แม่ค้าเปี๊ยะลาวา ครวญ เงื่อนไขสวัสดิการรัฐขุ่นมัว ส่อธุรกิจขยาด
https://www.nationtv.tv/news/378845558
แม่ค้าขายขนมเปี๊ยลาวา โวย ถูกเรียกเงินคืน ชี้ขายของออนไลน์ไม่ควรเป็นเรื่องผิดข้อตกลง ช่วงโควิดตลาดออนไลน์เป็นที่นิยม ถือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจเช่นกัน พ่อค้าบางรายกังวลหลังมีข่าวเรียกเงินคืน เกรงจะรัฐจะมีการเรียกคืนภาษีย้อนหลังด้วย
จากกรณีเมื่อวาน โลกโซเชียลร้อนระอุ หลังมีการแชร์ภาพเอกสารของกระทรวงการคลัง ขอเรียกเงินคืนจากร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็น คนละครึ่ง ม.33 เราชนะ หลังพบเข้าข่ายทำผิดเงื่อนไข ตามที่ได้ระบุไว้ในสัญญาก่อนร่วมโครงการ ทำให้พ่อค้าแม่ขายที่ได้รับผลกระทบแห่ออกมาโพสต์ภาพเอกสาร และแสดงความคิดเห็นมากมาย
วันที่ 11 ตุลาคม 2564 ล่าสุด ผู้สื่อข่าวยังลงพื้นที่ไปพูดคุยกับนาย
พิทักษ์(สงวนนามสกุล)(เบลอหน้าไม่สวมแมส) เปิดเผยว่า ถึงแม้ว่าที่ร้านจะไม่โดนเอกสารเรียกรับเงิน แต่ยอมรับว่ากังวล เพราะหลังจากที่มีข่าวออกเรียกรับเงินออกมาแบบนี้ ในอนาคตอาจจะมีการเรียกเก็บภาษีย้อนหลังด้วย ซึ่งถ้ารัฐเรียกเก็บภาษีในช่วงแรกที่เศรษฐกิจดี ก็พอรับได้ แต่ถ้ารัฐเรียกเก็บภาษีย้อนหลังในช่วงนี้ ซึ่งขนาดมีโครงการรัฐ ลูกค้ายังคิดแล้วคิดอีกว่าจะซื้อไหม ทุกคนต่างประหยัดเงิน ไม่ยอมใช้จ่าย เพราะไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร
การเรียกเงินคืนภายใน 30 วัน เรียกเก็บทั้งบัญชี ตนมองว่าไม่เป็นธรรมเพราะจะเอาเงินก้อนเยอะขนาดนั้นที่ไหนมาคืน รัฐต้องหามาตรการในการผ่อนปรน หรือทะยอยชำระมาช่วยพ่อค้าแม่ขายด้วย เนื่องจากเงินกำไรที่ได้ก็นำไปต่อยอดลงทุนไปแล้ว
ส่วนเรื่องการเสียภาษี รัฐบาลต้องแจงให้ชัดว่า ถ้าเข้าร่วมโครงการของรัฐจนมีรายได้เท่าเพดานที่ต้องเสียภาษี เป็นอัตราเท่าไร ชี้แจงให้ชัดเจน ซึ่งหลังจากนี้หากรัฐบาลออกโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจมาอีกคงต้องคิดดูก่อน เพราะก็ไม่รู้ว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้หรือไม่ ซึ่งหลังจากมีข่าวออกมาบางร้าน งดรับสแกนทุกโครงการของรัฐ เพราะไม่อยากมีปัญหาเพิ่ม
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้มีโอกาสพูดคุยกับแม่ค้าขายของออนไลน์ ที่ถูกกระทรวงการคลังเรียกเก็บเงินคืน
