สวัสดีค่ะ ทุกวันนี้ ไทยแลนด์ แดนสยาม ของเรา ยังคงเป็นหนึ่งในประเทศที่ชาวต่างชาติชื่นชอบ และอยากมาเที่ยวกันมากที่สุด ซึ่งถ้าอยู่ในกรุงเทพฯ หรือหากมีโอกาสได้ไปตามจังหวัดใหญ่ๆ หรือตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ เรามักจะได้พบกับชาวต่างชาติเดินสวนกับเราไปมาอยู่เสมอ ซึ่งเขาเหล่านั้นอาจจะเป็นนักท่องเที่ยวจริงๆ หรืออาจจะเป็นคนที่มาอาศัยอยู่ที่เมืองไทยแบบถาวรก็ได้ นั่นก็เป็นเพราะว่าประเทศไทยของเรา เป็นที่รู้จักในหมู่ชาวต่างชาติว่า เป็นดินแดนแห่งรอยยิ้ม ผู้คนมีอัธยาศัยที่ดี ยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวจากต่างแดน เมืองไทยเป็นเมืองท่องเที่ยวติดอันดับโลก มีสถานที่ท่องเที่ยวอันเป็นเอกลักษณ์ และมีประสบการณ์แปลกใหม่ที่ชาวต่างชาติจะไม่สามารถหาได้จากที่ไหนในโลกใบนี้รออยู่ และหนึ่งในประสบการณ์แปลกใหม่สำหรับชาวต่างชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยก็น่าจะเป็นประสบการณ์ในเรื่องของภาษานั่นเอง โดยมีนักท่องเที่ยวคนหนึ่งได้มาท่องเที่ยวในประเทศไทยซึ่งเขาเองก็ได้เขียนบล็อกส่วนตัวของเขาเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในเมืองไทยเอาไว้ด้วย และเราก็ได้ไปหยุดสะดุดกับโพสต์ๆหนึ่งของเขา ซึ่งเขาได้ตั้งหัวข้อแปลเป็นไทยได้ประมาณว่า เห้ย..คนไทยไม่รู้จริงๆหรือเนี่ย? ส่วนรายละเอียดของโพสต์นี้จะเป็นอย่างไรบ้างนั้น ไปติดตามกันได้เลยค่ะ
ฉันรักทุกอย่างเกี่ยวกับประเทศไทย ไล่ตั้งแต่อาหารรสเผ็ด ตลาดที่คึกคัก หมู่เกาะเขตร้อน และผู้คนของที่นี่ และสิ่งที่ฉันกำลังจะพูดนั้นอาจจะเกิดขึ้นที่อื่นด้วยเหมือนกันนะ แต่ประเทศไทยเป็นประเทศเดียวที่ฉันใช้เวลาอยู่ที่นั่นนานมาก และที่นั่นก็ไม่ใช่บ้านของฉันนะ ฉันจึงมีโอกาสได้ถามคำถามต่างๆมากมาย ยกตัวอย่างเช่น เมื่อฉันหลงทาง
จากประสบการณ์ตรงของฉันในช่วงเวลาที่ฉันไม่มีโทรศัพท์หรือขาดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตนั้น มันไม่ใช่ความคิดที่ดีนัก
ครั้งหนึ่งฉันทานอาหารกลางวันในคาเฟ่ที่ดูดีมากในเยาวราชซึ่งอยู่ในกรุงเทพฯ โทรศัพท์ของฉันแบตหมด แต่ฉันมีแผนที่ แผนที่อันที่เป็นกระดาษจริงๆอยู่ในมือฉัน ซึ่งตอนนั้นฉันอยู่บนถนนสายหลักแต่ไม่แน่ใจว่าเป็นถนนเยาวราชหรือถนนเจริญกรุง ซึ่งทั้งสองถนนเป็นถนนสายหลักในเมืองเหมือนกัน ฉันก็เลยถามพนักงานเสิร์ฟซึ่งพูดภาษาอังกฤษได้ดีว่า ตอนนี้เราอยู่ที่ไหน แต่ฉันต้องรู้สึกแปลกใจมากเมื่อเธอบอกฉันว่า "เธอไม่รู้" ฉันถามคำถามซ้ำอีกครั้งโดยสมมติว่า เธออาจจะไม่เข้าใจในสิ่งที่ฉันถาม แต่ใช่เลย คำตอบยังคงเหมือนเดิม
