ผมจะขอเล่าเหตุการณ์ในวันนั้นก่อนนะครับ
ปัญหาของผมคือฟันคุดซี่บนกับล่างมันโผล่ขึ้นมา ด้วยความที่สองซี่นี้มันขึ้นไม่ตรงกัน เวลากัดฟันจะรู้ได้เลยว่าฟันซี่บนมันกำลังบดฟัดซี่ล่างอยู่
ผมเลยตัดสินใจจะไปถอนออก ตัดภาพไปตอนที่ผมกำลังจะฉีดยาชาเลยละกัน หมอก็ฉีดยาชาตามปกติ ตอนฉีดไม่รู้สึกเจ็บอะไรมาก หมอมือเบามาก "ผู้ช่วยที่เป็นเด็กฝึกงานก็สวยด้วยเช่นกัน" เอาเป็นพอผมฉีดเสร็จหมอก็บอกให้ผมรอประมาณ 15-30 นาที ผมจำไม่ได้ แต่ผมรอนานมาก รอจนเบื่อ
หลังจากรอเสร็จ หมอก็เดินมาทางผมแล้วบอกว่า "ชารึยังคะ ?" ผมก็บอกกลับว่า "ชาครับ แต่รู้สึกชาน้อยมาก ชาตรงขากรรไกรเพียงเล็กน้อย"
พอผมบอกเสร็จ ผู้ช่วยหมอก็บอกผมและชี้ว่า "มันจะชาจนมาถึงบริเวณนี้เลยนะคะ" บริเวณนี้คือ ชามาถึงริมฝีปาก หรือ ครึ่งปากไม่รู้ ไม่แน่ใจ
จากนั้นพอผมยืนยันแล้วว่ามันชานิดเดียวจริง ๆ หมอก็ฉีดยาชาให้ผมเพิ่ม แล้วก็รออีก รอจนเบื่อตามเคย พอรอเสร็จหมอก็เดินมาหาผมแล้วถาม
"ชารึยังคะ ?" สิ่งที่ผมรู้สึกตอนนั้นคือมันชากว่าเดิม แต่ไม่ได้ถึงกับชาจนมาถึงริมฝีปากที่ผู้ช่วยชี้ไว้ ผมก็บอกไปตามนั้น
แล้วหมอก็ทำการฉีดยาชาให้ผมเพิ่ม แล้วก็ได้ยินหมอพูดกับผู้ช่วยสุดสวยประมาณว่า "เมื่อกี้ก็ถึงกระดูกแล้วนี้นา" ผมก็คิดในใจแล้วว่า "What the กระดูก. ผมมาถอนฟันไม่ได้มาตัดกราม" แล้วก็รอจนเบื่อครั้ง 3 ครั้งนี้ผมชาจนเกือบครึ่งปากเรียกได้ว่าเลยริมฝีปากมาเลย หมอรู้แล้ว หมอก็เอาเครื่องมือมาวางแล้วก็ให้ผมอ้าปากเพื่อทำการถอนฟันในทันใด
หมอก็เอาผ้าเขียว ๆ มาปิดหน้าผม "มีรูตรงปาก" หมอก็เอาอะไรไม่รู้เข้าปากผม แล้วถามว่า "เจ็บมั้ยคะ ?" ตอนนั้นผมไม่รู้สึกอะไร หมอก็เริ่มการถอนเลยเริ่มจากซี่บน หมอก็บอกว่า "ถ้ารู้สึกเจ็บหรือไม่ดี ก็ให้ยกมือขึ้นมากนะคะ"
ตอนที่หมอเขาเอาอะไรไม่รู้จับฟันแล้วโยกนิดโยกหน่อย ตอนนั้นผมโอเค ผมรู้สึกหน่วง ๆ พอรับได้ ผมได้ยินเสียงฟันหรือกระดุกไม่รู้ดังขึ้น "แกร๊ก~ ๆ"
จากนั้นหมอก็เอาอะไรไม่รู้ มันมีเสียงคล้าย สว่านหรือใบเลื่อย อะไรทำนองนั้นเข้ามาบดขยี้ฟันผมให้เป็นชิ้น ตอนนั้นผมบอกเลยว่า ผมเจ็บมากกกกกกกกกก
