#ปัญหาผิวเด็ก #ฝ่าเท้าแห้งแตก
ผิวลูกแห้งลอก อย่านิ่งนอนใจ แต่ไม่ต้องตระหนกตกใจให้เกินงาม
#ใครมีปัญหาลูกฝ่าเท้าแตกลอกแบบนี้มาทางนี้ค่ะ
เราพบปัญหานี้กับเท้าของลูกตั้งแต่เข้าโรงเรียนอนุบาล 1
ในระยะแรก เริ่มจากผิวค่อยๆ ลอกเล็กๆ ซึ่งแม่ก็ยังไม่ค่อยติดใจอะไรเท่าไหร่ คิดว่าคงเป็นการเสียดสีจากการเดินหรือวิ่ง เดี๋ยวคงหายไปเอง แต่มันไม่ใช่อย่างนั้น มันค่อยๆ ลามใหญ่ขึ้น จนกลับมาดูอีกที มันเริ่มเห็นเป็นผิวชมพูๆ
พ่อกับแม่เริ่มวิตกกังวลว่าฝ่าเท้าน้องน่าจะติดเชื้ออะไรหรือไม่ เพราะที่โรงเรียนให้เด็กๆ ถอดถุงเท้าเดินในบริเวณโรงเรียน และใส่รองเท้าแตะเมื่อเข้าห้องน้ำ หรือเล่นสนามเด็กเล่น แต่อีกใจหนึ่งก็ค่อนข้างมั่นใจความสะอาดของโรงเรียน และเพื่อนหลายคนก็มีลูกเรียนที่นี่ และไม่เคยเห็นรายงานนี้เลย หรืออาจจะมี แต่ส่งผลต่อเด็กส่วนน้อย และลูกเราดันเป็นหนึ่งในนั้น คิดไปต่างๆ นานา ก็รีบพาไปหาหมอซึ่งเป็นคลินิกผิวหนังชื่อดังใกล้บ้าน
ครั้งนั้นคุณแม่ไม่ค่อยประทับใจการตรวจรักษาของคุณหมอท่านนั้นสักเท่าไหร่ ทายา ล้างสบู่ที่หมอให้มา ก็ไม่ดีขึ้นด้วย จึงพาไปหาหมอท่านที่ 2 ที่โรงพยาบาลเอกชน คราวนี้หมอซักถามละเอียดดีมาก และคุณหมอก็จ่ายยามาให้ ทาไปสักระยะ พอหาย ก็หยุด แต่แล้วเป็นซ้ำ
คุณแม่จึงพาไปหาหมออีกครั้งที่โรงพยาบาลเดิม แต่เป็นคุณหมอท่านที่ 3 ซึ่งก็จ่ายยาตัวเดียวกันมาให้ ทาไปก็ดีขึ้น พอหยุดก็กลับมาเป็นซ้ำอีกแล้ว ประกอบกับตั้งแต่ขึ้นอนุบาล 2 ก็อยู่บ้านเป็นมาตลอดเทอมก็ยังเป็นอยู่
แม่เริ่มงงใจ จึงหาข้อมูลเพิ่มเติมจาก Pantip พร้อมปรึกษากับคุณแม่ของเพื่อลูกสาวผู้มีอาการเดียวกัน เริ่มประมวลผลจากสิ่งที่ฟังมาทั้งหมด
คีเวิร์ดของเรื่องนี้คือ #ความชุ่มชื้น #ต้องทาอาบน้ำแล้วเช็ดตัวหมาดๆ เพราะผิวยังเก็บความชุ่มชื้นไว้อยู่
และข้อมูลจากคุณแม่ท่านนั้นที่ได้มาจากการพบคุณหมอผิวหนังชื่อดังคิวแน่นย่านสีลมคือ #เด็กยังไม่สามารถสร้างเกราะป้องกันผิวให้กับตัวเองได้เหมือนผู้ใหญ่ เราจึงจำเป็นต้องมีผลิตภัณฑ์มาช่วย และต้องใช้ต่อเนื่องไปจะไม่กลับมาเป็นซ้ำอีก พอคุณแม่นึกย้อนกลับไป ก็ใช่เลย น้องเกลจะเป็นหนักๆ โดยเฉพาะเวลาเล่นน้ำกลับมา
ผลิตภัณฑ์ทั้งหมด คือที่ลูกเราใช้จริง ซื้อเอง และมีอาการดีขึ้น ซึ่งหลังจากนี้ คงไม่หยุดใช้อีกแล้ว เพื่อป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ คุณแม่เพื่อนบอกว่าหลังจากหายแล้ว ใช้โลชั่นธรรมดาได้ ประหยัดเงิน haha!!
