สิ้นสุดการรอคอยกันสักทีนะครับไม่ว่าจะเป็นแฟนจักรวาลมาร์เวลหรือคอหนัง เพราะหลังจากทางการมีมติให้เปิดโรงหนังอีกครั้ง กองทัพหนังต่างๆก้เฮโลมาฉายกันแบบเตรียมตัวหรือตั้งสินใจดูไม่ถูกกันเลยทีเดียว โดยเฉพาะกับเรื่องนี้ที่หลังจากทำเงินเป็นกอบเป็นกำและกวาดคำวิจารณ์ในระดับ A+ ในต่างประเทศ ณ ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่คนไทยเราจะได้รับชมกับเขาเสียที ปฐมบทของฮีโร่หรือจอมยุทธแห่ง MCU ในนาม "ชาง-ชี"
หลังจากหนังปูที่มาที่ไปของวัยเด็กของชาง ชีรวมถึงตัวละครพ่อแม่และน้องสาวของเขาเล็กน้อย หนังก็เข้าประเด็นอย่างรวดเร็วกว่าที่คิดครับ เพราะหลังจากนั้นมาหนังก็พาเรามารู้จักชาง ชีในตอนปัจจุบันที่ใช้ชีวิตอย่างคนเอเชียที่อพยพมาทำงานในอเมริกา ทำงานธรรมดาทั่วไปอย่างพนักงานรับรถหน้าโรงแรม โดยมีคู่หูคู่ซี้ที่ไปไหนไปกัน พอค่ำสักหน่อยสองเพื่อนนี้ก็ไปร้องเกะกันอย่างเมามันส์ ดูแล้วก็เป็นการใช้ชีวิตที่ธรรมดาเรียบง่ายดีนะครับ และด้วยความเรียบง่ายแบบนี้แหละครับ ทำให้ผมรู้สึกเข้าถึงฮีโร่คนนี้ได้ง่ายขึ้นและก็ทำให้เราอยากเอาใจช่วยชาง ชีได้ไม่ยาก เพราะดูยังไงนายคนนี้ก็คือมนุษย์ธรรมดาเดินดินเป็นชนชั้นกลางที่เราพบเห็นทั่วไป ตรงนี้จึงเป็นเสน่ห์ที่ทำให้เราหลงรักตัวละครตัวนี้ได้เลยโดยที่ไม่ต้องดูจนจบเรื่อง
ซึ่งพอจบส่วนนี้หนังก็นำพาเราไปสู่ประเด็นสำคัญของเรื่องเลยในเวลาที่ไม่น่าจะถึง 30 นาที ซึ่งสำหรับผมถือว่าเร็วมาก เพราะหนังเล่าชีวิตของยอดชายนายชาง ชีเพียงแค่หนึ่งวัน พอวันรุ่งขึ้นชาง ชีก็ต้องเจอการตามล่าของกลุ่ม เท็นริงส์ ที่โผล่มาอย่างไม่ทันตั้งตัวกันเลยทีเดียว หลังจากหนังก็ยิงยาวเลยครับ
ทั้งนี้ทั้งนั้นหนังโดยรวมทำออกมาค่อนข้างดีมากครับ สนุกตามมาตรฐานมาเวลแต่ก็มาพร้อมอะไรใหม่ๆที่เราค่อนข้างจะแปลกตาหน่อย อย่างโลกในหนัง เราก็จะได้พบเห็นบรรดาตัวละครชนชั้นกลางที่เป็นชาวเอเชียอพยพมาตั้งตัวใหม่ในอเมริกา ซึ่งในหนังมาเวลเรื่องอื่นๆเราไม่ค่อยจะได้เห็นตัวละครที่ธรรมดาสามัญประจำบ้านแบบนี้มากนัก ถ้ามีก็อาจมีน้อย (หรือว่าจะไม่เคยมีอยู่เลย 555) คือที่เรามักจะเห็นก็ล้วนแต่เป็นคนมียศถาบรรดาศักดิ์หรือคนที่ค่อนข้างมีคลาสพอสมควร ไม่ว่าจะเป็น เศรษฐี ทหาร นักวิทยาศาสตร์ เทพจากต่างดาว หมอ หรือตัวละครที่ไม่มีพลังเหนือมนุษย์อย่างนาตาชาและบาตันก็ยังทำงานกับรัฐบาล ฉะนั้นการเข้ามาชาง ชี จึงทำให้เราเห็นโลกมาร์เวลในมุมใหม่ๆเพิ่มเข้ามาบ้าง แม้เราจะได้เห็นน้อยนิดไปหน่อยก็เถอะ 555
