ที่จริงอันนี้คือกระทู้อวยเพื่อนสนิทเป็นหลักค่ะ แต่แอบหวังว่าถ้าใครผ่านเข้ามาอ่านจะเติมกำลังใจให้ชีวิตได้บ้างค่ะ
เห็นหลายคนในกระทู้อื่นๆ ในห้องสยามและศาลาประชาคม ดูท้อแท้ เหน็ดเหนื่อยกันเหลือเกิน เราอาจจะให้กำลังใจกันและกันน้อยเกินไป
บางคนชอบทำตัวเข้มแข็งต่อหน้าคนทั้งโลก ซุกซ่อนความบอกบางและอ่อนปวกเปียกไว้ไม่ให้ใครเห็นค่ะ ขอเริ่มเรื่องเพื่อนเลิฟของเราเลยแล้วกัน
เรื่องมีอยู่ว่า เราเป็นเพื่อนที่เรียนด้วยกันตั้งแต่วิชาแรกในมหาลัยตอนป.ตรีค่ะ นางเป็นคนไต้หวันค่ะ เราบังเอิญนั่งใกล้กันและคุยถูกคอกันตั้งแต่คาบแรกๆ และสานต่อจนเป็นเพื่อนรักที่มีนิสัยและทัศนคติถูกใจถูกคออย่างบอกไม่ถูก แม้ว่าเราจะเลือกตรงกันแค่เมเจอร์เขาตรงกับไมเนอร์เรา เราก็ยังดีใจค่ะ ที่ได้เรียนด้วยกันถึงคาบสุดท้ายวิชาสุดท้ายของเทอมปีสามที่เราจบพร้อมกัน เราเรียนสามปีจบด้วยเกรดเฉลี่ยสามกว่าสูสีกันค่ะ แต่นางอายุแค่ 19 ย่าง 20 นะตอนจบส่วนเรามากกว่านางปีเศษ
หลังเรียนจบเราบินไปค้างบ้านนางที่ไต้หวันและเที่ยวด้วยกันอยู่หลายวันก่อนเราไป work & travel ต่อ แม่ของนางคุยอังกฤษกับเราไม่ได้เลยค่ะ แต่นางเอ็นดูเรามาก มีให้ซองแดงอั่งเปาด้วยค่ะ อวยพรให้เราโชคดีในต่างแดนมีแต่คนช่วยเหลือ แม่ของนางเก่งมากค่ะ เป็นนักบัญชีมือฉกาจเหมือนแม่ของเราเลยค่ะ แม่นางเป็น single mum เลี้ยงเดี่ยวค่ะ ลูกสองคือนางกับพี่ชาย ส่งนางมาเรียนไทยตั้งแต่มัธยม แล้วจึงส่งพี่ชายนางมาเรียนตรีที่ไทย เอาจริงแม้แต่หมาชิวาว่า (พันธุ์ที่ปกติเรามองว่าน่าหมั่นไส้ 55) ก็ชอบเราเว่อๆ ทีแรกเราไม่เชื่อนะตอนคุณเพื่อนเล่าว่าเพื่อนคนอื่นเดินเข้าบ้านนางนี่เห่าไม่หยุดนะ ไม่ว่าเข้าครั้งแรกหรือกี่ครั้งแล้ว จนกระทั่งมีญาติกับเพื่อนนางมาในวันถัดๆ มา น้องหมาที่เรียบร้อยกับเราไล่เห่าทุกคน (ยกเว้นเรา) ใจขาดดิ้น..