น้องดรีม แม่ค้าร้านขนมเปี๊ยะ dtwr.dessert ที่ขายขนมผ่านทั้งทางหน้าร้าน และ IG เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า ตนเองและครอบครัวมีอาชีพขายของหลายอย่าง เช่น ขายกล่องพัสดุ และอุปกรณ์กันกระแทกในกล่องพัสดุ ขายขนมเปี๊ยะลาวา มีทั้งหน้าร้าน และออนไลน์ ทำให้ใช้โทรศัพย์ในการเข้าร่วมโครงการ 3 บัญชี รวมมูลค่าที่รัฐบาลเรียกเก็บเงินคืน ประมาณ 5 แสนบาท ซึ่งถือเป็นจำนวนที่มากและไม่มีจ่ายคืน จึงได้ทำเรื่องขอยื่นอุธรณ์ไปแล้ว
ทั้งนี้ ตนมองว่าการขายของออนไลน์ผ่านโครงการของรัฐบาล ไม่ควรเป็นสิ่งที่ผิดเงื่อนไข เพราะเป็นช่องทางหนึ่งในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งในช่วงแรกที่มีโครงการของรัฐ ลูกค้าก็มักจะถามว่าจ่ายคนละครึ่งได้ไหม ซึ่งพอตอบว่าไม่ได้ร่วมโคงการ ปรากฎว่าทั้งลูกค้าประจำและขาจรหายไปเกือบหมด หันไปซื้อคู่แข่งที่มีการร่วมโครงการ เพื่อความอยู่รอด เราก็ต้องร่วมโครงการด้วยเพื่อรักษาฐานลูกค้า หลังจากร่วมโครงการลูกค้ากลับมาเพิ่มมาขึ้น ดังนั้น จึงอยากให้รัฐมองว่าการขายของออนไลน์ก็เป็นการกระตุ้นเศรษฐอย่างหนึ่ง ยิ่งในช่วงโควิดแบบนี้คนกันมาซื้อของออนไลน์เพิ่มมาขึ้น ลดการแพร่ระบาดด้วย จึงอยากให้รัฐช่วยสนับสนุนการขายออกไลน์แบบนี้ให้เหมือนกับการสนันสนุนเดลิเวอรี่
ชายวัย 26 ปี เสียชีวิตหลังฉีดวัคซีนเข็ม 2 ญาติคาใจหมอบอก ‘เส้นเลือดแดงใหญ่ขั้วหัวใจแตก’
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_2985641
ชายวัย 26 ปี เสียชีวิตหลังฉีดวัคซีนโควิดเข็ม 2 ญาติคาใจหมอบอก ‘หลอดเลือดแดงใหญ่ขั้วหัวใจแตก’
วันที่ 11 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดเสรีสามัคคีธรรม บ้านนิคมสร้างตนเองรัตภูมิ ม.7 ต.ท่า ชะมวง อ.รัตภูมิ จ.สงขลา สถานตั้งสวดอภิธรรมศพ นายมโนสิทธิ์ จันทรา อายุ26 ปี ซึ่งเสียชีวิตหลังจากฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 แอสตร้าเซนเนก้า เมื่อวันที่ 24 ก.ย.
ทั้งนี้ มีการเปิดเผยว่า ภาพกล้องวงจรปิดขณะนาย
มโนสิทธิ์ จันทรา ผู้เสียชีวิต คุยโทรศัพท์กับภรรยา บอกว่าตนเอง ไม่สบายมาก จะกลับไปบ้านไม่ได้ไปช่วยขายของ แต่คุยได้ไม่นานนายมโนสิทธิ์ ก็ล้มลงไป มีเพื่อนพยายามช่วยกัน รีบนำส่งโรงพยาบาล แต่ไม่ทันนายมโนสิทธิ์เสียชีวิตไปแล้วระหว่างทาง
ด้าน นาง
สุภาวดี จันทรา อายุ 35 ปี ภรรยา ผู้เสียชีวิตเล่าว่า สามีไปฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า เข็มที่ 2 เมื่อวันที่ 24 ก.ย. เข็มแรกฉีดซิโนเวค มีอาการไข้และผื่นขึ้นตามร่างกาย ใน 2-3 วันแรก อาการไข้ซื้อยาพารามาทานแล้วหาย และหลังจากนั้นมีผื่นขึ้นตามร่างกาย ไปซื้อยาแก้ผื่นมาทาไม่หาย มีอาการปวดขาปวดกระดูกปวดข้อ แต่ไม่ได้ไปหาหมอจนอาการหนักขึ้นแต่ยังไปทำงาน