อีกครั้งหนึ่ง ฉันอยู่ในร้านเฟอร์นิเจอร์กับเพื่อนของฉัน เธอถามพนักงานขายว่า โซฟาตัวไหนดีกว่ากัน แต่คุณลองเดาดูสิ…เขาไม่รู้
และอีกครั้งหนึ่ง เมื่อฉันและคนรักของฉันอยู่ที่สยาม เขานัดช่างทำผมไว้แล้ว แต่ฉันปล่อยให้เขาไปคนเดียว จะมีใครบ้างหละที่อยากจะนั่งรออยู่ในร้านตัดผมในขณะที่มีโอกาสออกไปเดินช้อปปิ้งอย่างสบายใจ สถานที่นั้นตั้งอยู่ในสยามสแควร์ และฉันเองก็เคยไปที่นั่นมาแล้วตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉันได้ไปเที่ยวเมืองไทยเมื่อไม่กี่ปีก่อนหน้านี้ ฉันแนะนำให้เขาขอตำแหน่งที่แน่นอนจากใครบางคนภายในร้าน แต่คุณสามารถจินตนาการได้ไหม ไม่มีใครในนั้นสักคนหรือสองคนที่พอจะรู้เรื่องในสิ่งที่เขาถามเลย
ดังนั้นคำถามของฉันก็คือ คนไทยไม่รู้จริงๆ? หรือแค่ไม่อยากบอก? หรือเป็นเพียงเพราะว่า พวกเขาไม่รู้ว่าจะพูดเป็นภาษาอังกฤษยังไง? บางทีมันอาจจะดีกว่านี้ก็ได้ เมื่อฉันฝึกภาษาไทยได้คล่องแคล่วแล้ว แต่ในระหว่างนี้ฉันจะพยายามทำให้แบตเตอรี่และอินเทอร์เน็ตในโทรศัพท์ของฉันพร้อมใช้งานอยู่เสมอ
ฉันรักคุณ ประเทศไทย!
และก็ได้มีชาวต่างชาติเข้ามาคอมเม้นโพสต์นี้เอาไว้ว่า ฉันคิดว่าพวกเขาไม่เข้าใจคำถามของคุณเป็นภาษาอังกฤษนะ และฉันก็คิดว่าคุณไม่น่าจะออกเสียงเยาวราชและเจริญกรุงได้อย่างที่พวกเขาพูดกัน บางทีคำภาษาอังกฤษบางคำ เช่น ช่างทำผมหรือช่างตัดผม พวกเขาอาจจะเรียกมันว่าร้านทำผม และถ้าสำเนียงของคุณแตกต่างจากหนังฮอลลีวู๊ด พวกเขาจะยิ่งรู้สึกว่ามันเข้าใจยากมากขึ้นไปอีก ซึ่งถ้าหากพวกเขาเข้าใจในคำถามของคุณแล้วหละก็ พวกเขาจะช่วยคุณอย่างแน่นอน พวกเขายินดีที่จะช่วยเหลือคุณอย่างเต็มที่
และเจ้าของโพสต์ก็ได้มาตอบคอมเม้นนี้กลับเอาไว้ว่า ใช่ มันอาจจะเป็นอุปสรรคทางภาษา แต่ในกรณีแรก ฉันเพิ่งถามผู้หญิงคนนั้นว่าถนนที่เราอยู่ชื่ออะไร และเธอทำงานที่ไหน ฉันไม่ได้พยายามออกเสียงชื่อถนนด้วยซ้ำ แต่ก็มีอีกหลายๆครั้งที่ฉันถามเกี่ยวกับ BTS เป็นภาษาไทย และพวกเขาก็ช่วยเหลือฉันดีมากถึงแม้ว่าฉันจะไม่เข้าใจคำตอบของพวกเขาก็ตาม แต่พวกเขาก็ชี้ทางที่ถูกต้องให้ฉัน
จบแล้วนะคะ
