ต้องบอกก่อนนะครับผมไม่ใช่นักบัญชี(แค่พออ่านได้บ้าง) คือถ้าให้ผมทำผมทำไม่ได้ทำไม่เป็น
คือมี บ. นึงเค้าไปลงทุนสินทรัพย์ดิจิตอล แต่สินทรัพย์ที่ได้มา กลับไม่ลงในเงินลงทุน(ซึ่งโดยทั่วไปเป็นแบบนี้) แต่กลับไปอยู่ในสินค้าคงเหลือแล้วสินค้าคงเหลือส่วนมากราคามันไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงคือซื้อมาเท่าไรส่วนมากราคาเท่านั้นถึงมันจะตกรุ่น ล้าสมัย เก่าแล้วเลยไม่ค่อยมีคนเอา แต่ราคามันไม่ลดลงนะครับมันก็อยู่อย่างนั้น จนกว่าเค้าจะโละสต็อก กำไรขาดทุนถึงจะเกิดขึ้น
แล้วที่ผมอยากรู้คือเวลาเค้านับต้นทุนนั้น(ทางบัญชีเค้าห้ามบันทึกกำไรให้บันทึกเป็นต้นทุนที่ซื้อมาครับจะบันทึกกำไรได้ต้องขายก่อน) ผมยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่ายๆครับ คล้ายเวลาเราซื้อหุ้นตัวนึง ถ้าเรายังไม่ขายมันก็ยังไม่กำไรครับคือกำไรนะกำไรแต่เป็นตัวเลข เอาเรื่องที่อยากรู้นะครับจะได้ไม่ต้องไปหาข้อมูล ราคาสินค้าที่มีเค้านับราคายังไง คือ 3 เดือนในไตรมาศนั้นเฉลี่ย หรือ เอาราคา ณ วันสิ้นสุดของไตรมาศนั้น แต่โดยส่วนตัวนะครับผมว่าราคา ณ สิ้นสุดไตรมาศนั้น(คือวันสุดท้ายของไตรนั้น) มันน่าจะสะท้อนความจริงมากกว่า(หรือเป็นแบบนี้อยู่แล้วหว่า)
การบันทึกบัญชีที่มีไม่บอย(ทำให้ผมงงไปพักนึง)
คือมี บ. นึงเค้าไปลงทุนสินทรัพย์ดิจิตอล แต่สินทรัพย์ที่ได้มา กลับไม่ลงในเงินลงทุน(ซึ่งโดยทั่วไปเป็นแบบนี้) แต่กลับไปอยู่ในสินค้าคงเหลือแล้วสินค้าคงเหลือส่วนมากราคามันไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงคือซื้อมาเท่าไรส่วนมากราคาเท่านั้นถึงมันจะตกรุ่น ล้าสมัย เก่าแล้วเลยไม่ค่อยมีคนเอา แต่ราคามันไม่ลดลงนะครับมันก็อยู่อย่างนั้น จนกว่าเค้าจะโละสต็อก กำไรขาดทุนถึงจะเกิดขึ้น
แล้วที่ผมอยากรู้คือเวลาเค้านับต้นทุนนั้น(ทางบัญชีเค้าห้ามบันทึกกำไรให้บันทึกเป็นต้นทุนที่ซื้อมาครับจะบันทึกกำไรได้ต้องขายก่อน) ผมยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่ายๆครับ คล้ายเวลาเราซื้อหุ้นตัวนึง ถ้าเรายังไม่ขายมันก็ยังไม่กำไรครับคือกำไรนะกำไรแต่เป็นตัวเลข เอาเรื่องที่อยากรู้นะครับจะได้ไม่ต้องไปหาข้อมูล ราคาสินค้าที่มีเค้านับราคายังไง คือ 3 เดือนในไตรมาศนั้นเฉลี่ย หรือ เอาราคา ณ วันสิ้นสุดของไตรมาศนั้น แต่โดยส่วนตัวนะครับผมว่าราคา ณ สิ้นสุดไตรมาศนั้น(คือวันสุดท้ายของไตรนั้น) มันน่าจะสะท้อนความจริงมากกว่า(หรือเป็นแบบนี้อยู่แล้วหว่า)