หลังจากเสร็จภาระกิจ ประดิษฐ์ต้นแบบจักรยาน 4 ล้อโซล่าเซล์ ผมก็มีเวลาว่างที่จะออกทริป สั้น ๆ ซัก 3 วันค้างคืนซัก 2คืน กับข้าวกล้อง วางแผนล่วงหน้าไว้ 3 วัน ก่อนวันไปฝนตกทั้งวันแต่ใจมันไปแล้ว ทำไงก็หยุดไม่อยู่
มารุ จักรยาน ไฟฟ้า +โซล่าเซลล์
07:45 ของวันที่ 15 ตค.
ผมเริ่มออกเดินจากหมู่บ้านแถวบางบัวทอง ทั้งที่ฟ้ายังเต็มไปด้วยเมฆฝน ความหวังที่จะให้โซล่าเซลล์ชาร์ทแบตไปด้วยระหว่างทางคงจะไม่ต้องหวังแล้ว คิดในใจคือใช้แรงปั่นกับแบตเตอรี่ 2 ก้อน ถึงไหนก็นอนนั่น
08:25 ถึงวัดลาดปลาดูก
ทุกครั้งที่ผมออกทริป จะใช้วัดลาดปลาดูกเป็นชุดเช็กพ้อยจุดแรก ที่จะหยุดถ่ายรูปเพื่อเป็นหลักฐานส่งไปให้ที่บ้าน มีชายนายหนึ่งเห็นจักรยานของผมเข้ามาถามว่า
"พี่ ขายอะไรหรือ"
"ไม่ได้ขาย จะเดินทางไป อ่างไม้เต็ง ราชบุรี" ผมบอก
"ในนี้มีแต่เครื่องนอนเสื้อผ้าและหม้อหุงข้าว" ผมอธิบายเพิ่มเพื่อให้เค้าหายสงสัย
ชายคนนั้นถามรายละเอียดเกี่ยวกับรถนิดหน่อย ก่อนที่จะอวยพรให้ผม
"โชคดีนะพี่"
ผมยิ้มรับคำอวยพรจากคนแปลกหน้าแล้วเดินทางต่อ
09:15 ผมก็ถึงเขตติดต่อระหว่าง นนทบุรีกับนครปฐม หยุดซื้อไฟฉายจากร้านขายของชำและเดินทางต่อ
10:20 ข้ามสะพานบางพระ แวะทานข้าวเช้า การเดินทางครั้งนี้ไม่ค่อยมีรถสิบล้อให้กังวลเท่าไร ไม่เหมือนครั้งที่แล้ว ผมไปทางวัดหัวยพลู สะพานข้ามแม่ท่าจีนตรงนั้นรถสิบล้อเยอะมาก น่ากลัว
สะพานหลวงพ่อเปิ่น ข้ามแม่น้ำนครชัยศรี
11:43 ถึงวัดสามควายเผือก เหลืออีก 5 กม.ถึง ตัวเมืองนครปฐม ผมวางแผนที่จะปั่นลอดใต้ทางหลวงเพชรเกษม ตรงสี่แยก ทาราวดี แล้วก็ไปหยุดหาอะไรทานที่ฝั่งทางตำบลสนามจันทร์ เรียบคลองทางทิศใต้ แดดสาย ๆนี้มีนิดหน่อยทำให้ผมชาร์ทเข้าแบตได้บ้าง แต่ก็กังวลว่าจะผ่าน 100โลได้หรือเปล่า
15:00 ผมถึงวัดหนองโพ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ผมจะต้องลอดใต้ถนนเพชรเกษมไปทางด้านตะวันตกอีกครั้ง กังวลนิดหน่อย เรื่องเวลาเร่งขึ้นจากอุโมงแล้ววงจรขับมอเตอร์จะไหม้ แต่ก็ผ่านไปด้วยดี
17:00 ถึงวัดเจ็ดเสมียน แบตเตอรี่ก้อนที่2 เหลือ 33 โวลท์ จะต้องเปลี่ยนกับก้อนแรกที่ใช้หมดตอนบ่ายโมง แล้วนำไปชาร์ทโซล่าเซลล์ไว้
18:10 ถึงที่หมายของวันแรก แบตหมดเกลี้ยงตั้งแต่ 5 กม.ก่อนถึง ปั่นอย่างเดียว อาศัยใช้เกียร์ต่ำสุดค่อย ๆคลานมา
