บันทึก โควิด 19 ท้อง 7 เดือน ฉันต้องรอดเท่านั้น เพราะฉันเป็นเสาหลักครอบครัว มีลูกสาว 1 ขวบครึ่ง และในท้องอีก 7 เดือน
วันพฤหัสบดี 22/7/64 ตื่นเช้าอาการปกติทุกอย่าง อาบน้ำกินข้าวไปทำงานปกติ ไลฟขายของ พอช่วงเที่ยงๆ รู้สึกเหมือนปวดเมื่อยตามตัว ครั่นเนื้อครั่นตัวเหมือนจะมีไข้ ปวดมวนท้องเหมือนอยากเข้าห้องน้ำ แต่ก็ถ่ายไม่ออก คิดว่าน่าจะท้องเสีย เพราะที่ผ่านมาเคยมีอาการแบบนี้ท่องเสียมีไข้ แต่เราก็ไม่นิ่งนอนใจ พยายามไม่เล่นกับลูก ไม่ยุ่งลูก ไม่นอนกับลูกกับสามี ปล่อยให้สองคนนั้นดูแลกันไป เราก็แยกตัวนอนคนเดียว
คืนวันพฤหัสบดี อาการคือยังไม่ดีขึ้น ปวดเมื่อยตามตัว เหมือนจะมีไข้ ปวดท้องเหมือนจะเข้าห้องน้ำ ถ่ายออก 1 รอบ แต่ไม่ใช่ถ่ายแบบท้องเสียเป็นน้ำ กินข้าวได้ปกติ รับรสได้ปกติ ได้กลิ่นปกติ แต่รุ้สึกว่านอนไม่หลับเลย เพราะไม่สุขสบาย ปวดเมื่อยตามตัว มีเจ็บคอเล็กน้อย ไม่แน่ใจว่าจากที่เราไลฟขายของหรือเพราะเจ็บคอจากโควิด เพราะบางครั้งหลังจากไลฟขายของเสร็จเราจะเจ็บคอ วัน สองวัน ถ้ากินน้ำเยอะ จิบน้ำเยอะ ก็จะดีขึ้นเอง เลยแยกตัวจากสามีและลูกนอนคนเดียว คืนนั้นต้องกิน พารา 2 เม็ด และยาแก้แพ่ 1 เม็ด ถึงจะนอนหลับ ใส่แมสนอน กว่าจะนอนได้ เที่ยงคืน นอนโซฟาทั้งคืน
เช้าวันศุกร์ 23/7/64
ตื่นเช้ามาไม่มีไข้ ไม่มีปวดเมื่อยตามตัว ไม่ไอ เจ็บคอเล็กน้อย กินได้ปกติ ยังมีปวดมวนท้องเล็กน้อย เข้าห้องน้ำ 1 รอบ ไม่ยุ่งลูก เลยคิดว่าแยกลูกออกไปอยุ่อีกห้องกับน้องสาวเลย เลยให้สามีตัดการอาบน้ำ กินข้าวให้ลูกเสร็จ และพาลูกไปอยุ่กับน้องสาวอีกห้องหนึ่ง วันนี้ไม่มีไจ้อีกแล้ว ยังมีเจ็บคอเล็กน้อย พยายามหาข้อมูลเกี่ยวกับโควิด การตรวจโควิด โทรหา รพ.ใน กทม ทุก รพ. ไม่มี รพ.ไหนรัยตรวจเลย บาง รพ. รับตรวจก็จริง แต่ต้องลงทะเบียนจองคิว กว่าจะได้ตรวตคิวอีก 5 วันข้างหน้า โอ้ แม่เจ้าเครียดไปอีก แต่เราก็เข้าใจเขา เพราะเราเคยทำงานใน รพ. มาก่อน เข้าใจทุกอย่าง เลยตัดสินใจหาที่ตรวจตามคลินิกเอา แบบที่ไหนก็ได้ที่ตรวจเร็วที่สุด สุดท้านเลยได้คิวตรวจของ s45 clinic แถวสุขุมวิท ค่าตรวจ 3200 บาท คิวเร็วสุดคือ 26/7/64 คือวันจันทร์ เราก็ เอาล่ะวะ เร็วสุดละ หลังตรวจแล้วถ้ารู้ผลค่อยว่ากันอีกที วันศุกร์ทั้งวัน หาแต่ข้อมูลโควิด เครียดไปหมด กินขิงทั้งวัน คืนวันศุกร์ไม่มีไข้แล้ว เลยกินแต่นาแก้แพ้ 1 เม็ด อยากนอนหลับ นอนประมาณ 4 ทุ่ม นอนได้ทั้งคืน
เช้าวันเสาร์ ที่ 24/7/64
ตื่นมาประมาณ 9 โมง เนื่องจากกินยาแก้แพ้ไปเมื่อคืน มึนๆหัวเล็กน้อย ยังเจ็บคอเล็กน้อย เลยยังไม่ให้ลูกขึ้นมาอยุ่ด้วย วันนี้ทั้งวัน ก็ดูแต่การปฏิบัติตัวเมื่อติดโควิด จิบน้ำถึงลูกมาก ดูคลิปลูกในโทรศัพท์วนไป ร้องไห้ไป สามีก็ได้แต่ดูเสื้อผ้าลูก และเศร้ากันทั้งสองคน เลยคิดว่าเห้อ วันนี้อาการก็ดีขึ้นแล้ว เราลองไปซื้อที่ตรวจโควิดเองมาตรวจดีกว่า ถ้าหากว่าไม่ติดจะได้พาลูกมาอยู่ด้วย