MSI ในตระกูล ALPHA นั้นถือว่าน่าสนใจเพราะว่ามาพร้อมกับการอัปเดตสเปกใหม่ทั้งหมดเป็นตัว RX6600M และแน่นอนว่าใช้งาน RYZEN 7 5800H จากทาง AMD ซึ่งทำให้รุ่นนี้จะได้มาตรฐานรองรับ AMD Advantage edition ซึ่งทาง AMD เปิดตัวมาตรฐานใหม่ของโน้ตบุ๊กที่ใช้ซีพียู Ryzen 5000 และจีพียู Radeon 6000 เป็นมาตรฐานการออกแบบโน้ตบุ๊กคล้าย Intel Evo ต่างกันตรงที่ Intel Evo เน้นประสิทธิภาพและแบตเตอรี่ในโน้ตบุ๊กชนิดบางเบา แต่ AMD Advantage เน้นประสิทธิภาพการเล่นเกม ซึ่งจะต้องใช้ซีพียูตระกูล Ryzen 5000 และจีพียู Radeon 6000 ร่วมกับซอฟต์แวร์ไดรเวอร์ของ AMD + รองรับเทคโนโลยี Smart Access Memory เชื่อมต่อซีพียู-จีพียูโดยตรง และระบบจัดการพลังงานในโน้ตบุ๊ก SmartShift ของ AMD พร้อมกับ หน้าจอต้องสว่างอย่างน้อย 300 nits แสดงผลมาตรฐานสี sRGB ได้ 100% หรือ NTSC 72% อัตรารีเฟรชขั้นต่ำ 144Hz ดีเลย์ต่ำ (low latency) และรองรับ AMD Freesync รวมถึง มี SSD NVME PCIE Gen 3 อย่างน้อยหนึ่งตัว และอันนี้น่าสนใจว่าต้องมี อุณหภูมิ ณ ตำแหน่งปุ่ม WASD ต่ำกว่า 40 องศาเสมอ และ แบตอึด เล่นวีดีโอด้วยแบตเตอรี่ได้อย่างน้อย 10 ชั่วโมง ถือว่าเป็นมาตรฐานที่เน้นในเรื่องประสิทธิภาพโหดและยาก แต่ทาง ALPHA 15 ผ่านสบาย
MSI Alpha 15 B5EEK-026TH ในรุ่นที่เรารีวิวนี้จะมาพร้อมกับ Ryzen™ 7 5800H ความเร็ว 3.20 – 4.40GHz โดยเป็นแบบ 8 คอร์ 16 เธรด และใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ 7 นาโนเมตร มาด้วยการ์ดจอ Radeon RX6600M, GDDR6 8GB พร้อมกับ RAM 16GB DDR-IV 8GB*2 (3200MHz) และ 512GB NVMe PCIe Gen3x4 SSD ส่วนทางด้านหน้าจอใช้งานขนาด 15.6″ FHD (1920*1080), พร้อมกับรีเฟรชเรท 144Hz 72% NTSC ใช้งานหน้าจอ IPS-Level, ค่าสีใกล้เคียง 100% sRGB ส่วนทางด้านเชื่อมต่อไร้สายให้มาพร้อมกับ Intel Wi-Fi 6 AX200(2*2 ax)+BT5.1 และทางด้านพอร์ตเชื่อมต่อใช้งาน USB-A 3.2 GEN 1 และ USB-C 3.2 GEN 1 ให้มาครบพร้อมใช้งานรวมถึง HDMI / RJ45 นั้นยังคงใส่เข้ามาไม่ตัดไปไหน และแน่นอนว่าเรื่องของระบบเสียงให้ระบบเสียง HI-RES AUDIO เข้ามาในการฟังเพลงแบบสาย และ โปรแกรม NAHIMIC ก็ยังคงใส่เข้ามาเป็นเอกลักษณ์ค่ายนี้ ทำงานร่วมกับลำโพงคู่ 2WX2 และทางด้านระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home ที่การันตีการอัปเดตไป Windows 11 ได้ทันที และมาพร้อมกับ ประกัน 2 ปี Warranty
