Saeed Maroof (เกิด 19 ตุลาคม 1985 - ย่าน Atai ของ Urmia ) เป็นอดีตนักกีฬาวอลเลย์บอลชาวอิหร่านและเป็นอดีตกัปตันผู้เล่นในตำแหน่ง Setter



2 วันก่อน เพจไอจีVolleyballworld อวยพรวันเกิด ในวัย 36 ปี ยกย่องให้เขาเป็นตำนานมือเซตที่ดีที่สุด หลังรีไทร์

เขาได้รับการเสนอชื่อให้เป็นผู้จ่ายบอลที่ดีที่สุดในเอเชียและได้เข้าร่วมการแข่งขันระดับนานาชาติและระดับเอเชียหลายครั้ง



Saeed Maroof, Mohammad Mousavi และ Shahram Mahmoudi ผู้เล่นทั้งสามคนของ แฟนอิหร่านรู้จักในฐานะผู้เล่นที่มีค่าตัวแพงที่สุดในลีกวอลเลย์บอลอิหร่านตามลำดับ มีการใช้เงินโทมานเกือบ 2 พันล้านโทมาน สำหรับค่าตัว 3 คนนี้ ซาอีดได้รับมากกว่า 700 ล้านโทมาน โมฮัมหมัดมูซาวี่น้อยกว่าเขา 50 ล้าน และชาห์รามน้อยกว่าโมฮัมหมัด 50 ล้าน โทมาน



Saeed Maroof เริ่มเล่นวอลเลย์บอลกับทีม Urmia Resistance และเข้าร่วมทีมเยาวชนแห่งชาติในปี 2544 และกลายเป็นสมาชิกของทีมชาติผู้ใหญ่อย่างเป็นทางการในปี 2548 หลังจากที่ Julio Velasco อำลา Alireza Nadi ให้ Saeed Maroof กลายเป็นกัปตันทีมวอลเลย์บอลทีมชาติอิหร่าน




จุดที่น่าสนใจจากชีวิตของ Saeed Maroof

1- ความทรงจำกีฬาที่เลวร้ายที่สุดของ Saeed Maroof คืออาการบาดเจ็บที่ข้อเท้าอย่างรุนแรงใน World Youth Games และ 24 ชั่วโมงของไข้ 40 องศาในการแข่งขัน Asian Club Cup กับทีม Peykan

2- เขาไม่มีรูปแบบเฉพาะในการเล่นกีฬา แต่เขามักจะชื่นชม Ali Daei ในฐานะนักกีฬา




3- ในบรรดาทริปที่เขาไปต่างประเทศ เขาจะไม่มีวันลืมการเดินทางไปฟิลิปปินส์ของเขา! เพราะในการเดินทางครั้งนั้นเขาประสบกับทุกสิ่ง ทั้งความเจ็บป่วยและแม้กระทั่งการล่องเรือ

4- เขาพูดถึงสไตล์อุ้งเท้าพิเศษของเขาว่า ไม่ว่ามันจะเป็นอะไร มันเป็นผลมาจากการฝึกฝนและความพยายาม และเขาไม่ได้เลียนแบบอย่างจากใครเลย



5. เขาเป็นตัวแทนของชาวอูรเมียร์ที่ได้รับการกล่าวขานว่า ทั้งหล่อ ทั้งเก่ง





6- เขาพยายามทำให้ดีที่สุดในทุก ๆ อย่างที่เขาทำ

7- เขาทำอาหารเป็น และทำทานเองในบางครั้ง.

8- เขามีเวลาว่างน้อย ถ้าเขามีเวลา เขาจะว่ายน้ำหรือใช้เวลาอยู่กับครอบครัว




9. เขาไม่ได้ไปดูหนังมากนัก แต่เขาดูรายการทีวีโดยเฉพาะรายการกีฬา

10 - หนึ่งในความปรารถนาของเขาคือการไปเยี่ยมบ้านของพระเจ้า



11. ยาที่ดีที่สุดของเขาคือ การได้คุยกับแม่ก่อนเกมส์ คำอวยพรของแม่ทำให้เขาสงบและมีพลังก่อนการแข่งขัน



12. ซาอีด มารูฟ มีน้องสาวที่ใจดีและหลานชายตัวน้อย ครอบครัวเขาเป็นมิตรและเขาพยายามใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับครอบครัว



13. เขาได้รับรางวัลมากมายในสายงานอาชีพวอลเลย์บอล


14. คุณธรรมของเขานั้นพิเศษมาก เขาภูมิใจในตัวเองมาก แล้วเขาเป็นคนที่ใฝ่หาความรู้อยู่เสมอ


15. เขาชอบด้านดนตรี มีความสนใจเป็นอย่างมาก และหากทำได้ เขาต้องการเรียนรู้เครื่องดนตรีอิหร่าน

16.  เขาไม่ค่อยดูบอลอิหร่านเท่าไหร่ แต่ไม่พลาดบอลยุโรป และเชื่อว่าการดูบอลมีเสน่ห์กว่ากีฬาประเภทอื่น!