เลยซื้อที่ตรวจโควิดมา vstrip covid 19 antigen test ในราคา 455 บาท ได้รับการรับรอง อย. ซื้อจากร้านยา เรียกแกร็บไปซื้อ หลังจากได้มารีบตรวจเลย ลุ้นมากๆๆ พอผลออกมาปรากฏว่า ขึ้นสองขีด ตอนนั้นทำอะไรไม่ถูกเลย มือไม้สั่น สมองบล็อก น่ำตาไหล ร้องไห้ออกมา ในหัวมีแต่คำถามเต็มไปหมด กูจะเป็นอะไรมั้ย ยิ่งเห็นข่าวคนท้อง 7 เดือนติดโควิดเสียชีวิต แล้วลูกสาวล่ะ ลูกในท้องล่ะ เครียดไปหมด คิดไรไม่ออก ร้องไห้อย่างเดียว สามีเลยปลอบใจอยู่ข้างๆ ให้ใจเย็นๆ เดียวซื้อมาตรวจอีกรอบ ก่อน แบบนี้ต้องตรวจสองรอบ เลยสั่งมาอีก 5 ชุด เลยตรวจตัวเองซ้ำอีกรอบ ผลขึ้นสองขีด เป็นบวกเหมือนเดิม ยิ่งเครียดไปอีก และก็ตรวจสามี สามีขึ้นแค่ขีดเดียว เลยให้สามีแยกออกจากเรา รีบไปอาบน้ำและออกจากห้องไปอยุ่กับลูก และน้องเขยกับน้องสาว ให้เราอยุ่คนเดียว สามีไม่ยอมบอกว่าจะอยุ่กับเรา อยู่ด้วยกันขนาดนี้แล้ว คงแยกไม่ทันแล้ว ยังไงก็จะอยุ่กับเรา สามีก็ยืนยันแต่คำนี้ อะไรจะเกิดก็ย่อมเกิด จากนั้นเลยโทรหา 1668 ประมาณ 10 นาที มีเจ้าหน้าที่รับสาย เลยแจ้งจ้อมูลเราไปทุกอย่าง เจ้าหน้าที่บอกว่า ยังไม่รับเคสนะคะ เพราะต้องเป็นผลตรวจจาก คลีนิกหรือ รพ. เท่านั้น เป็นการตรวจแบบ RT-PCR เท่านั้น เขาถึงจะหาเตียงให้ เราเลยแจ้งว่าออ พอดีอยากตรวจกับ รพ. แต่โทรไปแล้วไม่มีใครรับตรวจเลย ต้องทำยังไง เจ้าหน้าที่บอกว่า มี รพ.บางนา รับตรวจแบบ walk in ให้ลองโทรหา เมื่อตรวจเสร็จได้ผลค่อยโทรหา 1668 อีกรอบ หลังจากวางสาย เราเลยโทรหา รพ.บางนา รพ.บอกว่าไม่ได้รับตรวจค่ะ รับเฉพาะคนไข้ที่มีสิทธิ์ 30 บาท และประกันสังคมของ รพ.เท่านั่น เราเลย เห้อ เศร้า แต่ก็โทษใครไม่ได้ รอ ตรวจจากคลีนิกวันจันทร์ละกัน สามีกัยเราก็กักตัวอยุ่แต่ในห้อง แต่ต้องเก็บของไปให้ลูก เสื้อผ้า ขวดนม นม แพมเพิส ลูก ให้สามี ใส่แมส ล้างมือ และเตรียมส่วไปให้ลูก สามีก็เก็บไปร้องไห้ไป คิดถึงลูก ไอ้เราก็ร้องไห้ คิดถึงลูก เราสองสามีภารยาร้องให้คิดถึงลูก คืนวันเสาร์เราสองคนก็ได้แค่ทำใจให้โล่งๆ อธิษฐาน คิดบวกเยอะๆ แบบขอให้เราปลอกภัย เป็นอาการน้อยไปและหายด้วยเถิด ให้อยุ่แต่กลุ่มสีเขียวได้แต่อธิษฐาน และก็นอนพักผ่อนตอน 4 ทุ่ม ยังหายใจปกติ ไม่ไอ ไม่มีไข้
เช้าวันอาทิตย์ 25/7/64
ตื่นมาอาการเจ็บคอดีขึ้น ไม่ค่อยเจ็บแล้ว แต่ยังมีคันคอเล็กน้อยเหมือนอยากไอ แต่ไม่ไป พยายามจิบน้ำร้อน น่ำขิง จิบน้ำร้อน มีอาการคัดจมูกเล็กน้อย แค่หายใจได้ ยังไม่ทรมานเท่าไข้หวัด พยายามต้มตะไคร้ ขิง กระชาย สูดดม ดื่มวนไป โทรหาลูกบ้าง ให้ทุกคนที่อยุ่รอบตัวเราเคยสัมผัสเราแยกห้อง กักตัว รอดูอาการก่อนทุกคน จนกว่าเราจะตรวจจากคลีนิคและได้ผลจริงค่อยแจ้งทุกคนอีกทีว่าเราติดจริง ตอนนี้ยังไม่กล้าแจ้งเพราะกลัวทุกคนตื่นตระหนก แต่บอกให้ทุกคนกักตัวแล้ว และ 1668 บอกว่าแบบนี้เชื่อถือไม่ได้ เลยต้องรอผลที่ยืนยันชัดเจนก่อน เรากับสามีก็อยุ่แต่ในห้องวนไป อยุ่คนละมุม ใส่แมส คุยกันน้อยมาก ให้กำลังใจกันโดยส่งสายตาอย่างเดียว และแล้วกลางคืน นอน 4 ทุ่ม หลับได้
