เผื่อใครอยากรู้ว่าทำงานร้านกาแฟแบรนด์จะเจออะไรบ้าง พอดีร้านกาแฟหน้าปากซอยบ้านเค้ารับสมัคร Staff ทำงานในร้าน
นี่เห็นแค่หน้าปากซอยบ้าน ไม่ได้เสียค่าอะไร เลยไปลองสมัครทำ สมัครปุ๊บรับเลย เค้าให้ทดลองงานก่อน 7 วัน (แต่นี่ไปทำแค่ 4 วัน)
อาจจะไม่ได้อะไรมาก แต่ก็ได้อะไรบ้างเลยมารีวิวไว้ค่ะ
อนึ่ง การรีวิวนี้เป็นความรู้สึก และความเห็นส่วนตัวทั้งหมดค่ะ
=================================================================
• ไปทำงานวันแรก หน้าที่เริ่มแรกคือตักน้ำแข็ง ยังไม่ได้ชงอะไร ตอนเห็นเครื่องชงกาแฟ กับเห็นน้องๆบาริสต้าชงกาแฟแล้วคืองงมาก สูตรกาแฟแต่ละตัวมันเยอะมาก แต่น้องบอกทำไปสักพัก พี่จะจำได้เอง
• ถามน้องว่า แล้วน้องเริ่มจำสูตรได้ตอนทำงานได้กี่เดือน น้องบอก สักเดือนที่สองก็เริ่มจำได้แล้ว
• ร้านกาแฟแบรนด์นี้ เป็นร้านที่มีลูกค้าเข้าตลอดเวลา เข้าใจเลยว่าทำไมถึงมีคนอยากซื้อแฟรนไชส์มาเปิดเอง เราไม่ต้องทำตลาด มีบริษัทหลักทำการตลาดให้ และมันขายได้ด้วยชื่อแบรนด์ของมันเองอยู่แล้ว (เท่าที่ทราบต้องจ่ายค่าการตลาดให้กับทางแบรนด์ด้วยนะ)
• เท่าที่กะเองด้วยตา คนเข้าร้านคือ Rider 70% ลูกค้าหน้าร้าน 30%
• Rider ที่มา ส่วนมากจะสุภาพ ไม่เจอ Rider พูดจาไม่ดี พูดเพราะทุกคน
• เคยเจอ Rider ไม่ดีแค่คนเดียว ประมาณว่ามาแล้วหงุดหงิด ไม่รู้หงุดหงิดอะไร
• เวลา Rider เข้าร้าน สิ่งแรกที่เราต้องถามก่อนคือพี่ Grab, Lineman, Robinhood นะคะ ID อะไรคะ
• ที่ต้องถามก่อนเพราะ Rider แต่ละคน
ใส่เสื้อ Grab มารับออเดอร์ RobinHood,
ใส่เสื้อ Robinhood รับออเดอร์ Lineman,
ใส่เสื้อ Lineman รับออเดอร์ AirAsia,
ใส่เสื้อ Gojec มารับออเดอร์ Grab เป็นต้น
• Rider คนนึง ใส่เสื้อของค่ายนึง แต่จริงๆอาจจะทำงานของทุกค่ายเลยก็ได้
• การแต่งกายของพนง.ที่ร้าน คือใส่เสื้อร้าน กางเกงดำ รองเท้าผ้าใบสีดำ ผมยาวต้องมีเน็ตคลุมผม ห้ามใส่เครื่องประดับทุกชนิด ถ้าทดลองงานสามารถใส่เสื้อสีดำแทนเสื้อร้านก่อนได้
• พนักงานทุกคน แรกๆน่าจะต้องเคยโดนประตูตู้น้ำแข็งตรงบาร์น้ำหนีบมือแน่นอน (ไม่ใช่ตู้เก็บน้ำแข็งใหญ่ๆสีน้ำเงินหลังร้านที่เราเห็นประจำ) จะโดนแรงมากแรงน้อยอันนี้แล้วแต่ความสามารถของตัวเองว่าปิดเบาปิดแรง
