แฟนไม่แฮปปี้ที่เราเป็นคนใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย แต่เรามองว่าเป็นการซื้อความสุข ต้องปรับยังไงให้ไปกันรอดคะ

ุเราทำงานรายได้รวมหลักแสน ปัจจุบันมีภาระอย่างเดียวคือผ่อนคอนโดอยู่ประมาณ 20-30% ของรายได้ แล้วแต่ช่วง เหลือใช้กับเก็บค่อนข้างโอเค ชีวิตถือว่าสบายในระดับหนึ่ง แฟนเป็นคนประหยัด แต่เป็นคนชอบทานเหมือนกัน เลยเข้ากันได้มากๆ ส่วนใหญ่เรากับแฟนคือจะใช้เยอะหนักไปทางค่าอาหารเพราะชอบลองร้านใหม่ๆ 

ด้วยความที่แฟนเราเป็นคนช่างสังเกต เวลาเราซื้ออะไรใหม่ๆ มาไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า ถ้าเค้าไม่เคยเห็นเค้าจะทักและถามราคา ส่วนตัวเราไมไ่ด้อยากพุด เค้าก็จะไปกูเกิ้ลหา ทำให้หลังๆมา เราเลยจะบอกก่อนทุกครั้งว่าเราอยากได้อะไร กะว่าจะซื้ออะไร แล้วเค้าก็จะบอกว่าเราฟุ่มเฟือย ซื้อของแพง เช่น กระเป๋าแบรนเนม ซึ่งเค้ามองว่าไม่จำเป็น และแพงเกินควร ต้องการให้เราเอาเงินไปลงทุนมากกว่าเพื่อให้เงินมันงอกเงย ซึ่งถือว่าเป็นคำแนะนำที่ดี แต่เราซื้อกระเป๋าแบรนเนมปีละครั้ง เฉพาะใบที่อยากได้จริงๆ

หลังๆมาแม้แต่เรื่องอาหาร ถึงแม้เวลาเราซื้อมาราคาไม่กี่ร้อยแฟนก็เริ่มหาว่าแพง (ไม่ได้ทานด้วยกันนะคะเราซื้อมาทานของเราเอง) ทั้งๆที่เราบอกว่าเราเหนื่อยทำงาน เวลาพักเราต้องการทานอาหารอร่อยๆ มันเป็นความสุขของเรา เงินของเรา เค้าก็จะบ่น บอกให้เราหัดทำอาหารเองจะได้ประหยัดขึ้น ซึ่งเค้าก็รู้ว่าเราทำอาหารไม่เป็น มันทำให้เราเร่ิมหงุดหงิด ทั้งที่รู้ว่าที่เค้าพูดเค้าหวังดี แต่เหมือนเค้าติดภาพที่เราใช้เงินเก่งไปแล้ว

บ้านเค้าค่อนข้างฐานะดีมาก และสอนลูกมาดีคือให้ประหยัดและหัดลงทุน เป็นจุดที่เราชอบมากๆ แต่ในขณะเดียวกัน เราก็อยากมีอิสระในการใช้เงินที่เราหามาเอง โดยที่ไม่ให้กระทบกับความสัมพันธ์ ไม่ต้องโดนบ่น เราควรต้องทำอย่างไร หรือปรับแบบไหนดีคะ 

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
สมาชิกพันทิปรายได้เยอะกันทั้งนั้นจริงๆ ผมนี่ได้แต่มอง 5555

ผมไม่ซีเรียสกับคำถามนี้นะ เพราะดูชีวิต จขกท แฮปปี้ มีความสุขดีแล้ว แค่อยากทำยังไงให้มีความสุขมากขึ้นไปอีก แบบว่าตัดความหงุดหงิดออกให้หมด ชีวิตเราดีอยู่แล้ว มาถึงระดับนี้ ต้องพอใจในสิ่งที่มีมากๆๆๆๆเลยครับ ผมไม่เคยมีกระเป๋าแบนเนมเลยสักอัน (เพราะผมก็ไม่สนใจด้วยแหละ ผมเป็น ผช 555 จะสะพายกระเป๋าไปทำไม) คือไหล่ผมกว้าง สะพายข้างแล้วมันชอบตกนะ กล้ามเยอะไปหน่อย โอเค นอกเรื่องละ 555

ผมมองว่าจะปรับตัวยังไง ก็ต้องจูนทั้ง 2 ฝ่ายเข้าหากัน คนละนิดครับ ตามนโยบายลุง TU "คนละครึ่ง" เฟส3 จขกท ก็ประหยัดขึ้นบ้าง และแฟนก็อนุญาตให้ใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายบ้าง ขยับเข้าหากัน คนละ 50%

สุดท้ายนี้ก็สายมืดครับ ซื้อแต่ไม่บอก พอโดนถามก็ตีมึนบอก "อ่อ ฉันซื้อมานานแล้ว ไม่รู้รึไงฉันเคยใช้เงินเก่ง ไม่สังเกตุเลยนะที่รัก" พูดไปแบบนี้แหละครับ 555 เขาเรียกพอโดนจับผิด เราก็แอ๊บไปจับผิดเขาแทน เบี่ยงเบนประเด็นไป เทคนิคนี้ work มากๆ
ความคิดเห็นที่ 2
จุดที่คุณชอบเขาคือเขาประหยัดและหัดลงทุนใช่ไหมครับ
แสดงว่าคุณยอมรับและโอเคในจุดนี้
มองในทางกลับกันสิ่งที่คุณเจออาจจะไม่ใช่เรื่องปริมาณเงิน
แต่เป็นนิสัยจับจ่าย เงินใช้ง่าย การวางแผนการใช้เงินมั้งครับ
คุณมีอิสระในการใช้เงิน ใช่ครับ คุณจะคิดแบบนั้นก็ได้ ถ้าคุณจะอยู่ชีวิตคนเดียว
แต่ว่าการพัฒนาความสัมพันธ์ ก็ถูกประเมินไปด้วย คุณก็ต้องแฟร์กับเขาด้วย
คงไม่มีใครมานั่งรออีกฝั่งมาแก้หลังแต่งงานหรอกครับ มันสายเกินไป

งั้นลองถามเขาดูครับว่า เขาเก็บกี่ส่วน ลงทุนกี่ส่วน
คุณก็ลองออมตามแบบของเขา และถ้าคุณจะซื้อ
คุณก็เอาส่วนอื่นมาใช้ บอกเขาว่าคุณแบ่งตามที่เขาบอก
ทำเป็นรูปธรรมดูก่อนก็ได้ครับ มันดีต่อตัวคุณด้วย

ถ้าหากเขาไม่ได้เอาตัวเองเป็นใหญ่ คอยบงการ
ส่วนคุณมีแบบแผนในการใช้เงิน ก็น่าจะเข้าใจกันไม่ยากนะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่