เช้าวันจันทร์ ที่ 26/7/64
เช้าวันนี้เราต้องไปตรวจโควิดที่คลีนิก แบบ RT-PCR เราใส่แมสสองชั้น ใส่หมวก เสื้อแขนยาว พยายามเดินห่างผู้คน และนั่งรถส่วนตัวไป ดีนะที่คลีนิกตรวจรวดเร็วมาก คนไม่เยอะ ไม่ถึง 10 นาที ก็ได้กลับบ้านแล้ว หลังจากกลับมาที่บ้านรีบอาบน้ำ เอาเสื้อผ้าซักเลย เข้านี้อาการเหมือนเดิม คือ คัดจมูก ไม่ไอ ไม่เจ็บคอ ไม่มีไข้ ทำใจสบายๆ เราต้องรอด ออกกำลังกายบริหารปอด จิบน้ำขิง กระชาย วนไป วัด ออกซิเจน ปลายนิ้ว วนไป พยายามกินข้าวให้ตรงเวลา กินอาหารที่มีประโยชน์
เข้าวันอังคาร ที่ 27/7/64
เช้านี้ตื่นมา มีน้ำมูก คัดจมูกมากขึ้น ไม่ได้กลิ่นอีกเลย เลยแน่ใจว่าต้องเป็นโควิดแน่ๆ แต่ก็ยัง ตื่นเต้นมาก อยากฟังผลแล้ว เพราะจะได้รู้แน่ชัดสักที และจะได่วางแผนชีวิตต่อ แต่ตั้งหน้าตั้งตาเช็ค เมล ทั้งวัน สุดท้ายมีเมลมาตอน 4 โมงเย็นบอกว่า ผลไม่ชัดเจน ขอตรวจซ้ำ และจะรายงานอีกที ตอน 18.00 น วันที่ 27/7/64 เราก็รอต่อไป พอ 18.00 น. ก็ไม่มีเมลมา รอจน หลับก็ไม่มีมา เราก็ได้แต่ดูแลตัวเอง กินน้ำขิง กระชาย วนไป ออกกำลังกาย และได้กำลังใจดีดีจากสามี
เช้าวันพุธ ที่ 28/7/64
เช้านี้ตื่นมา คัดจมูกมาก ไม่ได้กลิ่นเหมือนเดิม มีน้ำมูก มีเสมหะเล็กน้อย ไม่มีไข้ ไม่ปวดหัว v/s ปกติ รอลุ้นผลต่อไป สุดท้าย เลยโทรตามคลีนิก ส่านี่ผ่านมา 48 ชม. แล้ว ทำไมผลยังไม่ออกอีก สุดท้าย ทางคลินิกเลยแจ้งว่าผลส่งมาทางเมลแล้ว ให้เจ้าไปดูได้ สรุปก็คือ Detected คือ ติดโควิดนั่นเอง จากนั้นก็เริ่มแจ้งเพื่อนทุกคนที่สัมผัสเรา เริ่มหาเตียง อันดับแรกโทรหาหมอเจ้าของไข้ ฝากครรภ์ รพ. ก่อน แต่หมอติดผ่าตัด และเขาแจ้งว่าเตียงเต็มหมด ไม่ว่างเลย ยังไงจะให้หมอโทรกลับ จากนั้นเลยบอกน้องสาวเป็นพยาบาลอยู่ รพ. สินแพทย์ ให้ช่วยหน่อย เพราะพี่ท้องด้วย น้องเครียดมาก พอรู้ปั๊ป รีบแจ้งหัวหน้าให้ช่วย หัวหน้าแกก็ดีมากบอกให้ใจเย็นจะหาทางช่วย เลยขอข้อมูลเรา และส่งให้ supervisor รพ. พี่ supervisor บอกว่าขอคุยปรึกษาหมอก่อนแล้วค่อย โทรหา สุดท้ายพี่ supervisor เลยโทรหาว่าเตรีนมตัวปิดมิด พรุ่งนี้บ่ายโมงได้เลยนะ เราก็เลยขอบคุณทุกคนมาก ที่ให้โอกาสเรา ขอบคุณน้องสาว ขอบคุณหัวหน้าน้องสาว และหมอกับพี่ supervisor สามีเลยโล่งอก สบายใจ เลยช่วยกันเตรียมเครื่องของใช้ส่วนตัว ให้พร้อมใส่กระเป๋า คืนนี้นอนได้ แต่ก็เศร้าที่ต้องแยกกับสามี เป็นห่วงลูก สามี แต่ต้องสู้เท่านั้น
เช้าวันพฤหัสบดี 29/7/64
