.
.
ฟังรีวิวเต็มๆได้ในคลิป
.
.
.
Eternals
.
.
ไม่เน่า ไม่แย่อย่างที่หลายคนบอกนะ
ส่วนตัวพอเห็นคะแนนในเมือเน่า ก็ไม่ได้ตั้งความหวังเยอะ
เลยรู้สึกเอนจอยได้พอสมควร แต่ก็เข้าใจคนที่ไม่ชอบด้วย
เพราะในฐานะมาร์เวลแฟน หนังมีรสชาติที่ผิดแปลกไปจากหนังขนบนี้มากๆ
.
แม้จะยังคงไว้ด้วยความเป็นภาพสีฉูดฉาด
แต่ด้วยโลเคชั่นที่หลากหลายและโทนที่หนังนำเสนอ
ดูเพิ่มความสมจริงมากขึ้น แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาของหนังมากเท่ากับวิธีการเล่าหนังเรื่องนี้ที่ตัดสลับไทม์ไลน์ไปมาจนน่าจะมีคนดูไม่น้อยที่รู้สึกมึนตึ้บกับการสลับทั้งเวลา และเปลี่ยนโลเคชั่น อีกทั้งเส้นเรื่องที่ยุบยับไปมา + ตัวละครหลายคนที่เราไม่รู้จักมาก่อน ก็ไม่ได้สร้างความน่าจดจำได้เหมือนกับตอนที่เราดูหนังที่ตัวละครเยอะ มาเป็นทีมแบบนี้(แต่น้อยกว่า)อย่างการ์เดี้ยน ออฟ เดอะ แกแลคซี่ ได้
.
สิ่งที่ชอบคือ ความเป็นCinematicต่างๆในหนัง ทำออกมาได้ดีเลย / ความสัมพันธ์ของตัวละครเทพเจ้าต่างๆ เสียดายอยากให้มีเวลาเล่ากว่านี้ โคลอี้ เจาต์ได้โจทย์ไม่ง่ายจริงๆที่จะเล่ามูฟเม้นการเติบโตและล่มสลายของสรรพสิ่งบนโลก
แต่ก็ต้องยอมรับว่ามาร์เวลเขาพยายามจะทดลองการขยายขอบเขตของจักรวาลไปให้ไกลกว่าเดิมในทุกๆงาน ทั้งตัวจักรวาลเอง และวิธีคิด การเล่าเรื่อง ซึ่งก็น่าจะต้องมีบ้างที่ยังไม่ลงตัวแบบเรื่องนี้ แต่สำหรับเรา มันก็ไม่ได้แย่อะไร ถ้าหนังยังมีอะไรให้รู้สึกชวนติดตาม
.
สิ่งที่น่าผิดหวังแรงๆคือ ฉากแอ๊คชั่นซึ่งมักจะเป็นจุดขายมาร์เวล รอบนี้แป้กมาก / การตัดต่อ เรียบเรียงจังหวะหนังได้แย่โดยเฉพาะฉากต่อสู้ / ฉากเปิดเรื่องสเกลใหญ่แต่น่าผิดหวัง เทียบอะไรไม่ได้กับฉากเปิดอย่าง Wonder Woman 1984 เลย อันนั้นนี่คือโคตรดี และก็ดนตรีประกอบ สู้ฝั่งลุงฮานส์ ซิมเมอร์ไม่ได้เลย ที่ช่วยทำให้Duneขึงขังอลังการ แต่กับเรื่องนี้ ไม่มีธีมจำอะไรที่เข้ามาในหัวเลยหลังดูจบ
.
.
แต่ในแง่ความหลากหลายที่แฝงมาในตัวละครต่างๆ
ก็ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่น่าสนใจ ที่จะได้เห็นอะไรใหม่ๆเพิ่มขึ้นในโลกภาพยนตร์ จักรวาลมาร์เวลMCU
นอกจากหนัง ช่วงนี้ก็ได้มาลองขนมอร่อยๆในเกาหลี มาดูพร้อมรีแอคได้ในคลิปด้านล่างครับ
[รีวิวหนังใหม่MARVEL] สรุปว่าดีหรือแย่สำหรับหนัง ETERNALS ดูแล้วชอบกันไหม?
