🪓🔪🔨
เป็นหนังที่ #Netflix โปรโมทค่อนข้างเยอะ ด้วยความเป็นหนังสยองขวัญไล่ฆ่าที่ทำออกมาเป็นไตรภาคออกมาฉาย ซึ่งแต่ละภาคก็จะเล่าเรื่องราวในแต่ละช่วงเวลาที่จะพูดถึงเรื่องราวของฆาตกรที่ออกมาไล่ฆ่าคนจนเป็นที่กล่าวขาน ซึ่งทั้งสามภาคมีจุดเกี่ยวเนื่องกันคือเรื่องของคำสาปอาถรรพ์ของ ซาร่าห์ เฟียร์ ที่มีต่อเมือง เชดี้ไซด์ มาหลายชั่วอายุคน ผมจะรีวิคร่าวๆ แยกเป็นแต่ละภาค แล้วสรุปให้ฟังอีกทีละกัน
🪓🔪🔨
ภาคแรก FEAR STREET 1994 เล่าถึงเหตุการณ์ ในปี ค.ศ. 1994 เมืองเชดี้ไลด์ เมืองเล็กๆ ที่มีเหตุก่ออาชญากรรมสูง เกิดเหตุโศกนาฏกรรมบ่อยเกือบทุกวัน ซึ่งตรงข้ามกับเมืองข้างๆ อย่างซันนี่เวล เมืองที่เต็มไปด้วยความมั่งคั่งและความสงบสุข ดีน่า จากเมือง เชดี้ไซด์ กับอดีตแฟนสาว แซม หญิงสาวจากไฮสคูลเมืองซันนี่เวล ขณะที่แฟนใหม่ของแซมได้ตามไปป่วนพวกนักเรียนจากเมืองเชดี้ไลด์ ก็ทำให้เกิดอุบัติเหตุรถยนตร์พลัดตกถนน ซึ่งในรถคันนั้นก็มีแซมนั่งไปด้วย หลังจากเหตุการณ์อุบัติเหตุนั้น แซมเริ่มมีความผิดปกติเกิดขึ้นเริ่มเห็นภาพแม่มดบางอย่าง ในขณะเดียวกัน คืนนั้นก็เริ่มมีคนที่สวมหน้ากากผีออกไล่ฆ่าคน แถมยังมีฆาตกรหญิงสาวที่ถือมีดโกนหนวด ตามไล่ฆ่าพร้อมกับร้องเพลงบทกลอนไปด้วย และฆาตกรที่ถือขวานวิ่งตามไล่ฆ่า ซึ่งฆาตกรเหล่านี้ จอช ที่เป็นน้องชายของดีน่า ก็ได้สันนิษฐานว่า ฆาตกรที่ไล่ฆ่าพวกเขาอาจจะเป็นลูกสมุนของแม่มดอย่าง ซาร่าห์ เฟียร์ ที่ต้องการตัวและเลือดของแซม ดีน่า เคท จอช และไซม่อน จึงรีบพาแซมหนีฆาตกรที่ตามไล่ฆ่า
🪓🔪🔨
ในภาคแรกนี้ เนื้อเรื่องจะเหมือนเอาหนังสยงอขวัญในอีดตมายำรวมกันเป็นหนังเรื่องใหม่อีกหนึ่งเรื่องขึ้นมา โดยการนำพาเอาตัวละครที่คลับคล้ายคลับคลากับหนังสยองขวัญในอีดที่เราคุ้นเคยมาปรับเปลี่ยนเล็กน้อยให้ไม่เหมือนซะเต็มๆ แล้วก็เอามาผูกกับคำสาปของ ซาร่าห์ เฟียร์ ที่ดูเหมือนกับจะเป็นผู้ปลุกฆาตกรต่อเนื่องพวกนี้ขึ้นมา ซึ่งด้วยตัวคอนเซ็ปต์ มันปูมาได้น่าสนใจพอสมควร เราจะได้ลุ้นว่า หนังจะเอาตัวละครเหล่านี้ออกมาใช้ให้คุ้มได้ยังไง แล้วจะวางเรื่องราวต่อเนื่องไปจนถึงภาคสามได้ยังไงบ้าง แต่หนังก็เล่าแบบงงๆ และยังใช้ตัวละครเหล่านั้นแบบผ่านๆ ไม่คุ้มค่ากับที่นำตัวละครพวกนั้นเข้ามาเปิดเรื่องด้วยซ้ำ หนังช่วงครึ่งต้นเดินเรื่องได้แบบเอื่อยๆ ใส่รายละเอียดมาเยอะมาก ซึ่งพอดูจนจบทั้งสามภาคจะพบว่า รายละเอียดบางอย่างก็ไม่ได้มีอะไรเป็นจุดสำคัญเลย แต่หนังก็ใส่เข้ามาทำให้ลากยาวเกินกว่าที่ควรจะเป็น พอมาครึ่งหลัง หนังกลับเร่งสปีดเรื่องราวจนดูแล้วไม่มีความน่ากลัวอะไรเลย เพราะหนังไล่ฆ่าตัวละครแบบอยากจะฆ่าให้หนังจบๆ ไป ซึ่งสุดท้าย หนังก็ทิ้งปมปริศนาไว้เพื่อให้ไปดูภาคสองต่อ
🪓🔪🔨
ภาคสอง FEAR STREET 1978 เล่าเรื่องราวเกิดจากดีนาและน้องชายจอร์ช ได้เข้าไปขอความช่วยเหลือจาก ‘ซี เบอร์แมน’ ผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ฆาตกรรมสังหารหมู่ที่ค่ายฤดูร้อน Nightwing ที่เชดี้ไซด์ ย้อนกลับไปในปี 1978 มีข่าวว่าลูกสาวของพยาบาลคนหนึ่งได้ทำการฆาตกรรมสังหารโหดกลุ่มเพื่อน ซึ่งข่าวนี้เองก็ทำให้พยาบาลเลนได้ตามหาอะไรบางอย่างที่ถ้ำลับที่อยู่ในป่า เพื่อลบล้างตราบาป และตอนนั้นเองที่เธอต้องการฆ่าทอมมี่ แฟนหนุ่มของซินดี้ เพราะในคืนนั้นเขาจะต้องโดนคำสาปร้ายแต่แล้วเธอโดนจับและก็ถูกมองว่าเธอนั้นบ้าและกินยาจนทำให้ประสาทหลอน แต่แล้วในค่ำคืนนั้นเองก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน นั้นคือการไล่ฆาตกรรมสังหารโหดจากทอมมี่ ..
🪓🔪🔨
ในภาคสอง หนังเล่าต่อเนื่องจากปมที่ทิ้งท้ายไว้ในภาคแรก โดยการที่ ดีน่า กับ จอช ไปตามหาผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ฆาตกรรมสังหารหมู่ในปี 1978 ซึ่งเมื่อเจอตัว เรื่องก็ย้อนกลับไปเล่าถึงเหตุการณ์ในตอนนั้น ในภาคนี้ผมว่าเป็นภาคที่เล่าเรื่องได้จืดที่สุดในจำนวนทั้งสามภาค หนังเล่าถึงค่ายฤดูร้อนที่มีนักเรียนมารวมตัวกัน แล้วทอมมี่ก็โดนคำสาปเข้าสิงจนไล่ฆ่าเด็กในค่าย ซึ่งหนังค่อนข้างจะอ้างอิง Friday the 13th มาเต็มๆ แต่ความน่ากลัวสยองขวัญสู้ไม่ได้ การเล่าเรื่องถึงแม้จะไม่เอื่อย แต่กลับเล่าแบบเป็นเส้นตรงทื่อๆ เลย จุดที่เกี่ยวโยงกับปริศนาที่ปูไว้ มีเพียงแค่ ชีกกี้ และตัวฆาตกรเท่านั้น เรื่องราวของคำสาป หรือเรื่องราวของฆาตกรตัวอื่นๆ นี่ไม่มีออกมาให้เห็นเลย มันเลยกลายเป็นเรื่องที่พูดถึงเรื่องเดียวที่ซ้ำกับหนังในอดีตที่ลอกมาเกือบทั้งดุ้น แต่ทำได้ไม่ใกล้เคียง ฉากสยองขวัญทำได้โหด แต่เหมือนยังมีกั๊กๆ ไม่ไปให้สุดสักทาง แม้แต่ตอนจบก็ยังไม่ได้ปูอะไรไปสู่ภาคสามที่ชัดเจนเหมือนภาคแรก
