นี่ไง การศึกษา VE ในคนจำนวนมากๆ รวมคนที่ไม่มีอาการด้วย เพื่อหาการป้องกันการติดเชื้อโควิด -19 ของวัคซีน สุดท้ายก็มีตีพิมพ์ เอามาปิดปากคนชอบบอกว่าวัคซีนกันติดไม่ได้
ก่อนหน้านี้ มีเฉพาะการศึกษาที่ทำในกลุ่มคนที่มีอาการคล้ายโควิด เช่นในกระทู้นี้ ( คห 3-1 ถึง 3-24 )
https://ppantip.com/topic/41037157/comment3 แต่ก็มีคนมาแย้งว่า วัคซีนกันได้เฉพาะโควิดมีอาการ ไม่ได้กันการติดเชื้อ แค่กันคนไม่ให้ไม่มีอาการ ผมก็บอกแล้วว่าการศึกษานั้นมันศึกษาการกันติดของวัคซีนจริงๆ เพียงแค่ศึกษาเฉพาะในกลุ่มที่มีอาการคล้ายโควิดแล้วมาตรวจ RT-PCR เพราะมันหาข้อมูลง่ายๆ ( การจะเอาข้อมูล ผล test จากคนไม่มีอาการด้วย มันต้องไปหาข้อมูลการแยงจมูกคนปกติ ( คนไม่มีอาการ ใครจะไปให้แยงจมูกตรวจ มันหาข้อมูลยากกว่าคนมีอาการ ) และจำนวนต้องมากด้วย เพราะการเจอผล +ve ในคนปกติไม่มีอาการ มันเจอไม่บ่อยเท่าคนมีอาการแล้ว ) สรุป การศึกษาเดิมมันก็ศึกษาการกันติด แต่เป็น "การศึกษาการป้องกันการติดเชื้อของวัคซีนในกลุ่มคนที่มีอาการแบบโควิด " ผลพบว่า วัคซีนป้องกันเดลต้าได้จริง แต่เป็นการศึกษาเฉพาะในกลุ่มคนที่มีอาการคล้ายโควิด
วันนี้ ถูกใจมาก ในที่สุดก็มีการศึกษาเอาผลจากการแยงจมูกคนจำนวนมาก แล้วมาตรวจ RT-PCR โดยทำ test ไปมากถึง 2.5 ล้านครั้ง ( การศึกษาเดิม อาศัยข้อมูลแค่ 1 แสน test ก็เพียงพอกับการวิเคราะห์แล้ว ) ดังนั้นในการศึกษานี้จะรวมเคสติดเชื้อโควิดทั้ง ไม่มีอาการ อาการน้อย อาการมาก ด้วยแล้ว
เอาประเด็นคำนิยาม " การติดเชื้อ " ก่อน การศึกษานี้วัดผลโดย RT-PCR +ve คือติดเชื้อโควิด ซึ่งตรงกับสถานการณ์จริงในทุกวันนี้การที่จะเราบอกว่าใครติดโควิด เราดูตรงที่ RT-PCR + ve => บอกกันไว้ก่อน เดี๋ยวจะมีคนเถียงว่า วัคซีนไม่กันการติดเชื้อ แต่คนฉีดวัคซีน รับเชื้อไป แล้วภูมิทำลายทัน พอไปตรวจ เลยได้ผล -ve ( ถ้าจะเถียงกันถึงขนาดนี้ ก็คงต้องเอากาวตราช้างทาปิดจมูก ปิดปาก ปิดตาเลยมั้ง เขื้อถึงจะได้ไม่เข้า ) ดังนั้น เมื่อไหร่คนฉีดวัคซีน ( รวมทั้งไม่ฉีด ) ไปทำ test แล้วได้ผล -ve เราก็เรียก " ไม่ติดเชื้อโควิด " ทำ test แล้วได้ผล +ve เราก็เรียก " ติดเชื้อโควิด "
การศึกษานี้ตีพิมพ์ใน nature medicine
https://www.nature.com/articles/s41591-021-01548-7.pdf
ผลการศึกษาพบว่า วัคซีนสามารถกันการติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้าได้จริง โดย
VE Pfizer 2 dose = 80%
VE AZ 2 dose =67 %
VE ติดเชื้อธรรมชาติ = 72%
อันนี้ก็น่าสนใจที่ในการศึกษานี้พบว่าภูมิจากการติดเชื้อธรรมชาติ แพ้ Pfizer 2 เข็ม ( เมื่อวัดจากระยะหลังฉีดใหม่ๆสดๆ ) แต่พอเวลาผ่านไปหลายๆเดือน การป้องกันจาก Pfizer อาจจะตกลงเร็วกว่าการติดเชื้อธรรมชาติ ทำให้ผลการศึกษาจากอิสราเอล ชี้ว่า ภูมิธรรมชาติกันได้ดีกว่าวัคซีน
https://m.ppantip.com/topic/40940330
อีกอันที่น่าสังเกตุคือ ตัวเลข VE ที่ศึกษาในกลุ่มที่มีอาการคล้ายโควิด ( VE protect symtomati covid ) ในรายงานเดิมก็มีตัวเลขใกล้เคียงกัน )
VE Pfizer 2 dose= 88%
VE AZ 2 dose =67 %
ที่จริงรายละเอียดในการศึกษานี้ยังมีอีกหลายประเด็น เช่น Delta ทำให้วัคซีน 1 เข็ม กันไม่พอ หรือ เคสที่ฉีด 2 เข็มแล้ว มี breakthrough infection ถ้าเป็นเชื้อเดลต้าจะมี viral load เยอะ เอาไปแพร่เชื้อง่าย แต่ผมขอพูดในกระทู้นี้แค่ประเด็นนี้พอ = " วัคซีนกันการติดเชื้อโควิด -19 สายพันธุ์ Delta ได้จริง "