รู้สึกได้ถึงฟันที่โดนทำลาย ความรู้สึกมันร้าวจนขึ้นหัวเลยล่ะ แต่ผมก็ทนไว้ ไม่ยกมือบอกว่าเจ็บ แค่อยากให้มันจบ ๆ ไป เจ็บได้ไม่ถึง 1-2 นาทีหมอก็ทำการเอาฟันซี่บนผมออกสำเร็จ ตอนที่เอาออกเสร็จผมไม่เจ็บแล้ว
พอมาซี่ล่างใจผมเริ่มจะไม่ดีละ นิ้วเท้าผมเกร็งยิ่งกว่าการลุ้นหวยรางวัลที่ 1 //กลับเข้าเรื่องดีกว่า
หลังจากที่หมอได้ทำร้ายจิตใจและความเชื่อมั่นกับฟันซี่บนของผม 555+ ผมก็รู้สึกแย่ที่จะถอนซี่ถัดไปคือซี่ล่าง แต่ก็เก็บมันไว้ในใจ
หมอก็ทำการงัดฟันซี่ล่างของผม คราวนี้ผมรู้สึกหน่วง แต่เป็นความรู้สึกหน่วงที่มีความเจ็บและปวดอยู่ในนั้น และบอกได้เลยว่าเจ็บมากกกกกกกกกกกกกก
หมอก็งัดอยู่นั่นน่ะ หมอทุ่มสุดตัวในการงัดฟันซี่นี้ออก "ไม่ใช่มุกนะครับ หมอทุ่มสุดตัวจริง ๆ" จนหัวผมโยกไปตามตัวหมอเลย ผู้ช่วยแสนสวย ก็มาจับล็อคหัวผมไว้ แล้วหมอก็งัดแล้วงัด โอ้ววว ~ ทรมาน หลังจากนั้นหมอก็ทำอะไรไม่รู้อะ แต่ผมรู้สึกได้เลยว่าฟันผมมันหลุดออกจากเหงือกไปแล้ว
พอถอนเสร็จ หมอก็ทำอะไรต่อไม่รู้ แต่ผมได้ยินหมอเรียกชื่อผู้ช่วยแล้วพูดว่า "ไม่ถูก" ผมก็คิดแหละอะไรไม่ถูกฟร่ะ จากนั้นก็เป็นอันเสร็จพิธี
ผู้ช่วยอีกคนก็ให้คำแนะนำผมดีมาก ว่าควรจะทำอะไรยังไงต่อ
โอเคมาเข้าประเด็นกันดีกว่า 555+
หลังจากฟันเรื่องราวที่ผมกล่าวไป เลยอยากถามผู้ที่ชำนาญในเรื่องนี้หน่อยครับว่าสาเหตุมันมาจากอะไร จากเหตุการณ์นี้มันทำให้ผมกลัวการผ่าตัดไม่มีการวางยานอนหลับมาก เช่น เมื่อไม่นานมานี้ผมเข้ารับอิสลาม และคิดว่าซักวันผมจะต้องขริบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศ แต่ผมกลัว
กลัวไม่พอผมอายด้วย
ต้องบอกก่อนว่าตอนนั้นผมน้ำหนัก 140 กว่า ๆ สูง 179 ซม. แต่ตอนนี้ผมลดน้ำหนักเหลือ 110 กว่าแล้ว
ตอนนั้นผมก็ให้ความร่วมมือกับหมอและผู้ช่วยทุกอย่างเลย
ผมไม่โทษคลินิกนะครับ เพราะเป็นคลินิคที่ผมเชื่อใจ และบริการดีมาก ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์นี้ ผมเคยมาถอนฟันคุดที่นี่ 1 ซี่ แล้วหมอเขาทำไวมาก ตอนนั้นรู้สึกแค่หน่วง ๆ ไม่ถึงทันไรหมอบอกเสร็จแล้ว แต่แค่ครั้งนี้มันเจ็บเกิน
แล้วเหตุการณ์นี้ไม่ใช่ครั้งแรก ผมเคยถอนฟันที่อนามัย ตอนนั้นเจ็บยิ่งกว่านี้อีก ผมเลยเลือกและเชื่อใจคลินิกนี้ ว่าเขาจะทำให้ผมเจ็บน้อยที่สุดและทำให้เร็วที่สุด
ยาชาไม่ออกฤทธิ์ ขณะถอนฟันคุด ?
