อยากเตือนน้องๆว่าอย่าไปเชื่อ วาทกรรมที่บอกว่าเป็นมนุษย์เงินเดือนได้เงินแค่ 15,000 เลยไม่อยากทำงานออฟฟิศกัน

กระทู้สนทนา
ผมเล่าเป็นอุทาหรณ์เรื่องจริงที่เกิดกับชีวิตผมเองเลยแล้วกัน ปัจจุบันผมอายุ38
หลังจากเรียนจบ ป.ตรี ทำงานออฟฟิศได้2ปี ก็ตัดสินใจลาออกมาช่วยที่บ้านขายอาหารสัตว์ เป็นร้านเล็กๆ2คูหา
เหตุผลที่ผมลาออก เพราะตอนนั้นผมหลงเชื่อ วาทกรรม ที่บอกว่าเราเรียนหนังสือมาทั้งชีวิต แล้วมาเป็นลูกจ้างเงินเดือน15,000 มันไม่คุ้มเลย
เมื่อสิบกว่าปีก่อน ผมได้เงินเดือน 15,000 พอดี ทำงานใน กทม เช่าหออยู่ ก็ยอมรับว่าไม่เหลือเงินเก็บเลยครับ จะเอาที่ไหนเก็บ
แล้วช่วงที่ผมยังวัยรุ่น ช่วงนั้นกระแสลาออกจากงานมาเป็นนายตัวเองฮิตมากๆ ยิ่งกว่าตอนนี้อีก 
ผมก็ตัดสินใจลาออกมาช่วยที่บ้านขายของ  
วันเวลาก็ผ่านไป  ทุกวันนี้เพื่อนรุ่นเดียวกันกับผม ทั้งเพื่อนที่คณะในมหาวิทยาลัย หรือ เพื่อนสมัยมัธยม ที่ทำงานเอกชน ปัจจุบัน เงินเหลือแสนกว่าบาทกันเป็นส่วนมาก คนที่ได้น้อยที่สุดที่ผมรู้คือ 70,000 บาท ผมมีเพื่อนสนิทอยู่สิบกว่าคน ที่สามารถคุยเรื่องเงินเดือนกันได้ แต่นอกจากสิบกว่าคนนี้ ผมก็ไม่กล้าไปถามเขานะครับ และเพื่อนสิบกว่าคนนี้ ก็ยังรู้เงินเดือนของเพื่อนในวงที่พวกเขาไปสนิทอีกต่อนึง เท่ากับว่าผมพอจะเห็นภาพกว้างๆว่าคนอายุ 38 ในรุ่นผม ได้เงินเดือนกันอยู่ที่แสนกว่าบาท  คนที่มากที่สุดคือ 400,000บาท น้อยที่สุดคือ 70,000บาท เอาเป็นว่าเราพูดกันที่ค่าเฉลี่ยแล้วกันเนอะ 

ตอนผมอายุ20ต้นๆ ผมไม่เคยรู้มาก่อนจริงๆว่าการทำงานเอกชนไปเรื่อยๆ เดี๋ยวมันก็ถึงแสนเองแหละ ตอนนั้นผมหลงเชื่อวาทกรรมมนุษย์เงินเดือน15,000 
การได้เงินเดือน 15,000 มันเป็นแค่ช่วงแรกๆของอาชีพเท่านั้น  วันนี้ผมมองไปรอบตัว ผมยังไม่เห็นใครสักที่ผมรู้จัก ที่อายุ38เท่าผม แล้วได้เงินเดือนต่ำกว่า70,000บาทเลย  ยกว้นอาชีพข้าราชการ อันนี้ผมต้องยกเว้นไว้ เพราะข้าราชการอาจจะเงินเดือนไม่เยอะก็จริง แต่มีบำนาญ  ผมจะพูดถึงเฉพาะงานเอกชนเท่านั้น  

ดังนั้น ก็อยากเตือนน้องๆทุกคนที่มองอาชีพเอกชนในแง่ลบเรื่องเงินเดือน ผมจะบอกว่าในอดีตผมก็เคยคิดแบบนั้น เพราะผมมีข้อมูลไม่เพียงพอ
วันนี้ก็เลยอยากให้ข้อมูลตรงนี้ครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่