ดราม่า เรื่องมาสวิส ไวรัลร้ายกว่าไวรัส หลักการโคตรเข้มเลย เรื่องจริงคนละเรื่องเลย เสียเงินตรวจ CPR โดยไม่จำเป็น

   ขออภัย เบื้องต้นพิมพ์ ผิดไป PCR เป็น CPR แต่เวลานี้ผมอยู่สวิส พรุงนี้จะองสอบถามทาง Pantip  หากแก้ไม่ได้ จะได้ขอลบ กระทุ้นี้ทิพ้งไปก่อนครับ  ขออภัยด้วยนะครับ เพราะแก้ไขไม่ได้แล้วนะครับ 

มาแบ่งปันประสบการณ์การเดินทาง การผ่านขั้นตอนต่างๆ จากข้อมูลข่าวต่างๆ และการปฏิบัติที่คนละเรื่องเลยครับ 


    ก่อนที่ผมจะรีวิวเรื่องการใช้ Lounge ชั้นธุรกิจของการบินไทย ขอแบ่ง กระทู้นี้ มาต่อจากกระทู้เตรียมเดินทางมาสวิส 
ผมก็หาข้อมูล โทรถามสายการบิน ดูจากหน้าเวปของสถานทูต ดูจากหลายความเห็นใน Pantip 
          ทำให้ผม ทั้งเชื่อและจำยอมต้องไปตรวจ PCR test รวมทั้งการแนะนำของ จนท. การบินไทย สำหรับผู้โดยสารชั้นหนึ่งและชั้นธุรกิจ 023561188 ว่า ควรเลือก PCR test + Fit to Fly รวมจ่ายไป 3,000 บาท 
             จากกระทู้นี้เลยครับ ==> https://ppantip.com/topic/41067532
             ผมจองทำ V Passport สายการบินย้ำผมว่า คำสั่งสถานทูตย้ำว่า จนท.สายการบินบอกว่า ได้รับแจ้งจากสถานทูตว่า หากฉีด AstraZeneca  คือต้องมีวงเล็บว่า (Vaxzevria)     นั้นคือ ==> AstraZeneca (Vaxzevria) 
          หากเป็น AstraZeneca ไม่มีวงเล็บ หรือเป็นคำอื่น ไม่ให้ขึ้นเครื่อง นอกจากทำ RT-PCR ไม่เกิน 72 ชม. ก่อนขึ้นเครื่องมาครับ
           วันนี้เห็นการบินไทยแล้ว จุกอก หดหู่ใจ อยากให้กำลังใจมากๆ แต่วิธีการจัดการก็ยังไม่ดี 

          วันที่เดินทางมา ผมมาที่สนามบินช่วงบ่ายแก่ๆ สักประมาณ 16.00-17.00 น. จนท.การบินไทย แจ้งว่า Flight Zurich จะเปิดให้ Check in เวลา 20.00 น. (ดังนั้น ใครจะมา Check in ล่วงหน้านานๆ ไม่ได้แล้วนะครับ) และ TG เหลือแค่ Row A เท่านั้น ในเที่ยวบินระหว่างประเทศ 
          ปัญหาคือ เขาให้ลูกค้า ทั้งชั้นประหยัดและชั้นธุรกิจ เข้าแถวรวมกัน รอเปิดให้เข้า Check in เพียงแต่พอถึงเวลา เปิดสายกั้น ให้เข้ามา Check in ถึงจะแจ้งลูกค้าว่า ชั้นธุรกิจ เคาเตอร์ไหน ชั้นธรรมดาเคาเตอร์ไหน ไม่มีที่ให้นั่งคอยสำหรับชั้นธุรกิจ แม้ว่าคุณจะซื้อตั๋วมาในราคา 130,000+ ก็ตาม 

ไทยพาณิชย์ปิดตัวไปแล้ว เหลือแต่ K Bank เลยแลกเงินที่นี้เลยครับ ส่วนประกันเดินทางท่องเที่ยวก็ซื้อผ่าน App กสิกรไทย 


 และก็ไม่ตรงเวลา ประกาศ 2 ทุ่ม ประชุมกลุ่มกัน 2 ทุ่มกว่า ถึงมาเปิดสายกัน แล้วคนมารอก็มาบอกให้เขาเข้าแถวกันทีหลังด้วย 

         ผมไป ที่เคาเตอร์ ดำเนินการเรื่องตั๋ว จนท.ถามหา RT-PCR ผมบอกว่าอยู่ในเครื่อง เดี๋ยวเปิดให้ตรวจสอบ 
        จนท.TG บอกว่า ไม่ได้ ต้อง Print มา ผมบอกว่า คุณจะเอาไปทำไร แค่ตรวจสอบว่ามีก็พอ ลูกชายผมไปสายการบินสวิสแอร์เขายังแค่ขอดูเลย ยังเป็นราชการที่ขอเก็บเอกสารอีกเหรอ นี้ผมต้องไปหา Print มาเหรอ เอาๆ ยอมๆ แล้วถามต่อว่า แล่ว V Passport นี้ใช้ด้วยไหม 

          จนท. TG บอกว่า ถ้ามี V Passport ก็จบเลย ไม่ต้องแล้ว RT-PCR  ก็ไม่ต้อง ................เห้ย!!! 
        สรุปว่า ====>   ออกตั๋วได้ โดยไม่ต้องยื่น ผลตรวจ RT-PCR ..........ขึ้นเครื่องได้ครับ จากนั้นก็แสกน QR Coad เพื่อเข้าสวิส ก็กรอกไปเรื่อยๆ จนจบจะได้ QR Coad ส่งไปที่ Email (ไม่ได้ใช้ทำอะไรเลย เป็นแค่การบันทึกข้อมูลไว้ ลงเครื่องที่สวิสก็ไม่ได้ใช้ครับ แต่ต้องทำ ตามข้อบังคับของสวิส) 