รางวัลที่ได้ในคืนแรกของการปั่น 100 โลคือการได้กางเต๊นท์นอนท่ามกลางธรรมชาติ ...มีความสุข
เช้าวันที่ 16ตค. (วันที่2ของการเดินทาง) เช้านี้ไม่มีเมฆฝนเหมือนเมื่อวาน อากาศสดใส เตรียมตัวเดินทางต่อ เป้าหมาย อ่างเก็บน้ำไม้เต็ง 35 กม. แล้วกลับมานอนที่เดิม
เส้นทางไปอ่างเก็บน้ำห้วยไม้เต็ง สองข้างทางเขียวคลึ้ม ปั่นเพลินเลย
ข้าวกล้อง กับอ่างเก็บน้ำห้วยไม้เต็ง ช่วงประมาณ เที่ยง ๆ ของวันที่ 16 ตค. ผมใช้เวลาอยู่ที่นั่นประมาณ 1 ชม.แล้วเดินทางกลับ
วันนี้ไม่มีแดดให้ชาร์ทแบตอีกตามเคย แต่ไม่ค่อยเป็นกังวลเพราะไปกลับแค่ 70โล
เส้นทางขากลับจากอ่างไม้เต็ง
ฝนกำลังตามมาข้างหลัง ช่วงนี้ทั้งปั่นทั้งบิด 25 กม./ชม. ต้องให้ถึงบ้านคนก่อนฝนจะมาถึง
ฝนตกหนัก ข้าวกล้องต้องอาศัยศาลาวัดสูงเนิน เป็นที่พัก
วันที่ 2 พักที่บ้านพักเพราะฝนตกหนักมากไม่สามารถกางเต็นท์ได้
เช้าวันที่ 3 ของการเดินทาง ฝนยังตกและตกหนักขึ้นเรื่อย ๆ แต่ผมจะต้องกลับ ผมไม่หวังพลังจากแสงแดด และคิดว่า 100 โลขากลับนี่ไงก็ต้องมีค้างคืนระหว่างทาง ทำใจไว้เลย การเดินทางวันนี้ฝนตกทั้งวัน ผมต้องใช้เสื้อกันฝนใส่คลุมด้านนอก ช่วงเข้าอ.โพธาราม ฝนตกหนักมาก ต้องเข้าไปหลบฝนชายคาบ้านคน
ประมาณ บ่ายสองโมงของการเดินทาง ผมใช้เส้นทางเรียบคลองลำน้ำตามคำแนะนำของชาวบ้านแถวบางแพ ช่วงนั้นผมหยุดทานอาหารกลางวันที่ร้านริมทาง ได้คุยกับคนขายของ เค้าบอกว่า นครปฐมน้ำท่วมหนัก
คืนวันที่ 3 ของการเดินทางตัดสินใจพักที่ นครปฐม ที่ POSH 39 ค่าห้อง 530 บาท
วันที่ 4 ของการเดินทาง น้ำท่วมเกือบทุกซอย กังวลมากว่าจะลอดถนนเพชรเกษมมาไม่ได้ แต่ก็หาซอยที่น้ำไม่ท่วม ลอดถนนเพชรเกษม มุ่งหน้าไปวัด 3 ควายเผือกจนได้
บ่าย 2 ของวันที่ 4 ถึงร้านกาแฟ Little berry เขตต่อระหว่าง นครปฐมกับนนทบุรี หยุดกินกาแฟ เอาแรง อีก 2 ชม.ก็ถึงบ้าน จบภาระกิจแล้ว
ทางลอดถนนกาญจนาพิเศษ เรียบคลองบางไผ่ ขากลับน้ำท่วม ย้ายกล้องควบคุมมอเตอร์มาวห้ในกะบะแล้วตัดสินใจลุยน้ำ ...ผ่าน
4โมงเย็นของวันที่ 4 (18 ตค.) ถึงบ้าน ภาระกิจสำเร็จ สนุก ...ปลายปีเอาอีกซักรอบ
4วัน 3 คืน ทริปไปกลับ 200 กิโลเมตรด้วยจักรยาน พลังแสงอาทิตย์+ไฟฟ้า+ปั่น
มารุ จักรยาน ไฟฟ้า +โซล่าเซลล์
07:45 ของวันที่ 15 ตค.