เช้านี้ตื่นมาเตรียมตัว อาบน้ำ กินน้ำขิง กระชายเหมือนเดิมเช้านี้แฟน กับน้องสาวต้องไปตรวจโควิดที่ รพ. แฟนตื่นมาทำกับข้าวแต่เช้าให้เรา เราก็นั่งรอรถ รพ.โทรมา และแล้ว รถ รพ. ก็มารับตอน บ่ายโมงครึ่ง เปิด เสียงดังมาเลย ทุกคนในหอคงกลัว ไอเราก็ลากกระเป๋า ถือ สเปรย์แอลกอฮอล์ ห้าๆๆ สามีก็ส่งได้แค่ทีาหน้าประตู นางก็น้ำตาคลอ เมื่อเรามาถึง รพ. ก็ต้องทำการ x ray ดูปอดด้วย เพราะอายุครรภ์เยอะแล้ว เอกซเรย์ได้ แต่มีผ้าคลุมท้องอยู่ หลังเอกซเรย์ ก็พบหมอ หมอก็ตรวจเรา และแจ้งว่าผลเอกซเรย์ ปกติดี แต่ก็ต้องกินยา ต้านไวรัสโควิดด้วย อายุครรภ์เยอะแล้ว กินได้ เราก็โอเคร ได้แต่อธิษฐานให้ให้ลูกปลอดภัย หลังพบหมอเสร็จ ก็ถูกส่วตัวเข้า hospitel พยาบาลจะให้ add line และคุยกันทุกอย่างผ่านไลน์อย่างเดียวค่ะ อาหารและ ยา เจ้าหน้าที่เอาวางข้างนอกและเราค่อยออกไปเอา
เช้าวันศุกร์ ที่ 30/7/64
เช้านี้ตื่นมา อาการสดใส แต่ยังมีคัดจมูกเล็กน้อย สัญญาณขีพปกติทุกอย่าง ออกกำลังกาย เช้า กับ เย็น ตอนเย็นอาบน้ำเริ่มได้กลิ่นจางๆจากสบู่อาบน้ำแล้ว เย่ๆๆ ดีใจมากมาย แปลงฟันก็เริ่มได้กลิ่นยาสีฟันแล้วค่ะ เป็นสัญญาณที่ดีมากๆเลยค่ะ ขอบคุณพระเจ้ามากๆเลยที่คอยดูแลเราค่ะ
เข้าวันเสาร์ ที่ 31/7/64
เช้านี้ตื่นมามรอาการปกติ ไม่มีไข้ ไม่ไอ ไม่เจ็บคอ กินได้ค่ะ ยังต้องออกกำลังกายเหมือนเดิม มีกำลังใจเหมือนเดิมค่ะ ได้กลิ่นจางๆเหมือนเดิมค่ะ
เช้าวันอาทิตย์ 01/8/64
เช้านี้คุณหมอให้ไป เอกเรย์ ดูปอดอีกรอบค่ะ ผลเอกเรย์วันนี้ปกติค่ะ ขอบคุณพระเจ้า และ เจ้าหน้าที่ทุกคนค่ะ
เช้าวันจันทร์ 02/08/64
เข้านี้ตื่นมาก็ปกติค่ะ ยังมีคัดจมูกเล็กน้อยเหมือนเดิม ได้กลิ่น เล็กน้อยเหมือนเดิมค่ะ
เข้าวันอาคาร 03/08/64
เช้านี้ตื่นมาได้กลิ่นมากขึ้นค่ะ ชัดขึ้นค่ะ อาการปกติค่ะ ยังออกกำลังกายเหมือนเดิมค่ะ และ กินน่ำขิงเหมือนเดิมค่ะ
เช้าวันพุธ ที่ 4/8/64
เช้านี้ตื่นมาปกติค่ะ แต่เริ่มเบื่ออาหารของ รพ. มากเลย เพราะกินแต่แบบเดิมมาเป็นอาทิตย์แล้ว เริ่มรับรสได้มาก และได้กลิ่นเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว แห่ๆ แต่ต้องอดทนกิน ดีกว่าไม่มีไรกิน ออกกำลังกายเหมือนเดิม กินน้ำขิงเหมือนเดิม
เช้าวันพฤหัสบดี ที่ 5/8/64
เช้านี้ตื่นมา สดชื่นดี ปกติ เบื่ออาหารเหมือนเดิม อยากกินมาม่า
เช้าวันศุกร์ ที่ 6/8/64
เข้านี้ตื่นมาปกติดี กินปกติ ออกกำลังกายเหมือนเดิม ดีใจ จะได้กลับบ้านแล้ว พรุ่งนี้ต้องเอกเรย์ เจาะเลือด ดูอีกครั้งก่อนกลับบ้าน ขอบคุณพระเจ้า ขอให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ด้วยดี
เช้าวันเสาร์ ที่ 7/8/64
เช้านี้ก็ตื่นมาออกกำลังกาย วัดสัญญาณชีพปกติ และเตรียมตัวไปเอกเรย์ และ เจาะเลือดดู ตื่นเต้นเหมือนกัน ลุ้นๆ ก่อนกลับบ้าน รถ พยาบาลมารับตอนประมาณ 8.30 น. กลับจาก เอกเรย์ เจาะเลือด ประมาณ 10.00 น. ก็รีบอาบน้ำก่อนเลย และ ค่อยมากินข้าว รอหมอโทรแจ้งผล และแล้ว 12.20 น. ก็มีเสียงโทรศัพท์ดัง คุณหมอโทรมาแจ้งว่าผลเอกเรย์ปอด clear 100% ไม่ทีเชื้อลงปอด ผลเลือดก็ดี ไม่แสดงถึงการติดเชื้อลงปอด เราก็ดีใจมาก และรีบขอบคุณพระเจ้า อธิษฐาน มีความสุข ทำจิตใตให้สบาย เตรียมตัวกลับบ้านพรุ่งนี้ค่ะ ขอบคุณค่ะ แต่ต้องไปกักตัวต่ออีก 14 วัน เพื่อความชัวร์ คิดถึงลูกสุดๆๆๆไปเลย