ปัญหาของผมคือฟันคุดซี่บนกับล่างมันโผล่ขึ้นมา ด้วยความที่สองซี่นี้มันขึ้นไม่ตรงกัน เวลากัดฟันจะรู้ได้เลยว่าฟันซี่บนมันกำลังบดฟัดซี่ล่างอยู่
ผมเลยตัดสินใจจะไปถอนออก ตัดภาพไปตอนที่ผมกำลังจะฉีดยาชาเลยละกัน หมอก็ฉีดยาชาตามปกติ ตอนฉีดไม่รู้สึกเจ็บอะไรมาก หมอมือเบามาก "ผู้ช่วยที่เป็นเด็กฝึกงานก็สวยด้วยเช่นกัน" เอาเป็นพอผมฉีดเสร็จหมอก็บอกให้ผมรอประมาณ 15-30 นาที ผมจำไม่ได้ แต่ผมรอนานมาก รอจนเบื่อ
หลังจากรอเสร็จ หมอก็เดินมาทางผมแล้วบอกว่า "ชารึยังคะ ?" ผมก็บอกกลับว่า "ชาครับ แต่รู้สึกชาน้อยมาก ชาตรงขากรรไกรเพียงเล็กน้อย"
พอผมบอกเสร็จ ผู้ช่วยหมอก็บอกผมและชี้ว่า "มันจะชาจนมาถึงบริเวณนี้เลยนะคะ" บริเวณนี้คือ ชามาถึงริมฝีปาก หรือ ครึ่งปากไม่รู้ ไม่แน่ใจ
จากนั้นพอผมยืนยันแล้วว่ามันชานิดเดียวจริง ๆ หมอก็ฉีดยาชาให้ผมเพิ่ม แล้วก็รออีก รอจนเบื่อตามเคย พอรอเสร็จหมอก็เดินมาหาผมแล้วถาม
"ชารึยังคะ ?" สิ่งที่ผมรู้สึกตอนนั้นคือมันชากว่าเดิม แต่ไม่ได้ถึงกับชาจนมาถึงริมฝีปากที่ผู้ช่วยชี้ไว้ ผมก็บอกไปตามนั้น
แล้วหมอก็ทำการฉีดยาชาให้ผมเพิ่ม แล้วก็ได้ยินหมอพูดกับผู้ช่วยสุดสวยประมาณว่า "เมื่อกี้ก็ถึงกระดูกแล้วนี้นา" ผมก็คิดในใจแล้วว่า "What the กระดูก. ผมมาถอนฟันไม่ได้มาตัดกราม" แล้วก็รอจนเบื่อครั้ง 3 ครั้งนี้ผมชาจนเกือบครึ่งปากเรียกได้ว่าเลยริมฝีปากมาเลย หมอรู้แล้ว หมอก็เอาเครื่องมือมาวางแล้วก็ให้ผมอ้าปากเพื่อทำการถอนฟันในทันใด
หมอก็เอาผ้าเขียว ๆ มาปิดหน้าผม "มีรูตรงปาก" หมอก็เอาอะไรไม่รู้เข้าปากผม แล้วถามว่า "เจ็บมั้ยคะ ?" ตอนนั้นผมไม่รู้สึกอะไร หมอก็เริ่มการถอนเลยเริ่มจากซี่บน หมอก็บอกว่า "ถ้ารู้สึกเจ็บหรือไม่ดี ก็ให้ยกมือขึ้นมากนะคะ"
ตอนที่หมอเขาเอาอะไรไม่รู้จับฟันแล้วโยกนิดโยกหน่อย ตอนนั้นผมโอเค ผมรู้สึกหน่วง ๆ พอรับได้ ผมได้ยินเสียงฟันหรือกระดุกไม่รู้ดังขึ้น "แกร๊ก~ ๆ"
จากนั้นหมอก็เอาอะไรไม่รู้ มันมีเสียงคล้าย สว่านหรือใบเลื่อย อะไรทำนองนั้นเข้ามาบดขยี้ฟันผมให้เป็นชิ้น ตอนนั้นผมบอกเลยว่า ผมเจ็บมากกกกกกกกกก
