การเดินทางอันยาวนาน มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ไม่หยุดนิ่ง บางยุคเพลงแนวหนึ่งได้รับความนิยม มาอีกสมัยกลายเป็นเพลงอีกแนวหนึ่ง สุดแท้แต่ความต้องการของแฟนเพลง ไม่แน่นอน
บทเพลงหลากหลายแนวได้ผ่านสังกัดนี้ ไม่ว่าจะเป็นเพลงป๊อป แจ๊ส แดนซ์ หรือเพลงฟังสบาย ๆ หรือการสร้างปรากฏการณ์ใหม่ ๆ ให้วงการเพลง อาทิ "สาว สาว สาว" หรือ "ฟรีเบิร์ดส"
แล้ววงการเพลงต้องจารึกไว้อีกครั้ง เมื่อ "รถไฟดนตรี" หันมาจับแนวเพลงเพื่อชีวิต ประเดิมด้วย "ปู-พงษ์สิทธิ์ คำภีร์" ศิลปินเพลงที่หลายคนมองข้ามในตอนแรก
"ปู พงษ์สิทธิ์" หนุ่มหนองคาย หลังจากเรียนจบระดับ ปวช. ที่วิทยาลัยเทคนิคไทย-เยอรมัน จ.ขอนแก่น ด้วยความรักในเสียงเพลงจึงตัดสินใจเดินทางเข้ามาหาความฝันของตัวเองที่กรุงเทพฯ ด้วยเงินติดตัวเพียงไม่กี่บาท ทั้งที่ยังไม่รู้จักใครมาก่อน
การต่อสู้ของหนุ่มหนองคายคนนี้ต้องฝ่าฟันอุปสรรคต่าง ๆ เพื่อความอยู่รอดในสังคมเมือง โชคยังดีที่ยังมีโอกาสได้ติดตาม "หงา-สุรชัย จันทิมาธร" แห่งวงคาราวาน กับ "เล็ก-ปรีชา ชนะภัย" แห่งวงคาราบาว จนสามารถเก็บเกี่ยวประสบการณ์ทางดนตรีมากพอสมควร
จนมาปี 2530 จึงได้ออกงานเพลง "ถึงเพื่อน" ภายใต้ชื่อ "ปู คำภีร์" อัดขายเพียงไม่กี่ม้วน เป็นเพลงใต้ดินไม่มีการโปรโมท จึงไม่ประสบความสำเร็จ
จนผ่านมาอีกหลายปี "ปู พงษ์สิทธิ์" จึงใช้เวลาว่างแต่งเพลงของตัวเองขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อคิดว่าถึงเวลาอันสมควร จึงร้องแล้วนำเพลงไปเสนอขายตามค่ายเพลงทุกแห่งที่มีอยู่ ไม่ว่าจะเป็น "แกรมมี่", "อาร์เอส", "คีตา" หรือ "นิธิทัศน์"
ด้วยวิธีการเดินดุ่ม ๆ เข้าไปแนะนำตัว พร้อมเสียงร้องและทำนองที่ผลิตเอง แต่ดูเหมือนจะเป็นการพยายามที่สูญเปล่า
ทุกค่ายที่เขานำเพลงไปเสนอขาย ล้วนปฏิเสธงานเพลงชุดนี้ โดยมองว่า น้ำเสียงแบบนี้ เนื้อหาทำนองนี้ คงต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะขายได้ ไม่คุ้มค่ากับการลงทุน
ช่วงนั้น ฐานะทางการเงินเริ่มย่ำแย่ ต้องกินต้องใช้ แต่ไม่มีงานทำไม่มีเงินเข้า อาหารแทบจะไม่ตกถึงท้อง เงินที่เหลือถูกใช้ในการเดินทางไปเสนองานกับค่ายเพลงต่าง ๆ
ด้วยเงินติดกระเป๋าเพียง 2 บาท "รถไฟดนตรี" เป็นค่ายสุดท้ายที่ "ปู พงษ์สิทธิ์" เดินเข้าไปหาพร้อมงานเพลงชุดเดียวกับที่เคยเดินเร่ขายมาทุกค่าย แต่ไม่มีใครเอา