• เพิ่งได้เห็นว่านอกจากครีมเทียมธรรมดาที่เรารู้จักคุ้นเคยเป็นปกติ เมื่อมาทำงานที่นี่ คุณจะได้เห็นครีมเทียมชาเขียว ครีมเทียมกาแฟ (ส่วนตัวไม่ดื่มกาแฟเลยไม่เคยเห็นครีมเทียมแบบนี้)
• เครื่องดื่มบางเมนู สั่งหวานน้อย คือใส่นมข้นหวาน 2oz ผู้เขียนเห็นแล้วคืออิหยังมาก 2oz นี่คือหวานน้อยแล้วเหรอ มันค่อนข้างเยอะเลยนะ
• แก้วเครื่องดื่มมี 2 แบบคือ 16 oz กับ 22 oz
ฝามี 2 แบบ ฝาแบนสำหรับเครื่องดื่มชง ฝาโดมสำหรับเครื่องดื่มปั่นและเครื่องดื่มที่เป็นเลเยอร์ (งงอ่ะดิ อะไรเลเยอร์)
ถ้าเป็นของลูกค้าหน้าร้านจะไม่มีพลาสติกปิดปากแก้ว ถ้าเป็นเครื่องดื่ม Delivery จะมีพลาสติกปิดปากแก้ว
• เครื่องดื่มร้อน Delivery จะใส่แก้วกระดาษแล้วปิดฝา แล้วคาดสก็อตเทปทับ กันฝาเปิด
• สาขาที่ทำปิดร้าน 5 โมงเย็น (เลยลองไปทำเพราะเห็นปิดร้านเร็วดี)
• สาขานี้มีกะเข้างาน 2 กะ เรียกว่า กะเปิดร้าน กับ กะปิดร้าน กะเปิดร้านคือ 06.30 – 15.45 กะปิดร้านคือ 08.30 – 17.00 น.
• ได้พักเที่ยงคนละ 1 ชั่วโมง สลับๆกันไป ส่วนมากพนักงานจะซื้อข้าวมากินหลังร้าน แล้วก็นั่งดูมือถือกันอยู่หลังร้านนั่นแหละ
แต่ผู้เขียนนี่บ้านใกล้ เวลาพักคือเดินกลับบ้าน กินข้าว แป๊บๆเดินออกไปทำงานอีกแล้ว
• ตอนบ่ายสองคือกวาดถูร้าน (อันนี้แล้วแต่ใครจะ Manage เวลาทำงานของตัวเองยังไง)
เริ่มรวบรวมขยะ ในตัวร้านจะมีถังขยะ 3 จุดคือ ถังตรงบริเวณโถงร้าน ถังตรงจุดรับเครื่องดื่ม ที่เวลาเรารับกาแฟ แล้วเราจะฉีกปลอกกระดาษพลาสติกที่หุ้ม หลอดทิ้ง กับถังตรงบาร์ประกอบเครื่องดื่ม กับถังขยะในห้องน้ำอีก 1 จุด
• สิ่งที่ไม่ชอบคือ ร้านไม่แยกขยะ ทิ้งรวมกันหมดเลยทุกอย่าง โอเค เข้าใจว่าร้านเล็ก ถังขยะที่ให้ลูกค้าทิ้งอาจจะไม่สามารถแยกขยะได้ แต่ขยะของที่ร้านก็น่าจะแยกได้ เช่นขวดพลาสติก ขวดนม หรือถุงกาแฟ หรือพลาสติก หรือกากกาแฟที่สามารถแยกขยะทิ้งได้ ไม่รู้เค้ามองว่ามันยุ่งยากรึเปล่า แต่ถ้าทำ ผู้เขียนก็ว่ามันไม่ได้ยากเลย เอาเท่าที่แยกได้ ก็ดีกว่าไม่ได้แยกเลย
• น้ำที่ถูพื้นคือน้ำแข็งที่ละลายแล้วจากถังน้ำแข็ง ปริมาณเยอะพอสมควร เอามาถูพื้นได้
• สิ่งที่ชอบคือบาร์ชงกาแฟของที่ร้านสะอาดมาก ซื้อเครื่องดื่มไปมั่นใจได้เลยว่าสะอาด เช็ดกันตลอดเวลา จะไม่มีภาพน้ำหกเลอะเทอะให้เห็นเด็ดขาด
• จุดเตรียมเครื่องดื่มจะมีแก้วใส่น้ำสะอาด มีช้อนคนเครื่องดื่มใส่ไว้ เมื่อน้ำขุ่นในแก้วนี้เริ่มขุ่นต้องเปลี่ยนน้ำทันที ชงไปได้สัก 2-3 เมนูก็เปลี่ยนน้ำแล้ว