🪓🔪🔨
มาถึงภาคสาม FEAR STREET 1666 ดีน่าได้ย้อนกลับไปในปี 1666 ที่มีเรื่องของการล่าแม่มดเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยใน เชดี้ ดซด์ เกิดเหตุการณ์แปลกประหลาดที่มีคนตายเป็นกลุ่มใหญ่ ซึ่งเหตุการณ์นี้ถูกป้ายความผิดให้แก่ ผู้หญิง ที่ชื่อ ซาร่าห์ เฟียร์ เพราะเธอมีความรักนอกรตกับผู้หญิงด้วยกันที่ชื่อ แฮนน่าห์ มิลเลอร์ แต่เรื่องนี้เกิดจาก ซาร่าห์ เฟียร์ จริงหรือไม่ ปมปริศนาของทั้งสามภาคจะถูกเฉลยในภาคนี้
🪓🔪🔨
ภาคนี้แบ่งเป็น Part 1 และ Part 2 โดยใน Part แรก เป็นการย้อนไปถึงเรื่องราวของ ซาร่าห์ เฟียร์ ในอดีต โดยใช้แกรหลักของเรื่องเป็นความเชื่อเหี่ยวกับการล่าแม่มด ซึ่งบรรยากาศให้ความหลอนพอตัว ความเจ๋งของภาคต้นนี้ คือการที่หนังเอาตัวละครทุกตัวของทั้งสองภาค มารวมกันเป็นสมาชิกในหมู่บ้านที่มีความเกี่ยวโยงกับเรื่องราวทั้งหมด และสามารถบอกได้ด้วยว่า แต่ละคนมีบทบาทอะไรกับเรื่องราวนี้ ไม่ใช่แค่เอามาใส่ไว้ให้ครบ จนถึงบทสรุปสุดท้ายว่าทำไป ซาร่าห์ เฟียร์ ถึงได้เคียดแค้นและสาป เชดี้ ไซด์ ขนาดนั้น
🪓🔪🔨
ใน Part ที่สอง หนังกลับมาสู่ปี 1994 เพื่อสรุปปมปัญหาทั้งหมด ตัวละครผีร้ายทุกตัวถูกเอามารวมัวกันป่วนใน Part นี้ทั้งหมด หนังกลับมาเป็นหนังเชือดสยองอีกครั้ง ผสมกับคอนเซ็ปต์ตัวประหลาดที่ออกมาวิ่งไล่ฆ่าคน ดูแล้วก็ลุ้นสนุกไปอีกแบบ ซึ่งหนังเดินมาได้เกือบจะดีแล้ว เสียอย่างเดียวคือทุกอย่างมันจบแบบง่ายดายเกินไปนิด อุตส่าห์ลุ้นมาตั้งนาน
🪓🔪🔨
โดยรวมแล้ว หนังไตรภาคชุดนี้เหมือนกับจะเป็นมินิซีรี่ส์ตอนละสองชั่วโมงที่ให้ดูต่อเนื่องกัน แล้วจะได้อารมณ์มากกว่าจะดูแล้วทิ้งช่วง เพราะหนังมันจะโยงใยทุกอย่างให้มาพัวพันกันและปิดบทสรุปได้ดี หนังทำให้นึกถึงหนังสยองขวัญในยุค 90 หลายเรื่องมาก ลุ้นสนุกพอได้อยู่ ในส่วนของความสยองขวัญก็ถือว่าโอเค เอาเป็นว่าถ้ามีเวลายาวๆ ก็ดูได้สนุกอยู่ครับ
ชอบอ่านรีวิวหนัง แวะมาพูดคุยกันได้นะครับ >>>
https://www.facebook.com/DooNangGunMai
[CR] [#Review] Fear Street ถนนอาถรรพ์ - ไตรภาคหนังสยองขวัญเหมือนดูหนังหลายๆ เรื่องในสามภาค ปูเรื่องดี เดินเรื่องจืด บทสรุปดี