ทั้งนี้ในส่วนคิวบู๊ที่เหมือนเป็นหัวใจสำคัญของหนังและก็เป็นสิ่งที่ใครหลายคนคาดหวัง เชื่อว่าหลายคนก็คงจะสนุกกับมันและสมหวังพอสมควร เพราะคิวบู๊ได้ทีมงานคุณภาพมาช่วยครับและที่สำคัญไม่ใช่ใครที่ไหนครับเขาคือ "แบรด อัลลัน" ผู้ล่วงลับที่เคยเป็นคู่ปรับของเฉินหลงจาก "Gorgeous" หรือ "เบ่งหัวใจ…ฟัดให้ใหญ่" และเป็นทีมงาน "Jackie Chan Stunt Team" ทีมงานสตั๊นท์แมนมากคุณภาพของเฉินหลงนั่นเอง เพราะฉะนั้นคิวบู๊ในเรื่องจึงรับประกันได้ว่ามันส์ที่ควบคู่กับคุณภาพแน่นอน โดยเฉพาะฉากพะบู๊ต่อยเตะ นี่ก็ออกแบบมาได้ค่อนข้างเยี่ยมและมีสไตล์แบบเดียวกับบรรดาหนัง Martial Arts ของฮ่องกงเยครับ นี่จึงเป็นหนังมาเวลอีกเรื่องที่มีคิวบู๊เตะต่อยที่สนุกมากๆเรื่องนึง แต่ทั้งนี้ก็ยังเป็นรองแค่ Captain America : The Winter Soldier ที่เป็นรองก็เพราะฉากพะบู๊แม้ว่าจะเป็นสไตล์หนังฮ่องกง แต่ด้วยความที่ตัวหนังใช้มุมมองกล้องที่ฉับไวไปนิดทำให้เราเสียอรรถรสไปหน่อย ประกอบกับฉากประเภทนี้ถ้าว่ากันจริงๆสำหรับผมที่ผ่านตาหนัง Martial Arts มาหลายเรื่องเลยรู้สึกว่าหนังเองมีฉากแอ็กชั่นที่เป็นมาตรฐานพื้นฐานของฮ่องกงซึ่งไม่ได้มีลีลาทีเด็ดลูกเล่นลีลาอะไรมากมายนักจึงไม่ถึงขั้นประทับใจมากมายตามที่คาดหวังไว้ แต่ยังไงเสียส่วนของฉากแอ็กชั่นที่หนังมีมันก็ยังสนุกและยังทำหน้าที่ได้ดีอย่างที่ควรจะเป็นครับ
ว่ากันในส่วนนักแสดงกันบ้างดีกว่า ทุกล้วนมีทำหน้าที่ได้ดีครับไม่ว่าจะเป็นตัว ซือมู่ หลิว ก็ไปกับบทชาง ชีได้ดีครับ อควาฟินา ก็สร้างสีสันให้หนังได้อย่างดี เหมิงเอ่อร์ จางในบทน้องสาวของชาง ชี ก็แสดงมิติที่ทั้งรักและแค้นพี่ชายตัวเองได้ดีและมาพร้อมลวดลายคิวบู๊ที่น่าสนใจไม่เบาเลย และที่ขาดไม่ได้เลยคือ ลุงเหลียง เฉาเหว่ย ของเรา ซึ่งแสดงได้อย่างมีมิติและทำให้บทของแก มีความล้ำลึกยากที่จะคาดเดาว่าแกคิดอะไรอยู่ บทของแกถือว่าน่าสนใจมากครับ พูดง่ายๆคือตัวร้ายขอแกมีความแปลกใหม่มาก