.
.
ฟังรีวิวเต็มๆได้ในคลิป
.
.
.
Eternals
.
.
ไม่เน่า ไม่แย่อย่างที่หลายคนบอกนะ
ส่วนตัวพอเห็นคะแนนในเมือเน่า ก็ไม่ได้ตั้งความหวังเยอะ
เลยรู้สึกเอนจอยได้พอสมควร แต่ก็เข้าใจคนที่ไม่ชอบด้วย
เพราะในฐานะมาร์เวลแฟน หนังมีรสชาติที่ผิดแปลกไปจากหนังขนบนี้มากๆ
.
แม้จะยังคงไว้ด้วยความเป็นภาพสีฉูดฉาด
แต่ด้วยโลเคชั่นที่หลากหลายและโทนที่หนังนำเสนอ
ดูเพิ่มความสมจริงมากขึ้น แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาของหนังมากเท่ากับวิธีการเล่าหนังเรื่องนี้ที่ตัดสลับไทม์ไลน์ไปมาจนน่าจะมีคนดูไม่น้อยที่รู้สึกมึนตึ้บกับการสลับทั้งเวลา และเปลี่ยนโลเคชั่น อีกทั้งเส้นเรื่องที่ยุบยับไปมา + ตัวละครหลายคนที่เราไม่รู้จักมาก่อน ก็ไม่ได้สร้างความน่าจดจำได้เหมือนกับตอนที่เราดูหนังที่ตัวละครเยอะ มาเป็นทีมแบบนี้(แต่น้อยกว่า)อย่างการ์เดี้ยน ออฟ เดอะ แกแลคซี่ ได้
.
สิ่งที่ชอบคือ ความเป็นCinematicต่างๆในหนัง ทำออกมาได้ดีเลย / ความสัมพันธ์ของตัวละครเทพเจ้าต่างๆ เสียดายอยากให้มีเวลาเล่ากว่านี้ โคลอี้ เจาต์ได้โจทย์ไม่ง่ายจริงๆที่จะเล่ามูฟเม้นการเติบโตและล่มสลายของสรรพสิ่งบนโลก
แต่ก็ต้องยอมรับว่ามาร์เวลเขาพยายามจะทดลองการขยายขอบเขตของจักรวาลไปให้ไกลกว่าเดิมในทุกๆงาน ทั้งตัวจักรวาลเอง และวิธีคิด การเล่าเรื่อง ซึ่งก็น่าจะต้องมีบ้างที่ยังไม่ลงตัวแบบเรื่องนี้ แต่สำหรับเรา มันก็ไม่ได้แย่อะไร ถ้าหนังยังมีอะไรให้รู้สึกชวนติดตาม
.
สิ่งที่น่าผิดหวังแรงๆคือ ฉากแอ๊คชั่นซึ่งมักจะเป็นจุดขายมาร์เวล รอบนี้แป้กมาก / การตัดต่อ เรียบเรียงจังหวะหนังได้แย่โดยเฉพาะฉากต่อสู้ / ฉากเปิดเรื่องสเกลใหญ่แต่น่าผิดหวัง เทียบอะไรไม่ได้กับฉากเปิดอย่าง Wonder Woman 1984 เลย อันนั้นนี่คือโคตรดี และก็ดนตรีประกอบ สู้ฝั่งลุงฮานส์ ซิมเมอร์ไม่ได้เลย ที่ช่วยทำให้Duneขึงขังอลังการ แต่กับเรื่องนี้ ไม่มีธีมจำอะไรที่เข้ามาในหัวเลยหลังดูจบ
.
.
แต่ในแง่ความหลากหลายที่แฝงมาในตัวละครต่างๆ
ก็ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่น่าสนใจ ที่จะได้เห็นอะไรใหม่ๆเพิ่มขึ้นในโลกภาพยนตร์ จักรวาลมาร์เวลMCU
นอกจากหนัง ช่วงนี้ก็ได้มาลองขนมอร่อยๆในเกาหลี มาดูพร้อมรีแอคได้ในคลิปด้านล่างครับ