J-League’s A-List: วันนี้ Wannabe Football ขอนำเสนอ 11 นักเตะต่างชาติโปรไฟล์ดีที่เคยมาค้าแข้งในแดนอาทิตย์อุทัย
นับตั้งแต่การก่อตั้งเจลีกอย่างเป็นทางการในปี 1992 มีนักเตะมากหน้าหลายตาที่มาค้าแข้งในประเทศญี่ปุ่นและสร้างความประทับใจไม่น้อย
Gary Lineker
มาเริ่มกันที่ตำนานดาวยิงทีมชาติอังกฤษอย่าง แกรี่ ลินิเกอร์ เจ้าของฉายา “มิสเตอร์ไนซ์กาย” ผู้ที่ไม่เคยได้รับไม่เคยได้รับใบเหลืองหรือใบแดงแม้แต่ครั้งเดียวในชีวิตการค้าแข้งของตัวเค้า
ลินิเกอร์เริ่มต้นการค้าแข้งกับ เลสเตอร์ ซิตี้ ทีมบ้านเกิดของเค้าและย้ายไปอยู่กับเอฟเวอร์ตันอีกหนึ่งฤดูกาล เพียงแค่ฤดูกาลนั้นฤดูกาลเดียวศูนย์หน้าชาวเลสเตอร์กดไปถึง 38 ประตูจากทุกรายการ และต่อด้วยการยิงอีก 6 ประตูในฟุตบอลโลก 1986 คว้าดาวซัลโวประจำทัวร์นาเมนต์ไปครอง จนบาร์เซโลน่าที่มี “เอลเทล” เทอร์รี่ เวเนเบิลส์ โค้ชชาวอังกฤษที่เป็นเฮดโค้ชอยู่ต้องคว้าตัวไปร่วมทีม หลังจากค้าแข้งกับทีมดังแห่งแคว้นคาตาลัน
เค้าตัดสินใจย้ายกลับเกาะอังกฤษในปี 1989 เพื่อไปร่วมทัพ ทอตแน่มฮอตสเปอร์สก่อนที่จะย้ายทีมอีกครั้งโดยคราวนี้เป็นการย้ายข้ามทวีปเพื่อไปเล่นกับ นาโกย่า แกรมปัส เอท แม้การไปค้าแข้งที่แดนอาทิตย์อุทัยจะไม่ดีอย่างที่ควรเนื่องจากตัวของลินิเกอร์ได้รับบาดเจ็บหนักถึงสองครั้งแต่ก็ยังยิงได้ 9 ประตูจาก 23 นัดตลอดระยะเวลาสองปีที่ค้าแข้งกับทีม
ปัจจุบัน แกรี่ ลินิเกอร์ทำหน้าที่เป็นพิธีกรรายการ Match of the day ของช่อง BBC One
Michael Laudrup
สำหรับนักเตะคนนี้คงจะไม่ต้องสาธยายความเก่งกาจของเค้า ไมเคิล เลาดรู๊ป เคยค้าแข้งกับสองยอดทีมของสเปนอย่าง บาร์เซโลน่าและเรอัล มาดริด มาแล้ว รวมถึง ลาซิโอ้และยูเวนตุส เลาดรู๊ปตัดสินใจย้ายจาก เรอัล มาดริด ไปร่วมทีม วิสเซล โกเบ ในปี 1996 ที่ตอนนั้นยังแข่งขันอยู่ใน เจแปน ฟุตบอล ลีก
(เจลีก 2 ในปัจจุบัน) พาทีมเลื่อนชั้นขึ้นสู่เจลีกสำเร็จ ก่อนจะย้ายไปอยู่กับอาแจ็กซ์และแขวนสตั๊ดในฮอลแลนด์
หลังจากนั้นไม่นานเลาดรู๊ปหันมารับงานโค้ช โดยทีมที่สุดท้ายที่เค้าคุมคือ อัล รายยาน ในศึก กาตาร์ สตาร์ส ลีก
Freddie Ljungberg
เค้าคือหนึ่งในขุนพลของอาร์เซนอลชุดไร้พ่ายที่คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2003-04 เฟรดดี้ ลุงเบิร์กอยู่กับ “ปืนใหญ่” นานถึงเก้าฤดูกาลก่อนที่จะย้ายข้ามฟากไปร่วมทีมคู่อริร่วมเมืองลอนดอนอย่าง เวสต์แฮม ยูไนเต็ด แต่ลุงเบิร์กอยู่กับเวสต์แฮมเพียงแค่ฤดูกาลเดียว ก่อนที่จะย้ายไปค้าแข้งในเมเจอร์ลีกซอกเกอร์กับ ซีแอตเทิล ซาว์นเดอร์ส และ ชิคาโก ไฟร์ รวมถึงเซลติก ทีมดังจากแดนวิสกี้
