[CR] เอทานอล ฮาร์ดดิสก์ มินิไซส์ ที่เราพกข้อมูลใส่กระเป๋าไปได้ทุกที่



**ขออภัยที่เขียนหัวกระทู้ผิดนะคะ

สวัสดีค่า กระทู้นี้จ๋าจะมาทำรีวิว SEAGATE One Touch SSD ขนาดความจุ 500GB ค่ะ ซึ่งที่จ๋าจะมารีวิวเป็น External SSD ตัวที่ออกมาใหม่ล่าสุดของแบรนด์ Seagate เลยค่ะ เห็นความจุขนาดนี้แต่ขนาดตัวเครื่องเท่าบัตร 1 ใบเท่านั้นเองค่ะ แถมมีน้ำหนักที่เบา พกพาข้อมูลต่างๆไปกับเราได้ทุกที่เลย สะดวกสบายมากๆ จ๋าคิดว่าน่าจะมีหลายๆคนที่ยังไม่รู้จักกับเจ้าตัวนี้ว่า คืออะไร ใช้ทำอะไรได้บ้าง หรือบางคนที่หาข้อมูลมาคร่าวๆแล้วอยากทำความเข้าใจมากขึ้น จ๋าก็จะมาสรุปแบบภาษาบ้านๆเข้าใจง่ายๆสไตล์จ๋าให้อ่านกันค่ะ หวังว่าจะมีประโยชน์ให้กับผู้อ่านไม่มากก็น้อยนะคะ ช่วงแรกๆนี้ขออธิบายให้สำหรับคนที่พึ่งเข้าวงการก่อน รายละเอียดที่น่าสนใจของเจ้าตัวนี้เลื่อนลงไปอ่านได้เลยค่า

SEAGATE One Touch SSD 500GB

ในรูปก็คืออุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล SSD (โซลิดสเตทไดรฟ์) แบบพกพา (อารมณ์ประมาณเฟลชไดรฟ์แต่ความจุเยอะกว่า เร็วกว่าและจี๊ดกว่าค่ะ) ช่วงแรกที่จ๋าไม่รู้จักเจ้าตัวนี้เลย คนรู้จักบอกว่า “เมื่อก่อนมันเคยเป็นฮาร์ดดิสในคอม เค้าพัฒนาให้มันเล็กลงจุได้เยอะขึ้น และพกพาง่าย”ถึงเราจะไม่ค่อยเข้าใจเรื่องพวกนี้ แต่เราทำงานด้านตัดต่อคลิป มีรูปภาพกว่าหมื่นรูปและคลิปที่จะต้องรอตัดต่ออีก100กว่าคลิป และไฟล์เอกสารต่างๆในเมมการ์ดที่ต้องแยกกันเป็นหมวดๆ จ๋าว่าจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องหันมาใช้ One Touch SSD เพราะนอกจากความจุที่เยอะแล้ว มาพร้อมกับขนาดตัวเครื่องที่กระทัดรัดพกใส่กระเป๋าเสื้อได้สบายๆเลยค่ะ ไม่ต้องแยกไฟล์งานไปเมมนั้น วิดีโอไปเมมนี้แล้ว รวมเข้าด้วยกันพกไปด้วยกัน สะดวกรวดเร็วมากๆค่ะ นอกจากนั้นแล้ว เรายังได้รับของแถมที่คุ้มเกินราคา และความเร็วในการอ่าน/เขียน สูงถึง1,030 MB/s ย้ายไฟล์ด้วยสาย USB C Super Speed อีกด้วย คือเร็วแล้วเร็วอีก มันชั่งดีต่อใจกับวัยรุ่นใจร้อนอย่างเรามากกจริงๆ 

โดยซีเกทเขาผลิต 2 รุ่นมี External HHD และ External SSD ทั้ง2รุ่นมีขนาดที่เล็ก พกพาง่าย ดีไซน์ทันสบาย และสีสันหลากหลายให้เลือก เลือกตามความต้องการได้เลย ส่วนข้อแตกต่างของ 2 รุ่นนี้คือ

- External HHD เหมาะกับคนที่ต้องการความจุระดับ 1-5 TB สามารถตั้งรหัสล็อคข้อมูลได้
- External SSD มีประสิทธิภาพและเร็วกว่า HHD ความจุเริ่มต้นที่ 500 GB สูงสุดอยู่ที่ 2 TB


กลับมาที่ตัว SEAGATE One Touch SSD จ๋าเลือกที่ความจุ 500 GB ราคาอยู่ที่ 2,990 บาท สีSliver รุ่นนี้มี 3 สี (Black/Silver/Light Blue) ตัวเครื่องด้านบนเป็นวัสดุจากอลูมิเนียม และด้านข้างหุ้มด้วยผ้าทอดูทันสมัยแปลกตาดีค่ะ ขนาดตัวเครื่อง ก50 x ส10.6 x ล70 มม. และน้ำหนักเพียง : 45 กรัม ถือว่าดีไซน์เพรียวบาง ทันสมัย เล็กกระทัดรัดพกพาง่ายมากๆค่ะ 