• ผ้าผืนเล็กที่เอาไว้เช็ดทำความสะอาดบาร์เตรียมเครื่องดื่มมี 2 ผืน เป็นผ้าสีน้ำตาล ผืนนึงเรียกว่าผ้าเหนียว ไว้เช็ดคราบนมข้นหวาน เครื่องดื่มที่หก ผ้าผืนนี้จะต้องใช้ที่จุดนี้เท่านั้น ห้ามไปเช็ดที่อื่นเด็ดขาด
• ผ้าอีกผืนจะอยู่ตรงจุดล้างภาชนะ ผืนนี้จะไว้เช็ดน้ำที่กระเด็นกับเช็ดบาร์เครื่องดื่มประเภทปั่น
• ผ้าที่จุดเครื่องชงกาแฟ เป็นผ้าสีน้ำเงิน 2 ผืน
• ผ้าสีต่างๆ ไม่ใช่ผ้าที่ร้านเอาผ้าสีอะไรก็ได้ มาเลือกใช้ได้เอง เป็นผ้าแบรนด์กาแฟของร้าน และเป็นสีมาตรฐานที่ทางแบรนด์กำหนดไว้
• ทำให้รู้ว่า ต้องใช้ผ้าของแบรนด์กาแฟเท่านั้น ไม่ใช่ใช้ผ้า 20 บาทตลาดนัดอะไรก็ได้นะ
• ผ้าสีขาว 1 ผืนเล็ก เอาไว้เช็ดหัว Stream นม
• ผ้าสีขาว 1 ผืนใหญ่จะวางอยู่หลังเครื่องทำกาแฟ เป็นผ้าแห้งๆอุ่นๆ เอาไว้เช็ดภาชนะต่างๆที่ล้างทำความสะอาดแล้ว เก็บเข้าตู้
• วันที่ 2 เริ่มได้ชงเครื่องดื่มบ้างแล้ว เพราะได้สูตรมา แต่ก็ยังชงช้ามาก เพราะพลิกดูสูตรอยู่
• ทำงานวันที่ 2 เริ่มหัดใช้เครื่องชงกาแฟ วันแรกยังงกๆเงิ่นๆ งงกับปุ่มกดน้ำ และระดับน้ำที่ต้องใช้กับเครื่องดื่มร้อน เย็น ปั่น งงมาก 1.5oz 3oz 5oz 1+1oz สำหรับกาแฟพรีเมี่ยม และอื่นๆอีกมากมาย (ดูปุ่มได้จากรูปข้างล่าง)
• ทำเมนูชาต้องใส่ใบชา กดน้ำ 1.5oz แล้วกดจับเวลา 20 วิ ครบ20 วิแล้วกดน้ำเพิ่มให้ได้ 3 oz สำหรับปั่น 5 oz สำหรับชง (จำถูกป่าวไม่รู้) ถ้ามาหลายออเดอร์ ต้องทำ 3 หัวพร้อมกันคือลาก่อน งงมากค่ะ
• แต่น้องๆที่ทำจนเก่งแล้วนี่โปรมาก เปลี่ยนเมนูเปลี่ยนหัวชงไวมาก
• เครื่องชงในรูปเนี่ย ร้อนมาก ตอนเช็ดทำความสะอาดเครื่อง นื้วไปโดนหน่อยนึง หนังหลุดเป็นแผลไปเลย แต่แผลเล็กนี้ดเดียวไม่ใหญ่ ไม่ได้โดนเยอะ
• ทำงานวันที่ 3 ได้อยู่บาร์ชง ทำหน้าที่ชงเครื่องดื่มมากขึ้น(ดูสูตร) ทำผิดไป 2-3 แก้ว
• ทำงานวันที่ 4 เริ่มชงคล่องขึ้น (โดยดูสูตร) ทำผิด 2 แก้ว
• เมนูคาปู ลาเต้ มอคค่า สามตัวนี้ต้องท็อปด้วยฟองนม แต่ลาเต้ไม่ต้องโรยผงโกโก้ (ภาษาทำงานเรียกมีฟองโรยผง)
• ตอนทำเครื่องดื่มปั่น ปกติเวลาทำเครื่องดื่มปั่นของที่นี่คือทุกอย่างใส่โถปั่นเลย แล้วปั่นรวม ไม่ใช่มาผสมกันก่อน แล้วค่อยเทใส่โถ