คุณแม่จะแบ่งเป็น 2 กลุ่ม หากใครมีปัญหา สามารถซื้อหามาใช้ได้ ตามความสะดวกเลยนะคะ
กลุ่มที่ 1 #ราคาย่อมเยาแต่ใช้ได้คนเดียว เป็นกลุ่มที่คุณหมอให้มา แต่ก็สามารถซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป
ตัวที่ 1 #DiabeDerm ที่มีส่วนผสมของ #Urea20% #ราคาประมาณ100-120 บาท ( จำราคาเป๊ะๆ ไม่ค่อยได้ ขอโทษด้วยนะคะ ) ตัวนี้เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น ทาให้ทั่วฝ่าเท้า หรือทุกบริเวณทีมีผิวแห้งมากๆ เช่น หัวเข่า ข้อศอก ( เพื่อนสาวคุณแม่เป็นเภสัชกร เห็นเท้าน้องเกลก็บอกให้ใช้ตัวนี้เช่นกัน ) ถ้าบีบไม่หมด ใครเสียดาย ตัดหลอดเลยค่ะ เพราะครีมเข้มข้นมากมีติดข้างหลอดทาได้อีกหลายวันเลย
ตัวที่ 2 #Bactokil หรือ #Bacidal มีส่วนผสมของ #Mupirocin2% #ราคาประมาณ100-120 บาทตัวนี้เพื่อป้องกันการติดเชื้อจากแบคทีเรีย ไม่จำเป็นต้องใช้ก็ได้ แต่หากใครที่ลอกมากๆ จนฝ่าเท้าเป็นสีชมพูๆ ก็ควรป้องกันไว้ก่อน แต่ไม่ควรใช้นานเกินไปนะคะ เพราะอาจส่งผลฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่มีประโยชน์ให้ตายไป และจะทำให้ติดเชื้ออื่นๆ ( ขอบคุณเพื่อนสาวเภสัชฯ ที่อธิบายข้อมูลนี้ได้ละเอียด )
ตัวที่ 3 โลชั่นเด็กทาทับทั้งหมดอีกครั้ง เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นเข้าไปอีก คุณหมอแนะนำว่าควรเป็นกลุ่มเวชภัณฑ์ เพราะจะมีความเข้มข้นมาก เช่น ยูเซอรีน, Ezera, และต่างๆ ที่แม่จำไม่ได้
กลุ่มที่ 2 ที่ #คุณแม่เพื่อนลูกแนะนำ #ราคาสูงขึ้นมาแต่ใช้ได้ทั้งครอบครัว ที่เลือกซื้อกลุ่มนี้มาเพิ่ม เพราะแม่จะได้ใช้ด้วยนั่นแหละค่ะ
ตัวที่ 1 #EucerinAquaphor เพื่อบล๊อคความชุ่มชื้น และฟื้นฟูผิวแห้งแตก ราคา 420-550 บาท ( คุณแม่ได้จาก Shopee 419 บาทค่ะ )
ตัวที่ 2 #Bactokil ตามที่เขียนไว้ด้านบนนะคะ จะใช้หรือไม่ก็ได้
ตัวที่ 3 #EucerinUreaRepairPlus เป็นโลชั่นที่มียูเรีย 5% เพื่อความชุ่มชื้นยาวนาน 48 ชั่วโมง ทาได้ทั้งฝ่าเท้า และทั่วตัว ( มีโปรโมชั่นที่เวบตรงของยูเซอรีน เหลือ 550 บาท จนถึงที่ 8/11 นะคะ )
และเพิ่มเติมกลุ่มแนะนำพิเศษนั่นคือ #สบู่อาบน้ำ ซึ่งคุณแม่แนะว่าผลิตภัณฑ์ที่เคลมว่าช่วยรักษาสมดุล PH 5.5 นี่ดีต่อใจ ดีต่อผิวมากจริงๆ
