จากกระทู้เก่าที่ถามเกี่ยวกับการเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว สรุปก็ไม่ได้เป็นเพราะทางผู้ใหญ่ขอไว้และทางผู้ชายขอโอกาสด้วย ซึ่งจริงๆแล้วที่ผู้ชายไม่อยากให้เก็บลูกไว้ก็เพราะเขาแอบคบกับผู้หญิงคนอื่นอยู่ สุดท้ายดิฉันจับได้เลยจะขอเลิกไม่ขอยุ่งเกี่ยว ก่อนที่จะตัดขาดดิฉันได้โทรไปบอกทางบ้านผู้ชายว่าเราท้องกับลูกชายเขา พอทางบ้านเขารู้ก็เลยขอให้เราใจเย็นๆ ค่อยๆ คุย (ลูกเราเป็นหลานคนแรกของบ้านผู้ชาย) เราก็ยอมให้อภัย ไม่ใช่เพราะปู่กับย่าแต่เพราะแม่เรา แม่เราไม่อยากให้เราท้องไม่มีพ่อ ลำพังท้องไม่ได้แต่งแกก็เสียใจมากพอแล้ว ถ้ายังมาเลิกกันอีกแกคงรับไม่ไหว เราก็เลยเห็นแก่แม่ยอมให้โอกาสผู้ชายกลับมาทำหน้าที่พ่อของลูกแล้วค่อยจัดงานแต่งกันทีหลัง
เรื่องราวก็ผ่านพ้นไปด้วยดีจนตอนนี้ลูกชายได้ 1 ขวบ เขาปรับปรุงตัว ใส่ใจเรามากขึ้น ดูแลเราดีขึ้น ทุกวันนอกจากเวลาทำงานแล้วตัวก็จะติดกันตลอด ไปไหนก็จะไปด้วยกันตลอด (ลูกชายฝากย่ากับปู่เลี้ยงที่ต่างจังหวัด วันหยุดถึงได้กลับไปหา) แต่เพราะเขาเคยนอกใจดิฉันมาก่อนเลยทำให้ในใจยังคงหวาดระแวง (หลังจากให้โอกาสเขา ดิฉันไม่เคยหยิบเรื่องที่เขาทำผิดมาพูดถึงอีกเลยค่ะ เพราะมันจะทำให้เสียใจเปล่าๆ เรื่องมันผ่านไปแล้ว)
ถึงแม้เขาจะทำตัวปกติ แต่ดิฉันก็ยังอดคิดไม่ได้ว่าเขาแอบคุยกับคนอื่นอีกหรือป่าว สาเหตุที่คิดแบบนั้นก็คือ เขาจะมีมือถือ 2 เครื่อง เครื่องบริษัทกับเครื่องส่วนตัว เครื่องส่วนตัวเขาให้ดิฉันหยิบจับได้ตามสบายเพราะเขาจะใช้งานเครื่องบริษัทเป็นส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะโทร/ไลน์/เฟส/ เขาจะใช้แต่เครื่องบริษัททั้งสิ้น เขาค่อนข้างหวงเครื่องบริษัท ไม่เคยวางทิ้งไว้เวลาเจ้าตัวเขาไม่อยู่เลย ต้องหยิบติดมือไปด้วยตลอด เวลาเดียวที่เขาจะปล่อยให้ดิฉันจับมือถือเครื่องนี้คือตอนที่มันแบตหมดเครื่องปิดไปแล้วเท่านั้น (เครื่องบริษัทเขาล็อครหัสไว้ค่ะ)
ดิฉันไม่เคยขอเช็คมือถือบริษัทเขาเลยสักครั้งทั้งที่ใจอยากทำมาก แต่อีกใจก็กลัวว่าถ้าเช็คแล้วเจอจะทำยังไง ดิฉันคงรับไม่ได้และไม่ขอให้อภัยอีกเพราะได้ตกลงกันแล้วตอนที่มีปัญหาครั้งแรก และเพราะไม่อยากกลับไปอยู่ในสถานการณ์แบบเดิมดิฉันเลยปล่อยผ่าน ไม่อยากเสียใจเพราะความอยากรู้อยากเห็นของตัวเอง เฝ้าถามใจตลอด "ถ้ารู้แล้วเป็นอย่างที่กลัวจะทำยังไง สู้ไม่ไปอยากรู้อะไรเลยจะดีกว่ามั้ย?"
