JP เคาะราคาขาย IPO ที่ 7 บาทต่อหุ้น พร้อมเปิดให้นักลงทุนจองซื้อระหว่างวันที่ 21 และ 25-26 ตุลาคมนี้ พร้อมแต่งตั้ง บริษัทหลักทรัพย์ เอเอสแอล จำกัด เป็นผู้จัดการจัดจำหน่าย และ รับประกันการจัดจำหน่ายหุ้น IPO ร่วมกับผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายอื่นอีก 4 ราย คาดเข้าซื้อขาย mai ในวันที่ 2 พ.ย. นี้ ด้านผู้บริหาร JP มั่นใจ พร้อมนำเงินที่ระดมทุนได้ ไปพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์ภายใต้กลุ่ม Own Brand และข ยายช่องทางขายผ่านออนไลน์ทั้งในและต่างประเทศ
นายชนะชัย จุลจิราภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เอเอสแอล จำกัด ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้นำเสนอข้อมูลทิศทางการดำเนินงานและกลยุทธ์การเติบโตของ บริษัท โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) หรือ JP ให้แก่นักลงทุนในช่วงที่ผ่านมา พบว่า ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากบริษัทฯ มีพื้นฐานการดำเนินธุรกิจที่แข็งแกร่ง และ มีศักยภาพเติบโต
ด้วยจุดเด่นด้านประสบการณ์ และ ความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมมายาวนานกว่า 70 ปี และ มีทีมวิจัยพัฒนาที่มีความสามารถต่อยอดงานวิชาการสู่ผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ได้ ทั้งกลุ่มสินค้าที่อยู่ภายใต้ Own Brand และ รับจ้างผลิต (OEM) ทั้งในกลุ่มผลิตภัณฑ์ยาแผนปัจจุบัน ยาแผนโบราณ และ ผลิตภัณฑ์สมุนไพร รวมถึงผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคทั้งในเชิงดูแลป้องกันและรักษาโรค และด้วยธุรกิจ Health and Wellness ที่คนหันมาให้ความสนใจดูแลสุขภาพมากขึ้น ธุรกิจนี้จึงเป็นที่น่าสนใจของผู้บริโภค นักธุรกิจ และ กระแสการลงทุนเป็นอย่างมาก
ดังนั้น จึงได้กำหนดราคาเสนอขาย IPO ของ บริษัท โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) ที่ราคาหุ้นละ 7 บาท โดย JP จะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 115,000,000 หุ้น รวมทั้งสิ้นคิดเป็นร้อยละ 25.27 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออก และ เรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งนี้ พร้อมกำหนดเปิดให้นักลงทุนจองซื้อในระหว่างวันที่ 21,25-26 ตุลาคม 64 และ คาดว่าจะนำหุ้น JP เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ได้ภายในวันที่ 2 พฤศจิกายนนี้
ดร.สิทธิชัย แดงประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ JP กล่าวว่า บริษัทฯ มีเป้าหมายก้าวสู่การเป็นบริษัทชั้นนำด้านการวิจัย ผลิต และ จำหน่ายยา และ อาหารเสริมครบวงจร โดยร่วมมือสถาบันการศึกษา หน่วยงานภาครัฐ และเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อยกระดับนวัตกรรมผลิตภัณฑ์เพื่อพัฒนาสินค้าภายใต้ Own Brand ออกสู่ตลาดปีละ 4-5 รายการต่อปี เช่น โครงการวิจัยและพัฒนาไข่น้ำ ที่นำมาใช้เป็นวัตถุดิบในผลิตภัณฑ์อาหารเสริมโปรตีนจากพืช (Plant Base) ภายใต้แบรนด์ “สภาพโอสถ” เป็นต้น นอกจากนี้ จะมีความร่วมมือด้านการวิจัย และ พัฒนาศักยภาพการใช้กัญชง และ กัญชาในผลิตภัณฑ์สมุนไพรในเชิงสุขภาพ โดยใช้ฐานการผลิตสินค้าที่ได้มาตรฐานของบริษัทฯ