PRICE
MSI Alpha 15 B5EEK-026TH : RYZEN 7 5800H + RM6600M RAM 16GB SSD 512GB ราคา 48,490 บาท
UNBOX
- ตัวเครื่อง MSI ALPHA 15 AMD ADVANTAGE
- ที่ชาร์จ ADAPTOR 180W
- คู่มือ ในการใช้งาน และ รายละเอียดรับประกัน
- MSI Essential Backpack
DESIGN
งานออกแบบนั้นยังคงมีความเป็น ALPHA แต่พัฒนาเส้นสายหลายๆส่วนให้มีความเรียบง่ายขึ้นแต่ยังคงการออกแบบคล้ายกับรุ่นก่อนๆเช่นกัน และแน่นอนว่ารุ่นนี้จะใช้งานโลโก้ที่แอบคล้ายกับ BRAVO แต่จะเป็นการใส่ดีเทลให้ดูดีขึ้นและอยู่ในระดับสเปกที่โหดขึ้นไปกว่าเดิม ตัวเครื่องมาพร้อมกับวัสดุพลาสติก และ โลหะผสมกันไปซึ่งฝาด้านหลังจะเป็นโลหะด้วยถือว่าแข็งแรงและสวยงาม ส่วนด้านในจะยังคงเห็นความเขียวของแป้นพิมพ์เป็นมาตรฐานแต่ก็สามารถเปลี่ยนสีได้ทั้งหมดแต่จะเป็นแบบ 1 Zone นะครับ ส่วนเรื่องขนาดและน้ำหนักก็ถือว่าปกติของบรรดา Gaming ที่อาจจะไม่ได้เน้นในเรื่องของการพกพาอะไรมากนัก และ เน้นการระบายความร้อนทำให้ตัวเครื่องก็ถือว่าหนาระดับนึง
ตัวเครื่องนั้นถือว่าคุณภาพงานประกอบอะไรทำได้ดีเช่นกัน และที่ค่อนข้างชอบคือสามารถเปิดฝาแบบมือเดียวได้สบายๆเช่นกันทำให้ใช้งานจริงได้ดี รวมถึงข้อพับอะไรต่างๆแข็งแรงแน่นหนา และแน่นอนว่าตัวเครื่องจะเน้นโทนสีดำด้านทั้งหมดเลยเช่นกันและยังคงมีเอกลัษณ์ MSI ในหลายๆส่วนไม่ว่าจะเป็นรูปทรง หรือว่าเส้นสายข้างในบอดี้ต่างๆและแน่นอนว่าฝาหลังโลหะสวยงามพร้อมกับโลโก้ รูปนก Phoenix ตาสีแดง เล่นกับโครเมี่ยมสวยงามโดดเด่นมาก
ฐานเครื่องด้านล่างแน่นอนว่าเน้นเรื่องของการระบายความร้อนแบบจัดเต็มเห็นถึง Heat pipe ข้างในหลากหลายเส้น และแน่นอนว่ารองรับการระบายอากาศแบบเต็มที่ทำให้เรื่องระบบระบายความร้อนต่างๆนั้นไว้ใจได้แบบสบายๆเช่นกันทั้งด้านหลัง ด้านข้าง รวมถึงส่วนกลางของตัวเครื่องก็รองรับได้ทั้งหมด พร้อมกับบางรองทั้งหมด 4 มุมเครื่องและลำโพง ซ้าย ขวา ในด้านหน้าเช่นกันซึ่งต้องบอกว่าค่ายนี้ถือว่าเป็นค่ายที่เน้นเรื่องระบบระบายความร้อนได้ดีมากตัวนึง