เรื่องที่อยากเล่าคือ ตลอด 4-5 ปีแรกที่เรารู้จักกัน นางตัวผอมหุ่นนางแบบ เตี้ยกว่าเราสัก 7-8 ซ.ม. ได้ บวกความหน้าเด็ก และสวยทุกมุมแล้ว เรามักมองนางเป็นน้องสาวตัวเล็กๆ ที่มากด้วยความสามารถ ในช่วงเวลานั้น สิ่งเดียวที่นางบ่นออกมามีเพียง เพื่อนๆ ที่เรียนกับนางไม่เข้าใจนาง เอาแต่นินทาไปวันๆ ไปด้วยกันไม่ได้เอาซะเลย ฟังแล้วแอบขำ อืม ใจเราตรงกันจริงๆ แม้เราไม่เคยบ่นออกไป
จนเข้าช่วงที่กลับไต้หวันไปได้ครึ่งปีนางกลัดกลุ้มใจ ที่กำลังเตรียมไปเรียนโทต่ออังกฤษแล้ว แต่คะแนน IELTS สอบ 5-6 ครั้งยังไม่ถึงสักที มันเหมือนเป็นจุดเดียวที่ขวางทางฝันอยู่ เราได้แค่ให้กำลังใจเพราะตอนนั้นเราทำงานสองงานอยู่ และเตรียมสอบ GMAT เวลาว่างแทบไม่มีเลย เผลอแปบเดียวเรากลับมาทำงานไทยนางใกล้เรียนจบโทละ มหาลัยนางเป็นที่เดียวที่ไม่รับเรานะ เราสมัครไปเรียนโทปีถัดกันไป ยื่นสี่ที่ติดสาม 5555
ผู้หญิงตัวเล็กคนเดิมเล่าให้ฟังว่ามีแฟนคนแรกละนะ จะย้ายตามแฟนไปหางานที่ปักกิ่ง ประเทศจีน ใจเราละหวงห่วงน้องสาวตัวน้อยคนนี้นัก กลัวแฟนนางไม่ดี กลัวสภาพความเป็นอยู่จีนไม่ดี กลัวสังคมไม่ใจดีกับเธอ หลายเดือนที่นางเสียเงินให้เอเย่นช่วยหางาน กว่าจะหาได้ นางก็ผ่านช่วงเวลาหนักใจไปหลายยก ไม่เลยนางไม่เคยบ่นออกมา ไม่เคยบอกว่าท้อแท้
เรียนจบโทด้วยอายุ 22 กว่าๆ นางก็ยังเจอปัญหาเดิมบ้างเวลาสมัครงานใหม่ๆ คนชอบคุ้ยๆ ครหา ดัดสิน คิดเอาเอง ว่านางอายุน้อยเกิน จะมีวุฒิภาวะพอทำงานที่มีภาระรับผิดชอบมากได้สักเท่าไหนกัน นางเคยท้อ แต่ไม่เคยถอยเลยค่ะ อะไรไม่ถูกใจ นางจำแต่ก็ปรับตัวเองเพื่อให้สู้ต่อได้เสมอ นอกจากสองมือสองขา นางไม่หวังให้ใครเป็นที่พึ่งเลยถ้าเป็นเรื่องงาน เราได้แต่ภูมิใจ มีเพื่อนแบบนี้
ผ่านแปบๆ เข้าปี 2017 เราไปเรียนภาษาที่ปักกิ่ง นางเริ่มระหองระแหงกับแฟน เรื่องแฟนชวนทะเลาะบ่อย คุยกับเพื่อนผู้หญิงหลายคนที่วิจารณ์เธอและความสัมพันธ์กับเธอ นางบอกเหลือทน จะไม่ไหวละนะ เหมือนไม่รักกันแล้ว เรารับฟังและพูดเสมอว่า ไหนๆ เราก็นับถือศาสนาเดียวกัน เราอยากให้กำลังใจ ให้เรานึกถึงกัน สวดมนต์ด้วยกัน อ่านพระธรรมและทำใจให้สงบ อย่าไปทำสิ่งไม่ดีตอบแทนแฟน เราทำตัวเองให้ดี อะไรจะเกิดให้เกิด อย่าไปกดดันตัวเอง ทำตัวเองให้ดี พูดจาดีเสมอ เพื่อตัวเองนะ