นอกจากนี้ ภรรยายังสงสัยเรื่องสาเหตุเบื้องต้น หมอแจ้งสภาวะแทรกซ้อนจากโรคหลอดเลือดแดงใหญ่ที่ขั้วหัวใจแตก เนื่องจากสามีไม่เคยมีโรคประจำตัว และไม่มีประวัติการรักษาเลย
นาง
สุภาวดีกล่าวว่า ก่อนสามีจะเสียชีวิตพูดเป็นลางว่า ถ้าเป็นอะไรไป อยู่ดูแลลูกดีๆ ต้องมีคนเลี้ยงลูกคนหนึ่ง เดี๋ยวเธอได้เงินล้านแล้ว เดี๋ยวเธอสบายแล้ว ไม่ต้องตายตามไปนะ แต่เราคิดว่าขอให้ได้เงินล้าน แต่ถ้าต้องเสียสามีไปไม่ยอม เพราะสามีเป็นเสาหลักครอบครัว มีอะไรจะช่วยตลอด
ขณะที่แม่ผู้เสียชีวิตบอกว่าตนได้ยินข่าวช็อก ไม่คิดว่าลูกชายจะจากไป ตอนนั้นทำอะไรไม่ถูก ก่อนหน้านี้ได้ video call คุยกับลูกชาย ดูตาลูกชาย เศร้าๆ แต่ลูกชายไม่ได้บอกอะไร ลูกชายจะเป็นคนมีอะไรไม่ค่อยพูด ไม่อยากให้แม่ไม่สบายใจ ตอนนี้พยายามทำใจคิดว่าถึงเวลาของลูกชายแล้ว
ส่วนน้าชายผู้เสียชีวิต บอกว่าติดใจเรื่องสาเหตุ การเสียชีวิตของหลานชาย ว่าทำไม หมอถึงบอกว่ามาจากเส้นเลือดแตก โดยไม่บอกสาเหตุว่ามีอะไรไปกระตุ้นทำให้เส้นเลือดหัวใจแตก ตามที่หมอเขียนในใบรับรองแพทย์
ด้านน้องสาวบอกว่าพี่ชายเป็นคนดีรักครอบครัว ดูแลครอบครัวเป็นอย่างดี ดูแลน้องเป็นอย่างดี เสียดายที่ไม่ได้ตอบแทนบุญคุณพี่ชาย ขอให้พี่ชายไปสู่สุคติ รักพี่ชายมากๆ
ทั้งนี้ รายงานข่าวว่าบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า มีเพื่อนญาติพี่น้องและครอบครัว ที่มาช่วยงานศพซึ่งจะมีพีธีฌาปนกิจศพในวันพรุ่งนี้
ผู้ว่าอุดรฯ สั่งปิดหมู่บ้านดงน้อย หลังเจอผู้ป่วยโควิด พรวดเดียว 75 คน
https://www.khaosod.co.th/covid-19/news_6671639
ผู้ว่าอุดรฯ สั่งปิดหมู่บ้านดงน้อย หลังเจอผู้ป่วยโควิด พรวดเดียว 75 คน
เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 11 ต.ค.64 นาย
สยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี พร้อม นาย
นิติพัฒน์ ลีลาเลิศแล้ว รองผู้ว่าฯ นำเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่จุดปิดกั้นการเข้าออก บ้านดงน้อย หมู่ 4 ต.เมืองเพีย อ.กุดจับ หลังจากตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิดถึง 75 ราย โดยมี นาย
วิโรจน์ อุทุมโภค นายอำเภอกุดจับ นำเจ้าหน้าที่ รพ.กุดจับ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข อ.กุดจับ รพ.สต.เมืองเพีย ผญบ. อสม. ชรบ. และผู้เกี่ยวข้องอยู่บริเวณจุดปิดกั้น และจัดตั้งเป็นศูนย์อำนวยการ
นาย