เมื่อแงะฝาหลังออกมาเราจะเห็นเลยว่ามี Heat Pipe ทั้งหมด 6 เส้นซึ่งมีการออกแบบใหม่ทำให้บางและกว้างมากขึ้นรองรับการระบายความร้อนได้ดีขึ้นชัดเจนอีกทั้งในแง่ของการใช้งานก็ส่งผลรู้สึกเลยว่าระบายได้ไวขึ้น ไม่ร้อนสะสมด้วยเช่นกัน ทำงานร่วมกับพัดลม 2 ตัวที่มีขนาดแตกต่างกันยิงออกด้านหลัง และด้านข้างในฝั่งซ้ายของเครื่อง ซึ่งการระบายก็จะเน้นไปทั้ง CPU GPU และ ภาคจ่ายไฟด้วยเช่นกันครับทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดี และการอัปเกรดนั้นจะรองรับ SSD M.2 เพิ่มอีก 1 ช่อง จากเดิมที่ให้มา 1 ช่องแล้ว ส่วนทางด้าน RAM DDR4 ให้มาเต็ม 2 ช่องครับ 16GB ซึ่งก็รองรับการอัปเกรดได้สบายๆ 64GB แต่ต้องเปลี่ยนของเก่าทั้งหมดเลยนั้นเอง พร้อมกับแบตขนาดกำลังดี อาจจะไม่ได้เต็มช่องมากนักแต่ก็เพียงพอต่อการใช้งานแล้วเช่นกันในส่วนด้านล่างของตัวเครื่องในภาพ
งานออกแบบภายในนั้นส่วนใหญ่จะเป็นพลาสติกทั้งหมดทั้งขอบหน้าจอ หรือว่าฐานส่วนแป้นพิมพ์ต่างๆ ทางด้านข้อพับนั้นถือว่าเป็นชิ้นเดียวและมีความแข็งแรงมากๆเช่นกันครับ สามารถดึงเปิดมือเดียวและข้างเดียวได้แบบสบายๆ และรุ่นนี้จอสามารถกางออกมาได้ราบเรียบไปกับพื้นได้ทันที ซึ่งเราจะไม่เห็นบรรดา Gaming ที่จะเปิดได้แบบนี้เท่าไรนักถือว่าเป็นความอิสระในการใช้งานที่แตกต่างกับตัวอื่น รวมถึงบริเวณแป้นพิมพ์นั้นมีการเล่นลวดลายสวยงามพร้อมกับเว้าลงไปเล็กน้อยทำให้สามารถกดระดับแป้นพิมพ์ต่ำลงไปได้นิดหน่อยและมาพร้อมกับ Numpad นั้นเอง และรุ่นนี้จะได้โลโก้ใหม่แล้วเช่นกันพร้อมกับ ช่องระบายอากาศความร้อนตรงขอบเครื่องส่วนบนใกล้กับหน้าจอถือว่าเป็นจุดระบายที่ดีทำให้สามารถรับอากาศลมไหลเวียนได้ง่ายขึ้น จากด้านบน ผสมกับด้านล่าง และระบายออกข้างหลังจัดเต็มมาก
ขอบหน้าจอเองนั้นยังคงมีความหนาระดับนึงแต่ก็ไม่ได้เยอะมากนักถ้ามองในแง่ของสายเกมถือว่ากำลังดีมาพร้อมกับยางรองขอบหน้าจอทั้ง ซ้ายขวา ล่าง และด้านบนให้มา 3 ตำแหน่งเลยทีเดียวทำให้เวลาพับหน้าจอก็จะรักษาได้ง่ายขึ้นในระยะยาวในเรื่องของการกันกระแทกต่างๆ และมาพร้อมกับกล้องหน้า Webcam HD และรูไมค์ใส่เข้ามาให้จัดเต็มสำหรับการใช้งาน รวมถึงเมื่อกางหน้าจอสุดเราจะเห็นถึงส่วนระบายความร้อนที่จะอิงออกข้างหลัง 2 ข้างเน้นๆ
SPEC
- AMD Ryzen™ 7 5800H Mobile Processors
- Windows 10 Home
(Free upgrade to Windows 11* when available, see below)
- AMD Radeon™ RX 6600M 8GB GDDR6 Graphics
- 15.6″ FHD (1920*1080), 144Hz 72%NTSC IPS-Level, close to 100%sRGB
- RAM 16GB DDR-IV 8GB*2 (3200MHz)
- STORAGE 512GB NVMe PCIe Gen3x4 SSD
- Intel Wi-Fi 6 AX200(2*2 ax)+BT5.1
- RGB gaming keyboard with number-pad