ขณะเดียวกัน JP จะเสริมสร้างประสิทธิภาพการบริหารต้นทุนเพื่อผลกำไรที่เพิ่มขึ้น โดยลงทุนปรับปรุง และ ขยายกำลังการผลิตโรงงานที่กรุงเทพฯ และ จังหวัดลำพูน เพื่อให้เกิดการประหยัดต่อขนาด หรือ Economy of Scale ในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภค และ ลูกค้า OEM ทั้งใน และ ต่างประเทศให้มากขึ้น ซึ่งจะช่วยผลักดัน JP เติบโตอย่างมั่นคง และ ยั่งยืน
นายวรชาติ ทวยเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟินเน็กซ์ แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า การที่ JP เข้าระดมทุนและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในการเป็นผู้ดำเนินธุรกิจพัฒนา ผลิต และ จำหน่าย ยาแผนปัจจุบัน ยาแผนโบราณ ผลิตภัณฑ์สมุนไพร และ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแบบครบวงจร โดย JP จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปสร้างการเติบโตในระยะยาวตามโครงการที่ได้วางแผนไว้ ทั้งในส่วนที่เป็นโครงการสร้างอาคาร และซื้อเครื่องจักรแปรรูปไข่น้ำเพื่อผลิตเชิงพาณิชย์ , แผนการเพิ่มอัตราการทำกำไรจากการขายสินค้าต่อหน่วยมากขึ้น ด้วยการพัฒนาสินค้าใหม่ๆ ภายใต้ Own Brand เพื่อวางจำหน่ายผ่านช่องทางหลากหลาย ทั้งร้านขายยาทั่วไป ร้านค้าปลีกสมัยใหม่ ร้านสะดวกซื้อ ทีวีโฮมช้อปปิ้ง และ ช่องทางออนไลน์ (Online Channel) ในมาร์เก็ตเพลส เช่น Shopee Lazada รวมถึงเพิ่มโอกาสทางธุรกิจขยายฐานลูกค้าในต่างประเทศเพิ่มเติม
อีกทั้ง ลงทุนด้านประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อออนไลน์ TV Home Shopping เพื่อสร้างการรับรู้ตัวสินค้าใหม่ที่จะออกสู่ตลาดในช่วงปี 64-66 โครงการปรับปรุงห้องวิจัยและตรวจสอบคุณภาพของโรงงานในกรุงเทพฯ และ ขยายไลน์การผลิตอาหารเสริมประเภท Soft gel รวมถึงการขยายพื้นที่คลังสินค้าที่โรงงานในจังหวัดลำพูน ส่วนที่เหลือจะนำไปชำระคืนหนี้สถาบันการเงิน และ ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานของบริษัทฯ ต่อไป
https://www.youtube.com/watch?v=u6-5BPqeptw
IPO JP กำหนดราคาขาย IPO หุ้นละ 7 บาท เทรดต้นเดือน พ.ย. 2564
นายชนะชัย จุลจิราภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เอเอสแอล จำกัด ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้นำเสนอข้อมูลทิศทางการดำเนินงานและกลยุทธ์การเติบโตของ บริษัท โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) หรือ JP ให้แก่นักลงทุนในช่วงที่ผ่านมา พบว่า ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากบริษัทฯ มีพื้นฐานการดำเนินธุรกิจที่แข็งแกร่ง และ มีศักยภาพเติบโต
ด้วยจุดเด่นด้านประสบการณ์ และ ความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมมายาวนานกว่า 70 ปี และ มีทีมวิจัยพัฒนาที่มีความสามารถต่อยอดงานวิชาการสู่ผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ได้ ทั้งกลุ่มสินค้าที่อยู่ภายใต้ Own Brand และ รับจ้างผลิต (OEM) ทั้งในกลุ่มผลิตภัณฑ์ยาแผนปัจจุบัน ยาแผนโบราณ และ ผลิตภัณฑ์สมุนไพร รวมถึงผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคทั้งในเชิงดูแลป้องกันและรักษาโรค และด้วยธุรกิจ Health and Wellness ที่คนหันมาให้ความสนใจดูแลสุขภาพมากขึ้น ธุรกิจนี้จึงเป็นที่น่าสนใจของผู้บริโภค นักธุรกิจ และ กระแสการลงทุนเป็นอย่างมาก