ผมเริ่มออกเดินจากหมู่บ้านแถวบางบัวทอง ทั้งที่ฟ้ายังเต็มไปด้วยเมฆฝน ความหวังที่จะให้โซล่าเซลล์ชาร์ทแบตไปด้วยระหว่างทางคงจะไม่ต้องหวังแล้ว คิดในใจคือใช้แรงปั่นกับแบตเตอรี่ 2 ก้อน ถึงไหนก็นอนนั่น
08:25 ถึงวัดลาดปลาดูก
ทุกครั้งที่ผมออกทริป จะใช้วัดลาดปลาดูกเป็นชุดเช็กพ้อยจุดแรก ที่จะหยุดถ่ายรูปเพื่อเป็นหลักฐานส่งไปให้ที่บ้าน มีชายนายหนึ่งเห็นจักรยานของผมเข้ามาถามว่า
"พี่ ขายอะไรหรือ"
"ไม่ได้ขาย จะเดินทางไป อ่างไม้เต็ง ราชบุรี" ผมบอก
"ในนี้มีแต่เครื่องนอนเสื้อผ้าและหม้อหุงข้าว" ผมอธิบายเพิ่มเพื่อให้เค้าหายสงสัย
ชายคนนั้นถามรายละเอียดเกี่ยวกับรถนิดหน่อย ก่อนที่จะอวยพรให้ผม
"โชคดีนะพี่"
ผมยิ้มรับคำอวยพรจากคนแปลกหน้าแล้วเดินทางต่อ
09:15 ผมก็ถึงเขตติดต่อระหว่าง นนทบุรีกับนครปฐม หยุดซื้อไฟฉายจากร้านขายของชำและเดินทางต่อ
10:20 ข้ามสะพานบางพระ แวะทานข้าวเช้า การเดินทางครั้งนี้ไม่ค่อยมีรถสิบล้อให้กังวลเท่าไร ไม่เหมือนครั้งที่แล้ว ผมไปทางวัดหัวยพลู สะพานข้ามแม่ท่าจีนตรงนั้นรถสิบล้อเยอะมาก น่ากลัว
สะพานหลวงพ่อเปิ่น ข้ามแม่น้ำนครชัยศรี
11:43 ถึงวัดสามควายเผือก เหลืออีก 5 กม.ถึง ตัวเมืองนครปฐม ผมวางแผนที่จะปั่นลอดใต้ทางหลวงเพชรเกษม ตรงสี่แยก ทาราวดี แล้วก็ไปหยุดหาอะไรทานที่ฝั่งทางตำบลสนามจันทร์ เรียบคลองทางทิศใต้ แดดสาย ๆนี้มีนิดหน่อยทำให้ผมชาร์ทเข้าแบตได้บ้าง แต่ก็กังวลว่าจะผ่าน 100โลได้หรือเปล่า
15:00 ผมถึงวัดหนองโพ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ผมจะต้องลอดใต้ถนนเพชรเกษมไปทางด้านตะวันตกอีกครั้ง กังวลนิดหน่อย เรื่องเวลาเร่งขึ้นจากอุโมงแล้ววงจรขับมอเตอร์จะไหม้ แต่ก็ผ่านไปด้วยดี
17:00 ถึงวัดเจ็ดเสมียน แบตเตอรี่ก้อนที่2 เหลือ 33 โวลท์ จะต้องเปลี่ยนกับก้อนแรกที่ใช้หมดตอนบ่ายโมง แล้วนำไปชาร์ทโซล่าเซลล์ไว้
18:10 ถึงที่หมายของวันแรก แบตหมดเกลี้ยงตั้งแต่ 5 กม.ก่อนถึง ปั่นอย่างเดียว อาศัยใช้เกียร์ต่ำสุดค่อย ๆคลานมา