- Exclusive Cooler Boost 5 Technology
- MSI Center with exclusive Gaming Mode
- MSI App Player for seamless gaming experience between mobile and PC
- High-Resolution Audio ready
- 2 Years Warranty ( Year for Battery and Adapter)
- 359 x 259 x 23.95 mm 2.35 kg
PERFORMANCE
ตัวนี้ยังคงผ่านมาตรฐาน AMD ADVANTAGE สำหรับโน้ตบุ๊กประสิทธิภาพขั้นเทพโดยเฉพาะ เหมาะสำหรับเกมเมอร์ที่ต้องการประสิทธิภาพในการเล่นเกมขั้นสูง ทั้งในส่วนของหน่วยประมวลผล Ryzen 5800H และกราฟิกการ์ด Radeon RX6600M ที่เต็มไปด้วยนวัตกรรมในการสร้างสรรค์จากสถาปัตยกรรม RDNA 2 และ มาพร้อมกับ RAM 16GB DDR-IV 8GB*2 (3200MHz) และความจุ 512GB NVMe PCIe Gen3x4 SSD ถือว่าสบายๆในการใช้งาน และ แน่นอนว่ารองรับ Windows 11 ด้วยเช่นกันเมื่อปล่อยแล้วเครื่องนี้สามารถอัปเกรดไปได้ทันทีเลยครับ
PC MARK
คะแนนไปได้ค่อนข้างสูงมากๆแน่นอนว่าตัว 4800H ก็ถือว่าแรงพอสมควรแล้วนะ แต่ตัวนี้ทำไปได้ 6412 คะแนน มากกว่าคู่แข่งและรุ่นก่อนหน้าแบบชัดเจน จริงๆพวกระดับราคานี้การใช้งานทั่วไปทำงานคงไม่ต้องกังวลตอบโจทย์ทำงาน ทั่วไปแทบจะทุกรูปแบบ ไม่ต้องห่วงเลยแหละ ตั้งแต่ Word ไปยังตัดต่อ เรนเดอร์ 3 มิติ งานเขียนงานวาดแปลนบ้านทุกอย่าง และ รองรับได้สบายด้วยความแรงทั้งหมดถือว่าชิลๆ ส่วนในการทดสอบนั้นเป็นอุณหภูมิปกติ เช่นเดิมไม่ได้เปิดแอร์ แต่ถ้าเปิดแอร์นั้นจะได้คะแนนประมาณ 6,600 คะแนนครับ แน่นอนว่าถ้าเทียบกับ 4800HS ตัวนั้นจะยังคงทำได้แตะ 5000 ครับประมาณก็เป็นจุดที่ยังคงมีความแตกต่างกันอยู่กันแบบชัดเจนเลยนะถือว่าพัฒนาขึ้นหลายเท่าตัวมากๆ และส่งผลในแง่ของการใช้งานจริง รวมถึงความร้อนยังคุมได้ดีไม่แตะ 90 อย่างใดในการทดสอบ
3D MARK
RX6600M ทำคะแนนเรียกได้ว่าสูงในการทดสอบทั้ง 5 แบบนะครับ ตัว TIMESPY EXTREAM ที่เน้นไปเจาะกลุ่มคอมพิวเตอร์ระดับท็อป เกมมิ่ง ทำคะแนนได้ 3261 ถือว่าดี และ PORT ROYAL ในการทดสอบ RAY TRACING นั้นได้ไป 3312 คะแนน ต้องบอกว่าผ่านการทดสอบใช้งานระดับสูงๆของ 3DMark สบายๆ ส่วนในเรื่องความร้อน แอดมินทดสอบต่อเนื่อง 4 แบบ ทำความร้อนไปได้ 79 CPU GPU 74 นะครับ และในตัว FIRE STRIKE EXTREAM ทำไปได้ 9589 และ FIRE STRIKE ULTRA 4984 คะแนน ถือว่าไม่น้อยหน้า RTX ของอีกค่าย
[SR] รีวิว MSI ALPHA 15 AMD ADVANTAGE สเปก RYZEN 7 5800H พร้อม RX6600M !
