ในปี 1917 แนวรบด้านตะวันตกเข้ามาถึงจุดชะงักทั้งสองฝ่ายจนปัญญาที่จะชนะสงครามนี้เพราะไม่มียุทธวิธีไหนที่จะฝ่าแนวป้องกันของฝ่ายตรงข้ามได้เลยเมื่อเวลาผ่านไปทั้งสองฝ่ายก็ไม่สามารถส่งทหารระลอกแล้วระลอกเล่าไปปะทะกับปืนใหญ่และรังปืนกลของฝ่ายตรงข้าม แล้วเขาหาทางแก้ไขยังไงล่ะ?
ทางฝั่งอังกฤษและฝรั่งเศสก็พัฒนารถถังอย่างลับๆแต่แนวคิดของเยอรมันเน้นคุณภาพของทหารราบพวกเขาจึงสร้าง Stoßtruppen หลังจากการนองเลือดที่ Verdun ยุทธวิธีของทั้งสองฝ่ายก็เปลี่ยนไปทหารยศร้อยเอกในกองทัพฝรั่งเศส André Laffargue เป็นคนแรกๆที่เขียนรายงานเกี่ยวกับสงครามที่เกิดขึ้นจริงๆ นั่นคือทหารจำเป็นต้องมีความเป็นเอกเทศซึ่งสวนทางกับแนวคิดทหารชั้นผู้ใหญ่สมัยนั้นถึงแม้นายพลส่วนใหญ่จะไม่สนใจรายงานที่เขากล่าว แต่ฝั่งเยอรมันที่ได้จดหมายนี้ได้นำประสบการณ์ของตนเองและแนวคิดของ André Laffargue มารวมกัน
Calsow Assault Detachment เป็นหน่วยที่ทำการทดลองเป็นหน่วยแรกเข้าประจำการในเดือนมีนาคมปี 1916 ที่แนวรบตะวันตก ประกอบด้วย 1 ผบ.ร้อยและ 2 กองร้อยทหารช่าง ใส่เสื้อเกราะ, หมวกเหล็ก และกองร้อยปืนเล็กที่นำปืนใหญ่ 37mm สนับสนุน ซึ่งก็ไม่เห็นผลสำเร็จมากนักแต่ไอเดียก็เริ่มเกิดขึ้นจุดเริ่มต้นของ Stoßtruppen มาจากแนวรบตะวันออก กลยุทธ์ใหม่ที่ได้ผลมากของรัสเซียใน Brusilov Offensive คือการระดมยิงปืนใหญ่อย่างรวดเร็วและแม่นยำและตามมาด้วยทหารโจมตีจุดนั้นต่อทันที
กลยุทธ์นี้ทำให้ฝ่ายเยอรมันนำไปปรับใช้เป็นของตนเองโดยทหารยศร้อยเอก Willy Rohr และ Bernhard Reddemann ทั้งสองได้นำเสนอยุทธวิธีใหม่ที่เรียกว่า Small Unit Tactic เขามองว่าการฝึกที่ไม่ดีพอและการร่วมมือระหว่างหมู่รบและผบ.ที่ไม่ดีพอเป็นปัญหาใหญ่ โดย Stoßtruppen จะต้องเป็นหน่วยที่รวดเร็ว ทำงานได้เป็นอิสระและลื่นไหลเวลาการโจมตีที่แน่นอนจะทำให้ประสิทธิภาพสูงสุด
เขาเลือกทหาร 2 หน่วยที่คิดว่าเหมาะสมที่จะเป็น Stoßtruppen มากที่สุดประกอบด้วย
1.Jäger Corps ที่เป็นทหารราบเบาเชี่ยวชาญในการรบในป่าและทำงานเป็นหมู่เล็กๆ
2.Pioneer Corps เป็นทหารที่เชี่ยวชาญเรื่องอาวุธหนักและทำงานเป็นหมู่เล็กๆเช่นกัน
กองพันที่ตั้งขึ้นมาใหม่นี้มีกฎที่เคร่งมาก ทหารต้องมีอายุไม่มากกว่า 25 ปี, ไม่มีความผิดปกติทางร่างกายและจิตใจ, เป็นชายโสด, แข็งแรง, และต้องเป็นคนที่ก้าวร้าว สิ่งที่เปลี่ยนไปแต่คนมองข้ามนั่นคือกองพันนี้ได้ฉีกตำราแนวคิดของปรัสเซียจนราบคาบ ซึ่งให้ความสำคัญในการปฏิบัติการเป็นหมวดขึ้นไปเป็นอย่างมากหน้าที่มาจากนายทหารสัญญาบัตรและผู้ใต้บังคับบัญชาต้องทำตามแต่ในแนวคิดใหม่หัวหน้าหมู่ต้องมีความกล้าตัดสินใจและเป็นผู้นำได้ โดยต้องมีคุณสมบัติดังนี้
1.Führen nach Direktiven เป็นผู้นำผ่านคำสั่งโดยตรง
2.Auftragstaktik ยุทธวิธีในภารกิจ
คุณสมบัติทั้ง 2 ข้อนี้ไม่จำเป็นต้องผ่านการอนุมัติจากนายทหารสัญญาบัตร ทหารกองพันนี้จะได้รับอาหารที่มากกว่าการเป็นอยู่ที่ดีกว่าและอยู่แนวหน้าน้อยกว่าแต่ในทางกลับกันภารกิจในแต่ภารกิจก็อันตรายมากและโอกาสที่จะตายมีสูงมากเช่นกันและนี่ก็เป็นประวัติคร่าวๆของหน่วย Stoßtruppen