ดิฉันทำถูกมั้ยคะ? ดิฉันโง่เกินไปมั้ยคะ? ถ้าเกิดมีเรื่องนอกใจกันขึ้นมาอีกดิฉันคงตัดขาดไม่ให้เขามายุ่งเกี่ยวด้วยรวมทั้งเรื่องลูกด้วย ซึ่งดิฉันไม่อยากทำเลยค่ะสงสารลูก ทุกครั้งที่กลับไปหาลูกเค้าจะดีใจมาก อ้อนให้พ่ออุ้มแล้วก็อ้อนให้แม่อุ้ม ยิ้มหัวอย่างมีความสุขในอ้อมกอดของพ่อกับแม่ ดิฉันทำลายภาพที่สวยงามนั้นไม่ลงจริงๆค่ะถ้าวันหนึ่งลูกจะไม่ได้เห็นพ่ออีกแล้ว
สรุปแล้วดิฉันทำถูกแล้วใช่มั้ยคะที่ไม่ขอเช็คโทรศัพท์สามี?
คิดถูกแล้วใช่มั้ยที่ไม่ขอเช็คโทรศัพท์สามี?
เรื่องราวก็ผ่านพ้นไปด้วยดีจนตอนนี้ลูกชายได้ 1 ขวบ เขาปรับปรุงตัว ใส่ใจเรามากขึ้น ดูแลเราดีขึ้น ทุกวันนอกจากเวลาทำงานแล้วตัวก็จะติดกันตลอด ไปไหนก็จะไปด้วยกันตลอด (ลูกชายฝากย่ากับปู่เลี้ยงที่ต่างจังหวัด วันหยุดถึงได้กลับไปหา) แต่เพราะเขาเคยนอกใจดิฉันมาก่อนเลยทำให้ในใจยังคงหวาดระแวง (หลังจากให้โอกาสเขา ดิฉันไม่เคยหยิบเรื่องที่เขาทำผิดมาพูดถึงอีกเลยค่ะ เพราะมันจะทำให้เสียใจเปล่าๆ เรื่องมันผ่านไปแล้ว)
ถึงแม้เขาจะทำตัวปกติ แต่ดิฉันก็ยังอดคิดไม่ได้ว่าเขาแอบคุยกับคนอื่นอีกหรือป่าว สาเหตุที่คิดแบบนั้นก็คือ เขาจะมีมือถือ 2 เครื่อง เครื่องบริษัทกับเครื่องส่วนตัว เครื่องส่วนตัวเขาให้ดิฉันหยิบจับได้ตามสบายเพราะเขาจะใช้งานเครื่องบริษัทเป็นส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะโทร/ไลน์/เฟส/ เขาจะใช้แต่เครื่องบริษัททั้งสิ้น เขาค่อนข้างหวงเครื่องบริษัท ไม่เคยวางทิ้งไว้เวลาเจ้าตัวเขาไม่อยู่เลย ต้องหยิบติดมือไปด้วยตลอด เวลาเดียวที่เขาจะปล่อยให้ดิฉันจับมือถือเครื่องนี้คือตอนที่มันแบตหมดเครื่องปิดไปแล้วเท่านั้น (เครื่องบริษัทเขาล็อครหัสไว้ค่ะ)
ดิฉันไม่เคยขอเช็คมือถือบริษัทเขาเลยสักครั้งทั้งที่ใจอยากทำมาก แต่อีกใจก็กลัวว่าถ้าเช็คแล้วเจอจะทำยังไง ดิฉันคงรับไม่ได้และไม่ขอให้อภัยอีกเพราะได้ตกลงกันแล้วตอนที่มีปัญหาครั้งแรก และเพราะไม่อยากกลับไปอยู่ในสถานการณ์แบบเดิมดิฉันเลยปล่อยผ่าน ไม่อยากเสียใจเพราะความอยากรู้อยากเห็นของตัวเอง เฝ้าถามใจตลอด "ถ้ารู้แล้วเป็นอย่างที่กลัวจะทำยังไง สู้ไม่ไปอยากรู้อะไรเลยจะดีกว่ามั้ย?"
ดิฉันทำถูกมั้ยคะ? ดิฉันโง่เกินไปมั้ยคะ? ถ้าเกิดมีเรื่องนอกใจกันขึ้นมาอีกดิฉันคงตัดขาดไม่ให้เขามายุ่งเกี่ยวด้วยรวมทั้งเรื่องลูกด้วย ซึ่งดิฉันไม่อยากทำเลยค่ะสงสารลูก ทุกครั้งที่กลับไปหาลูกเค้าจะดีใจมาก อ้อนให้พ่ออุ้มแล้วก็อ้อนให้แม่อุ้ม ยิ้มหัวอย่างมีความสุขในอ้อมกอดของพ่อกับแม่ ดิฉันทำลายภาพที่สวยงามนั้นไม่ลงจริงๆค่ะถ้าวันหนึ่งลูกจะไม่ได้เห็นพ่ออีกแล้ว
สรุปแล้วดิฉันทำถูกแล้วใช่มั้ยคะที่ไม่ขอเช็คโทรศัพท์สามี?