ลูกเรามีผิวแห้งแต่เด็ก คุณแม่ก็เช่นกัน
ตอนลูกวัยจิ๋วเราเลือกใช้ #ยูเซอรีน สลับกับกับ #Lamoon จนถึงขวบ แล้วเปลี่ยนมาใช้ #DMP เพื่อกลิ่นหอมหน่อย แต่เร็วๆ นี่มีการเปลี่ยนยี่ห้อใหม่ ก็มีอาการผิวตึงๆ แล้วเมื่อไม่ได้ทาครีม ลูกสาวก็จะเกาๆๆ บางทีได้แผลเป็นของแถมมาอีก
ครั้งนี้ผิวเท้าน้องกลับมาเป็นซ้ำ นอกจากสารพัดครีมที่แม่กล่าวไปทั้ง 2 กลุ่ม จึงกลับมาใช้สบู่เวชภัณฑ์อีกรอบ อันนี้ขึ้นกับคุณพ่อคุณแม่เลือกเลยนะคะ
แต่สำหรับลูกสาว ไม่ค่อยปลื้มกลิ่นเจ้าตัวฝาฟ้าเท่าใดนัก แต่แม่ชอบนะคะ เพราะใช้แล้วผิวไม่แห้งตึงเหมือนกัน
หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ และขอให้ใครที่มีปัญหาแบบเรา ก็หายกันไวๆ นะคะ
------------------------------
FB: Pimdalha Pachom
IG: Pimdalha Pachom
Youtube: Pimdalha Pachom
[CR] #ปัญหาผิวเด็ก #ลูกฝ่าเท้าแตกลอกจนเห็นผิวสีชมพู
ผิวลูกแห้งลอก อย่านิ่งนอนใจ แต่ไม่ต้องตระหนกตกใจให้เกินงาม
#ใครมีปัญหาลูกฝ่าเท้าแตกลอกแบบนี้มาทางนี้ค่ะ
เราพบปัญหานี้กับเท้าของลูกตั้งแต่เข้าโรงเรียนอนุบาล 1
ในระยะแรก เริ่มจากผิวค่อยๆ ลอกเล็กๆ ซึ่งแม่ก็ยังไม่ค่อยติดใจอะไรเท่าไหร่ คิดว่าคงเป็นการเสียดสีจากการเดินหรือวิ่ง เดี๋ยวคงหายไปเอง แต่มันไม่ใช่อย่างนั้น มันค่อยๆ ลามใหญ่ขึ้น จนกลับมาดูอีกที มันเริ่มเห็นเป็นผิวชมพูๆ
พ่อกับแม่เริ่มวิตกกังวลว่าฝ่าเท้าน้องน่าจะติดเชื้ออะไรหรือไม่ เพราะที่โรงเรียนให้เด็กๆ ถอดถุงเท้าเดินในบริเวณโรงเรียน และใส่รองเท้าแตะเมื่อเข้าห้องน้ำ หรือเล่นสนามเด็กเล่น แต่อีกใจหนึ่งก็ค่อนข้างมั่นใจความสะอาดของโรงเรียน และเพื่อนหลายคนก็มีลูกเรียนที่นี่ และไม่เคยเห็นรายงานนี้เลย หรืออาจจะมี แต่ส่งผลต่อเด็กส่วนน้อย และลูกเราดันเป็นหนึ่งในนั้น คิดไปต่างๆ นานา ก็รีบพาไปหาหมอซึ่งเป็นคลินิกผิวหนังชื่อดังใกล้บ้าน
ครั้งนั้นคุณแม่ไม่ค่อยประทับใจการตรวจรักษาของคุณหมอท่านนั้นสักเท่าไหร่ ทายา ล้างสบู่ที่หมอให้มา ก็ไม่ดีขึ้นด้วย จึงพาไปหาหมอท่านที่ 2 ที่โรงพยาบาลเอกชน คราวนี้หมอซักถามละเอียดดีมาก และคุณหมอก็จ่ายยามาให้ ทาไปสักระยะ พอหาย ก็หยุด แต่แล้วเป็นซ้ำ