เมื่อ "ระย้า" ได้ฟังงานเพลงชุดนี้จบ มีความรู้สึกงง...ว่างานเพลงและเสียงร้องของเด็กหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าค่อนข้างดี แต่ทำไม?จึงไม่มีใครสนใจ จึงมานั่งคุยหาข้อมูล และได้รู้ว่าสาเหตุที่ทำให้เขาไม่ประสบความสำเร็จในการเสนองานเพลงเป็นเพราะบทเพลงเหล่านั้นยังไม่เหมาะกับตัว "ปู พงษ์สิทธิ์"
"ระย้า" ได้พูดกับ "ปู พงษ์สิทธิ์" อย่างตรงไปตรงมาว่า "วันข้างหน้า คุณจะต้องยิ่งใหญ่แน่ เพียงแต่ว่าเพลงที่ทำออกมานั้นมันหนักไม่เข้ากับตัวเอง คุณไม่ใช่ แอ๊ด คาราบาว หรือ หงา คาราวาน ที่จะชี้ สั่ง หรือกำหนดให้ใครต่อใครทำตามได้ คุณเป็นเพียงแค่คนร้องเพลงเพื่อชีวิตคนใหม่ที่ไม่มีใครรู้จัก พูดอะไรก็ไม่มีคนเชื่อ"
"แต่คุณสามารถที่จะให้ความเป็นเพื่อนกับแฟนเพลงของคุณได้"
จากการพูดคุย "ปู พงษ์สิทธิ์" จึงยอมเปลี่ยนบทเพลงทั้งเนื้อหา คำร้องใหม่ และเซ็นสัญญาเข้าสังกัด "รถไฟดนตรี" มีกำหนดอายุ 3 ปี โดยได้ส่วนแบ่งจากการจำหน่ายเทป ตลับละ 4 บาท
"เสือตัวที่ 11" เป็นงานชิ้นแรกของ "พงษ์สิทธิ์ คำภีร์" ภายใต้สังกัด "รถไฟดนตรี" ซึ่ง "ระย้า" ใช้วิธีส่งแผ่นเชียร์ไปถึงบรรดาดีเจตามรายการต่าง ๆ ให้ช่วยเปิด
ผลที่ได้รับกลับมาคือ มีดีเจหลายคนหรือค่ายเทปบางค่ายที่มีความสนิทสนมกันต่างเตือน "ระย้า" ด้วยความห่วงใย
ดีเจบางคนบอกว่า งานชิ้นนี้จะไปไม่รอด งานออกมาแย่มาก ขืนออกแรงเชียร์ก็จะเหนื่อยเปล่า "ระย้า" ไม่เคยทำเพลงเพื่อชีวิต ยังไม่มีประสบการณ์ กลัวจะเจ็บตัว
หรือค่ายเทปบางค่ายโทร.มาเตือนให้ระวังการเจ็บตัว ขายได้อย่างมากไม่เกิน 2 หมื่นม้วน
ด้วยความมั่นใจในศิลปินของตนเองว่า งานชิ้นนี้น่าจะขายได้ ถึงรายการเพลงของคนอื่นจะไม่ยอมเปิดเพลงชุดนี้ แต่ทุกรายการของ "รถไฟดนตรี" จะต้องเปิด
ในเวลาเพียง 3 เดือน "เสือตัวที่ 11" สามารถขายได้ถึง 2 หมื่นม้วน!!!
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
ผลงานเพลงของ "พงษ์สิทธิ์ คำภีร์" ที่ออกกับ "รถไฟดนตรี" (ปี 2533-2538)
ปี 2533 : เสือตัวที่ 11
ปี 2534 : บันทึกการแสดงสดคอนเสิร์ตนี้ไม่มีเหงา 1-2 / บันทึกการเดินทาง
ปี 2535 : มาตามสัญญา / ปิด-เปิดสัญญา 1-2
ปี 2536 : ปลั๊กหลุด / อยู่ตรงนี้
ปี 2537 : ตำนานชีวิต / เคียงข้างสร้างฝัน 1-2
ปี 2538 : อยากขึ้นสวรรค์
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
คัดลอกบทความจากคอลัมน์ หลายท่ากระบวนเพลง โดย ธันวนิจ, ตีพิมพ์ในนิตยสาร ทีวีพูล ฉบับที่ 288, วันที่ 1-7 ธันวาคม 2538
สุขสันต์วันเกิดพี่ปู อายุ 54 ปี
สวัสดี.
เปิดแฟ้มโบกี้บันเทิง : "พงษ์สิทธิ์ คำภีร์" กับ "รถไฟดนตรี"