ด้วยความที่อุดมการณ์ในมุมมองแกมันไม่ใช่สิ่งที่เลวร้ายอะไรเลยประกอบกับเราจะได้เห็นช่วงชีวิตของแกที่ดูยังไงมันก็ไม่ได้ต่างอะไรจาก "เจ้าพ่อที่วางมือมามีครอบครัวเพราะได้เจอกับผู้หญิงที่ทำให้เขาได้เห็นสิ่งใหม่ๆที่เขาไม่เคยรับรู้มาก่อน" ด้วยเหตุนี้บทของเหวินหวู่จึงมีความเป็นมนุษย์สูง คือเขามีทั้ง รัก โลภ โกรธ หลง ครบถ้วนอารมณ์ของมนุษย์ บางทีผมก็รู้สึกว่าแกไม่ใช่ตัวร้ายเลยซะทีเดียวเพราะหลายอย่างที่แกถ่ายทอดออกมาจากสีหน้าและแววตามันเป็นอารมณ์ของคนที่พยายามแก้ไขสิ่งที่ตัวเองเคยทำผิดพลาดแม้มันอาจจะเป็นสิ่งที่ค่อนข้างจะไม่ถูกและดูเห็นแก่ตัวไปหน่อย แต่สิ่งที่เหลียง เฉาเหว่ย ได้ถ่ายทอดออกมาก็อดที่จะทำให้เราเห็นใจและสงสารแกจับใจจริงๆ และในมุมมองของพ่อแม้ว่าหนังจะปูทางของความขัดแย้งของพ่อและลูกทั้งสองมาตั้งแต่แรกผ่านมุมมองของลูกทั้งสอง แต่ถ้าเรามาดูในฝั่งมุมมองของคนเป็นพ่อแล้ว เราก็จะได้เห็นมุมมองและเห็นผลของพ่อบ้าง ซึ่งในมุมมองของพ่อที่ถ่ายทอดโดยเหลียง เฉาเหว่ยแกก็ถ่ายทอดเหตุผลที่มาเป็นชนวนของความขัดแย้งได้ดีทีเดียว เป็นเหตุผลที่ฟังขึ้นและมีน้ำหนักพอให้คนเป็นพ่อคิดและตัดสินใจทำสิ่งนั้นกับลูกแม้ว่าจะกลายเป็นความขัดแย้งตามมาก็ตาม ทั้งนี้ความดีงามทั้งหมดของบทเหวินหวู่ นี่ก็ขอยกความดีงามทั้งหมดนี้ให้กับลุงเหลียง เฉาเหว่ยไปเลยครับ เรียกว่าเป็น MVP ของเรื่องอย่างแท้จริงและคือสิ่งดีงามที่สุดของ Shang-Chi เลยครับ (ขออวยลุงเหลียงหน่อยนะครับ บทแกผมชอบจริง 555)
ถ้าจะให้สรุปง่ายๆหนังทำออกมาได้ดี ครบรสทั้ง แอ็กชั่น แฟนตาซี ตลกขบขัน ดราม่า พร้อมทั้งโรแมนติกที่ถ่ายทอดผ่านคู่พ่อและแม่ของชาง ชี โดยเฉพาะในฉากเปิดเรื่องที่เป็นฉากที่สวยงามมากๆและผมชอบสุดๆ และแน่นอนว่าลุงเหลียงของเราถ่ายทอดบทรักได้ดีครับ แววตาเอย การแอบยิ้มพอใจเอย ดีงามสุดๆ (แวะมาอวยอีกรอบ 555) นอกจากนี้เรื่องงานฉากพะบู๊ก็จัดว่ายอดเยี่ยมแต่ก็ตามมาตราฐานตามที่เคยเล่าไว้ แต่พอมารวมกับการใช้วิชวลแฟนตาซีที่มาจาก "เท็นริงส์" หรือจากวิชากำลังภายในต่างๆที่มาจากหนัง เมื่อนำมารวมกันแล้วจึงเกิดเป็นฉากแอ็กชั่นปล่อยพลังน้องๆดราก้อนบอลเลยทีเดียว เสียแต่ว่าหนังอาจใช้งาน "เท็นริงส์" ไม่คุ้มค่ามากฉากประเภทปล่อยพลังเลยยังน้อยไปหน่อย