ท้อง 7 เดือน ติดโควิด
วันพฤหัสบดี 22/7/64 ตื่นเช้าอาการปกติทุกอย่าง อาบน้ำกินข้าวไปทำงานปกติ ไลฟขายของ พอช่วงเที่ยงๆ รู้สึกเหมือนปวดเมื่อยตามตัว ครั่นเนื้อครั่นตัวเหมือนจะมีไข้ ปวดมวนท้องเหมือนอยากเข้าห้องน้ำ แต่ก็ถ่ายไม่ออก คิดว่าน่าจะท้องเสีย เพราะที่ผ่านมาเคยมีอาการแบบนี้ท่องเสียมีไข้ แต่เราก็ไม่นิ่งนอนใจ พยายามไม่เล่นกับลูก ไม่ยุ่งลูก ไม่นอนกับลูกกับสามี ปล่อยให้สองคนนั้นดูแลกันไป เราก็แยกตัวนอนคนเดียว
คืนวันพฤหัสบดี อาการคือยังไม่ดีขึ้น ปวดเมื่อยตามตัว เหมือนจะมีไข้ ปวดท้องเหมือนจะเข้าห้องน้ำ ถ่ายออก 1 รอบ แต่ไม่ใช่ถ่ายแบบท้องเสียเป็นน้ำ กินข้าวได้ปกติ รับรสได้ปกติ ได้กลิ่นปกติ แต่รุ้สึกว่านอนไม่หลับเลย เพราะไม่สุขสบาย ปวดเมื่อยตามตัว มีเจ็บคอเล็กน้อย ไม่แน่ใจว่าจากที่เราไลฟขายของหรือเพราะเจ็บคอจากโควิด เพราะบางครั้งหลังจากไลฟขายของเสร็จเราจะเจ็บคอ วัน สองวัน ถ้ากินน้ำเยอะ จิบน้ำเยอะ ก็จะดีขึ้นเอง เลยแยกตัวจากสามีและลูกนอนคนเดียว คืนนั้นต้องกิน พารา 2 เม็ด และยาแก้แพ่ 1 เม็ด ถึงจะนอนหลับ ใส่แมสนอน กว่าจะนอนได้ เที่ยงคืน นอนโซฟาทั้งคืน
เช้าวันศุกร์ 23/7/64
ตื่นเช้ามาไม่มีไข้ ไม่มีปวดเมื่อยตามตัว ไม่ไอ เจ็บคอเล็กน้อย กินได้ปกติ ยังมีปวดมวนท้องเล็กน้อย เข้าห้องน้ำ 1 รอบ ไม่ยุ่งลูก เลยคิดว่าแยกลูกออกไปอยุ่อีกห้องกับน้องสาวเลย เลยให้สามีตัดการอาบน้ำ กินข้าวให้ลูกเสร็จ และพาลูกไปอยุ่กับน้องสาวอีกห้องหนึ่ง วันนี้ไม่มีไจ้อีกแล้ว ยังมีเจ็บคอเล็กน้อย พยายามหาข้อมูลเกี่ยวกับโควิด การตรวจโควิด โทรหา รพ.ใน กทม ทุก รพ. ไม่มี รพ.ไหนรัยตรวจเลย บาง รพ. รับตรวจก็จริง แต่ต้องลงทะเบียนจองคิว กว่าจะได้ตรวตคิวอีก 5 วันข้างหน้า โอ้ แม่เจ้าเครียดไปอีก แต่เราก็เข้าใจเขา เพราะเราเคยทำงานใน รพ. มาก่อน เข้าใจทุกอย่าง เลยตัดสินใจหาที่ตรวจตามคลินิกเอา แบบที่ไหนก็ได้ที่ตรวจเร็วที่สุด สุดท้านเลยได้คิวตรวจของ s45 clinic แถวสุขุมวิท ค่าตรวจ 3200 บาท คิวเร็วสุดคือ 26/7/64 คือวันจันทร์ เราก็ เอาล่ะวะ เร็วสุดละ หลังตรวจแล้วถ้ารู้ผลค่อยว่ากันอีกที วันศุกร์ทั้งวัน หาแต่ข้อมูลโควิด เครียดไปหมด กินขิงทั้งวัน คืนวันศุกร์ไม่มีไข้แล้ว เลยกินแต่นาแก้แพ้ 1 เม็ด อยากนอนหลับ นอนประมาณ 4 ทุ่ม นอนได้ทั้งคืน
เช้าวันเสาร์ ที่ 24/7/64
ตื่นมาประมาณ 9 โมง เนื่องจากกินยาแก้แพ้ไปเมื่อคืน มึนๆหัวเล็กน้อย ยังเจ็บคอเล็กน้อย เลยยังไม่ให้ลูกขึ้นมาอยุ่ด้วย วันนี้ทั้งวัน ก็ดูแต่การปฏิบัติตัวเมื่อติดโควิด จิบน้ำถึงลูกมาก ดูคลิปลูกในโทรศัพท์วนไป ร้องไห้ไป สามีก็ได้แต่ดูเสื้อผ้าลูก และเศร้ากันทั้งสองคน เลยคิดว่าเห้อ วันนี้อาการก็ดีขึ้นแล้ว เราลองไปซื้อที่ตรวจโควิดเองมาตรวจดีกว่า ถ้าหากว่าไม่ติดจะได้พาลูกมาอยู่ด้วย เลยซื้อที่ตรวจโควิดมา vstrip covid 19 antigen test