย ถึงแม้ว่าวัฒนธรรมบางอย่างมันคือความเป็นเกาหลีจ๋า แต่มันก็ยังมีอะไรบางอย่างที่เป็นเรื่องของยุคสมัยคาบเกี่ยวระหว่างอะนาล็อกกับดิจิตอลให้คิดถึงอยู่ตลอดเวลา
ชอบอ่านรีวิวหนัง แวะมาพูดคุยกันได้นะครับ >>> https://www.facebook.com/DooNangGunMai
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้