🪓🔪🔨
เป็นหนังที่ #Netflix โปรโมทค่อนข้างเยอะ ด้วยความเป็นหนังสยองขวัญไล่ฆ่าที่ทำออกมาเป็นไตรภาคออกมาฉาย ซึ่งแต่ละภาคก็จะเล่าเรื่องราวในแต่ละช่วงเวลาที่จะพูดถึงเรื่องราวของฆาตกรที่ออกมาไล่ฆ่าคนจนเป็นที่กล่าวขาน ซึ่งทั้งสามภาคมีจุดเกี่ยวเนื่องกันคือเรื่องของคำสาปอาถรรพ์ของ ซาร่าห์ เฟียร์ ที่มีต่อเมือง เชดี้ไซด์ มาหลายชั่วอายุคน ผมจะรีวิคร่าวๆ แยกเป็นแต่ละภาค แล้วสรุปให้ฟังอีกทีละกัน
🪓🔪🔨
ภาคแรก FEAR STREET 1994 เล่าถึงเหตุการณ์ ในปี ค.ศ. 1994 เมืองเชดี้ไลด์ เมืองเล็กๆ ที่มีเหตุก่ออาชญากรรมสูง เกิดเหตุโศกนาฏกรรมบ่อยเกือบทุกวัน ซึ่งตรงข้ามกับเมืองข้างๆ อย่างซันนี่เวล เมืองที่เต็มไปด้วยความมั่งคั่งและความสงบสุข ดีน่า จากเมือง เชดี้ไซด์ กับอดีตแฟนสาว แซม หญิงสาวจากไฮสคูลเมืองซันนี่เวล ขณะที่แฟนใหม่ของแซมได้ตามไปป่วนพวกนักเรียนจากเมืองเชดี้ไลด์ ก็ทำให้เกิดอุบัติเหตุรถยนตร์พลัดตกถนน ซึ่งในรถคันนั้นก็มีแซมนั่งไปด้วย หลังจากเหตุการณ์อุบัติเหตุนั้น แซมเริ่มมีความผิดปกติเกิดขึ้นเริ่มเห็นภาพแม่มดบางอย่าง ในขณะเดียวกัน คืนนั้นก็เริ่มมีคนที่สวมหน้ากากผีออกไล่ฆ่าคน แถมยังมีฆาตกรหญิงสาวที่ถือมีดโกนหนวด ตามไล่ฆ่าพร้อมกับร้องเพลงบทกลอนไปด้วย และฆาตกรที่ถือขวานวิ่งตามไล่ฆ่า ซึ่งฆาตกรเหล่านี้ จอช ที่เป็นน้องชายของดีน่า ก็ได้สันนิษฐานว่า ฆาตกรที่ไล่ฆ่าพวกเขาอาจจะเป็นลูกสมุนของแม่มดอย่าง ซาร่าห์ เฟียร์ ที่ต้องการตัวและเลือดของแซม ดีน่า เคท จอช และไซม่อน จึงรีบพาแซมหนีฆาตกรที่ตามไล่ฆ่า
🪓🔪🔨
ในภาคแรกนี้ เนื้อเรื่องจะเหมือนเอาหนังสยงอขวัญในอีดตมายำรวมกันเป็นหนังเรื่องใหม่อีกหนึ่งเรื่องขึ้นมา โดยการนำพาเอาตัวละครที่คลับคล้ายคลับคลากับหนังสยองขวัญในอีดที่เราคุ้นเคยมาปรับเปลี่ยนเล็กน้อยให้ไม่เหมือนซะเต็มๆ แล้วก็เอามาผูกกับคำสาปของ ซาร่าห์ เฟียร์ ที่ดูเหมือนกับจะเป็นผู้ปลุกฆาตกรต่อเนื่องพวกนี้ขึ้นมา ซึ่งด้วยตัวคอนเซ็ปต์ มันปูมาได้น่าสนใจพอสมควร เราจะได้ลุ้นว่า หนังจะเอาตัวละครเหล่านี้ออกมาใช้ให้คุ้มได้ยังไง แล้วจะวางเรื่องราวต่อเนื่องไปจนถึงภาคสามได้ยังไงบ้าง แต่หนังก็เล่าแบบงงๆ และยังใช้ตัวละครเหล่านั้นแบบผ่านๆ ไม่คุ้มค่ากับที่นำตัวละครพวกนั้นเข้ามาเปิดเรื่องด้วยซ้ำ หนังช่วงครึ่งต้นเดินเรื่องได้แบบเอื่อยๆ ใส่รายละเอียดมาเยอะมาก ซึ่งพอดูจนจบทั้งสามภาคจะพบว่า รายละเอียดบางอย่างก็ไม่ได้มีอะไรเป็นจุดสำคัญเลย แต่หนังก็ใส่เข้ามาทำให้ลากยาวเกินกว่าที่ควรจะเป็น พอมาครึ่งหลัง หนังกลับเร่งสปีดเรื่องราวจนดูแล้วไม่มีความน่ากลัวอะไรเลย เพราะหนังไล่ฆ่าตัวละครแบบอยากจะฆ่าให้หนังจบๆ ไป ซึ่งสุดท้าย หนังก็ทิ้งปมปริศนาไว้เพื่อให้ไปดูภาคสองต่อ
🪓🔪🔨
ภาคสอง FEAR STREET 1978 เล่าเรื่องราวเกิดจากดีนาและน้องชายจอร์ช ได้เข้าไปขอความช่วยเหลือจาก ‘ซี เบอร์แมน’ ผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ฆาตกรรมสังหารหมู่ที่ค่ายฤดูร้อน Nightwing ที่เชดี้ไซด์ ย้อนกลับไปในปี 1978 มีข่าวว่าลูกสาวของพยาบาลคนหนึ่งได้ทำการฆาตกรรมสังหารโหดกลุ่มเพื่อน ซึ่งข่าวนี้เองก็ทำให้พยาบาลเลนได้ตามหาอะไรบางอย่างที่ถ้ำลับที่อยู่ในป่า เพื่อลบล้างตราบาป และตอนนั้นเองที่เธอต้องการฆ่าทอมมี่ แฟนหนุ่มของซินดี้ เพราะในคืนนั้นเขาจะต้องโดนคำสาปร้ายแต่แล้วเธอโดนจับและก็ถูกมองว่าเธอนั้นบ้าและกินยาจนทำให้ประสาทหลอน แต่แล้วในค่ำคืนนั้นเองก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน นั้นคือการไล่ฆาตกรรมสังหารโหดจากทอมมี่ ..
🪓🔪🔨
ในภาคสอง หนังเล่าต่อเนื่องจากปมที่ทิ้งท้ายไว้ในภาคแรก โดยการที่ ดีน่า กับ จอช ไปตามหาผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ฆาตกรรมสังหารหมู่ในปี 1978 ซึ่งเมื่อเจอตัว เรื่องก็ย้อนกลับไปเล่าถึงเหตุการณ์ในตอนนั้น ในภาคนี้ผมว่าเป็นภาคที่เล่าเรื่องได้จืดที่สุดในจำนวนทั้งสามภาค หนังเล่าถึงค่ายฤดูร้อนที่มีนักเรียนมารวมตัวกัน แล้วทอมมี่ก็โดนคำสาปเข้าสิงจนไล่ฆ่าเด็กในค่าย ซึ่งหนังค่อนข้างจะอ้างอิง Friday the 13th มาเต็มๆ แต่ความน่ากลัวสยองขวัญสู้ไม่ได้ การเล่าเรื่องถึงแม้จะไม่เอื่อย แต่กลับเล่าแบบเป็นเส้นตรงทื่อๆ เลย จุดที่เกี่ยวโยงกับปริศนาที่ปูไว้ มีเพียงแค่ ชีกกี้ และตัวฆาตกรเท่านั้น เรื่องราวของคำสาป หรือเรื่องราวของฆาตกรตัวอื่นๆ นี่ไม่มีออกมาให้เห็นเลย มันเลยกลายเป็นเรื่องที่พูดถึงเรื่องเดียวที่ซ้ำกับหนังในอดีตที่ลอกมาเกือบทั้งดุ้น แต่ทำได้ไม่ใกล้เคียง ฉากสยองขวัญทำได้โหด แต่เหมือนยังมีกั๊กๆ ไม่ไปให้สุดสักทาง แม้แต่ตอนจบก็ยังไม่ได้ปูอะไรไปสู่ภาคสามที่ชัดเจนเหมือนภาคแรก