สยาม เปิดเผยว่า ก่อนนี้ทางสาธารณสุขอำเภอกุดจับ และ รพ.สต.เมืองเพีย ได้รับแจ้งจาก รพ.ศูนย์อุดรธานี ว่าพบผู้ติดเชื้อโควิด มีภูมิลำเนาอยู่ที่บ้านดงน้อย จึงได้เข้าสอบสวนควบคุมโรค แยกผู้สัมผัสเสี่ยงสูง สัมผัสเสี่ยงต่ำ และผู้ไม่สัมผัส จากจำนวน 317 ครัวเรือน 1,200 คนเศษ พบผู้สัมผัสเสี่ยงสูงและเสี่ยงต่ำ 720 คน มีการแยกตรวจหาเชื้อทั้งวิธี ATK , Rapid test และ PCR วันแรกพบผู้ติดเชื้อยืนยัน 12 ราย เมื่อวานนี้รายงานผลตรวจพบว่า มีผู้ติดเชื้อเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ นายอำเภอกุดจับ ตัดสินใจปิดทางเข้า-ออกบ้าน ซึ่งมีอยู่ทั้ง 3 เส้นทาง
ผลการตรวจหาเชื้อออกมาล่าสุด ยืนยันการติดเชื้อรวม 75 ราย บางครอบครัวป่วยหมดทั้งบ้าน 1 ในผู้ติดเชื้อเป็นหญิงชรา อายุ 102 ปี เป็นผู้มีอายุมากที่สุดของหมู่บ้านทั้งหมดถูกนำตัวส่ง รพ.กุดจับ, รพ.สนาม และโฮสพิเทล อ.เมืองอุดรธานี ยังเหลือผลการตรวจอีก 10 ราย ยังถูกกักตัวรอผลการตรวจ ส่วนผู้ที่ตรวจไม่พบเชื้อกำหนดให้เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ต้องกักตัวรอดูอาการอยู่ในบ้าน ของตนเองในหมู่บ้าน ในวันพรุ่งนี้จะตรวจหาเชื้อ ปูพรมผู้ถูกกักตัวเป็นรอบที่ 3
โดยในการสอบสวนควบคุมโรคทำให้ อำเภอกุดจับ และสาธารณสุข อ.กุดจับ ออกประกาศ
1. ให้ผู้ไปใช้บริการที่ร้านสะดวกซื้อ (เซเว่นอีลีเว่น) สาขาหน้าตลาดสด เทศบาลตำบลกุดจับ ระหว่างวันที่ 1-7 ต.ค.ให้เฝ้าระวังอาการที่บ้าน 14 วันถ้ามีอาการไข้ไอ เจ็บคอ จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รู้รส มีไข้ปวดตามตัวให้มารับการตรวจหาเชื้อ
2. ให้ผู้ไปร่วมงานศพ ที่วัดบรมสมภรณ์ บ้านหนองแวงคำ หมู่ 10 ต.กุดจับ เมื่อ 5 ต.ค.เวลา 11.00-16.00 น. ให้เฝ้าระวังอาการที่บ้าน 14 วัน ถ้ามีอาการไข้ไอ เจ็บคอ จมูกไม่ได้กลิ่นลิ้นไม่รู้รส ปวดไข้ ปวดตามตัวให้มารับการตรวจหาเชื้อ
จากนั้น นาย
สยาม ได้มอบถุงยังชีพบรรเทาความเดือดร้อน ให้ทุกครอบครัวในหมู่บ้านรวม 317 ชุด พร้อมกล่าวให้กำลังใจทีมงาน และอาสาสมัครมาช่วยดูแลกัน และเข้าเวรยาม 24 ชม. ตลอดจนไปถึงผู้ถูกกักตัว
ขณะที่ นาย
พูนทรัพย์ ทองอุ่น ผญบ.บ้านดงน้อย กล่าวว่า การสอบสวนควบคุมโรคเชื้อว่า ผู้ติดเชื้อรายแรกเป็นครอบครัว พ่อค้า-แม่ค้าขายเสื้อผ้าตามตลาดนัด ที่ตระเวนไปขายตามตลาดนัดต่างๆ ทั้งครอบครัวติดเชื้อทั้งหมด 4 คน โดยก่อนหน้านี้ไม่รู้ว่าติดมาเมื่อใด แต่ด้วยบ้านดงน้อยเป็นบ้านสุดท้ายใต้เขื่อนเก็บน้ำห้วยหลวง มีอาชีพทำนา ทำไร่อ้อย ยางพารา และประมง ส่วนใหญ่เป็นญาติพี่น้องกัน ล้อมวงกินข้าว ไปมาหาสู่ ทั้งงานบุญ ประเพณี และงานศพ น่าจะเป็นสาเหตุทำให้ การแพร่เชื้อออกไปเป็นวงกว้าง
