JJNY : ติดเชื้อ8,675 เสียชีวิต44│หมอธีระห่วงเปิดประเทศหากคัดกรองไม่ดีพอ│หอการค้าห่วงรถบรรทุกหยุดวิ่ง│โคราช เตือน11อำเภอ

ลดลงต่อเนื่อง! ยอดติดเชื้อใหม่ 8,675ราย หายป่วย9,589ราย เสียชีวิต44
https://www.dailynews.co.th/news/407402/
 
ยอด 'โควิด-19' วันนี้ พบเสียชีวิตเพิ่มอีก 44 ราย ขณะที่พบผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มอีก 8,675 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 1,830,294 ราย

 
 
สถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประจำวัน ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 ล่าสุด วันที่ 25 ต.ค. 64 พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่อีก 8,675 ราย ทำให้มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสมตั้งแต่ 1 เมษายน 2564 มีจำนวน 1,830,294 ราย หายป่วยกลับบ้าน 9,589 ราย หายป่วยสะสม 1,712,890 ราย กำลังรักษา 100,042 ราย
 
โดยวันนี้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 44 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสมตั้งแต่ปี 2563 มียอดสะสมสูงถึง 18,799 ราย
 


หมอธีระห่วงเปิดประเทศทำเชื้อกลายพันธุ์เล็ดลอดเข้าไทย หากคัดกรองไม่ดีพอ
https://www.tnnthailand.com/news/covid19/94622/
 
หมอธีระห่วงเปิดประเทศเดือนหน้าเชื้อโควิดกลายพันธุ์เล็ดลอดเข้าประเทศโดยเฉพาะ ‘เดลตาพลัส’ หากระบบคัดกรองไทยไม่ดีพอ
 
วันนี้ (24ต.ค.64) รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat ระบุว่า
 
เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 314,526 คน ตายเพิ่ม 4,495 คน รวม 244,405,520 คน เสียชีวิตรวม 4,963,326 คน 5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ สหราชอาณาจักร รัสเซีย ตุรกี ยูเครน และอเมริกาจำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ ซึ่งรวมกันคิดเป็นร้อยละ 94.93 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 94.86
สำหรับสถานการณ์ไทยเรา
 
เมื่อวานติดเชื้อเพิ่ม 9,351 คน สูงเป็นอันดับ 9 ของโลกหากรวม ATK อีก 4,163 คน จะขึ้นเป็นอันดับ 7 ของโลกและไม่ว่าจะเป็นแค่ยอดที่รายงานทางการ หรือจะรวม ATK ก็ยังคงเป็นอันดับ 1 ของอาเซียนอย่างต่อเนื่อง มองไทย อเมริกา สหราชอาณาจักร และเยอรมัน ทั้งอเมริกา สหราชอาณาจักร และเยอรมัน ล้วนอยู่ในรายชื่อ 46 ประเทศที่ไทยประกาศให้สามารถเดินทางมาได้ตั้งแต่ต้นเดือนหน้า ทุกประเทศข้างต้นล้วนมีจำนวนการติดเชื้อใหม่ต่อวันสูง อยู่ในอันดับท็อปเท็นของโลกเช่นเดียวกับไทยจำนวนติดเชื้อแต่ละวันของเค้าสูงกว่าไทย แต่อัตราการตรวจพบว่าติดเชื้อจากการส่งตรวจน้อยกว่าไทย
 
อัตราการฉีดวัคซีนครบโดสนั้นสูงกว่าไทย แต่หากสังเกตจะพบว่าอเมริกาและสหราชอาณาจักรนั้นฉีดครบไปมากตั้งแต่ 6 เดือนก่อน ในขณะที่เยอรมันก็ใกล้จะครบ 6 เดือน ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่อาจมีระดับภูมิคุ้มกันที่ตกลงไป จนจำเป็นต้องได้เข็มกระตุ้น
 
ส่วนศักยภาพของระบบการตรวจคัดกรองโรคมาตรฐานนั้น ทุกประเทศสามารถทำได้มากกว่าไทยหลายเท่าข้อมูลข้างต้นสะท้อนให้ทราบว่า การเปิดประเทศของไทยครั้งนี้นั้นเป็นการเดิมพันที่สูงมาก หากระบบคัดกรองโรคของไทยไม่ดีพอ ด้วยจำนวนการติดเชื้อของแต่ละประเทศที่มีสูง ก็ย่อมมีโอกาสหลุดรอดของผู้ติดเชื้อเข้ามาในประเทศได้ โดยที่ต้องระวังคือสายพันธุ์กลายพันธุ์ เช่น เดลตาพลัส AY.4.2 หรืออื่นๆ
 