แต่หนังเองก็แอบมีความไม่สมูทและไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไหร่ในบางเรื่องและอะไรต่อมิอะไรก็แลดูจะจัดการง่ายไปหน่อยนะ แล้วก็อย่างโครงสร้างและเป้าหมายของกลุ่ม "เท็นริงส์" บางทีผมก็ยังไม่เข้าใจว่ากลุ่มนี้เป็นกลุ่มนักฆ่ารับจ้างหรือว่ากลุ่มก่อการร้ายหรืออะไรกันแน่ ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะความผิดพลาดการจัดการของทางโรงหนังที่ทำให้ผมดูช่วงต้นๆไม่ทันหรือเพราะหนังไม่เล่าเอง ถ้าหนังพลาดเองก็เป็นข้อเสียอันนึงที่เสียดายมากๆเลยครับ และทั้งนี้หนังยังแอบมีเซอร์ไพร์สที่น่าสนใจมากมายแม้ว่าส่วนใหญ่เราจะได้รู้ข้อมูลอยู่บ้าง แต่พอได้ดูหนังจริงๆเราก็น่าจะเซอร์ไพร์สอยู่ดี (มั้งนะ 555) ไม่ว่าจะเป็นตัวละครสมทบต่างๆโดยเฉพาะนักแสดงฮ่องกงอย่าง หยวนหัว หรือ มิเชล โหย่ว ก็มีบทบาทสำคัญพอสมควร แต่ออกจะมีบทบาทไม่มากนัก และในส่วนของสัตว์มหัศจรรย์ต่างๆในตำนานของจีนที่โผล่มาในกลางเรื่องก็ดูน่าสนใจไม่น้อยครับ บางตัวเราอาจจะผ่านตามาบ้างแล้วตามวัดวาอารามของจีนแต่พอมีชีวิตขึ้นมาในหนังก็ทำออกมาได้ดีดูสมจริงใช้ได้เลย
และด้วยเหตุดังกล่าวที่ว่ามานี้จึงทำให้หนังเรื่องนี้เป็นหนังของ MCU ที่คุณไม่ควรพลาด เชื่อว่าจะเป็นที่ถูกอกถูกใจใครหลายคนครับ ^__^
[CR] Shang-Chi and The Legend of the Ten Rings ชาง-ชีกับตำนานลับเท็นริงส์ | หนังแอ็กชั่นกำลังภายในตามสไตล์ MCU
หลังจากหนังปูที่มาที่ไปของวัยเด็กของชาง ชีรวมถึงตัวละครพ่อแม่และน้องสาวของเขาเล็กน้อย หนังก็เข้าประเด็นอย่างรวดเร็วกว่าที่คิดครับ เพราะหลังจากนั้นมาหนังก็พาเรามารู้จักชาง ชีในตอนปัจจุบันที่ใช้ชีวิตอย่างคนเอเชียที่อพยพมาทำงานในอเมริกา ทำงานธรรมดาทั่วไปอย่างพนักงานรับรถหน้าโรงแรม โดยมีคู่หูคู่ซี้ที่ไปไหนไปกัน พอค่ำสักหน่อยสองเพื่อนนี้ก็ไปร้องเกะกันอย่างเมามันส์ ดูแล้วก็เป็นการใช้ชีวิตที่ธรรมดาเรียบง่ายดีนะครับ และด้วยความเรียบง่ายแบบนี้แหละครับ ทำให้ผมรู้สึกเข้าถึงฮีโร่คนนี้ได้ง่ายขึ้นและก็ทำให้เราอยากเอาใจช่วยชาง ชีได้ไม่ยาก เพราะดูยังไงนายคนนี้ก็คือมนุษย์ธรรมดาเดินดินเป็นชนชั้นกลางที่เราพบเห็นทั่วไป ตรงนี้จึงเป็นเสน่ห์ที่ทำให้เราหลงรักตัวละครตัวนี้ได้เลยโดยที่ไม่ต้องดูจนจบเรื่อง