MSI ในตระกูล ALPHA นั้นถือว่าน่าสนใจเพราะว่ามาพร้อมกับการอัปเดตสเปกใหม่ทั้งหมดเป็นตัว RX6600M และแน่นอนว่าใช้งาน RYZEN 7 5800H จากทาง AMD ซึ่งทำให้รุ่นนี้จะได้มาตรฐานรองรับ AMD Advantage edition ซึ่งทาง AMD เปิดตัวมาตรฐานใหม่ของโน้ตบุ๊กที่ใช้ซีพียู Ryzen 5000 และจีพียู Radeon 6000 เป็นมาตรฐานการออกแบบโน้ตบุ๊กคล้าย Intel Evo ต่างกันตรงที่ Intel Evo เน้นประสิทธิภาพและแบตเตอรี่ในโน้ตบุ๊กชนิดบางเบา แต่ AMD Advantage เน้นประสิทธิภาพการเล่นเกม ซึ่งจะต้องใช้ซีพียูตระกูล Ryzen 5000 และจีพียู Radeon 6000 ร่วมกับซอฟต์แวร์ไดรเวอร์ของ AMD + รองรับเทคโนโลยี Smart Access Memory เชื่อมต่อซีพียู-จีพียูโดยตรง และระบบจัดการพลังงานในโน้ตบุ๊ก SmartShift ของ AMD พร้อมกับ หน้าจอต้องสว่างอย่างน้อย 300 nits แสดงผลมาตรฐานสี sRGB ได้ 100% หรือ NTSC 72% อัตรารีเฟรชขั้นต่ำ 144Hz ดีเลย์ต่ำ (low latency) และรองรับ AMD Freesync รวมถึง มี SSD NVME PCIE Gen 3 อย่างน้อยหนึ่งตัว และอันนี้น่าสนใจว่าต้องมี อุณหภูมิ ณ ตำแหน่งปุ่ม WASD ต่ำกว่า 40 องศาเสมอ และ แบตอึด เล่นวีดีโอด้วยแบตเตอรี่ได้อย่างน้อย 10 ชั่วโมง ถือว่าเป็นมาตรฐานที่เน้นในเรื่องประสิทธิภาพโหดและยาก แต่ทาง ALPHA 15 ผ่านสบาย
MSI Alpha 15 B5EEK-026TH ในรุ่นที่เรารีวิวนี้จะมาพร้อมกับ Ryzen™ 7 5800H ความเร็ว 3.20 – 4.40GHz โดยเป็นแบบ 8 คอร์ 16 เธรด และใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ 7 นาโนเมตร มาด้วยการ์ดจอ Radeon RX6600M, GDDR6 8GB พร้อมกับ RAM 16GB DDR-IV 8GB*2 (3200MHz) และ 512GB NVMe PCIe Gen3x4 SSD ส่วนทางด้านหน้าจอใช้งานขนาด 15.6″ FHD (1920*1080), พร้อมกับรีเฟรชเรท 144Hz 72% NTSC ใช้งานหน้าจอ IPS-Level, ค่าสีใกล้เคียง 100% sRGB ส่วนทางด้านเชื่อมต่อไร้สายให้มาพร้อมกับ Intel Wi-Fi 6 AX200(2*2 ax)+BT5.1 และทางด้านพอร์ตเชื่อมต่อใช้งาน USB-A 3.2 GEN 1 และ USB-C 3.2 GEN 1 ให้มาครบพร้อมใช้งานรวมถึง HDMI / RJ45 นั้นยังคงใส่เข้ามาไม่ตัดไปไหน และแน่นอนว่าเรื่องของระบบเสียงให้ระบบเสียง HI-RES AUDIO เข้ามาในการฟังเพลงแบบสาย และ โปรแกรม NAHIMIC ก็ยังคงใส่เข้ามาเป็นเอกลักษณ์ค่ายนี้ ทำงานร่วมกับลำโพงคู่ 2WX2 และทางด้านระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home ที่การันตีการอัปเดตไป Windows 11 ได้ทันที และมาพร้อมกับ ประกัน 2 ปี Warranty