ขนาดตัวเครื่องพอๆกับบัตร 1 ใบเท่านั้นเองค่ะ

ความใหม่ของรุ่นนี้คือ รูเสียบจะเป็น USB TYPE C และมาพร้อยสาย USB C-C เลยซึ่งรุ่นก่อนนั้นจะเป็น USB A ที่ต้องซื้อหัวแปรงแยกมาอีกที และรุ่นใหม่นี้สายออกมาเป็นแบบ Super Speed  ทำให้สะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่สุดๆ
ความยาวของสายตั้งแต่หัว USB  คือ 22.8 เซนติเมตร (ทั้ง 2 เส้น )เรามองว่ามันสั้นกำลังดี เวลาใช้งานกับอุปกรณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะโน้ตบุ๊ก คอมพิวเตอร์ หรือแม้กระทั่งอุปกรณ์พกพาอย่างสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต เวลาวางหรือถือคู่กันไม่เกะกะเลยค่ะ และไม่ต้องกังวลเลยว่า เวลาพกไปมาเราจะทำหล่นไหม ไฟล์จะหายไหม เพราะเขามีระบบป้องกันแรงกระแทกจากการหล่นในระดับ 2 เมตร และยังแถมบริการพิเศษ Rescue Data Recovery Services มาอีกด้วย บริการนี้จะช่วยในเรื่องป้องกันการสูญเสียข้อมูลและช่วยกู้ไฟล์ต่าง ๆ คืนมา ให้ฟรีได้ 1 ครั้ง ในระยะเวลา 3 ปี ช่วยให้ผู้ใช้งานอย่างเราเบาใจไร้กังวลไปได้เลย

อุปกรณ์ภายในกล่อง
- ตัวเครื่อง SSD 
- สาย USB C-C และ USB C-A (Super Speed)
- คู่มือการใช้งาน ติดตั้ง ฉบับย่อ

ความสามารถของ SEAGATE One Touch SSD 
- มีความเร็วในการอ่าน / เขียน สูงถึง 1,030 MB/s
- เชื่อมต่อการใช้งานด้วย USB Type-C ( USB 3.2 Gen2 ) (ซึ่งรุ่นก่อนๆต้องใช้  USB-A และต่อกับหัวแปลงอีกที)
- ใช้งานได้ทันทีทั้ง Windows, Mac OS และ อุปกรณ์ที่ใช้งานระบบ Android OS ได้โดยไม่ต้องทำการ Re-Format
- สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ Android ด้วย App Seagate SSD Touch 
- ตัวเครื่องสามารถระบายความร้อนเองได้ เพราะวัสดุที่ทำจากอลูมิเนียม ไม่อมความร้อนไว้ภายใน ทำให้มีความเสถียรต่อการใช้งานต่อเนื่องได้ 
- มาพร้อม Toolkit ซอฟท์แวร์ลิขสิทธิ์ของซีเกท และ Sync Plus ที่ช่วยสำรองข้อมูลได้อย่างต่อเนื่องไม่มีสะดุด

และมาถึงช่วงที่น่าสนใจที่สุด กับของแถมของ SEAGATE One Touch SSD ซึ่งเมื่อเทียบกับราคาของแถมนั้น คือสูงพอๆกับได้เจ้าตัว SSD นี้ฟรีเลยค่ะ

ของแถมที่ได้รับ
ชิ้นที่ 1 : ประกันตัวเครื่องนานสูงสุด 3 ปี
ชิ้นที่ 2 : ได้รับ Mylio Create พื้นที่เก็บข้อมูลแบบ Unlimited 1 ปี มูลค่าอยู่ที่ 1,694 บาท
ชิ้นที่ 3 : ได้รับ Adobe Create Cloud Photography Plan (Photoshop + Lightroom) นาน 4 เดือน มูลค่า 1,500 บาท ต้องสมัครภายใน 1 ปีหลังซื้อ SEAGATE One Touch SSD มาแล้วนะคะ ชิ้นนี้คือคุ้มกับจ๋ามากๆ เพราะได้แอประดับโปรในการตัดต่อรูปมาครอบครอง
ชิ้นที่ 4 : การบริการ Rescue Data Recovery Service กู้ข้อมูลฟรี 1 ครั้ง ในระยะเวลา 3 ปี ข้อนี้เรียกได้ว่ามูลค่ามหาศาลมากทีเดียว เพราะตามจริงแล้วมูลค่าการกู้ข้อมูลปกติจะคิดตามขนาดความจุของสินค้าซึ่งยิ่งขนาดใหญ่ยิ่งราคาสูง แต่ในบริการ Seagate Rescue Service ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ สมมุติว่างานสำคัญหายวาปไปทั้งไดรฟ์ กู้คืนมาได้แบบโล่งใจกันเลยทีเดียว 

แอบรวมมูลค่าของแถม 2 ชิ้น รวมแล้วกว่า 3,100 บาท ซื้อ SEAGATE One Touch SSD 500 GB มา 2,990 บาท เหมือนได้ตัวไดรฟ์เป็นของแถมเลยค่ะ 55555

ต่อมาถึงเวลาเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ จ๋าเอาแบบลงทะเบียนมาให้ดูคร่าวๆนะคะ

หลังจากเสียบเข้าคอมแล้ว เริ่มแรกเราก็จะต้องลงทะเบียนต่างๆให้เรียบร้อย เมื่อลงตามรูปข้างบนเรียบร้อยแล้ว ถัดมาคือ เขาจะให้ลงทะเบียน Adobe Create Cloud Photography Plan (Photoshop + Lightroom) ลงเลยก็ได้ หรือไว้ลงทีหลังก็ได้ค่ะ


ต่อจาก Adobe ก็คือสมัคร Mylio Create ที่ต้องดาวน์โหลดแอปเพิ่มด้วยนะคะ เช่นเดิมเลยเราจะลงทะเบียนเลยก็ได้ รึยังไม่ลงก็ได้ค่ะ ซึ่งตัวนี้เราก็ได้แบบอัลลิมิเต็ดถึง 1 ปีเลย


หลังจากสมัครเรียบร้อยแล้ว ก็ทำการย้ายไฟล์เข้า SSD ให้เรียบร้อยเริ่มต้นที่หมวดรูปภาพเอกสารทั้งหมด439ไฟล์ ใช้เวลาไม่ถึง 1 นาทีเลย

ต่อจากคอมแล้วเราก็มาดูกันที่แท็ปเล็ตอีกสักหน่อยค่ะ และสำหรับชาว Andriod นั้นอย่าลืมโหลดแอป Seagate SSD Touch กันด้วยนะคะ

หลังจากนั้นเราก็สมัครแบบในคอมพิวเตอร์ได้เลยค่ะ เสร็จแล้วเราจะสังเกตเห็นว่าความจำขาดจากที่ระบุไปนิดหน่อย ต้องบอกก่อนว่าเป็นปกตินะคะ อย่าพึ่งตกใจไป เนื่องจากการนับฐานเลขของคอมพิวเตอร์กับที่เราพูดกันจะใช้เลขคนละฐานนั้นเอง


ยกไปทำงานที่คาเฟ่ทั้งคู่สะดวกสบายสุดๆเลยค่ะ

ก่อนหน้านี้จ๋าใช้ตัว HHD ซึ่งก็โอเคเลย เห็นตัวนี้ออกมาใหม่ ใช้ไปใช้มาโดนน้อง SSD ตกสะได้ ก็เลยไม่พลาดที่จะนำมาทำรีวิวสักหน่อยค่ะ หลังจากย้ายข้อมูลเข้าเรียบร้อยแล้ว คาดการณ์ว่าจะได้ขยับไปที่ 1 TB อย่างแน่นอนเลย55555



โดยรวมแล้ว จ๋ามองว่า SEAGATE One Touch SSD เหมาะกับคนยุคใหม่อย่างเรามาก ไม่ว่าจะ ดีไซน์ ขนาดที่พกพาง่าย ความเร็วแรงอย่างมีประสิทธิภาพของเขานั้น รับรองว่า หากนักผลิตคอนเทนต์ ยูทูปเบอร์ หรือคนที่มีข้อมูลติดตัวมากกว่า 100ไฟล์ ได้มาลองใช้ SSD รุ่นนี้ต้องชอบและไม่ผิดหวังแน่นอนเลยค่ะ

เป็นยังไงกันบ้างคะเพื่อนๆ จ๋าพอจะป้ายยาได้สำเร็จไหมเอย หากมีข้อสงสัยตรงไหนสามารถพิมพ์สอบถามไว้ได้เลยนะคะ จ๋าเองตอนนี้เข้าเกือบทุกวงการแล้วค่ะ ไม่ว่าจะเครื่องสำอาง สกินแคร์ อาหารการกิน แม่ลูกอ่อน ล่าสุดก็มาสายเครื่องใช้ไฟฟ้าแล้วค่า ได้รับอะไรดีๆก็อยากมาบอกต่ออะเนอะ ยังไงก็ฝากติดตามกระทู้ถัดไปด้วยน้า สวัสดีค่า
ชื่อสินค้า:   Seagate One Touch SSD
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่