Until next time
WOJAK
Stoßtruppen
ทางฝั่งอังกฤษและฝรั่งเศสก็พัฒนารถถังอย่างลับๆแต่แนวคิดของเยอรมันเน้นคุณภาพของทหารราบพวกเขาจึงสร้าง Stoßtruppen หลังจากการนองเลือดที่ Verdun ยุทธวิธีของทั้งสองฝ่ายก็เปลี่ยนไปทหารยศร้อยเอกในกองทัพฝรั่งเศส André Laffargue เป็นคนแรกๆที่เขียนรายงานเกี่ยวกับสงครามที่เกิดขึ้นจริงๆ นั่นคือทหารจำเป็นต้องมีความเป็นเอกเทศซึ่งสวนทางกับแนวคิดทหารชั้นผู้ใหญ่สมัยนั้นถึงแม้นายพลส่วนใหญ่จะไม่สนใจรายงานที่เขากล่าว แต่ฝั่งเยอรมันที่ได้จดหมายนี้ได้นำประสบการณ์ของตนเองและแนวคิดของ André Laffargue มารวมกัน
Calsow Assault Detachment เป็นหน่วยที่ทำการทดลองเป็นหน่วยแรกเข้าประจำการในเดือนมีนาคมปี 1916 ที่แนวรบตะวันตก ประกอบด้วย 1 ผบ.ร้อยและ 2 กองร้อยทหารช่าง ใส่เสื้อเกราะ, หมวกเหล็ก และกองร้อยปืนเล็กที่นำปืนใหญ่ 37mm สนับสนุน ซึ่งก็ไม่เห็นผลสำเร็จมากนักแต่ไอเดียก็เริ่มเกิดขึ้นจุดเริ่มต้นของ Stoßtruppen มาจากแนวรบตะวันออก กลยุทธ์ใหม่ที่ได้ผลมากของรัสเซียใน Brusilov Offensive คือการระดมยิงปืนใหญ่อย่างรวดเร็วและแม่นยำและตามมาด้วยทหารโจมตีจุดนั้นต่อทันที
กลยุทธ์นี้ทำให้ฝ่ายเยอรมันนำไปปรับใช้เป็นของตนเองโดยทหารยศร้อยเอก Willy Rohr และ Bernhard Reddemann ทั้งสองได้นำเสนอยุทธวิธีใหม่ที่เรียกว่า Small Unit Tactic เขามองว่าการฝึกที่ไม่ดีพอและการร่วมมือระหว่างหมู่รบและผบ.ที่ไม่ดีพอเป็นปัญหาใหญ่ โดย Stoßtruppen จะต้องเป็นหน่วยที่รวดเร็ว ทำงานได้เป็นอิสระและลื่นไหลเวลาการโจมตีที่แน่นอนจะทำให้ประสิทธิภาพสูงสุด
เขาเลือกทหาร 2 หน่วยที่คิดว่าเหมาะสมที่จะเป็น Stoßtruppen มากที่สุดประกอบด้วย
1.Jäger Corps ที่เป็นทหารราบเบาเชี่ยวชาญในการรบในป่าและทำงานเป็นหมู่เล็กๆ
2.Pioneer Corps เป็นทหารที่เชี่ยวชาญเรื่องอาวุธหนักและทำงานเป็นหมู่เล็กๆเช่นกัน
กองพันที่ตั้งขึ้นมาใหม่นี้มีกฎที่เคร่งมาก ทหารต้องมีอายุไม่มากกว่า 25 ปี, ไม่มีความผิดปกติทางร่างกายและจิตใจ, เป็นชายโสด, แข็งแรง, และต้องเป็นคนที่ก้าวร้าว สิ่งที่เปลี่ยนไปแต่คนมองข้ามนั่นคือกองพันนี้ได้ฉีกตำราแนวคิดของปรัสเซียจนราบคาบ ซึ่งให้ความสำคัญในการปฏิบัติการเป็นหมวดขึ้นไปเป็นอย่างมากหน้าที่มาจากนายทหารสัญญาบัตรและผู้ใต้บังคับบัญชาต้องทำตามแต่ในแนวคิดใหม่หัวหน้าหมู่ต้องมีความกล้าตัดสินใจและเป็นผู้นำได้ โดยต้องมีคุณสมบัติดังนี้
1.Führen nach Direktiven เป็นผู้นำผ่านคำสั่งโดยตรง
2.Auftragstaktik ยุทธวิธีในภารกิจ
คุณสมบัติทั้ง 2 ข้อนี้ไม่จำเป็นต้องผ่านการอนุมัติจากนายทหารสัญญาบัตร ทหารกองพันนี้จะได้รับอาหารที่มากกว่าการเป็นอยู่ที่ดีกว่าและอยู่แนวหน้าน้อยกว่าแต่ในทางกลับกันภารกิจในแต่ภารกิจก็อันตรายมากและโอกาสที่จะตายมีสูงมากเช่นกันและนี่ก็เป็นประวัติคร่าวๆของหน่วย Stoßtruppen