ซึ่งพอจบส่วนนี้หนังก็นำพาเราไปสู่ประเด็นสำคัญของเรื่องเลยในเวลาที่ไม่น่าจะถึง 30 นาที ซึ่งสำหรับผมถือว่าเร็วมาก เพราะหนังเล่าชีวิตของยอดชายนายชาง ชีเพียงแค่หนึ่งวัน พอวันรุ่งขึ้นชาง ชีก็ต้องเจอการตามล่าของกลุ่ม เท็นริงส์ ที่โผล่มาอย่างไม่ทันตั้งตัวกันเลยทีเดียว หลังจากหนังก็ยิงยาวเลยครับ
ทั้งนี้ทั้งนั้นหนังโดยรวมทำออกมาค่อนข้างดีมากครับ สนุกตามมาตรฐานมาเวลแต่ก็มาพร้อมอะไรใหม่ๆที่เราค่อนข้างจะแปลกตาหน่อย อย่างโลกในหนัง เราก็จะได้พบเห็นบรรดาตัวละครชนชั้นกลางที่เป็นชาวเอเชียอพยพมาตั้งตัวใหม่ในอเมริกา ซึ่งในหนังมาเวลเรื่องอื่นๆเราไม่ค่อยจะได้เห็นตัวละครที่ธรรมดาสามัญประจำบ้านแบบนี้มากนัก ถ้ามีก็อาจมีน้อย (หรือว่าจะไม่เคยมีอยู่เลย 555) คือที่เรามักจะเห็นก็ล้วนแต่เป็นคนมียศถาบรรดาศักดิ์หรือคนที่ค่อนข้างมีคลาสพอสมควร ไม่ว่าจะเป็น เศรษฐี ทหาร นักวิทยาศาสตร์ เทพจากต่างดาว หมอ หรือตัวละครที่ไม่มีพลังเหนือมนุษย์อย่างนาตาชาและบาตันก็ยังทำงานกับรัฐบาล ฉะนั้นการเข้ามาชาง ชี จึงทำให้เราเห็นโลกมาร์เวลในมุมใหม่ๆเพิ่มเข้ามาบ้าง แม้เราจะได้เห็นน้อยนิดไปหน่อยก็เถอะ 555
ทั้งนี้ในส่วนคิวบู๊ที่เหมือนเป็นหัวใจสำคัญของหนังและก็เป็นสิ่งที่ใครหลายคนคาดหวัง เชื่อว่าหลายคนก็คงจะสนุกกับมันและสมหวังพอสมควร เพราะคิวบู๊ได้ทีมงานคุณภาพมาช่วยครับและที่สำคัญไม่ใช่ใครที่ไหนครับเขาคือ "แบรด อัลลัน" ผู้ล่วงลับที่เคยเป็นคู่ปรับของเฉินหลงจาก "Gorgeous" หรือ "เบ่งหัวใจ…ฟัดให้ใหญ่" และเป็นทีมงาน "Jackie Chan Stunt Team" ทีมงานสตั๊นท์แมนมากคุณภาพของเฉินหลงนั่นเอง เพราะฉะนั้นคิวบู๊ในเรื่องจึงรับประกันได้ว่ามันส์ที่ควบคู่กับคุณภาพแน่นอน โดยเฉพาะฉากพะบู๊ต่อยเตะ นี่ก็ออกแบบมาได้ค่อนข้างเยี่ยมและมีสไตล์แบบเดียวกับบรรดาหนัง Martial Arts ของฮ่องกงเยครับ นี่จึงเป็นหนังมาเวลอีกเรื่องที่มีคิวบู๊เตะต่อยที่สนุกมากๆเรื่องนึง แต่ทั้งนี้ก็ยังเป็นรองแค่ Captain America : The Winter Soldier ที่เป็นรองก็เพราะฉากพะบู๊แม้ว่าจะเป็นสไตล์หนังฮ่องกง แต่ด้วยความที่ตัวหนังใช้มุมมองกล้องที่ฉับไวไปนิดทำให้เราเสียอรรถรสไปหน่อย ประกอบกับฉากประเภทนี้ถ้าว่ากันจริงๆสำหรับผมที่ผ่านตาหนัง Martial Arts มาหลายเรื่องเลยรู้สึกว่าหนังเองมีฉากแอ็กชั่นที่เป็นมาตรฐานพื้นฐานของฮ่องกงซึ่งไม่ได้มีลีลาทีเด็ดลูกเล่นลีลาอะไรมากมายนักจึงไม่ถึงขั้นประทับใจมากมายตามที่คาดหวังไว้ แต่ยังไงเสียส่วนของฉากแอ็กชั่นที่หนังมีมันก็ยังสนุกและยังทำหน้าที่ได้ดีอย่างที่ควรจะเป็นครับ