ในปี 2011 ลุงเบิร์กย้ายไปร่วมทีม ชิมิสุ เอส-พัลส์ แต่ก็อยู่กับทีมได้ไม่นานและตัดสินใจแขวนสตั๊ดในท้ายที่สุดหลังจากลงเล่นกับทีมไปเพียงแปดนัด
แต่ในปี 2014 ปีกชาวสวีเดนตัดสินใจกลับมาเล่นอีกครั้งโดยคราวนี้เป็นการไปร่วมทัพ มุมไบ ซิตี้ แต่ด้วยอาการบาดเจ็บทำให้ลุงเบิร์กไม่ได้มีส่วนร่วมมากนักและตัดสินใจยกเลิกสัญญากับมุมไบ ซิตี้
Dunga
อดีตกัปตันทีมชาติบราซิลชุดแชมป์ฟุตบอลโลก 1994 เริ่มต้นการค้าแข้งกับอินเตอร์นาซิอองนาล ในปี 1987 ดุงก้ามีโอกาสย้ายไปเล่นฟุตบอลที่อิตาลีเพื่อร่วมทีมปิซ่าเป็นเวลาสั้นๆ ก่อนจะย้ายไปร่วมทีม “ม่วงมหากาฬ” ฟิออเรนติน่า
ในวัยเพียง 30 ปีดุงก้าย้ายข้ามทวีปอีกครั้งเพื่อไปร่วมทีม จูบิโล่ อิวาตะ โดยกองกลางชาวบราซิลทำผลงานได้ดีเยี่ยม ลงไป 126 นัด ทำไป 17 ประตูตลอดระยะเวลาสี่ปี ดุงก้าพาทีมคว้าแชมป์เจลีกในฤดูกาล 1997 รวมถึงคว้ารางวัลผู้เล่นทรงคุณค่าของเจลีกอีกด้วย
หลังจากอำลาจูบิโล่ อิวาตะ ดุงก้าย้ายกลับไปร่วมทีมที่ปลุกปั้นเค้ามาอย่าง อินเตอร์นาซิอองนาลเป็นระยะเวลาหนึ่งฤดูกาล ก่อนที่จะแขวนสตั๊ดกับทีม
ในปี 2006 ดุงก้าได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเฮดโค้ชทีมชาติบราซิล ก่อนที่จะโดนปลดในปี 2010 และกลับมาคุมทีมอีกครั้งระหว่างปี 2014-2016
Andrés Iniesta
แน่นอนว่าสำหรับอันเดรส อินิเอสต้าคงเป็นชื่อที่แฟนบอลทุกๆท่านรู้จักเป็นอย่างดี นักเตะผู้ที่คว้ามาแล้วทุกแชมป์กับบาร์เซโลน่า รวมถึงการคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกและแชมป์ยูโรกับทีมชาติสเปน
หลังจากการลงเล่น 674 นัดตลอดระยะเวลา 16 ปีที่อยู่กับทีมยักษ์ใหญ่จากเมืองบาร์เซโลน่า อินิเอสต้าตัดสินใจย้ายทีมหลังจบฤดูกาล 2017-18 โดยเป็นการย้ายซบ วิสเซล โกเบ ที่มี ลูคัส โพดอลสกี้ อดีตหัวหอกทีมชาติเยอรมนี ค้าแข้งกับทีมอยู่แล้ว
ปัจจุบัน อันเดรส อินิเอสต้า ลงเล่นกับ วิสเซล โกเบ ไปแล้ว 95 นัด ทำไป 21 ประตูตลอดสี่ฤดูกาลที่ผ่านมาและเพิ่งจะได้รับการต่อสัญญาอีกไปสองปีเมื่อกลางปีที่ผ่านมา
หากท่านอ่านแล้วสนใจโปรดติดตามนักเตะอีก 6 คนต่อที่ >>
https://www.facebook.com/wannabefootballth <<
