JJNY : ติดเชื้อ 7,574 เสียชีวิต 78│พัทยาเหงา รู้สึกไม่เท่าเทียม│โวย SHA เฉพาะร้านใหญ่ได้ประโยชน์│ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม

โควิดติดเชื้อเพิ่ม 7,574 ราย หายป่วย 8,279 ราย เสียชีวิต 78 ราย
https://www.dailynews.co.th/news/433692/
 
 
สถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประจำวัน ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 ล่าสุด วันที่ 2 พ.ย. 64 พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่อีก 7,574 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 7,059 ราย และผู้ติดเชื้อในเรือนจำ 515 ราย ทำให้มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสมตั้งแต่ 1 เมษายน 2564 มีจำนวน 1,898,900 ราย หายป่วยกลับบ้าน 8,279 ราย หายป่วยสะสม 1,782,555 ราย กำลังรักษา 98,444 ราย 

โดยวันนี้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 78 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสมตั้งแต่ปี 2563 มียอดสะสมสูงถึง 19,338 ราย
 


พัทยาเหงา ร้านอาหารวอนปลดล็อกขายเครื่องดื่มในร้าน ชี้รู้สึกไม่เท่าเทียม ทั้งที่เป็นเมืองท่องเที่ยวเหมือนกัน
https://www.matichon.co.th/region/news_3021836
 
พัทยาเหงา ผู้ประกอบการร้านอาหารวอนหน่วยงานผ่อนผันจำหน่ายแอลกอฮอล์กับนักท่องเที่ยว
 
หลังจากมติที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ เมื่อวันที่ 29 ตุลาคมที่ผ่านมา มีการปรับระดับพื้นที่สถานการณ์ทั่วราชอาณาจักร โดยให้เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 เป็นต้นไป ทั้งนี้ พื้นที่นำร่องท่องเที่ยว หรือโซนสีฟ้า มี 4 จังหวัดคือ กรุงเทพฯ กระบี่ พังงา และภูเก็ต สำหรับ จ.ชลบุรี จัดอยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุด ประชาชนสามารถบริโภคอาหารในร้านได้ ซึ่งร้านเปิดไม่เกินเวลา 23.00 น. แต่งดจำหน่ายและดื่มสุราในร้าน
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ค่ำคืนที่ผ่านมา (1 พฤศจิกายน) บรรยากาศในวอล์คกิ้งสตรีท พัทยา ร้านอาหาร บาร์เบียร์ ผับยังเงียบเหงาอยู่เหมือนเดิม เนื่องจากเมืองพัทยายังไม่ให้มีการจำหน่ายแอลกอฮอล์ทำให้ร้านต่างๆ ในพื้นที่เงียบเหงา ส่วนร้านอาหารซีสเปซพัทยา ซีฟู้ด ยังมีลูกค้าเดินทางเข้ามารับประทานอาหารกันเป็นกลุ่มครอบครัว
 
นายอรรณพ ปัญญา เจ้าของร้านซีสเปซพัทยา ซีฟู้ด กล่าวว่า ยังมีข้อสงสัยว่าทำไม จ.ภูเก็ต กระบี่ พังงา ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวเปิดได้ แต่ทำไมเมืองพัทยาซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยว มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากถึงยังห้ามจำหน่ายแอลกอฮอล์ในร้านอาหาร ซึ่งนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาก็ถามหาเครื่องดื่มยังแอลกอฮอล์ เนื่องจากวัฒนธรรมของชาวตะวันตกหลังจากรับประทานอาหารก็อยากจิบเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไปด้วย ทำให้ตนมองว่าทำไมเมืองพัทยาที่เป็นเมืองท่องเที่ยวถึงไม่ได้รับความเท่าเทียมกับเมืองท่องเที่ยวอื่นๆ
 
“อยากวิงวอนให้รัฐบาลช่วยพิจารณาให้สามารถเปิดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ร้านได้ เพื่อให้พอมีรายได้เพิ่มขึ้นมาบ้าง สามารถนำไปเลี้ยงพนักงาน และประคับประคองให้ร้านได้อยู่รอด” นายอรรณพระบุ


 
ร้านอาหารโวย ไม่มีเครื่องหมาย SHA ดื่มแอลกอฮอล์ไม่ได้ เฉพาะร้านใหญ่ได้ประโยชน์ ถามระบบล่มหรือยังไม่พร้อม
https://www.matichon.co.th/economy/news_3021756

ร้านอาหารโวย ไม่มีเครื่องหมาย SHA ดื่มแอลกอฮอล์ไม่ได้ เฉพาะร้านใหญ่ได้ประโยชน์ ถามระบบล่มหรือยังไม่พร้อม
 
รายงานข่าวแจ้งว่า วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ซึ่งเป็นวันที่รัฐบาลประกาศเปิดประเทศ โดยกำหนดให้ปรับพื้นที่ กรุงเทพมหานคร กระบี่ พังงา และภูเก็ต เป็นพื้นที่สีฟ้า หรือพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว โดยอนุญาตให้ร้านอาหารที่ได้รับการรับรองตรวจประเมินความพร้อมมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย หรือ SHA สามารถให้บริการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหารได้ ไม่เกินเวลา 21.00 น. เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการ และยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วย
 
แต่ปรากฎว่าวันแรกที่มีการเปิดประเทศ ผู้ประกอบการร้านอาหารจำนวนมาก ออกมาบ่นถึงเรื่องดังกล่าว เนื่องจากการที่จะได้เครื่องหมาย SHA มาติดหน้าร้านเพื่อให้สามารถบริการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ จะต้องดำเนินการตามมาตรฐานที่กำหนดอย่างเคร่งครัด และที่สำคัญการลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์  www.thailandsha.com เพื่อให้ได้มาตรการฐาน SHA ยังไม่สามารถเข้าไปดำเนินการลงทะเบียนได้ ไม่ทราบว่ามีสาเหตุมาจากอะไร เว็บไซต์ล่ม หรือระบบยังไม่พร้อม จึงไม่สามารถเข้าไปลงทะเบียนได้
 
ในวันเปิดประเทศวันแรก จึงทำให้มีผู้ประกอบการร้านอาหารจำนวนหนึ่งเท่านั้นที่สามารถจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ ส่วนใหญ่จะเป็นร้านค้าขนาดใหญ่ ส่วนร้านขนาดเล็ก ร้านอาหารตามสั่งทั่วไป ร้านส้มตำ หรือร้านอาหารในตึกแถวต่างๆยังไม่สามารถขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ เนื่องจากยังไม่ได้เครื่องหมาย SHA ดังนั้นทางร้านค้าขนาดเล็กจึงได้มีการเรียกร้องให้รัฐบาลผ่อนคลายมาตรการดังกล่าว เพื่อให้ร้านอาหารขนาดเล็กมีรายได้จากจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้เช่นเดียวกัน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่