ว่ากันในส่วนนักแสดงกันบ้างดีกว่า ทุกล้วนมีทำหน้าที่ได้ดีครับไม่ว่าจะเป็นตัว ซือมู่ หลิว ก็ไปกับบทชาง ชีได้ดีครับ อควาฟินา ก็สร้างสีสันให้หนังได้อย่างดี เหมิงเอ่อร์ จางในบทน้องสาวของชาง ชี ก็แสดงมิติที่ทั้งรักและแค้นพี่ชายตัวเองได้ดีและมาพร้อมลวดลายคิวบู๊ที่น่าสนใจไม่เบาเลย และที่ขาดไม่ได้เลยคือ ลุงเหลียง เฉาเหว่ย ของเรา ซึ่งแสดงได้อย่างมีมิติและทำให้บทของแก มีความล้ำลึกยากที่จะคาดเดาว่าแกคิดอะไรอยู่ บทของแกถือว่าน่าสนใจมากครับ พูดง่ายๆคือตัวร้ายขอแกมีความแปลกใหม่มาก ด้วยความที่อุดมการณ์ในมุมมองแกมันไม่ใช่สิ่งที่เลวร้ายอะไรเลยประกอบกับเราจะได้เห็นช่วงชีวิตของแกที่ดูยังไงมันก็ไม่ได้ต่างอะไรจาก "เจ้าพ่อที่วางมือมามีครอบครัวเพราะได้เจอกับผู้หญิงที่ทำให้เขาได้เห็นสิ่งใหม่ๆที่เขาไม่เคยรับรู้มาก่อน" ด้วยเหตุนี้บทของเหวินหวู่จึงมีความเป็นมนุษย์สูง คือเขามีทั้ง รัก โลภ โกรธ หลง ครบถ้วนอารมณ์ของมนุษย์ บางทีผมก็รู้สึกว่าแกไม่ใช่ตัวร้ายเลยซะทีเดียวเพราะหลายอย่างที่แกถ่ายทอดออกมาจากสีหน้าและแววตามันเป็นอารมณ์ของคนที่พยายามแก้ไขสิ่งที่ตัวเองเคยทำผิดพลาดแม้มันอาจจะเป็นสิ่งที่ค่อนข้างจะไม่ถูกและดูเห็นแก่ตัวไปหน่อย แต่สิ่งที่เหลียง เฉาเหว่ย ได้ถ่ายทอดออกมาก็อดที่จะทำให้เราเห็นใจและสงสารแกจับใจจริงๆ และในมุมมองของพ่อแม้ว่าหนังจะปูทางของความขัดแย้งของพ่อและลูกทั้งสองมาตั้งแต่แรกผ่านมุมมองของลูกทั้งสอง แต่ถ้าเรามาดูในฝั่งมุมมองของคนเป็นพ่อแล้ว เราก็จะได้เห็นมุมมองและเห็นผลของพ่อบ้าง ซึ่งในมุมมองของพ่อที่ถ่ายทอดโดยเหลียง เฉาเหว่ยแกก็ถ่ายทอดเหตุผลที่มาเป็นชนวนของความขัดแย้งได้ดีทีเดียว เป็นเหตุผลที่ฟังขึ้นและมีน้ำหนักพอให้คนเป็นพ่อคิดและตัดสินใจทำสิ่งนั้นกับลูกแม้ว่าจะกลายเป็นความขัดแย้งตามมาก็ตาม ทั้งนี้ความดีงามทั้งหมดของบทเหวินหวู่ นี่ก็ขอยกความดีงามทั้งหมดนี้ให้กับลุงเหลียง เฉาเหว่ยไปเลยครับ เรียกว่าเป็น MVP ของเรื่องอย่างแท้จริงและคือสิ่งดีงามที่สุดของ Shang-Chi เลยครับ (ขออวยลุงเหลียงหน่อยนะครับ บทแกผมชอบจริง 555)