PRICE
MSI Alpha 15 B5EEK-026TH : RYZEN 7 5800H + RM6600M RAM 16GB SSD 512GB ราคา 48,490 บาท
UNBOX
- ตัวเครื่อง MSI ALPHA 15 AMD ADVANTAGE
- ที่ชาร์จ ADAPTOR 180W
- คู่มือ ในการใช้งาน และ รายละเอียดรับประกัน
- MSI Essential Backpack
DESIGN
งานออกแบบนั้นยังคงมีความเป็น ALPHA แต่พัฒนาเส้นสายหลายๆส่วนให้มีความเรียบง่ายขึ้นแต่ยังคงการออกแบบคล้ายกับรุ่นก่อนๆเช่นกัน และแน่นอนว่ารุ่นนี้จะใช้งานโลโก้ที่แอบคล้ายกับ BRAVO แต่จะเป็นการใส่ดีเทลให้ดูดีขึ้นและอยู่ในระดับสเปกที่โหดขึ้นไปกว่าเดิม ตัวเครื่องมาพร้อมกับวัสดุพลาสติก และ โลหะผสมกันไปซึ่งฝาด้านหลังจะเป็นโลหะด้วยถือว่าแข็งแรงและสวยงาม ส่วนด้านในจะยังคงเห็นความเขียวของแป้นพิมพ์เป็นมาตรฐานแต่ก็สามารถเปลี่ยนสีได้ทั้งหมดแต่จะเป็นแบบ 1 Zone นะครับ ส่วนเรื่องขนาดและน้ำหนักก็ถือว่าปกติของบรรดา Gaming ที่อาจจะไม่ได้เน้นในเรื่องของการพกพาอะไรมากนัก และ เน้นการระบายความร้อนทำให้ตัวเครื่องก็ถือว่าหนาระดับนึง
ตัวเครื่องนั้นถือว่าคุณภาพงานประกอบอะไรทำได้ดีเช่นกัน และที่ค่อนข้างชอบคือสามารถเปิดฝาแบบมือเดียวได้สบายๆเช่นกันทำให้ใช้งานจริงได้ดี รวมถึงข้อพับอะไรต่างๆแข็งแรงแน่นหนา และแน่นอนว่าตัวเครื่องจะเน้นโทนสีดำด้านทั้งหมดเลยเช่นกันและยังคงมีเอกลัษณ์ MSI ในหลายๆส่วนไม่ว่าจะเป็นรูปทรง หรือว่าเส้นสายข้างในบอดี้ต่างๆและแน่นอนว่าฝาหลังโลหะสวยงามพร้อมกับโลโก้ รูปนก Phoenix ตาสีแดง เล่นกับโครเมี่ยมสวยงามโดดเด่นมาก
ฐานเครื่องด้านล่างแน่นอนว่าเน้นเรื่องของการระบายความร้อนแบบจัดเต็มเห็นถึง Heat pipe ข้างในหลากหลายเส้น และแน่นอนว่ารองรับการระบายอากาศแบบเต็มที่ทำให้เรื่องระบบระบายความร้อนต่างๆนั้นไว้ใจได้แบบสบายๆเช่นกันทั้งด้านหลัง ด้านข้าง รวมถึงส่วนกลางของตัวเครื่องก็รองรับได้ทั้งหมด พร้อมกับบางรองทั้งหมด 4 มุมเครื่องและลำโพง ซ้าย ขวา ในด้านหน้าเช่นกันซึ่งต้องบอกว่าค่ายนี้ถือว่าเป็นค่ายที่เน้นเรื่องระบบระบายความร้อนได้ดีมากตัวนึง