เช่นทำโกโก้ ก็ตักผงโกโก้ นมสด นมข้นหวาน นมจืด น้ำเชื่อม น้ำร้อนใส่โถปั่นแล้วปั่นเลย นี่ก็ใส่ๆไป น้องเห็นก็ดุแล้วบอก เวลาทำเครื่องดื่มพี่ต้องใส่ของข้นลงก่อนเพราะของข้นมีความหนืดต้องละลายก่อน แล้วใส่ของเหลวที่ไม่หนืดตามทีหลัง นี่แอบงง สุดท้ายมันก็ปั่นรวมกันป่าว แล้วตอนใส่ส่วนผสมมันไวมาก นมข้นยังไม่ทันละลายมันก็เข้าเครื่องปั่นแล้วนะ เออถ้าแบบชง พอจะเข้าใจได้ว่าอาจมีหลักการให้นมข้นมันต้องละลายก่อนอะไรงี้เพราะมันหนืดกว่า
• สาขาที่ผู้เขียนทำพอเริ่มบ่ายสาม ออเดอร์ก็จะทยอยเข้ามาไม่มากเหมือนช่วงเช้าแล้ว ส่วนมากตอนเช้าถึงเที่ยง ออเดอร์จะเยอะมาก เปิดร้านปุ๊บก็มี Rider มารับออเดอร์แล้ว
• ใกล้เวลาเลิกงาน ต้องเก็บล้างทำความสะอาดทุกอย่าง บีกเกอร์ ถ้วยตวง โถปั่น ช้อน มีด ทุกอย่างต้องล้าง เช็ดให้แห้งเก็บเข้าตู้ เอาผ้ามาเช็ดบาร์ เช็ดตู้ทุกอย่างให้สะอาด
• เจ้าของร้านต้องทำเป็นทุกอย่างในร้าน วันไหนพนักงานไม่พอสามารถมาช่วยงานในร้านได้
• เจ้าของร้านนี้เป็นชายหนุ่มอายุ 35 มีหุ้นส่วนร้านอีก 2 คน มีร้าน 2 สาขา
• เจ้าของร้านใจดี
• เรทสตาร์ทเงินเดือนของที่นี่ 11,100฿ ผ่านโปรปรับเพิ่ม 500฿ ถ้ายอดขายดีก็ได้เพิ่ม บวก Incentive (ได้ยินแว่วๆว่าได้ Incentive 500 ไม่รู้ได้ยินผิดป่าว) เห็นเจ้าของร้านที่นี่ให้ค่ากำลังใจทำงานด้วย (สำหรับที่นี่นะ)
• ทดลองงานได้วันละ 325฿ นี่เห็นว่าร้านอยู่ปากซอยบ้าน ไม่ต้องเสียค่าเดินทาง (เพราะเดินไปทำ) ไม่ต้องเสียค่าข้าว (เพราะเดินกลับมากินที่บ้าน) เลยลองไปทำ
• ไปทำงานเหมือนไม่เหนื่อย แต่กลับมาถึงบ้านถ้าหัวถึงหมอนคือหลับทันที ปกติก็เป็นคนหลับง่ายอยู่แล้ว แต่ไปทำงานนี้ยิ่งหลับง่ายเข้าใปใหญ่
ไปทำมา 4 วันได้เห็นระบบการเซ็ทอัพร้านกาแฟ ระบบการทำงานต่างๆก็ได้ประสบการณ์ใหม่ที่ดี เปิดโลกการทำงานมากขึ้น สาขาที่ทำส่วนมากลูกค้าจะมาซื้อแล้วก็กลับ ไม่ได้นั่งในร้านเลยไม่ได้ทำงานบริการอะไรมากเท่าไหร่ สำหรับยอดขายแต่ละวัน ลองคุยกับเจ้าของ เจ้าของบอกว่าปกติก่อนโควิด ยอดขายประมาณวันละ 300 แก้ว ร้านเปิดถึง 19.30 มี Staff 6 คน สลับหมุนเวียนกัน แต่ช่วงโควิดยอดขายเหลือลงมาวันละ 100-200 แก้ว ร้านเปิดถึงแค่ 17.30 (อันนี้เป็นเพราะทำเล) Staff มี 4 คน (อันนี้ Staff ลาออกเอง) ส่วนผู้เขียนไม่ได้ทดลองทำต่อแล้ว เพราะต้องไปทำอย่างอื่นต่อ
หวังว่าจะได้เป็นการเปิดประสบการณ์การเป็นพนักงานร้านกาแฟผ่านการอ่านบ้างไม่มากก็น้อย ขอบคุณทุกท่านที่แวะเข้ามาอ่านนะคะ