ในราคา 455 บาท ได้รับการรับรอง อย. ซื้อจากร้านยา เรียกแกร็บไปซื้อ หลังจากได้มารีบตรวจเลย ลุ้นมากๆๆ พอผลออกมาปรากฏว่า ขึ้นสองขีด ตอนนั้นทำอะไรไม่ถูกเลย มือไม้สั่น สมองบล็อก น่ำตาไหล ร้องไห้ออกมา ในหัวมีแต่คำถามเต็มไปหมด กูจะเป็นอะไรมั้ย ยิ่งเห็นข่าวคนท้อง 7 เดือนติดโควิดเสียชีวิต แล้วลูกสาวล่ะ ลูกในท้องล่ะ เครียดไปหมด คิดไรไม่ออก ร้องไห้อย่างเดียว สามีเลยปลอบใจอยู่ข้างๆ ให้ใจเย็นๆ เดียวซื้อมาตรวจอีกรอบ ก่อน แบบนี้ต้องตรวจสองรอบ เลยสั่งมาอีก 5 ชุด เลยตรวจตัวเองซ้ำอีกรอบ ผลขึ้นสองขีด เป็นบวกเหมือนเดิม ยิ่งเครียดไปอีก และก็ตรวจสามี สามีขึ้นแค่ขีดเดียว เลยให้สามีแยกออกจากเรา รีบไปอาบน้ำและออกจากห้องไปอยุ่กับลูก และน้องเขยกับน้องสาว ให้เราอยุ่คนเดียว สามีไม่ยอมบอกว่าจะอยุ่กับเรา อยู่ด้วยกันขนาดนี้แล้ว คงแยกไม่ทันแล้ว ยังไงก็จะอยุ่กับเรา สามีก็ยืนยันแต่คำนี้ อะไรจะเกิดก็ย่อมเกิด จากนั้นเลยโทรหา 1668 ประมาณ 10 นาที มีเจ้าหน้าที่รับสาย เลยแจ้งจ้อมูลเราไปทุกอย่าง เจ้าหน้าที่บอกว่า ยังไม่รับเคสนะคะ เพราะต้องเป็นผลตรวจจาก คลีนิกหรือ รพ. เท่านั้น เป็นการตรวจแบบ RT-PCR เท่านั้น เขาถึงจะหาเตียงให้ เราเลยแจ้งว่าออ พอดีอยากตรวจกับ รพ. แต่โทรไปแล้วไม่มีใครรับตรวจเลย ต้องทำยังไง เจ้าหน้าที่บอกว่า มี รพ.บางนา รับตรวจแบบ walk in ให้ลองโทรหา เมื่อตรวจเสร็จได้ผลค่อยโทรหา 1668 อีกรอบ หลังจากวางสาย เราเลยโทรหา รพ.บางนา รพ.บอกว่าไม่ได้รับตรวจค่ะ รับเฉพาะคนไข้ที่มีสิทธิ์ 30 บาท และประกันสังคมของ รพ.เท่านั่น เราเลย เห้อ เศร้า แต่ก็โทษใครไม่ได้ รอ ตรวจจากคลีนิกวันจันทร์ละกัน สามีกัยเราก็กักตัวอยุ่แต่ในห้อง แต่ต้องเก็บของไปให้ลูก เสื้อผ้า ขวดนม นม แพมเพิส ลูก ให้สามี ใส่แมส ล้างมือ และเตรียมส่วไปให้ลูก สามีก็เก็บไปร้องไห้ไป คิดถึงลูก ไอ้เราก็ร้องไห้ คิดถึงลูก เราสองสามีภารยาร้องให้คิดถึงลูก คืนวันเสาร์เราสองคนก็ได้แค่ทำใจให้โล่งๆ อธิษฐาน คิดบวกเยอะๆ แบบขอให้เราปลอกภัย เป็นอาการน้อยไปและหายด้วยเถิด ให้อยุ่แต่กลุ่มสีเขียวได้แต่อธิษฐาน และก็นอนพักผ่อนตอน 4 ทุ่ม ยังหายใจปกติ ไม่ไอ ไม่มีไข้
เช้าวันอาทิตย์ 25/7/64
ตื่นมาอาการเจ็บคอดีขึ้น ไม่ค่อยเจ็บแล้ว แต่ยังมีคันคอเล็กน้อยเหมือนอยากไอ แต่ไม่ไป พยายามจิบน้ำร้อน น่ำขิง จิบน้ำร้อน มีอาการคัดจมูกเล็กน้อย แค่หายใจได้ ยังไม่ทรมานเท่าไข้หวัด พยายามต้มตะไคร้ ขิง กระชาย สูดดม ดื่มวนไป โทรหาลูกบ้าง ให้ทุกคนที่อยุ่รอบตัวเราเคยสัมผัสเราแยกห้อง กักตัว รอดูอาการก่อนทุกคน จนกว่าเราจะตรวจจากคลีนิคและได้ผลจริงค่อยแจ้งทุกคนอีกทีว่าเราติดจริง ตอนนี้ยังไม่กล้าแจ้งเพราะกลัวทุกคนตื่นตระหนก แต่บอกให้ทุกคนกักตัวแล้ว และ 1668 บอกว่าแบบนี้เชื่อถือไม่ได้ เลยต้องรอผลที่ยืนยันชัดเจนก่อน เรากับสามีก็อยุ่แต่ในห้องวนไป อยุ่คนละมุม ใส่แมส คุยกันน้อยมาก ให้กำลังใจกันโดยส่งสายตาอย่างเดียว และแล้วกลางคืน นอน 4 ทุ่ม หลับได้