ถ้าจะให้สรุปง่ายๆหนังทำออกมาได้ดี ครบรสทั้ง แอ็กชั่น แฟนตาซี ตลกขบขัน ดราม่า พร้อมทั้งโรแมนติกที่ถ่ายทอดผ่านคู่พ่อและแม่ของชาง ชี โดยเฉพาะในฉากเปิดเรื่องที่เป็นฉากที่สวยงามมากๆและผมชอบสุดๆ และแน่นอนว่าลุงเหลียงของเราถ่ายทอดบทรักได้ดีครับ แววตาเอย การแอบยิ้มพอใจเอย ดีงามสุดๆ (แวะมาอวยอีกรอบ 555) นอกจากนี้เรื่องงานฉากพะบู๊ก็จัดว่ายอดเยี่ยมแต่ก็ตามมาตราฐานตามที่เคยเล่าไว้ แต่พอมารวมกับการใช้วิชวลแฟนตาซีที่มาจาก "เท็นริงส์" หรือจากวิชากำลังภายในต่างๆที่มาจากหนัง เมื่อนำมารวมกันแล้วจึงเกิดเป็นฉากแอ็กชั่นปล่อยพลังน้องๆดราก้อนบอลเลยทีเดียว เสียแต่ว่าหนังอาจใช้งาน "เท็นริงส์" ไม่คุ้มค่ามากฉากประเภทปล่อยพลังเลยยังน้อยไปหน่อย แต่หนังเองก็แอบมีความไม่สมูทและไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไหร่ในบางเรื่องและอะไรต่อมิอะไรก็แลดูจะจัดการง่ายไปหน่อยนะ แล้วก็อย่างโครงสร้างและเป้าหมายของกลุ่ม "เท็นริงส์" บางทีผมก็ยังไม่เข้าใจว่ากลุ่มนี้เป็นกลุ่มนักฆ่ารับจ้างหรือว่ากลุ่มก่อการร้ายหรืออะไรกันแน่ ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะความผิดพลาดการจัดการของทางโรงหนังที่ทำให้ผมดูช่วงต้นๆไม่ทันหรือเพราะหนังไม่เล่าเอง ถ้าหนังพลาดเองก็เป็นข้อเสียอันนึงที่เสียดายมากๆเลยครับ และทั้งนี้หนังยังแอบมีเซอร์ไพร์สที่น่าสนใจมากมายแม้ว่าส่วนใหญ่เราจะได้รู้ข้อมูลอยู่บ้าง แต่พอได้ดูหนังจริงๆเราก็น่าจะเซอร์ไพร์สอยู่ดี (มั้งนะ 555) ไม่ว่าจะเป็นตัวละครสมทบต่างๆโดยเฉพาะนักแสดงฮ่องกงอย่าง หยวนหัว หรือ มิเชล โหย่ว ก็มีบทบาทสำคัญพอสมควร แต่ออกจะมีบทบาทไม่มากนัก และในส่วนของสัตว์มหัศจรรย์ต่างๆในตำนานของจีนที่โผล่มาในกลางเรื่องก็ดูน่าสนใจไม่น้อยครับ บางตัวเราอาจจะผ่านตามาบ้างแล้วตามวัดวาอารามของจีนแต่พอมีชีวิตขึ้นมาในหนังก็ทำออกมาได้ดีดูสมจริงใช้ได้เลย
และด้วยเหตุดังกล่าวที่ว่ามานี้จึงทำให้หนังเรื่องนี้เป็นหนังของ MCU ที่คุณไม่ควรพลาด เชื่อว่าจะเป็นที่ถูกอกถูกใจใครหลายคนครับ ^__^
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้