อั๊ยยะ..คนไทยไม่รู้จริงๆ? หรือแค่ไม่อยากบอก? หรือเพราะพูดไม่เป็น? | คอมเม้นต่างชาติ
ฉันรักทุกอย่างเกี่ยวกับประเทศไทย ไล่ตั้งแต่อาหารรสเผ็ด ตลาดที่คึกคัก หมู่เกาะเขตร้อน และผู้คนของที่นี่ และสิ่งที่ฉันกำลังจะพูดนั้นอาจจะเกิดขึ้นที่อื่นด้วยเหมือนกันนะ แต่ประเทศไทยเป็นประเทศเดียวที่ฉันใช้เวลาอยู่ที่นั่นนานมาก และที่นั่นก็ไม่ใช่บ้านของฉันนะ ฉันจึงมีโอกาสได้ถามคำถามต่างๆมากมาย ยกตัวอย่างเช่น เมื่อฉันหลงทาง
จากประสบการณ์ตรงของฉันในช่วงเวลาที่ฉันไม่มีโทรศัพท์หรือขาดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตนั้น มันไม่ใช่ความคิดที่ดีนัก
ครั้งหนึ่งฉันทานอาหารกลางวันในคาเฟ่ที่ดูดีมากในเยาวราชซึ่งอยู่ในกรุงเทพฯ โทรศัพท์ของฉันแบตหมด แต่ฉันมีแผนที่ แผนที่อันที่เป็นกระดาษจริงๆอยู่ในมือฉัน ซึ่งตอนนั้นฉันอยู่บนถนนสายหลักแต่ไม่แน่ใจว่าเป็นถนนเยาวราชหรือถนนเจริญกรุง ซึ่งทั้งสองถนนเป็นถนนสายหลักในเมืองเหมือนกัน ฉันก็เลยถามพนักงานเสิร์ฟซึ่งพูดภาษาอังกฤษได้ดีว่า ตอนนี้เราอยู่ที่ไหน แต่ฉันต้องรู้สึกแปลกใจมากเมื่อเธอบอกฉันว่า "เธอไม่รู้" ฉันถามคำถามซ้ำอีกครั้งโดยสมมติว่า เธออาจจะไม่เข้าใจในสิ่งที่ฉันถาม แต่ใช่เลย คำตอบยังคงเหมือนเดิม
อีกครั้งหนึ่ง ฉันอยู่ในร้านเฟอร์นิเจอร์กับเพื่อนของฉัน เธอถามพนักงานขายว่า โซฟาตัวไหนดีกว่ากัน แต่คุณลองเดาดูสิ…เขาไม่รู้
และอีกครั้งหนึ่ง เมื่อฉันและคนรักของฉันอยู่ที่สยาม เขานัดช่างทำผมไว้แล้ว แต่ฉันปล่อยให้เขาไปคนเดียว จะมีใครบ้างหละที่อยากจะนั่งรออยู่ในร้านตัดผมในขณะที่มีโอกาสออกไปเดินช้อปปิ้งอย่างสบายใจ สถานที่นั้นตั้งอยู่ในสยามสแควร์ และฉันเองก็เคยไปที่นั่นมาแล้วตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉันได้ไปเที่ยวเมืองไทยเมื่อไม่กี่ปีก่อนหน้านี้ ฉันแนะนำให้เขาขอตำแหน่งที่แน่นอนจากใครบางคนภายในร้าน แต่คุณสามารถจินตนาการได้ไหม ไม่มีใครในนั้นสักคนหรือสองคนที่พอจะรู้เรื่องในสิ่งที่เขาถามเลย
ดังนั้นคำถามของฉันก็คือ คนไทยไม่รู้จริงๆ? หรือแค่ไม่อยากบอก? หรือเป็นเพียงเพราะว่า พวกเขาไม่รู้ว่าจะพูดเป็นภาษาอังกฤษยังไง? บางทีมันอาจจะดีกว่านี้ก็ได้ เมื่อฉันฝึกภาษาไทยได้คล่องแคล่วแล้ว แต่ในระหว่างนี้ฉันจะพยายามทำให้แบตเตอรี่และอินเทอร์เน็ตในโทรศัพท์ของฉันพร้อมใช้งานอยู่เสมอ
ฉันรักคุณ ประเทศไทย!