2019 แยกกันอยู่กับแฟน สุนัขที่รักมากที่บ้านเสียชีวิต ทะเลาะใหญ่กับแม่และพี่ชาย บอกสุนัขไม่อยู่แล้ว ไม่มีเหตุผลให้กลับไปไทเปแล้ว เราให้กำลังใจบอกไม่เป็นไรนะ เราเข้าใจจริงๆ จบที่เจอแฟนแค่เดือนละหนสองหน ต้องข้ามจากปักกิ่งไปถึงเจ้อเจียง นั่งเครื่องสามชั่วโมง ยิ่งสองปีนี้โควิดเหรอ ลำบากเลยค่ะ เราแค่แนะเบาๆ หากีฬาสักอย่าง ดนตรีสักชิ้นเล่นนะ ไม่คิดว่านางจะจริงจัง
นางเอาจริง โผล่มาใน IG มีแต่รูปที่นางออกไปออกกำลัง ไปเต้น และเล่นพิณกู่เจิ้ง ...ไม่ได้สมบูรณ์แบบใดๆ หรอกค่ะ แต่เราสัมผัสได้ว่า ภายใต้เรือนร่างที่ผอมบอบบางนั้น ใจนางช่างสู้เหลือเกิน
เล็ก พริกขี้หนู จริงๆ ใครที่กำลังท้อ หดหู่ใจ ขอให้จงสู้ต่อไปนะคะ
ว่าจะเล่าสั้นๆ ละนะ ทำไมมันยาวแบบนี้ล่ะ
ใครเคยมีเพื่อนสนิทที่ตรงกับสำนวน เล็กพริกขี้หนู มั้ยคะ มาเล่าให้ฟังหน่อยค่ะ
เห็นหลายคนในกระทู้อื่นๆ ในห้องสยามและศาลาประชาคม ดูท้อแท้ เหน็ดเหนื่อยกันเหลือเกิน เราอาจจะให้กำลังใจกันและกันน้อยเกินไป
บางคนชอบทำตัวเข้มแข็งต่อหน้าคนทั้งโลก ซุกซ่อนความบอกบางและอ่อนปวกเปียกไว้ไม่ให้ใครเห็นค่ะ ขอเริ่มเรื่องเพื่อนเลิฟของเราเลยแล้วกัน
เรื่องมีอยู่ว่า เราเป็นเพื่อนที่เรียนด้วยกันตั้งแต่วิชาแรกในมหาลัยตอนป.ตรีค่ะ นางเป็นคนไต้หวันค่ะ เราบังเอิญนั่งใกล้กันและคุยถูกคอกันตั้งแต่คาบแรกๆ และสานต่อจนเป็นเพื่อนรักที่มีนิสัยและทัศนคติถูกใจถูกคออย่างบอกไม่ถูก แม้ว่าเราจะเลือกตรงกันแค่เมเจอร์เขาตรงกับไมเนอร์เรา เราก็ยังดีใจค่ะ ที่ได้เรียนด้วยกันถึงคาบสุดท้ายวิชาสุดท้ายของเทอมปีสามที่เราจบพร้อมกัน เราเรียนสามปีจบด้วยเกรดเฉลี่ยสามกว่าสูสีกันค่ะ แต่นางอายุแค่ 19 ย่าง 20 นะตอนจบส่วนเรามากกว่านางปีเศษ
หลังเรียนจบเราบินไปค้างบ้านนางที่ไต้หวันและเที่ยวด้วยกันอยู่หลายวันก่อนเราไป work & travel ต่อ แม่ของนางคุยอังกฤษกับเราไม่ได้เลยค่ะ แต่นางเอ็นดูเรามาก มีให้ซองแดงอั่งเปาด้วยค่ะ อวยพรให้เราโชคดีในต่างแดนมีแต่คนช่วยเหลือ แม่ของนางเก่งมากค่ะ เป็นนักบัญชีมือฉกาจเหมือนแม่ของเราเลยค่ะ แม่นางเป็น single mum เลี้ยงเดี่ยวค่ะ ลูกสองคือนางกับพี่ชาย ส่งนางมาเรียนไทยตั้งแต่มัธยม แล้วจึงส่งพี่ชายนางมาเรียนตรีที่ไทย เอาจริงแม้แต่หมาชิวาว่า (พันธุ์ที่ปกติเรามองว่าน่าหมั่นไส้ 55) ก็ชอบเราเว่อๆ ทีแรกเราไม่เชื่อนะตอนคุณเพื่อนเล่าว่าเพื่อนคนอื่นเดินเข้าบ้านนางนี่เห่าไม่หยุดนะ ไม่ว่าเข้าครั้งแรกหรือกี่ครั้งแล้ว จนกระทั่งมีญาติกับเพื่อนนางมาในวันถัดๆ มา น้องหมาที่เรียบร้อยกับเราไล่เห่าทุกคน (ยกเว้นเรา) ใจขาดดิ้น..