เมื่อแงะฝาหลังออกมาเราจะเห็นเลยว่ามี Heat Pipe ทั้งหมด 6 เส้นซึ่งมีการออกแบบใหม่ทำให้บางและกว้างมากขึ้นรองรับการระบายความร้อนได้ดีขึ้นชัดเจนอีกทั้งในแง่ของการใช้งานก็ส่งผลรู้สึกเลยว่าระบายได้ไวขึ้น ไม่ร้อนสะสมด้วยเช่นกัน ทำงานร่วมกับพัดลม 2 ตัวที่มีขนาดแตกต่างกันยิงออกด้านหลัง และด้านข้างในฝั่งซ้ายของเครื่อง ซึ่งการระบายก็จะเน้นไปทั้ง CPU GPU และ ภาคจ่ายไฟด้วยเช่นกันครับทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดี และการอัปเกรดนั้นจะรองรับ SSD M.2 เพิ่มอีก 1 ช่อง จากเดิมที่ให้มา 1 ช่องแล้ว ส่วนทางด้าน RAM DDR4 ให้มาเต็ม 2 ช่องครับ 16GB ซึ่งก็รองรับการอัปเกรดได้สบายๆ 64GB แต่ต้องเปลี่ยนของเก่าทั้งหมดเลยนั้นเอง พร้อมกับแบตขนาดกำลังดี อาจจะไม่ได้เต็มช่องมากนักแต่ก็เพียงพอต่อการใช้งานแล้วเช่นกันในส่วนด้านล่างของตัวเครื่องในภาพ
งานออกแบบภายในนั้นส่วนใหญ่จะเป็นพลาสติกทั้งหมดทั้งขอบหน้าจอ หรือว่าฐานส่วนแป้นพิมพ์ต่างๆ ทางด้านข้อพับนั้นถือว่าเป็นชิ้นเดียวและมีความแข็งแรงมากๆเช่นกันครับ สามารถดึงเปิดมือเดียวและข้างเดียวได้แบบสบายๆ และรุ่นนี้จอสามารถกางออกมาได้ราบเรียบไปกับพื้นได้ทันที ซึ่งเราจะไม่เห็นบรรดา Gaming ที่จะเปิดได้แบบนี้เท่าไรนักถือว่าเป็นความอิสระในการใช้งานที่แตกต่างกับตัวอื่น รวมถึงบริเวณแป้นพิมพ์นั้นมีการเล่นลวดลายสวยงามพร้อมกับเว้าลงไปเล็กน้อยทำให้สามารถกดระดับแป้นพิมพ์ต่ำลงไปได้นิดหน่อยและมาพร้อมกับ Numpad นั้นเอง และรุ่นนี้จะได้โลโก้ใหม่แล้วเช่นกันพร้อมกับ ช่องระบายอากาศความร้อนตรงขอบเครื่องส่วนบนใกล้กับหน้าจอถือว่าเป็นจุดระบายที่ดีทำให้สามารถรับอากาศลมไหลเวียนได้ง่ายขึ้น จากด้านบน ผสมกับด้านล่าง และระบายออกข้างหลังจัดเต็มมาก
ขอบหน้าจอเองนั้นยังคงมีความหนาระดับนึงแต่ก็ไม่ได้เยอะมากนักถ้ามองในแง่ของสายเกมถือว่ากำลังดีมาพร้อมกับยางรองขอบหน้าจอทั้ง ซ้ายขวา ล่าง และด้านบนให้มา 3 ตำแหน่งเลยทีเดียวทำให้เวลาพับหน้าจอก็จะรักษาได้ง่ายขึ้นในระยะยาวในเรื่องของการกันกระแทกต่างๆ และมาพร้อมกับกล้องหน้า Webcam HD และรูไมค์ใส่เข้ามาให้จัดเต็มสำหรับการใช้งาน รวมถึงเมื่อกางหน้าจอสุดเราจะเห็นถึงส่วนระบายความร้อนที่จะอิงออกข้างหลัง 2 ข้างเน้นๆ
SPEC
- AMD Ryzen™ 7 5800H Mobile Processors
- Windows 10 Home
(Free upgrade to Windows 11* when available, see below)
- AMD Radeon™ RX 6600M 8GB GDDR6 Graphics
- 15.6″ FHD (1920*1080), 144Hz 72%NTSC IPS-Level, close to 100%sRGB
- RAM 16GB DDR-IV 8GB*2 (3200MHz)
- STORAGE 512GB NVMe PCIe Gen3x4 SSD
- Intel Wi-Fi 6 AX200(2*2 ax)+BT5.1
- RGB gaming keyboard with number-pad