การศึกษาที่เอาข้อมูลจากการแยงจมูกคนจำนวนมาก ยืนยันว่าวัคซีนกันการติด Delta Variant ได้จริง
ก่อนหน้านี้ มีเฉพาะการศึกษาที่ทำในกลุ่มคนที่มีอาการคล้ายโควิด เช่นในกระทู้นี้ ( คห 3-1 ถึง 3-24 ) https://ppantip.com/topic/41037157/comment3 แต่ก็มีคนมาแย้งว่า วัคซีนกันได้เฉพาะโควิดมีอาการ ไม่ได้กันการติดเชื้อ แค่กันคนไม่ให้ไม่มีอาการ ผมก็บอกแล้วว่าการศึกษานั้นมันศึกษาการกันติดของวัคซีนจริงๆ เพียงแค่ศึกษาเฉพาะในกลุ่มที่มีอาการคล้ายโควิดแล้วมาตรวจ RT-PCR เพราะมันหาข้อมูลง่ายๆ ( การจะเอาข้อมูล ผล test จากคนไม่มีอาการด้วย มันต้องไปหาข้อมูลการแยงจมูกคนปกติ ( คนไม่มีอาการ ใครจะไปให้แยงจมูกตรวจ มันหาข้อมูลยากกว่าคนมีอาการ ) และจำนวนต้องมากด้วย เพราะการเจอผล +ve ในคนปกติไม่มีอาการ มันเจอไม่บ่อยเท่าคนมีอาการแล้ว ) สรุป การศึกษาเดิมมันก็ศึกษาการกันติด แต่เป็น "การศึกษาการป้องกันการติดเชื้อของวัคซีนในกลุ่มคนที่มีอาการแบบโควิด " ผลพบว่า วัคซีนป้องกันเดลต้าได้จริง แต่เป็นการศึกษาเฉพาะในกลุ่มคนที่มีอาการคล้ายโควิด
วันนี้ ถูกใจมาก ในที่สุดก็มีการศึกษาเอาผลจากการแยงจมูกคนจำนวนมาก แล้วมาตรวจ RT-PCR โดยทำ test ไปมากถึง 2.5 ล้านครั้ง ( การศึกษาเดิม อาศัยข้อมูลแค่ 1 แสน test ก็เพียงพอกับการวิเคราะห์แล้ว ) ดังนั้นในการศึกษานี้จะรวมเคสติดเชื้อโควิดทั้ง ไม่มีอาการ อาการน้อย อาการมาก ด้วยแล้ว
เอาประเด็นคำนิยาม " การติดเชื้อ " ก่อน การศึกษานี้วัดผลโดย RT-PCR +ve คือติดเชื้อโควิด ซึ่งตรงกับสถานการณ์จริงในทุกวันนี้การที่จะเราบอกว่าใครติดโควิด เราดูตรงที่ RT-PCR + ve => บอกกันไว้ก่อน เดี๋ยวจะมีคนเถียงว่า วัคซีนไม่กันการติดเชื้อ แต่คนฉีดวัคซีน รับเชื้อไป แล้วภูมิทำลายทัน พอไปตรวจ เลยได้ผล -ve ( ถ้าจะเถียงกันถึงขนาดนี้ ก็คงต้องเอากาวตราช้างทาปิดจมูก ปิดปาก ปิดตาเลยมั้ง เขื้อถึงจะได้ไม่เข้า ) ดังนั้น เมื่อไหร่คนฉีดวัคซีน ( รวมทั้งไม่ฉีด ) ไปทำ test แล้วได้ผล -ve เราก็เรียก " ไม่ติดเชื้อโควิด " ทำ test แล้วได้ผล +ve เราก็เรียก " ติดเชื้อโควิด "
การศึกษานี้ตีพิมพ์ใน nature medicine https://www.nature.com/articles/s41591-021-01548-7.pdf
ผลการศึกษาพบว่า วัคซีนสามารถกันการติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้าได้จริง โดย
VE Pfizer 2 dose = 80%
VE AZ 2 dose =67 %
VE ติดเชื้อธรรมชาติ = 72%
อันนี้ก็น่าสนใจที่ในการศึกษานี้พบว่าภูมิจากการติดเชื้อธรรมชาติ แพ้ Pfizer 2 เข็ม ( เมื่อวัดจากระยะหลังฉีดใหม่ๆสดๆ ) แต่พอเวลาผ่านไปหลายๆเดือน การป้องกันจาก Pfizer อาจจะตกลงเร็วกว่าการติดเชื้อธรรมชาติ ทำให้ผลการศึกษาจากอิสราเอล ชี้ว่า ภูมิธรรมชาติกันได้ดีกว่าวัคซีน https://m.ppantip.com/topic/40940330
อีกอันที่น่าสังเกตุคือ ตัวเลข VE ที่ศึกษาในกลุ่มที่มีอาการคล้ายโควิด ( VE protect symtomati covid ) ในรายงานเดิมก็มีตัวเลขใกล้เคียงกัน )
VE Pfizer 2 dose= 88%
VE AZ 2 dose =67 %
ที่จริงรายละเอียดในการศึกษานี้ยังมีอีกหลายประเด็น เช่น Delta ทำให้วัคซีน 1 เข็ม กันไม่พอ หรือ เคสที่ฉีด 2 เข็มแล้ว มี breakthrough infection ถ้าเป็นเชื้อเดลต้าจะมี viral load เยอะ เอาไปแพร่เชื้อง่าย แต่ผมขอพูดในกระทู้นี้แค่ประเด็นนี้พอ = " วัคซีนกันการติดเชื้อโควิด -19 สายพันธุ์ Delta ได้จริง "