เช้าวันจันทร์ ที่ 26/7/64
เช้าวันนี้เราต้องไปตรวจโควิดที่คลีนิก แบบ RT-PCR เราใส่แมสสองชั้น ใส่หมวก เสื้อแขนยาว พยายามเดินห่างผู้คน และนั่งรถส่วนตัวไป ดีนะที่คลีนิกตรวจรวดเร็วมาก คนไม่เยอะ ไม่ถึง 10 นาที ก็ได้กลับบ้านแล้ว หลังจากกลับมาที่บ้านรีบอาบน้ำ เอาเสื้อผ้าซักเลย เข้านี้อาการเหมือนเดิม คือ คัดจมูก ไม่ไอ ไม่เจ็บคอ ไม่มีไข้ ทำใจสบายๆ เราต้องรอด ออกกำลังกายบริหารปอด จิบน้ำขิง กระชาย วนไป วัด ออกซิเจน ปลายนิ้ว วนไป พยายามกินข้าวให้ตรงเวลา กินอาหารที่มีประโยชน์
เข้าวันอังคาร ที่ 27/7/64
เช้านี้ตื่นมา มีน้ำมูก คัดจมูกมากขึ้น ไม่ได้กลิ่นอีกเลย เลยแน่ใจว่าต้องเป็นโควิดแน่ๆ แต่ก็ยัง ตื่นเต้นมาก อยากฟังผลแล้ว เพราะจะได้รู้แน่ชัดสักที และจะได่วางแผนชีวิตต่อ แต่ตั้งหน้าตั้งตาเช็ค เมล ทั้งวัน สุดท้ายมีเมลมาตอน 4 โมงเย็นบอกว่า ผลไม่ชัดเจน ขอตรวจซ้ำ และจะรายงานอีกที ตอน 18.00 น วันที่ 27/7/64 เราก็รอต่อไป พอ 18.00 น. ก็ไม่มีเมลมา รอจน หลับก็ไม่มีมา เราก็ได้แต่ดูแลตัวเอง กินน้ำขิง กระชาย วนไป ออกกำลังกาย และได้กำลังใจดีดีจากสามี
เช้าวันพุธ ที่ 28/7/64
เช้านี้ตื่นมา คัดจมูกมาก ไม่ได้กลิ่นเหมือนเดิม มีน้ำมูก มีเสมหะเล็กน้อย ไม่มีไข้ ไม่ปวดหัว v/s ปกติ รอลุ้นผลต่อไป สุดท้าย เลยโทรตามคลีนิก ส่านี่ผ่านมา 48 ชม. แล้ว ทำไมผลยังไม่ออกอีก สุดท้าย ทางคลินิกเลยแจ้งว่าผลส่งมาทางเมลแล้ว ให้เจ้าไปดูได้ สรุปก็คือ Detected คือ ติดโควิดนั่นเอง จากนั้นก็เริ่มแจ้งเพื่อนทุกคนที่สัมผัสเรา เริ่มหาเตียง อันดับแรกโทรหาหมอเจ้าของไข้ ฝากครรภ์ รพ. ก่อน แต่หมอติดผ่าตัด และเขาแจ้งว่าเตียงเต็มหมด ไม่ว่างเลย ยังไงจะให้หมอโทรกลับ จากนั้นเลยบอกน้องสาวเป็นพยาบาลอยู่ รพ. สินแพทย์ ให้ช่วยหน่อย เพราะพี่ท้องด้วย น้องเครียดมาก พอรู้ปั๊ป รีบแจ้งหัวหน้าให้ช่วย หัวหน้าแกก็ดีมากบอกให้ใจเย็นจะหาทางช่วย เลยขอข้อมูลเรา และส่งให้ supervisor รพ. พี่ supervisor บอกว่าขอคุยปรึกษาหมอก่อนแล้วค่อย โทรหา สุดท้ายพี่ supervisor เลยโทรหาว่าเตรีนมตัวปิดมิด พรุ่งนี้บ่ายโมงได้เลยนะ เราก็เลยขอบคุณทุกคนมาก ที่ให้โอกาสเรา ขอบคุณน้องสาว ขอบคุณหัวหน้าน้องสาว และหมอกับพี่ supervisor สามีเลยโล่งอก สบายใจ เลยช่วยกันเตรียมเครื่องของใช้ส่วนตัว ให้พร้อมใส่กระเป๋า คืนนี้นอนได้ แต่ก็เศร้าที่ต้องแยกกับสามี เป็นห่วงลูก สามี แต่ต้องสู้เท่านั้น
เช้าวันพฤหัสบดี 29/7/64