[CR] รีวิว ประสบการณ์การทดลองทำงานเป็นพนักงานที่ร้านกาแฟแบรนด์ดังแนว Jungle แห่งหนึ่ง เป็นเวลา 4 วัน (ยาวนะ)
นี่เห็นแค่หน้าปากซอยบ้าน ไม่ได้เสียค่าอะไร เลยไปลองสมัครทำ สมัครปุ๊บรับเลย เค้าให้ทดลองงานก่อน 7 วัน (แต่นี่ไปทำแค่ 4 วัน)
อาจจะไม่ได้อะไรมาก แต่ก็ได้อะไรบ้างเลยมารีวิวไว้ค่ะ
อนึ่ง การรีวิวนี้เป็นความรู้สึก และความเห็นส่วนตัวทั้งหมดค่ะ
=================================================================
• ไปทำงานวันแรก หน้าที่เริ่มแรกคือตักน้ำแข็ง ยังไม่ได้ชงอะไร ตอนเห็นเครื่องชงกาแฟ กับเห็นน้องๆบาริสต้าชงกาแฟแล้วคืองงมาก สูตรกาแฟแต่ละตัวมันเยอะมาก แต่น้องบอกทำไปสักพัก พี่จะจำได้เอง
• ถามน้องว่า แล้วน้องเริ่มจำสูตรได้ตอนทำงานได้กี่เดือน น้องบอก สักเดือนที่สองก็เริ่มจำได้แล้ว
• ร้านกาแฟแบรนด์นี้ เป็นร้านที่มีลูกค้าเข้าตลอดเวลา เข้าใจเลยว่าทำไมถึงมีคนอยากซื้อแฟรนไชส์มาเปิดเอง เราไม่ต้องทำตลาด มีบริษัทหลักทำการตลาดให้ และมันขายได้ด้วยชื่อแบรนด์ของมันเองอยู่แล้ว (เท่าที่ทราบต้องจ่ายค่าการตลาดให้กับทางแบรนด์ด้วยนะ)
• เท่าที่กะเองด้วยตา คนเข้าร้านคือ Rider 70% ลูกค้าหน้าร้าน 30%
• Rider ที่มา ส่วนมากจะสุภาพ ไม่เจอ Rider พูดจาไม่ดี พูดเพราะทุกคน
• เคยเจอ Rider ไม่ดีแค่คนเดียว ประมาณว่ามาแล้วหงุดหงิด ไม่รู้หงุดหงิดอะไร
• เวลา Rider เข้าร้าน สิ่งแรกที่เราต้องถามก่อนคือพี่ Grab, Lineman, Robinhood นะคะ ID อะไรคะ
• ที่ต้องถามก่อนเพราะ Rider แต่ละคน
ใส่เสื้อ Grab มารับออเดอร์ RobinHood,
ใส่เสื้อ Robinhood รับออเดอร์ Lineman,
ใส่เสื้อ Lineman รับออเดอร์ AirAsia,
ใส่เสื้อ Gojec มารับออเดอร์ Grab เป็นต้น
• Rider คนนึง ใส่เสื้อของค่ายนึง แต่จริงๆอาจจะทำงานของทุกค่ายเลยก็ได้
• การแต่งกายของพนง.ที่ร้าน คือใส่เสื้อร้าน กางเกงดำ รองเท้าผ้าใบสีดำ ผมยาวต้องมีเน็ตคลุมผม ห้ามใส่เครื่องประดับทุกชนิด ถ้าทดลองงานสามารถใส่เสื้อสีดำแทนเสื้อร้านก่อนได้
• พนักงานทุกคน แรกๆน่าจะต้องเคยโดนประตูตู้น้ำแข็งตรงบาร์น้ำหนีบมือแน่นอน (ไม่ใช่ตู้เก็บน้ำแข็งใหญ่ๆสีน้ำเงินหลังร้านที่เราเห็นประจำ) จะโดนแรงมากแรงน้อยอันนี้แล้วแต่ความสามารถของตัวเองว่าปิดเบาปิดแรง
• เพิ่งได้เห็นว่านอกจากครีมเทียมธรรมดาที่เรารู้จักคุ้นเคยเป็นปกติ เมื่อมาทำงานที่นี่ คุณจะได้เห็นครีมเทียมชาเขียว ครีมเทียมกาแฟ (ส่วนตัวไม่ดื่มกาแฟเลยไม่เคยเห็นครีมเทียมแบบนี้)