17. เขาเป็นแฟนตัวยงของทีมบาร์เซโลนา ประเทศสเปน

18. เขาติดหลานชายมาก (ลูกของน้องสาว) ว่างเว้นจากงาน เขาจะคลุกอยู่กับหลานที่บ้าน



19 - ช่างทำผมของเขามีชื่อเสียงใน Saadatabad เธอพยายามจัดทรงผมแบบลูกผู้ชายให้เขาอยู่เสมอ

20. เขากินอาหารนอกบ้าน ร้านประจำคือร้านอาหารใกล้บ้าน

21. เขาชอบอาหารอิหร่าน ส่วนใหญ่เขาชอบก๋วยเตี๋ยวของแม่และเศษผัก

22. แม้ว่าเขาจะยุ่ง แต่เขาอ่านหนังสือเยอะมาก เกือบหกเล่มต่อปีและหนังสือเล่มสุดท้ายที่แซด มารูฟอ่านคือ "Man on the Cross" (โดย Michael Walter)



23. ถึงแม้เขามีชื่อเสียงเขาเกลียดความหรูหรา แต่เขาใส่ใจนาฬิกาหรู และมักจะบอกว่าผู้ชายควรสวมนาฬิกาที่มีสไตล์

24. แบรนด์นาฬิกาที่เขาใช้คือ Versace และเขาซื้อนาฬิกาทุกสองสามปี

25. รองเท้าของมารูฟ ต้องเป็นของแท้ และบ่อยครั้งเขามักจะซื้อรองเท้าเวลามีแข่งที่ญี่ปุ่น



26 - แม่ของเขาเป็นแม่บ้านและสนับสนุนให้เขาเป็นนักกีฬา

27.พ่อของเขาต้องการให้ลูกชายเรียนต่อและได้รับปริญญาเอกด้านฟิสิกส์นิวเคลียร์ เขาเก่งคณิตศาสตร์และเคมี

28. เขาหลงใหลวอลเล่ย์บอลมาก และคิดว่าตัวเองมาถูกทางและเป็นอาชีพที่เหมาะสม



29. เขาได้รับข้อความจากแฟนๆเยอะมาก ทั้งจดหมาย ของขวัญ ที่ส่งมาให้ที่บ้านและคำอวยพรต่าง



30. ความดังของมารูฟเป็นรองแค่ประธานาธิบดีอิหร่าน คนทั้งประเทศรู้จักเขา

31. เขายังชอบเล่นวอลเลย์บอลชายหาดด้วย






32. เขาเป็นที่เคารพและนับถือให้กับรุ่นน้องในสายอาชีพเดียวกัน เขามักจะเป็นที่ปรึกษาที่ดีให้กับคนอื่นเสมอ



33. เขาเคยได้รับการติดต่อให้เป็นดารา นักแสดง แต่เขาปฏิเสธ เขาสนใจแค่วอลเล่ย์บอลอย่างเดียว



34. เขาเป็นดาราวอลเล่ย์บอลที่มีอิทธิพลในอิหร่าน มีหลายคนที่แสวงหาผลประโยชน์จากเขา โดยชวนให้เขามาเล่นการเมือง แต่เขาปฏิเสธ



35. ในอิหร่านเขามีทั้งคนรักและคนชัง กลุ่มคนที่ชังเขา ก็พร้อมที่จะโจมตีเมื่อเขาทำผิดพลาด

36. เขาทำงานหนัก ทุ่มเทให้กับทีมชาติมาก บางทีก็สวมบทบาทเป็นทั้งโค้ช ทั้งผู้เล่น และรุ่นพี่ที่ต้องนำรุ่นน้อง



37. เขารู้สึกหัวเสียและรู้สึกผิดหวังมากที่ตกรอบโอลิมปิกที่โตเกียว เขาร้องไห้คนเดียวเงียบๆในมุมนึงของสนาม



38. หลังจบโอลิมปิกที่โตเกียวเขาไม่ได้กลับเตหะรานพร้อมเพื่อนๆ เขามุ่งสู่อเมริกา ร่วมสอนวอลเลย์บอลกับเด็กเยาวชนชาวอเมริกัน



39. เขาอำลาทีมชาติหลังจบโอลิมปิก มีหลายทีมในสโมสรลีกอิหร่าน ติดต่อให้เขาเป็นโค้ชแม้แต่สมาคมวอลเลย์บอลอิหร่าน ก็เสนอให้เขามาร่วมงานด้วย

40. เขายังโสด และไม่มีแผนที่จะแต่งงาน ไม่มีข่าวคราวเกี่ยวกับการเดทหรือคนรักของเขาออกสื่อ



“เขาให้สัมภาษณ์ว่า ตัวเขาโชคดีที่ยังโสด การแต่งงานเป็นเรื่องธรรมชาติ มันอาจจะเกิดขึ้นได้ในวันใดวันนึง”