ในแง่ของประวัติการฉีดวัคซีน ถ้าจะลดภาระของระบบสาธารณสุขในการดูแลผู้ติดเชื้อที่มีอาการเจ็บป่วย เกณฑ์ที่ดูประวัติการฉีดวัคซีนอาจต้องคำนึงถึงระยะเวลาที่ฉีดครบโดสของแต่ละประเทศด้วย เช่น หากเกิน 6 เดือนก็จำเป็นต้องได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น ในขณะที่ประเทศอื่นๆ ที่ใช้วัคซีนเชื้อตาย ก็อาจต้องกำหนดเป็น 3 เดือน เป็นต้น ทั้งนี้การปรับเกณฑ์ดังกล่าวจะได้ประโยชน์ทั้งตัวผู้เดินทางเอง และต่อประเทศปลายทางด้วย
 
สุดท้าย ไทยคงต้องตระหนักว่า ศักยภาพของระบบตรวจคัดกรองโรคมาตรฐานแบบ RT-PCR นั้นมีจำกัด ดังนั้นจึงควรรีบขยายศักยภาพบริการให้มากและครอบคลุมพื้นที่เพียงพอ มิฉะนั้นเวลาเกิดการระบาดปะทุขึ้นมา จะรับมือปัญหาได้ยาก ไม่ทันท่วงที และเหมือนย้อนกลับไปเห็นภาพในหลายเดือนที่ผ่านมา ทั้งรอคิวตรวจข้ามคืน ป่วยหรือเสียชีวิตโดยไม่ได้ตรวจ
 
เหนืออื่นใด ด้วยระบบตรวจที่มีข้อจำกัด วัคซีนยังไม่ครอบคลุม และสถานการณ์ระบาดในประเทศของเรายังสูงเป็นทุนเดิม ความเสี่ยงหลังเปิดประเทศย่อมมีสูง ประชาชนอย่างพวกเราทุกคนจึงควรตระหนักถึงความสำคัญในการป้องกันตนเองและครอบครัวอย่างเคร่งครัด ใส่หน้ากากนะครับ สำคัญมาก อยู่ห่างคนอื่นเกิน 1 เมตร ลดอัตราติดเชื้อได้ 5 เท่า
 
ข้อมูลจาก : รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์
 
https://www.facebook.com/thiraw/posts/10223308326928914
 

 
หอการค้าห่วงรถบรรทุกหยุดวิ่งกระทบฟื้นศก.
https://www.innnews.co.th/news/economy/news_218325/

ปธ.หอการค้าไทย ห่วงรถบรรทุกหยุดวิ่งกระทบฟื้นเศรษฐกิจ ต้องเร่งเจรจาก่อนบานปลาย ไม่ผลักภาระให้ใครรับผิดชอบฝ่ายเดียว
 
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยกับสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น. ว่ากรณีที่ผู้ประกอบการรถบรรทุกจะหยุดวิ่งหากไม่ได้รับการดูแลปรับราคาน้ำมันดีเซลให้อยู่ที่ลิตรละ 25 บาทหากหยุดวิ่งจริงจะกระทบในด้านการขนส่งสินค้าต่างๆอย่างแน่นอน หน่วยงานที่รับผิดชอบจะต้องมีการหารือในแนวทางการดูแลผู้ประกอบการรถบรรทุกว่าจะต้องทำอย่างไร เพื่อแบ่งเบาภาระให้ผู้ประกอบการในส่วนนี้
 
ซึ่งราคาน้ำมันควรเป็นไปตามกลไกตลาดโลกทั้งความต้องการและการผลิต แต่ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นนั้นกระทบกับทั้งผู้ประกอบการขนส่ง ผู้ผลิตสินค้า และประชาชนผู้บริโภค เวลานี้ภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องคงต้องมีการหารือช่วยกันแบ่งเบาภาระส่วนนี้ด้วยกัน โดยจะไม่ผลักภาระไปที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เพียงฝ่ายเดียว
 
และในช่วงนี้เป็นช่วงที่เศรษฐกิจกำลังกลับมาฟื้นตัวจากการผ่อนคลายมาตรการต่างๆของรัฐบาล หากเกิดการหยุดขนส่งสินค้าต่างๆ จะส่งผลกระทบต่อความรวดเร็วในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศด้วย ประเทศไทยเป็นประเทศที่นำเข้าน้ำมันราคาในตลาดโลกและอัตราแลกเปลี่ยนส่งผลกระทบต่อราคาประเทศไทย ซึ่งเวลานี้รัฐบาลก็พยายามที่จะตรึงราคาน้ำมันดีเชลไว้ที่ลิตรละ 30 บาท เพื่อบรรเทาผลกระทบให้กับทุกฝ่าย โดยไม่ฝืนกลไกตลาดโลกมากจนเกินไป
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่