ดังนั้น จึงได้กำหนดราคาเสนอขาย IPO ของ บริษัท โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) ที่ราคาหุ้นละ 7 บาท โดย JP จะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 115,000,000 หุ้น รวมทั้งสิ้นคิดเป็นร้อยละ 25.27 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออก และ เรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งนี้ พร้อมกำหนดเปิดให้นักลงทุนจองซื้อในระหว่างวันที่ 21,25-26 ตุลาคม 64 และ คาดว่าจะนำหุ้น JP เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ได้ภายในวันที่ 2 พฤศจิกายนนี้
ดร.สิทธิชัย แดงประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ JP กล่าวว่า บริษัทฯ มีเป้าหมายก้าวสู่การเป็นบริษัทชั้นนำด้านการวิจัย ผลิต และ จำหน่ายยา และ อาหารเสริมครบวงจร โดยร่วมมือสถาบันการศึกษา หน่วยงานภาครัฐ และเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อยกระดับนวัตกรรมผลิตภัณฑ์เพื่อพัฒนาสินค้าภายใต้ Own Brand ออกสู่ตลาดปีละ 4-5 รายการต่อปี เช่น โครงการวิจัยและพัฒนาไข่น้ำ ที่นำมาใช้เป็นวัตถุดิบในผลิตภัณฑ์อาหารเสริมโปรตีนจากพืช (Plant Base) ภายใต้แบรนด์ “สภาพโอสถ” เป็นต้น นอกจากนี้ จะมีความร่วมมือด้านการวิจัย และ พัฒนาศักยภาพการใช้กัญชง และ กัญชาในผลิตภัณฑ์สมุนไพรในเชิงสุขภาพ โดยใช้ฐานการผลิตสินค้าที่ได้มาตรฐานของบริษัทฯ
ขณะเดียวกัน JP จะเสริมสร้างประสิทธิภาพการบริหารต้นทุนเพื่อผลกำไรที่เพิ่มขึ้น โดยลงทุนปรับปรุง และ ขยายกำลังการผลิตโรงงานที่กรุงเทพฯ และ จังหวัดลำพูน เพื่อให้เกิดการประหยัดต่อขนาด หรือ Economy of Scale ในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภค และ ลูกค้า OEM ทั้งใน และ ต่างประเทศให้มากขึ้น ซึ่งจะช่วยผลักดัน JP เติบโตอย่างมั่นคง และ ยั่งยืน
นายวรชาติ ทวยเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟินเน็กซ์ แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า การที่ JP เข้าระดมทุนและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในการเป็นผู้ดำเนินธุรกิจพัฒนา ผลิต และ จำหน่าย ยาแผนปัจจุบัน ยาแผนโบราณ ผลิตภัณฑ์สมุนไพร และ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแบบครบวงจร โดย JP จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปสร้างการเติบโตในระยะยาวตามโครงการที่ได้วางแผนไว้ ทั้งในส่วนที่เป็นโครงการสร้างอาคาร และซื้อเครื่องจักรแปรรูปไข่น้ำเพื่อผลิตเชิงพาณิชย์ , แผนการเพิ่มอัตราการทำกำไรจากการขายสินค้าต่อหน่วยมากขึ้น ด้วยการพัฒนาสินค้าใหม่ๆ ภายใต้ Own Brand เพื่อวางจำหน่ายผ่านช่องทางหลากหลาย ทั้งร้านขายยาทั่วไป ร้านค้าปลีกสมัยใหม่ ร้านสะดวกซื้อ ทีวีโฮมช้อปปิ้ง และ ช่องทางออนไลน์ (Online Channel) ในมาร์เก็ตเพลส เช่น Shopee Lazada รวมถึงเพิ่มโอกาสทางธุรกิจขยายฐานลูกค้าในต่างประเทศเพิ่มเติม
อีกทั้ง ลงทุนด้านประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อออนไลน์ TV Home Shopping เพื่อสร้างการรับรู้ตัวสินค้าใหม่ที่จะออกสู่ตลาดในช่วงปี 64-66 โครงการปรับปรุงห้องวิจัยและตรวจสอบคุณภาพของโรงงานในกรุงเทพฯ และ ขยายไลน์การผลิตอาหารเสริมประเภท Soft gel รวมถึงการขยายพื้นที่คลังสินค้าที่โรงงานในจังหวัดลำพูน ส่วนที่เหลือจะนำไปชำระคืนหนี้สถาบันการเงิน และ ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานของบริษัทฯ ต่อไป
https://www.youtube.com/watch?v=u6-5BPqeptw