• เครื่องดื่มบางเมนู สั่งหวานน้อย คือใส่นมข้นหวาน 2oz ผู้เขียนเห็นแล้วคืออิหยังมาก 2oz นี่คือหวานน้อยแล้วเหรอ มันค่อนข้างเยอะเลยนะ
• แก้วเครื่องดื่มมี 2 แบบคือ 16 oz กับ 22 oz
ฝามี 2 แบบ ฝาแบนสำหรับเครื่องดื่มชง ฝาโดมสำหรับเครื่องดื่มปั่นและเครื่องดื่มที่เป็นเลเยอร์ (งงอ่ะดิ อะไรเลเยอร์)
ถ้าเป็นของลูกค้าหน้าร้านจะไม่มีพลาสติกปิดปากแก้ว ถ้าเป็นเครื่องดื่ม Delivery จะมีพลาสติกปิดปากแก้ว
• เครื่องดื่มร้อน Delivery จะใส่แก้วกระดาษแล้วปิดฝา แล้วคาดสก็อตเทปทับ กันฝาเปิด
• สาขาที่ทำปิดร้าน 5 โมงเย็น (เลยลองไปทำเพราะเห็นปิดร้านเร็วดี)
• สาขานี้มีกะเข้างาน 2 กะ เรียกว่า กะเปิดร้าน กับ กะปิดร้าน กะเปิดร้านคือ 06.30 – 15.45 กะปิดร้านคือ 08.30 – 17.00 น.
• ได้พักเที่ยงคนละ 1 ชั่วโมง สลับๆกันไป ส่วนมากพนักงานจะซื้อข้าวมากินหลังร้าน แล้วก็นั่งดูมือถือกันอยู่หลังร้านนั่นแหละ
แต่ผู้เขียนนี่บ้านใกล้ เวลาพักคือเดินกลับบ้าน กินข้าว แป๊บๆเดินออกไปทำงานอีกแล้ว
• ตอนบ่ายสองคือกวาดถูร้าน (อันนี้แล้วแต่ใครจะ Manage เวลาทำงานของตัวเองยังไง)
เริ่มรวบรวมขยะ ในตัวร้านจะมีถังขยะ 3 จุดคือ ถังตรงบริเวณโถงร้าน ถังตรงจุดรับเครื่องดื่ม ที่เวลาเรารับกาแฟ แล้วเราจะฉีกปลอกกระดาษพลาสติกที่หุ้ม หลอดทิ้ง กับถังตรงบาร์ประกอบเครื่องดื่ม กับถังขยะในห้องน้ำอีก 1 จุด
• สิ่งที่ไม่ชอบคือ ร้านไม่แยกขยะ ทิ้งรวมกันหมดเลยทุกอย่าง โอเค เข้าใจว่าร้านเล็ก ถังขยะที่ให้ลูกค้าทิ้งอาจจะไม่สามารถแยกขยะได้ แต่ขยะของที่ร้านก็น่าจะแยกได้ เช่นขวดพลาสติก ขวดนม หรือถุงกาแฟ หรือพลาสติก หรือกากกาแฟที่สามารถแยกขยะทิ้งได้ ไม่รู้เค้ามองว่ามันยุ่งยากรึเปล่า แต่ถ้าทำ ผู้เขียนก็ว่ามันไม่ได้ยากเลย เอาเท่าที่แยกได้ ก็ดีกว่าไม่ได้แยกเลย
• น้ำที่ถูพื้นคือน้ำแข็งที่ละลายแล้วจากถังน้ำแข็ง ปริมาณเยอะพอสมควร เอามาถูพื้นได้
• สิ่งที่ชอบคือบาร์ชงกาแฟของที่ร้านสะอาดมาก ซื้อเครื่องดื่มไปมั่นใจได้เลยว่าสะอาด เช็ดกันตลอดเวลา จะไม่มีภาพน้ำหกเลอะเทอะให้เห็นเด็ดขาด
• จุดเตรียมเครื่องดื่มจะมีแก้วใส่น้ำสะอาด มีช้อนคนเครื่องดื่มใส่ไว้ เมื่อน้ำขุ่นในแก้วนี้เริ่มขุ่นต้องเปลี่ยนน้ำทันที ชงไปได้สัก 2-3 เมนูก็เปลี่ยนน้ำแล้ว