คุณแม่จึงพาไปหาหมออีกครั้งที่โรงพยาบาลเดิม แต่เป็นคุณหมอท่านที่ 3 ซึ่งก็จ่ายยาตัวเดียวกันมาให้ ทาไปก็ดีขึ้น พอหยุดก็กลับมาเป็นซ้ำอีกแล้ว ประกอบกับตั้งแต่ขึ้นอนุบาล 2 ก็อยู่บ้านเป็นมาตลอดเทอมก็ยังเป็นอยู่
แม่เริ่มงงใจ จึงหาข้อมูลเพิ่มเติมจาก Pantip พร้อมปรึกษากับคุณแม่ของเพื่อลูกสาวผู้มีอาการเดียวกัน เริ่มประมวลผลจากสิ่งที่ฟังมาทั้งหมด
คีเวิร์ดของเรื่องนี้คือ #ความชุ่มชื้น #ต้องทาอาบน้ำแล้วเช็ดตัวหมาดๆ เพราะผิวยังเก็บความชุ่มชื้นไว้อยู่
และข้อมูลจากคุณแม่ท่านนั้นที่ได้มาจากการพบคุณหมอผิวหนังชื่อดังคิวแน่นย่านสีลมคือ #เด็กยังไม่สามารถสร้างเกราะป้องกันผิวให้กับตัวเองได้เหมือนผู้ใหญ่ เราจึงจำเป็นต้องมีผลิตภัณฑ์มาช่วย และต้องใช้ต่อเนื่องไปจะไม่กลับมาเป็นซ้ำอีก พอคุณแม่นึกย้อนกลับไป ก็ใช่เลย น้องเกลจะเป็นหนักๆ โดยเฉพาะเวลาเล่นน้ำกลับมา
ผลิตภัณฑ์ทั้งหมด คือที่ลูกเราใช้จริง ซื้อเอง และมีอาการดีขึ้น ซึ่งหลังจากนี้ คงไม่หยุดใช้อีกแล้ว เพื่อป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ คุณแม่เพื่อนบอกว่าหลังจากหายแล้ว ใช้โลชั่นธรรมดาได้ ประหยัดเงิน haha!!
คุณแม่จะแบ่งเป็น 2 กลุ่ม หากใครมีปัญหา สามารถซื้อหามาใช้ได้ ตามความสะดวกเลยนะคะ
กลุ่มที่ 1 #ราคาย่อมเยาแต่ใช้ได้คนเดียว เป็นกลุ่มที่คุณหมอให้มา แต่ก็สามารถซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป
ตัวที่ 1 #DiabeDerm ที่มีส่วนผสมของ #Urea20% #ราคาประมาณ100-120 บาท ( จำราคาเป๊ะๆ ไม่ค่อยได้ ขอโทษด้วยนะคะ ) ตัวนี้เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น ทาให้ทั่วฝ่าเท้า หรือทุกบริเวณทีมีผิวแห้งมากๆ เช่น หัวเข่า ข้อศอก ( เพื่อนสาวคุณแม่เป็นเภสัชกร เห็นเท้าน้องเกลก็บอกให้ใช้ตัวนี้เช่นกัน ) ถ้าบีบไม่หมด ใครเสียดาย ตัดหลอดเลยค่ะ เพราะครีมเข้มข้นมากมีติดข้างหลอดทาได้อีกหลายวันเลย