รู้สึกได้ถึงฟันที่โดนทำลาย ความรู้สึกมันร้าวจนขึ้นหัวเลยล่ะ แต่ผมก็ทนไว้ ไม่ยกมือบอกว่าเจ็บ แค่อยากให้มันจบ ๆ ไป เจ็บได้ไม่ถึง 1-2 นาทีหมอก็ทำการเอาฟันซี่บนผมออกสำเร็จ ตอนที่เอาออกเสร็จผมไม่เจ็บแล้ว
พอมาซี่ล่างใจผมเริ่มจะไม่ดีละ นิ้วเท้าผมเกร็งยิ่งกว่าการลุ้นหวยรางวัลที่ 1 //กลับเข้าเรื่องดีกว่า
หลังจากที่หมอได้ทำร้ายจิตใจและความเชื่อมั่นกับฟันซี่บนของผม 555+ ผมก็รู้สึกแย่ที่จะถอนซี่ถัดไปคือซี่ล่าง แต่ก็เก็บมันไว้ในใจ
หมอก็ทำการงัดฟันซี่ล่างของผม คราวนี้ผมรู้สึกหน่วง แต่เป็นความรู้สึกหน่วงที่มีความเจ็บและปวดอยู่ในนั้น และบอกได้เลยว่าเจ็บมากกกกกกกกกกกกกก
หมอก็งัดอยู่นั่นน่ะ หมอทุ่มสุดตัวในการงัดฟันซี่นี้ออก "ไม่ใช่มุกนะครับ หมอทุ่มสุดตัวจริง ๆ" จนหัวผมโยกไปตามตัวหมอเลย ผู้ช่วยแสนสวย ก็มาจับล็อคหัวผมไว้ แล้วหมอก็งัดแล้วงัด โอ้ววว ~ ทรมาน หลังจากนั้นหมอก็ทำอะไรไม่รู้อะ แต่ผมรู้สึกได้เลยว่าฟันผมมันหลุดออกจากเหงือกไปแล้ว
พอถอนเสร็จ หมอก็ทำอะไรต่อไม่รู้ แต่ผมได้ยินหมอเรียกชื่อผู้ช่วยแล้วพูดว่า "ไม่ถูก" ผมก็คิดแหละอะไรไม่ถูกฟร่ะ จากนั้นก็เป็นอันเสร็จพิธี
ผู้ช่วยอีกคนก็ให้คำแนะนำผมดีมาก ว่าควรจะทำอะไรยังไงต่อ
โอเคมาเข้าประเด็นกันดีกว่า 555+
หลังจากฟันเรื่องราวที่ผมกล่าวไป เลยอยากถามผู้ที่ชำนาญในเรื่องนี้หน่อยครับว่าสาเหตุมันมาจากอะไร จากเหตุการณ์นี้มันทำให้ผมกลัวการผ่าตัดไม่มีการวางยานอนหลับมาก เช่น เมื่อไม่นานมานี้ผมเข้ารับอิสลาม และคิดว่าซักวันผมจะต้องขริบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศ แต่ผมกลัว
กลัวไม่พอผมอายด้วย
ต้องบอกก่อนว่าตอนนั้นผมน้ำหนัก 140 กว่า ๆ สูง 179 ซม. แต่ตอนนี้ผมลดน้ำหนักเหลือ 110 กว่าแล้ว
ตอนนั้นผมก็ให้ความร่วมมือกับหมอและผู้ช่วยทุกอย่างเลย
ผมไม่โทษคลินิกนะครับ เพราะเป็นคลินิคที่ผมเชื่อใจ และบริการดีมาก ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์นี้ ผมเคยมาถอนฟันคุดที่นี่ 1 ซี่ แล้วหมอเขาทำไวมาก ตอนนั้นรู้สึกแค่หน่วง ๆ ไม่ถึงทันไรหมอบอกเสร็จแล้ว แต่แค่ครั้งนี้มันเจ็บเกิน
แล้วเหตุการณ์นี้ไม่ใช่ครั้งแรก ผมเคยถอนฟันที่อนามัย ตอนนั้นเจ็บยิ่งกว่านี้อีก ผมเลยเลือกและเชื่อใจคลินิกนี้ ว่าเขาจะทำให้ผมเจ็บน้อยที่สุดและทำให้เร็วที่สุด