เช้านี้ตื่นมาเตรียมตัว อาบน้ำ กินน้ำขิง กระชายเหมือนเดิมเช้านี้แฟน กับน้องสาวต้องไปตรวจโควิดที่ รพ. แฟนตื่นมาทำกับข้าวแต่เช้าให้เรา เราก็นั่งรอรถ รพ.โทรมา และแล้ว รถ รพ. ก็มารับตอน บ่ายโมงครึ่ง เปิด เสียงดังมาเลย ทุกคนในหอคงกลัว ไอเราก็ลากกระเป๋า ถือ สเปรย์แอลกอฮอล์ ห้าๆๆ สามีก็ส่งได้แค่ทีาหน้าประตู นางก็น้ำตาคลอ เมื่อเรามาถึง รพ. ก็ต้องทำการ x ray ดูปอดด้วย เพราะอายุครรภ์เยอะแล้ว เอกซเรย์ได้ แต่มีผ้าคลุมท้องอยู่ หลังเอกซเรย์ ก็พบหมอ หมอก็ตรวจเรา และแจ้งว่าผลเอกซเรย์ ปกติดี แต่ก็ต้องกินยา ต้านไวรัสโควิดด้วย อายุครรภ์เยอะแล้ว กินได้ เราก็โอเคร ได้แต่อธิษฐานให้ให้ลูกปลอดภัย หลังพบหมอเสร็จ ก็ถูกส่วตัวเข้า hospitel พยาบาลจะให้ add line และคุยกันทุกอย่างผ่านไลน์อย่างเดียวค่ะ อาหารและ ยา เจ้าหน้าที่เอาวางข้างนอกและเราค่อยออกไปเอา
เช้าวันศุกร์ ที่ 30/7/64
เช้านี้ตื่นมา อาการสดใส แต่ยังมีคัดจมูกเล็กน้อย สัญญาณขีพปกติทุกอย่าง ออกกำลังกาย เช้า กับ เย็น ตอนเย็นอาบน้ำเริ่มได้กลิ่นจางๆจากสบู่อาบน้ำแล้ว เย่ๆๆ ดีใจมากมาย แปลงฟันก็เริ่มได้กลิ่นยาสีฟันแล้วค่ะ เป็นสัญญาณที่ดีมากๆเลยค่ะ ขอบคุณพระเจ้ามากๆเลยที่คอยดูแลเราค่ะ
เข้าวันเสาร์ ที่ 31/7/64
เช้านี้ตื่นมามรอาการปกติ ไม่มีไข้ ไม่ไอ ไม่เจ็บคอ กินได้ค่ะ ยังต้องออกกำลังกายเหมือนเดิม มีกำลังใจเหมือนเดิมค่ะ ได้กลิ่นจางๆเหมือนเดิมค่ะ
เช้าวันอาทิตย์ 01/8/64
เช้านี้คุณหมอให้ไป เอกเรย์ ดูปอดอีกรอบค่ะ ผลเอกเรย์วันนี้ปกติค่ะ ขอบคุณพระเจ้า และ เจ้าหน้าที่ทุกคนค่ะ
เช้าวันจันทร์ 02/08/64
เข้านี้ตื่นมาก็ปกติค่ะ ยังมีคัดจมูกเล็กน้อยเหมือนเดิม ได้กลิ่น เล็กน้อยเหมือนเดิมค่ะ
เข้าวันอาคาร 03/08/64
เช้านี้ตื่นมาได้กลิ่นมากขึ้นค่ะ ชัดขึ้นค่ะ อาการปกติค่ะ ยังออกกำลังกายเหมือนเดิมค่ะ และ กินน่ำขิงเหมือนเดิมค่ะ
เช้าวันพุธ ที่ 4/8/64
เช้านี้ตื่นมาปกติค่ะ แต่เริ่มเบื่ออาหารของ รพ. มากเลย เพราะกินแต่แบบเดิมมาเป็นอาทิตย์แล้ว เริ่มรับรสได้มาก และได้กลิ่นเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว แห่ๆ แต่ต้องอดทนกิน ดีกว่าไม่มีไรกิน ออกกำลังกายเหมือนเดิม กินน้ำขิงเหมือนเดิม
เช้าวันพฤหัสบดี ที่ 5/8/64
เช้านี้ตื่นมา สดชื่นดี ปกติ เบื่ออาหารเหมือนเดิม อยากกินมาม่า
เช้าวันศุกร์ ที่ 6/8/64
เข้านี้ตื่นมาปกติดี กินปกติ ออกกำลังกายเหมือนเดิม ดีใจ จะได้กลับบ้านแล้ว พรุ่งนี้ต้องเอกเรย์ เจาะเลือด ดูอีกครั้งก่อนกลับบ้าน ขอบคุณพระเจ้า ขอให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ด้วยดี
เช้าวันเสาร์ ที่ 7/8/64
เช้านี้ก็ตื่นมาออกกำลังกาย วัดสัญญาณชีพปกติ และเตรียมตัวไปเอกเรย์ และ เจาะเลือดดู ตื่นเต้นเหมือนกัน ลุ้นๆ ก่อนกลับบ้าน รถ พยาบาลมารับตอนประมาณ 8.30 น. กลับจาก เอกเรย์ เจาะเลือด ประมาณ 10.00 น. ก็รีบอาบน้ำก่อนเลย และ ค่อยมากินข้าว รอหมอโทรแจ้งผล และแล้ว 12.20 น. ก็มีเสียงโทรศัพท์ดัง คุณหมอโทรมาแจ้งว่าผลเอกเรย์ปอด clear 100% ไม่ทีเชื้อลงปอด ผลเลือดก็ดี ไม่แสดงถึงการติดเชื้อลงปอด เราก็ดีใจมาก และรีบขอบคุณพระเจ้า อธิษฐาน มีความสุข ทำจิตใตให้สบาย เตรียมตัวกลับบ้านพรุ่งนี้ค่ะ ขอบคุณค่ะ แต่ต้องไปกักตัวต่ออีก 14 วัน เพื่อความชัวร์ คิดถึงลูกสุดๆๆๆไปเลย