เรื่องที่อยากเล่าคือ ตลอด 4-5 ปีแรกที่เรารู้จักกัน นางตัวผอมหุ่นนางแบบ เตี้ยกว่าเราสัก 7-8 ซ.ม. ได้ บวกความหน้าเด็ก และสวยทุกมุมแล้ว เรามักมองนางเป็นน้องสาวตัวเล็กๆ ที่มากด้วยความสามารถ ในช่วงเวลานั้น สิ่งเดียวที่นางบ่นออกมามีเพียง เพื่อนๆ ที่เรียนกับนางไม่เข้าใจนาง เอาแต่นินทาไปวันๆ ไปด้วยกันไม่ได้เอาซะเลย ฟังแล้วแอบขำ อืม ใจเราตรงกันจริงๆ แม้เราไม่เคยบ่นออกไป
จนเข้าช่วงที่กลับไต้หวันไปได้ครึ่งปีนางกลัดกลุ้มใจ ที่กำลังเตรียมไปเรียนโทต่ออังกฤษแล้ว แต่คะแนน IELTS สอบ 5-6 ครั้งยังไม่ถึงสักที มันเหมือนเป็นจุดเดียวที่ขวางทางฝันอยู่ เราได้แค่ให้กำลังใจเพราะตอนนั้นเราทำงานสองงานอยู่ และเตรียมสอบ GMAT เวลาว่างแทบไม่มีเลย เผลอแปบเดียวเรากลับมาทำงานไทยนางใกล้เรียนจบโทละ มหาลัยนางเป็นที่เดียวที่ไม่รับเรานะ เราสมัครไปเรียนโทปีถัดกันไป ยื่นสี่ที่ติดสาม 5555
ผู้หญิงตัวเล็กคนเดิมเล่าให้ฟังว่ามีแฟนคนแรกละนะ จะย้ายตามแฟนไปหางานที่ปักกิ่ง ประเทศจีน ใจเราละหวงห่วงน้องสาวตัวน้อยคนนี้นัก กลัวแฟนนางไม่ดี กลัวสภาพความเป็นอยู่จีนไม่ดี กลัวสังคมไม่ใจดีกับเธอ หลายเดือนที่นางเสียเงินให้เอเย่นช่วยหางาน กว่าจะหาได้ นางก็ผ่านช่วงเวลาหนักใจไปหลายยก ไม่เลยนางไม่เคยบ่นออกมา ไม่เคยบอกว่าท้อแท้
เรียนจบโทด้วยอายุ 22 กว่าๆ นางก็ยังเจอปัญหาเดิมบ้างเวลาสมัครงานใหม่ๆ คนชอบคุ้ยๆ ครหา ดัดสิน คิดเอาเอง ว่านางอายุน้อยเกิน จะมีวุฒิภาวะพอทำงานที่มีภาระรับผิดชอบมากได้สักเท่าไหนกัน นางเคยท้อ แต่ไม่เคยถอยเลยค่ะ อะไรไม่ถูกใจ นางจำแต่ก็ปรับตัวเองเพื่อให้สู้ต่อได้เสมอ นอกจากสองมือสองขา นางไม่หวังให้ใครเป็นที่พึ่งเลยถ้าเป็นเรื่องงาน เราได้แต่ภูมิใจ มีเพื่อนแบบนี้
ผ่านแปบๆ เข้าปี 2017 เราไปเรียนภาษาที่ปักกิ่ง นางเริ่มระหองระแหงกับแฟน เรื่องแฟนชวนทะเลาะบ่อย คุยกับเพื่อนผู้หญิงหลายคนที่วิจารณ์เธอและความสัมพันธ์กับเธอ นางบอกเหลือทน จะไม่ไหวละนะ เหมือนไม่รักกันแล้ว เรารับฟังและพูดเสมอว่า ไหนๆ เราก็นับถือศาสนาเดียวกัน เราอยากให้กำลังใจ ให้เรานึกถึงกัน สวดมนต์ด้วยกัน อ่านพระธรรมและทำใจให้สงบ อย่าไปทำสิ่งไม่ดีตอบแทนแฟน เราทำตัวเองให้ดี อะไรจะเกิดให้เกิด อย่าไปกดดันตัวเอง ทำตัวเองให้ดี พูดจาดีเสมอ เพื่อตัวเองนะ
2019 แยกกันอยู่กับแฟน สุนัขที่รักมากที่บ้านเสียชีวิต ทะเลาะใหญ่กับแม่และพี่ชาย บอกสุนัขไม่อยู่แล้ว ไม่มีเหตุผลให้กลับไปไทเปแล้ว เราให้กำลังใจบอกไม่เป็นไรนะ เราเข้าใจจริงๆ จบที่เจอแฟนแค่เดือนละหนสองหน ต้องข้ามจากปักกิ่งไปถึงเจ้อเจียง นั่งเครื่องสามชั่วโมง ยิ่งสองปีนี้โควิดเหรอ ลำบากเลยค่ะ เราแค่แนะเบาๆ หากีฬาสักอย่าง ดนตรีสักชิ้นเล่นนะ ไม่คิดว่านางจะจริงจัง
นางเอาจริง โผล่มาใน IG มีแต่รูปที่นางออกไปออกกำลัง ไปเต้น และเล่นพิณกู่เจิ้ง ...ไม่ได้สมบูรณ์แบบใดๆ หรอกค่ะ แต่เราสัมผัสได้ว่า ภายใต้เรือนร่างที่ผอมบอบบางนั้น ใจนางช่างสู้เหลือเกิน
เล็ก พริกขี้หนู จริงๆ ใครที่กำลังท้อ หดหู่ใจ ขอให้จงสู้ต่อไปนะคะ
ว่าจะเล่าสั้นๆ ละนะ ทำไมมันยาวแบบนี้ล่ะ