รางวัลที่ได้ในคืนแรกของการปั่น 100 โลคือการได้กางเต๊นท์นอนท่ามกลางธรรมชาติ ...มีความสุข
เช้าวันที่ 16ตค. (วันที่2ของการเดินทาง) เช้านี้ไม่มีเมฆฝนเหมือนเมื่อวาน อากาศสดใส เตรียมตัวเดินทางต่อ เป้าหมาย อ่างเก็บน้ำไม้เต็ง 35 กม. แล้วกลับมานอนที่เดิม
เส้นทางไปอ่างเก็บน้ำห้วยไม้เต็ง สองข้างทางเขียวคลึ้ม ปั่นเพลินเลย
ข้าวกล้อง กับอ่างเก็บน้ำห้วยไม้เต็ง ช่วงประมาณ เที่ยง ๆ ของวันที่ 16 ตค. ผมใช้เวลาอยู่ที่นั่นประมาณ 1 ชม.แล้วเดินทางกลับ
วันนี้ไม่มีแดดให้ชาร์ทแบตอีกตามเคย แต่ไม่ค่อยเป็นกังวลเพราะไปกลับแค่ 70โล
เส้นทางขากลับจากอ่างไม้เต็ง
ฝนกำลังตามมาข้างหลัง ช่วงนี้ทั้งปั่นทั้งบิด 25 กม./ชม. ต้องให้ถึงบ้านคนก่อนฝนจะมาถึง
ฝนตกหนัก ข้าวกล้องต้องอาศัยศาลาวัดสูงเนิน เป็นที่พัก
วันที่ 2 พักที่บ้านพักเพราะฝนตกหนักมากไม่สามารถกางเต็นท์ได้
เช้าวันที่ 3 ของการเดินทาง ฝนยังตกและตกหนักขึ้นเรื่อย ๆ แต่ผมจะต้องกลับ ผมไม่หวังพลังจากแสงแดด และคิดว่า 100 โลขากลับนี่ไงก็ต้องมีค้างคืนระหว่างทาง ทำใจไว้เลย การเดินทางวันนี้ฝนตกทั้งวัน ผมต้องใช้เสื้อกันฝนใส่คลุมด้านนอก ช่วงเข้าอ.โพธาราม ฝนตกหนักมาก ต้องเข้าไปหลบฝนชายคาบ้านคน
ประมาณ บ่ายสองโมงของการเดินทาง ผมใช้เส้นทางเรียบคลองลำน้ำตามคำแนะนำของชาวบ้านแถวบางแพ ช่วงนั้นผมหยุดทานอาหารกลางวันที่ร้านริมทาง ได้คุยกับคนขายของ เค้าบอกว่า นครปฐมน้ำท่วมหนัก
คืนวันที่ 3 ของการเดินทางตัดสินใจพักที่ นครปฐม ที่ POSH 39 ค่าห้อง 530 บาท
วันที่ 4 ของการเดินทาง น้ำท่วมเกือบทุกซอย กังวลมากว่าจะลอดถนนเพชรเกษมมาไม่ได้ แต่ก็หาซอยที่น้ำไม่ท่วม ลอดถนนเพชรเกษม มุ่งหน้าไปวัด 3 ควายเผือกจนได้
บ่าย 2 ของวันที่ 4 ถึงร้านกาแฟ Little berry เขตต่อระหว่าง นครปฐมกับนนทบุรี หยุดกินกาแฟ เอาแรง อีก 2 ชม.ก็ถึงบ้าน จบภาระกิจแล้ว
ทางลอดถนนกาญจนาพิเศษ เรียบคลองบางไผ่ ขากลับน้ำท่วม ย้ายกล้องควบคุมมอเตอร์มาวห้ในกะบะแล้วตัดสินใจลุยน้ำ ...ผ่าน
4โมงเย็นของวันที่ 4 (18 ตค.) ถึงบ้าน ภาระกิจสำเร็จ สนุก ...ปลายปีเอาอีกซักรอบ