J-League’s A-List: 11 นักเตะระดับท็อปที่เคยมาค้าแข้งในแดนอาทิตย์อุทัย
นับตั้งแต่การก่อตั้งเจลีกอย่างเป็นทางการในปี 1992 มีนักเตะมากหน้าหลายตาที่มาค้าแข้งในประเทศญี่ปุ่นและสร้างความประทับใจไม่น้อย
Gary Lineker
มาเริ่มกันที่ตำนานดาวยิงทีมชาติอังกฤษอย่าง แกรี่ ลินิเกอร์ เจ้าของฉายา “มิสเตอร์ไนซ์กาย” ผู้ที่ไม่เคยได้รับไม่เคยได้รับใบเหลืองหรือใบแดงแม้แต่ครั้งเดียวในชีวิตการค้าแข้งของตัวเค้า
ลินิเกอร์เริ่มต้นการค้าแข้งกับ เลสเตอร์ ซิตี้ ทีมบ้านเกิดของเค้าและย้ายไปอยู่กับเอฟเวอร์ตันอีกหนึ่งฤดูกาล เพียงแค่ฤดูกาลนั้นฤดูกาลเดียวศูนย์หน้าชาวเลสเตอร์กดไปถึง 38 ประตูจากทุกรายการ และต่อด้วยการยิงอีก 6 ประตูในฟุตบอลโลก 1986 คว้าดาวซัลโวประจำทัวร์นาเมนต์ไปครอง จนบาร์เซโลน่าที่มี “เอลเทล” เทอร์รี่ เวเนเบิลส์ โค้ชชาวอังกฤษที่เป็นเฮดโค้ชอยู่ต้องคว้าตัวไปร่วมทีม หลังจากค้าแข้งกับทีมดังแห่งแคว้นคาตาลัน
เค้าตัดสินใจย้ายกลับเกาะอังกฤษในปี 1989 เพื่อไปร่วมทัพ ทอตแน่มฮอตสเปอร์สก่อนที่จะย้ายทีมอีกครั้งโดยคราวนี้เป็นการย้ายข้ามทวีปเพื่อไปเล่นกับ นาโกย่า แกรมปัส เอท แม้การไปค้าแข้งที่แดนอาทิตย์อุทัยจะไม่ดีอย่างที่ควรเนื่องจากตัวของลินิเกอร์ได้รับบาดเจ็บหนักถึงสองครั้งแต่ก็ยังยิงได้ 9 ประตูจาก 23 นัดตลอดระยะเวลาสองปีที่ค้าแข้งกับทีม
ปัจจุบัน แกรี่ ลินิเกอร์ทำหน้าที่เป็นพิธีกรรายการ Match of the day ของช่อง BBC One
Michael Laudrup
สำหรับนักเตะคนนี้คงจะไม่ต้องสาธยายความเก่งกาจของเค้า ไมเคิล เลาดรู๊ป เคยค้าแข้งกับสองยอดทีมของสเปนอย่าง บาร์เซโลน่าและเรอัล มาดริด มาแล้ว รวมถึง ลาซิโอ้และยูเวนตุส เลาดรู๊ปตัดสินใจย้ายจาก เรอัล มาดริด ไปร่วมทีม วิสเซล โกเบ ในปี 1996 ที่ตอนนั้นยังแข่งขันอยู่ใน เจแปน ฟุตบอล ลีก
(เจลีก 2 ในปัจจุบัน) พาทีมเลื่อนชั้นขึ้นสู่เจลีกสำเร็จ ก่อนจะย้ายไปอยู่กับอาแจ็กซ์และแขวนสตั๊ดในฮอลแลนด์
หลังจากนั้นไม่นานเลาดรู๊ปหันมารับงานโค้ช โดยทีมที่สุดท้ายที่เค้าคุมคือ อัล รายยาน ในศึก กาตาร์ สตาร์ส ลีก
Freddie Ljungberg
เค้าคือหนึ่งในขุนพลของอาร์เซนอลชุดไร้พ่ายที่คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2003-04 เฟรดดี้ ลุงเบิร์กอยู่กับ “ปืนใหญ่” นานถึงเก้าฤดูกาลก่อนที่จะย้ายข้ามฟากไปร่วมทีมคู่อริร่วมเมืองลอนดอนอย่าง เวสต์แฮม ยูไนเต็ด แต่ลุงเบิร์กอยู่กับเวสต์แฮมเพียงแค่ฤดูกาลเดียว ก่อนที่จะย้ายไปค้าแข้งในเมเจอร์ลีกซอกเกอร์กับ ซีแอตเทิล ซาว์นเดอร์ส และ ชิคาโก ไฟร์ รวมถึงเซลติก ทีมดังจากแดนวิสกี้