- Exclusive Cooler Boost 5 Technology
- MSI Center with exclusive Gaming Mode
- MSI App Player for seamless gaming experience between mobile and PC
- High-Resolution Audio ready
- 2 Years Warranty ( Year for Battery and Adapter)
- 359 x 259 x 23.95 mm 2.35 kg
PERFORMANCE
ตัวนี้ยังคงผ่านมาตรฐาน AMD ADVANTAGE สำหรับโน้ตบุ๊กประสิทธิภาพขั้นเทพโดยเฉพาะ เหมาะสำหรับเกมเมอร์ที่ต้องการประสิทธิภาพในการเล่นเกมขั้นสูง ทั้งในส่วนของหน่วยประมวลผล Ryzen 5800H และกราฟิกการ์ด Radeon RX6600M ที่เต็มไปด้วยนวัตกรรมในการสร้างสรรค์จากสถาปัตยกรรม RDNA 2 และ มาพร้อมกับ RAM 16GB DDR-IV 8GB*2 (3200MHz) และความจุ 512GB NVMe PCIe Gen3x4 SSD ถือว่าสบายๆในการใช้งาน และ แน่นอนว่ารองรับ Windows 11 ด้วยเช่นกันเมื่อปล่อยแล้วเครื่องนี้สามารถอัปเกรดไปได้ทันทีเลยครับ
PC MARK
คะแนนไปได้ค่อนข้างสูงมากๆแน่นอนว่าตัว 4800H ก็ถือว่าแรงพอสมควรแล้วนะ แต่ตัวนี้ทำไปได้ 6412 คะแนน มากกว่าคู่แข่งและรุ่นก่อนหน้าแบบชัดเจน จริงๆพวกระดับราคานี้การใช้งานทั่วไปทำงานคงไม่ต้องกังวลตอบโจทย์ทำงาน ทั่วไปแทบจะทุกรูปแบบ ไม่ต้องห่วงเลยแหละ ตั้งแต่ Word ไปยังตัดต่อ เรนเดอร์ 3 มิติ งานเขียนงานวาดแปลนบ้านทุกอย่าง และ รองรับได้สบายด้วยความแรงทั้งหมดถือว่าชิลๆ ส่วนในการทดสอบนั้นเป็นอุณหภูมิปกติ เช่นเดิมไม่ได้เปิดแอร์ แต่ถ้าเปิดแอร์นั้นจะได้คะแนนประมาณ 6,600 คะแนนครับ แน่นอนว่าถ้าเทียบกับ 4800HS ตัวนั้นจะยังคงทำได้แตะ 5000 ครับประมาณก็เป็นจุดที่ยังคงมีความแตกต่างกันอยู่กันแบบชัดเจนเลยนะถือว่าพัฒนาขึ้นหลายเท่าตัวมากๆ และส่งผลในแง่ของการใช้งานจริง รวมถึงความร้อนยังคุมได้ดีไม่แตะ 90 อย่างใดในการทดสอบ
3D MARK
RX6600M ทำคะแนนเรียกได้ว่าสูงในการทดสอบทั้ง 5 แบบนะครับ ตัว TIMESPY EXTREAM ที่เน้นไปเจาะกลุ่มคอมพิวเตอร์ระดับท็อป เกมมิ่ง ทำคะแนนได้ 3261 ถือว่าดี และ PORT ROYAL ในการทดสอบ RAY TRACING นั้นได้ไป 3312 คะแนน ต้องบอกว่าผ่านการทดสอบใช้งานระดับสูงๆของ 3DMark สบายๆ ส่วนในเรื่องความร้อน แอดมินทดสอบต่อเนื่อง 4 แบบ ทำความร้อนไปได้ 79 CPU GPU 74 นะครับ และในตัว FIRE STRIKE EXTREAM ทำไปได้ 9589 และ FIRE STRIKE ULTRA 4984 คะแนน ถือว่าไม่น้อยหน้า RTX ของอีกค่าย
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้