ช่วงนี้ TG ไปใช้ช่องทางพิเศษรวมก่อนนะครับ อนาคตค่อยว่ากันใหม่ครับ 

             ผมลองดูว่า รอบนี้ จะไม่ทำแผนการเที่ยวมา จะมีปัญหาไหม กับ ตม.สวิส แต่มีเตรียมที่อยู่ของลูกชาย 
 
มาที่ขาเข้า สวิสครับ 
            ผมลงเครื่อง มีประกาศ จากสายการบิน ว่า การจัดลำดับการลงเครื่อง ให้ผู้โดยสารที่จะต่อเครื่องลงก่อน , ตามด้วยผู้โดยสารชั้นธุรกิจและชั้นธรรมดา ออกจากเครื่องครั้งละ 10 คน รักษาระยะห่าง 2 เมตร 

              ลำนี้น่าจะมีสัก 50 + น่าจะได้ครับ 
                ผมมาคนไม่เยอะ เข้าแถวรอ ตรวจลงตราก็แป๊บเดียว จนท. ถามมาทำไม ผมตอบไปว่ามาเที่ยว หลายๆ แห่ง และมาเยี่ยมลูก 
              จนท.ตม. ถามต่อว่ามากี่วัน ก็ตอบไป สิบกว่าวันครับ 
              จนท.ตม. ถามต่อว่า.....มี V Passport เล่มสีเหลืองไหม ผมก็บอกมี แล้วส่งให้ดู 
                                     ดูเสร็จก็ให้แสกนนิ้ว แล้วให้เปิด Mask จากนั้นก็ทำหน้าตึงๆ ว่า ..... ไม่เหมือน 
                        ผมก็ตกใจ ...จริงอะ แล้ว จนท.ตม.ก็หัวเราะ เออ เหมือนก็เหมือน ไปๆ เที่ยวให้สนุกนะ 
                                      ดูเขาๆๆ ขึ้นชื่อเลย ตม.ขี้เล่นเนี่ย 
            แต่สรุปว่า ไม่เอาผลตรวจ RT-PCR หากคุณมี V Passport  แต่หากว่าคุณไม่มี V Passport ต้องแสดงผลตรวจ RT-PCR และไม่ใช้ Fit to Fly
                  ให้เป็นข้อมูลเพิ่ม สำหรับท่านที่จะมาสวิสนะครับ 
                   และที่สวิสไม่มีกักตัวและไม่มีตรวจ PCR หลังลงจากเครื่องครับ 

              และอย่าไปเครียดมากกับ เวป Swiss Covid Certificate for tourists ==>  https://covidcertificate-form.admin.ch/foreign กับApp COVID หากคุณไม่ได้เข้าไปในอาคารปิด หรือภัตราคารใหญ่ๆ และหากจำเป็น หลายแห่ง ยอมให้คุณยื่น V Passport แทนครับ 
           ผมสมัครไป เสียเงินไป 30 CFH จะใช้เวลาสักวันกว่าๆ ก็จะได้ Email แจ้งกลับมา ส่ง  Swiss Covid Certificate for tourists
หน้าตาแบบนี้ครับ 

และมันจะไป Link กับ App COVID 
หากเปิดมัยจะมีหน้าตาเปลี่ยนจากรหัสตัวเลข ไปเป็น แบบนี้ครับ 

          ก็จะไปนั่งในห้องอาหารได้ครับ แค่นั้นเลยครับ 

ผมออกจากสนามบิน ก็ข้ามไปยังอาคารตรงข้าม ไปนั่งซื้อ E-Swiss Plass  

ร้านอาหารบางร้านจะไม่ยอมหากเราไม่แสดง App หรือ V Passport 


       วันนี้ บ่ายต้นๆ ผมก็มาหาอาหารสวิสกิน ใน Luzern แต่นั้นริมน้ำ จนท. ไม่ถามเลย ไม่ขอดูอะไรเลย ถามอย่างเดียว จะสั่งอะไรดี 
   


ปล. ระหว่างเดินทาง ผมเจอท่านหนึ่ง จะไป Frankfurt แต่มาลงเครื่องที่ Zurich ผมก้ถามว่าทำไมไม่ลงที่ Frankfurt เลยหล่ะ เขาบอกว่า เยอรมันยังไม่เปิดให้ยื่นขอวีซ่าท่องเที่ยว เขาเลยยมายื่นที่สวิส แล้วนั่งรถไฟไปต่อที่ Frankfurt เออเน๊อ แถมเขาก็ไม่ทำแผนเที่ยว ไม่ทำจองที่พักอะไรมาเลย ผมยังเตือนว่า ทำแบบนี้ขาลงสวิสนะได้นะ แต่ทำแบบนี้ขาลงเยอรมัน ไม่ได้แน่ แต่เขาก็ออกผ่านออกมานะ 

                ให้เป็นข้อมูลครับ จากประสบการณ์เดินทางจริง ไม่ได้ฟังเขาเล่าว่า ส่วนการตรวจ RT-PCR   ก็ดีครับ 
                 แต่มันไม่ถูก ข้อมูลสื่อสารชัดหน่อยก็ดีครับ เจอผู้โดยสารสรรเสริญ กันหลายคนเลยครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่