🪓🔪🔨
มาถึงภาคสาม FEAR STREET 1666 ดีน่าได้ย้อนกลับไปในปี 1666 ที่มีเรื่องของการล่าแม่มดเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยใน เชดี้ ดซด์ เกิดเหตุการณ์แปลกประหลาดที่มีคนตายเป็นกลุ่มใหญ่ ซึ่งเหตุการณ์นี้ถูกป้ายความผิดให้แก่ ผู้หญิง ที่ชื่อ ซาร่าห์ เฟียร์ เพราะเธอมีความรักนอกรตกับผู้หญิงด้วยกันที่ชื่อ แฮนน่าห์ มิลเลอร์ แต่เรื่องนี้เกิดจาก ซาร่าห์ เฟียร์ จริงหรือไม่ ปมปริศนาของทั้งสามภาคจะถูกเฉลยในภาคนี้
🪓🔪🔨
ภาคนี้แบ่งเป็น Part 1 และ Part 2 โดยใน Part แรก เป็นการย้อนไปถึงเรื่องราวของ ซาร่าห์ เฟียร์ ในอดีต โดยใช้แกรหลักของเรื่องเป็นความเชื่อเหี่ยวกับการล่าแม่มด ซึ่งบรรยากาศให้ความหลอนพอตัว ความเจ๋งของภาคต้นนี้ คือการที่หนังเอาตัวละครทุกตัวของทั้งสองภาค มารวมกันเป็นสมาชิกในหมู่บ้านที่มีความเกี่ยวโยงกับเรื่องราวทั้งหมด และสามารถบอกได้ด้วยว่า แต่ละคนมีบทบาทอะไรกับเรื่องราวนี้ ไม่ใช่แค่เอามาใส่ไว้ให้ครบ จนถึงบทสรุปสุดท้ายว่าทำไป ซาร่าห์ เฟียร์ ถึงได้เคียดแค้นและสาป เชดี้ ไซด์ ขนาดนั้น
🪓🔪🔨
ใน Part ที่สอง หนังกลับมาสู่ปี 1994 เพื่อสรุปปมปัญหาทั้งหมด ตัวละครผีร้ายทุกตัวถูกเอามารวมัวกันป่วนใน Part นี้ทั้งหมด หนังกลับมาเป็นหนังเชือดสยองอีกครั้ง ผสมกับคอนเซ็ปต์ตัวประหลาดที่ออกมาวิ่งไล่ฆ่าคน ดูแล้วก็ลุ้นสนุกไปอีกแบบ ซึ่งหนังเดินมาได้เกือบจะดีแล้ว เสียอย่างเดียวคือทุกอย่างมันจบแบบง่ายดายเกินไปนิด อุตส่าห์ลุ้นมาตั้งนาน
🪓🔪🔨
โดยรวมแล้ว หนังไตรภาคชุดนี้เหมือนกับจะเป็นมินิซีรี่ส์ตอนละสองชั่วโมงที่ให้ดูต่อเนื่องกัน แล้วจะได้อารมณ์มากกว่าจะดูแล้วทิ้งช่วง เพราะหนังมันจะโยงใยทุกอย่างให้มาพัวพันกันและปิดบทสรุปได้ดี หนังทำให้นึกถึงหนังสยองขวัญในยุค 90 หลายเรื่องมาก ลุ้นสนุกพอได้อยู่ ในส่วนของความสยองขวัญก็ถือว่าโอเค เอาเป็นว่าถ้ามีเวลายาวๆ ก็ดูได้สนุกอยู่ครับ
ชอบอ่านรีวิวหนัง แวะมาพูดคุยกันได้นะครับ >>> https://www.facebook.com/DooNangGunMai
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้