ตัวที่ 2 #Bactokil หรือ #Bacidal มีส่วนผสมของ #Mupirocin2% #ราคาประมาณ100-120 บาทตัวนี้เพื่อป้องกันการติดเชื้อจากแบคทีเรีย ไม่จำเป็นต้องใช้ก็ได้ แต่หากใครที่ลอกมากๆ จนฝ่าเท้าเป็นสีชมพูๆ ก็ควรป้องกันไว้ก่อน แต่ไม่ควรใช้นานเกินไปนะคะ เพราะอาจส่งผลฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่มีประโยชน์ให้ตายไป และจะทำให้ติดเชื้ออื่นๆ ( ขอบคุณเพื่อนสาวเภสัชฯ ที่อธิบายข้อมูลนี้ได้ละเอียด )
ตัวที่ 3 โลชั่นเด็กทาทับทั้งหมดอีกครั้ง เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นเข้าไปอีก คุณหมอแนะนำว่าควรเป็นกลุ่มเวชภัณฑ์ เพราะจะมีความเข้มข้นมาก เช่น ยูเซอรีน, Ezera, และต่างๆ ที่แม่จำไม่ได้
กลุ่มที่ 2 ที่ #คุณแม่เพื่อนลูกแนะนำ #ราคาสูงขึ้นมาแต่ใช้ได้ทั้งครอบครัว ที่เลือกซื้อกลุ่มนี้มาเพิ่ม เพราะแม่จะได้ใช้ด้วยนั่นแหละค่ะ
ตัวที่ 1 #EucerinAquaphor เพื่อบล๊อคความชุ่มชื้น และฟื้นฟูผิวแห้งแตก ราคา 420-550 บาท ( คุณแม่ได้จาก Shopee 419 บาทค่ะ )
ตัวที่ 2 #Bactokil ตามที่เขียนไว้ด้านบนนะคะ จะใช้หรือไม่ก็ได้
ตัวที่ 3 #EucerinUreaRepairPlus เป็นโลชั่นที่มียูเรีย 5% เพื่อความชุ่มชื้นยาวนาน 48 ชั่วโมง ทาได้ทั้งฝ่าเท้า และทั่วตัว ( มีโปรโมชั่นที่เวบตรงของยูเซอรีน เหลือ 550 บาท จนถึงที่ 8/11 นะคะ )
และเพิ่มเติมกลุ่มแนะนำพิเศษนั่นคือ #สบู่อาบน้ำ ซึ่งคุณแม่แนะว่าผลิตภัณฑ์ที่เคลมว่าช่วยรักษาสมดุล PH 5.5 นี่ดีต่อใจ ดีต่อผิวมากจริงๆ
ลูกเรามีผิวแห้งแต่เด็ก คุณแม่ก็เช่นกัน
ตอนลูกวัยจิ๋วเราเลือกใช้ #ยูเซอรีน สลับกับกับ #Lamoon จนถึงขวบ แล้วเปลี่ยนมาใช้ #DMP เพื่อกลิ่นหอมหน่อย แต่เร็วๆ นี่มีการเปลี่ยนยี่ห้อใหม่ ก็มีอาการผิวตึงๆ แล้วเมื่อไม่ได้ทาครีม ลูกสาวก็จะเกาๆๆ บางทีได้แผลเป็นของแถมมาอีก
ครั้งนี้ผิวเท้าน้องกลับมาเป็นซ้ำ นอกจากสารพัดครีมที่แม่กล่าวไปทั้ง 2 กลุ่ม จึงกลับมาใช้สบู่เวชภัณฑ์อีกรอบ อันนี้ขึ้นกับคุณพ่อคุณแม่เลือกเลยนะคะ
แต่สำหรับลูกสาว ไม่ค่อยปลื้มกลิ่นเจ้าตัวฝาฟ้าเท่าใดนัก แต่แม่ชอบนะคะ เพราะใช้แล้วผิวไม่แห้งตึงเหมือนกัน
หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ และขอให้ใครที่มีปัญหาแบบเรา ก็หายกันไวๆ นะคะ
------------------------------
FB: Pimdalha Pachom
IG: Pimdalha Pachom
Youtube: Pimdalha Pachom
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้