ในปี 2011 ลุงเบิร์กย้ายไปร่วมทีม ชิมิสุ เอส-พัลส์ แต่ก็อยู่กับทีมได้ไม่นานและตัดสินใจแขวนสตั๊ดในท้ายที่สุดหลังจากลงเล่นกับทีมไปเพียงแปดนัด
แต่ในปี 2014 ปีกชาวสวีเดนตัดสินใจกลับมาเล่นอีกครั้งโดยคราวนี้เป็นการไปร่วมทัพ มุมไบ ซิตี้ แต่ด้วยอาการบาดเจ็บทำให้ลุงเบิร์กไม่ได้มีส่วนร่วมมากนักและตัดสินใจยกเลิกสัญญากับมุมไบ ซิตี้
Dunga
อดีตกัปตันทีมชาติบราซิลชุดแชมป์ฟุตบอลโลก 1994 เริ่มต้นการค้าแข้งกับอินเตอร์นาซิอองนาล ในปี 1987 ดุงก้ามีโอกาสย้ายไปเล่นฟุตบอลที่อิตาลีเพื่อร่วมทีมปิซ่าเป็นเวลาสั้นๆ ก่อนจะย้ายไปร่วมทีม “ม่วงมหากาฬ” ฟิออเรนติน่า
ในวัยเพียง 30 ปีดุงก้าย้ายข้ามทวีปอีกครั้งเพื่อไปร่วมทีม จูบิโล่ อิวาตะ โดยกองกลางชาวบราซิลทำผลงานได้ดีเยี่ยม ลงไป 126 นัด ทำไป 17 ประตูตลอดระยะเวลาสี่ปี ดุงก้าพาทีมคว้าแชมป์เจลีกในฤดูกาล 1997 รวมถึงคว้ารางวัลผู้เล่นทรงคุณค่าของเจลีกอีกด้วย
หลังจากอำลาจูบิโล่ อิวาตะ ดุงก้าย้ายกลับไปร่วมทีมที่ปลุกปั้นเค้ามาอย่าง อินเตอร์นาซิอองนาลเป็นระยะเวลาหนึ่งฤดูกาล ก่อนที่จะแขวนสตั๊ดกับทีม
ในปี 2006 ดุงก้าได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเฮดโค้ชทีมชาติบราซิล ก่อนที่จะโดนปลดในปี 2010 และกลับมาคุมทีมอีกครั้งระหว่างปี 2014-2016
Andrés Iniesta
แน่นอนว่าสำหรับอันเดรส อินิเอสต้าคงเป็นชื่อที่แฟนบอลทุกๆท่านรู้จักเป็นอย่างดี นักเตะผู้ที่คว้ามาแล้วทุกแชมป์กับบาร์เซโลน่า รวมถึงการคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกและแชมป์ยูโรกับทีมชาติสเปน
หลังจากการลงเล่น 674 นัดตลอดระยะเวลา 16 ปีที่อยู่กับทีมยักษ์ใหญ่จากเมืองบาร์เซโลน่า อินิเอสต้าตัดสินใจย้ายทีมหลังจบฤดูกาล 2017-18 โดยเป็นการย้ายซบ วิสเซล โกเบ ที่มี ลูคัส โพดอลสกี้ อดีตหัวหอกทีมชาติเยอรมนี ค้าแข้งกับทีมอยู่แล้ว
ปัจจุบัน อันเดรส อินิเอสต้า ลงเล่นกับ วิสเซล โกเบ ไปแล้ว 95 นัด ทำไป 21 ประตูตลอดสี่ฤดูกาลที่ผ่านมาและเพิ่งจะได้รับการต่อสัญญาอีกไปสองปีเมื่อกลางปีที่ผ่านมา
หากท่านอ่านแล้วสนใจโปรดติดตามนักเตะอีก 6 คนต่อที่ >> https://www.facebook.com/wannabefootballth <<