• ผ้าผืนเล็กที่เอาไว้เช็ดทำความสะอาดบาร์เตรียมเครื่องดื่มมี 2 ผืน เป็นผ้าสีน้ำตาล ผืนนึงเรียกว่าผ้าเหนียว ไว้เช็ดคราบนมข้นหวาน เครื่องดื่มที่หก ผ้าผืนนี้จะต้องใช้ที่จุดนี้เท่านั้น ห้ามไปเช็ดที่อื่นเด็ดขาด
• ผ้าอีกผืนจะอยู่ตรงจุดล้างภาชนะ ผืนนี้จะไว้เช็ดน้ำที่กระเด็นกับเช็ดบาร์เครื่องดื่มประเภทปั่น
• ผ้าที่จุดเครื่องชงกาแฟ เป็นผ้าสีน้ำเงิน 2 ผืน
• ผ้าสีต่างๆ ไม่ใช่ผ้าที่ร้านเอาผ้าสีอะไรก็ได้ มาเลือกใช้ได้เอง เป็นผ้าแบรนด์กาแฟของร้าน และเป็นสีมาตรฐานที่ทางแบรนด์กำหนดไว้
• ทำให้รู้ว่า ต้องใช้ผ้าของแบรนด์กาแฟเท่านั้น ไม่ใช่ใช้ผ้า 20 บาทตลาดนัดอะไรก็ได้นะ
• ผ้าสีขาว 1 ผืนเล็ก เอาไว้เช็ดหัว Stream นม
• ผ้าสีขาว 1 ผืนใหญ่จะวางอยู่หลังเครื่องทำกาแฟ เป็นผ้าแห้งๆอุ่นๆ เอาไว้เช็ดภาชนะต่างๆที่ล้างทำความสะอาดแล้ว เก็บเข้าตู้
• วันที่ 2 เริ่มได้ชงเครื่องดื่มบ้างแล้ว เพราะได้สูตรมา แต่ก็ยังชงช้ามาก เพราะพลิกดูสูตรอยู่
• ทำงานวันที่ 2 เริ่มหัดใช้เครื่องชงกาแฟ วันแรกยังงกๆเงิ่นๆ งงกับปุ่มกดน้ำ และระดับน้ำที่ต้องใช้กับเครื่องดื่มร้อน เย็น ปั่น งงมาก 1.5oz 3oz 5oz 1+1oz สำหรับกาแฟพรีเมี่ยม และอื่นๆอีกมากมาย (ดูปุ่มได้จากรูปข้างล่าง)
• ทำเมนูชาต้องใส่ใบชา กดน้ำ 1.5oz แล้วกดจับเวลา 20 วิ ครบ20 วิแล้วกดน้ำเพิ่มให้ได้ 3 oz สำหรับปั่น 5 oz สำหรับชง (จำถูกป่าวไม่รู้) ถ้ามาหลายออเดอร์ ต้องทำ 3 หัวพร้อมกันคือลาก่อน งงมากค่ะ
• แต่น้องๆที่ทำจนเก่งแล้วนี่โปรมาก เปลี่ยนเมนูเปลี่ยนหัวชงไวมาก
• เครื่องชงในรูปเนี่ย ร้อนมาก ตอนเช็ดทำความสะอาดเครื่อง นื้วไปโดนหน่อยนึง หนังหลุดเป็นแผลไปเลย แต่แผลเล็กนี้ดเดียวไม่ใหญ่ ไม่ได้โดนเยอะ
• ทำงานวันที่ 3 ได้อยู่บาร์ชง ทำหน้าที่ชงเครื่องดื่มมากขึ้น(ดูสูตร) ทำผิดไป 2-3 แก้ว
• ทำงานวันที่ 4 เริ่มชงคล่องขึ้น (โดยดูสูตร) ทำผิด 2 แก้ว
• เมนูคาปู ลาเต้ มอคค่า สามตัวนี้ต้องท็อปด้วยฟองนม แต่ลาเต้ไม่ต้องโรยผงโกโก้ (ภาษาทำงานเรียกมีฟองโรยผง)
• ตอนทำเครื่องดื่มปั่น ปกติเวลาทำเครื่องดื่มปั่นของที่นี่คือทุกอย่างใส่โถปั่นเลย แล้วปั่นรวม ไม่ใช่มาผสมกันก่อน แล้วค่อยเทใส่โถ
