https://www.khaosod.co.th/politics/news_6682147

กรณีเงินในบัญชีธนาคาร, บัตรเครดิต, บัตรเดบิต ของประชาชนจำนวนมากถูกทำธุรกรรมโอนเงินหรือตัดยอดเงิน (ในข่าวใช้คำว่า ดูด) ยังไม่เห็น action ที่ควรเป็นจากทั้งฝั่งธนาคาร และรัฐบาลเลยค่ะ

1. ฝั่งธนาคารรีบออกมาแถลงว่าข้อมูลไม่ได้รั่วจากทางธนาคาร แต่มาจากร้านค้าออนไลน์ที่จดทะเบียนในต่างประเทศ โอเค…รับทราบค่ะ แต่ระบบ securit ของธนาคารต่ำไปมั้ย? ที่ถูกที่ควร ควรจะ verify ได้ว่าธุรกรรมนั้นๆ เจ้าของบัญชี/เจ้าของบัตรเป็นคนดำเนินการเองมั้ยคะ? เมื่อเกิดเหตุ ควร detect การทำรายการซ้ำๆ และสั่งล๊อคบัญชีได้ตั้งแต่ครั้งที่ 2 แล้ว ทำไมปล่อยให้ถูกทำรายการไปเรื่อยๆ?

ธนาคารควรเร่งเยียวยาให้ผู้เสียหายโดยเร็วค่ะ ยิ่งสถานการณ์แบบนี้ ทั้งโควิด ทั้งน้ำท่วม บางบัญชีคือเงินก้อนสุดท้ายสำหรับใช้จ่ายในครัวเรือนด้วยซ้ำไป

2. ผู้เสียหายเบื้องต้นน่าจะหลายหมื่นราย มูลค่าความเสียหายน่าจะระดับร้อยล้านบาทขึ้นไปแล้วค่ะตอนนี้ "ธนาคารแห่งประเทศไทย" และ "กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม" กำลังทำอะไรอยู่? นี่คือสิ่งที่ประชาชนต้องการเห็นค่ะ
2.1) หยุดยั้งความเสียหายที่เกิดขึ้น จนถึงตอนนี้ยังเห็นคนยังคงโดนกันต่อไป มีแจ้งในเพจเข้ามาเรื่อยๆ
2.2) หาตัวผู้กระทำผิดให้ได้ และต้องนำมาเปิดเผยต่อสังคม (เข้าใจว่าเข้าข่ายลักทรัพย์ คดีอาญานะคะ ไม่ใช่คดีแพ่ง) รวมถึงการดำเนินคดีด้วย ถ้าหากเคสนี้ลอยนวลได้ เชื่อว่ามีตามมาอีกไม่จบไม่สิ้นค่ะ คุ้มจะตาย…แฮกได้ที สบายทั้งชีวิต และตอนนี้ประชาชนก็เสียความเชื่อมั่นในระบบแล้ว

รอดูบทสรุปต่อไปค่ะ