เช่นทำโกโก้ ก็ตักผงโกโก้ นมสด นมข้นหวาน นมจืด น้ำเชื่อม น้ำร้อนใส่โถปั่นแล้วปั่นเลย นี่ก็ใส่ๆไป น้องเห็นก็ดุแล้วบอก เวลาทำเครื่องดื่มพี่ต้องใส่ของข้นลงก่อนเพราะของข้นมีความหนืดต้องละลายก่อน แล้วใส่ของเหลวที่ไม่หนืดตามทีหลัง นี่แอบงง สุดท้ายมันก็ปั่นรวมกันป่าว แล้วตอนใส่ส่วนผสมมันไวมาก นมข้นยังไม่ทันละลายมันก็เข้าเครื่องปั่นแล้วนะ เออถ้าแบบชง พอจะเข้าใจได้ว่าอาจมีหลักการให้นมข้นมันต้องละลายก่อนอะไรงี้เพราะมันหนืดกว่า
• สาขาที่ผู้เขียนทำพอเริ่มบ่ายสาม ออเดอร์ก็จะทยอยเข้ามาไม่มากเหมือนช่วงเช้าแล้ว ส่วนมากตอนเช้าถึงเที่ยง ออเดอร์จะเยอะมาก เปิดร้านปุ๊บก็มี Rider มารับออเดอร์แล้ว
• ใกล้เวลาเลิกงาน ต้องเก็บล้างทำความสะอาดทุกอย่าง บีกเกอร์ ถ้วยตวง โถปั่น ช้อน มีด ทุกอย่างต้องล้าง เช็ดให้แห้งเก็บเข้าตู้ เอาผ้ามาเช็ดบาร์ เช็ดตู้ทุกอย่างให้สะอาด
• เจ้าของร้านต้องทำเป็นทุกอย่างในร้าน วันไหนพนักงานไม่พอสามารถมาช่วยงานในร้านได้
• เจ้าของร้านนี้เป็นชายหนุ่มอายุ 35 มีหุ้นส่วนร้านอีก 2 คน มีร้าน 2 สาขา
• เจ้าของร้านใจดี
• เรทสตาร์ทเงินเดือนของที่นี่ 11,100฿ ผ่านโปรปรับเพิ่ม 500฿ ถ้ายอดขายดีก็ได้เพิ่ม บวก Incentive (ได้ยินแว่วๆว่าได้ Incentive 500 ไม่รู้ได้ยินผิดป่าว) เห็นเจ้าของร้านที่นี่ให้ค่ากำลังใจทำงานด้วย (สำหรับที่นี่นะ)
• ทดลองงานได้วันละ 325฿ นี่เห็นว่าร้านอยู่ปากซอยบ้าน ไม่ต้องเสียค่าเดินทาง (เพราะเดินไปทำ) ไม่ต้องเสียค่าข้าว (เพราะเดินกลับมากินที่บ้าน) เลยลองไปทำ
• ไปทำงานเหมือนไม่เหนื่อย แต่กลับมาถึงบ้านถ้าหัวถึงหมอนคือหลับทันที ปกติก็เป็นคนหลับง่ายอยู่แล้ว แต่ไปทำงานนี้ยิ่งหลับง่ายเข้าใปใหญ่
ไปทำมา 4 วันได้เห็นระบบการเซ็ทอัพร้านกาแฟ ระบบการทำงานต่างๆก็ได้ประสบการณ์ใหม่ที่ดี เปิดโลกการทำงานมากขึ้น สาขาที่ทำส่วนมากลูกค้าจะมาซื้อแล้วก็กลับ ไม่ได้นั่งในร้านเลยไม่ได้ทำงานบริการอะไรมากเท่าไหร่ สำหรับยอดขายแต่ละวัน ลองคุยกับเจ้าของ เจ้าของบอกว่าปกติก่อนโควิด ยอดขายประมาณวันละ 300 แก้ว ร้านเปิดถึง 19.30 มี Staff 6 คน สลับหมุนเวียนกัน แต่ช่วงโควิดยอดขายเหลือลงมาวันละ 100-200 แก้ว ร้านเปิดถึงแค่ 17.30 (อันนี้เป็นเพราะทำเล) Staff มี 4 คน (อันนี้ Staff ลาออกเอง) ส่วนผู้เขียนไม่ได้ทดลองทำต่อแล้ว เพราะต้องไปทำอย่างอื่นต่อ
หวังว่าจะได้เป็นการเปิดประสบการณ์การเป็นพนักงานร้านกาแฟผ่านการอ่านบ้างไม่มากก็น้อย ขอบคุณทุกท่านที่แวะเข้ามาอ่านนะคะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้