JJNY : 4in1 ครวญเงื่อนไขสวัสดิการรัฐ│ชายวัย26 เสียหลังฉีดเข็ม2│ผู้ว่าอุดรฯสั่งปิดหมู่บ้านดงน้อย│เจดีย์วัดสนามไชยท่วมหนัก
https://www.nationtv.tv/news/378845558
แม่ค้าขายขนมเปี๊ยลาวา โวย ถูกเรียกเงินคืน ชี้ขายของออนไลน์ไม่ควรเป็นเรื่องผิดข้อตกลง ช่วงโควิดตลาดออนไลน์เป็นที่นิยม ถือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจเช่นกัน พ่อค้าบางรายกังวลหลังมีข่าวเรียกเงินคืน เกรงจะรัฐจะมีการเรียกคืนภาษีย้อนหลังด้วย
จากกรณีเมื่อวาน โลกโซเชียลร้อนระอุ หลังมีการแชร์ภาพเอกสารของกระทรวงการคลัง ขอเรียกเงินคืนจากร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็น คนละครึ่ง ม.33 เราชนะ หลังพบเข้าข่ายทำผิดเงื่อนไข ตามที่ได้ระบุไว้ในสัญญาก่อนร่วมโครงการ ทำให้พ่อค้าแม่ขายที่ได้รับผลกระทบแห่ออกมาโพสต์ภาพเอกสาร และแสดงความคิดเห็นมากมาย
วันที่ 11 ตุลาคม 2564 ล่าสุด ผู้สื่อข่าวยังลงพื้นที่ไปพูดคุยกับนายพิทักษ์(สงวนนามสกุล)(เบลอหน้าไม่สวมแมส) เปิดเผยว่า ถึงแม้ว่าที่ร้านจะไม่โดนเอกสารเรียกรับเงิน แต่ยอมรับว่ากังวล เพราะหลังจากที่มีข่าวออกเรียกรับเงินออกมาแบบนี้ ในอนาคตอาจจะมีการเรียกเก็บภาษีย้อนหลังด้วย ซึ่งถ้ารัฐเรียกเก็บภาษีในช่วงแรกที่เศรษฐกิจดี ก็พอรับได้ แต่ถ้ารัฐเรียกเก็บภาษีย้อนหลังในช่วงนี้ ซึ่งขนาดมีโครงการรัฐ ลูกค้ายังคิดแล้วคิดอีกว่าจะซื้อไหม ทุกคนต่างประหยัดเงิน ไม่ยอมใช้จ่าย เพราะไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร
การเรียกเงินคืนภายใน 30 วัน เรียกเก็บทั้งบัญชี ตนมองว่าไม่เป็นธรรมเพราะจะเอาเงินก้อนเยอะขนาดนั้นที่ไหนมาคืน รัฐต้องหามาตรการในการผ่อนปรน หรือทะยอยชำระมาช่วยพ่อค้าแม่ขายด้วย เนื่องจากเงินกำไรที่ได้ก็นำไปต่อยอดลงทุนไปแล้ว
ส่วนเรื่องการเสียภาษี รัฐบาลต้องแจงให้ชัดว่า ถ้าเข้าร่วมโครงการของรัฐจนมีรายได้เท่าเพดานที่ต้องเสียภาษี เป็นอัตราเท่าไร ชี้แจงให้ชัดเจน ซึ่งหลังจากนี้หากรัฐบาลออกโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจมาอีกคงต้องคิดดูก่อน เพราะก็ไม่รู้ว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้หรือไม่ ซึ่งหลังจากมีข่าวออกมาบางร้าน งดรับสแกนทุกโครงการของรัฐ เพราะไม่อยากมีปัญหาเพิ่ม
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้มีโอกาสพูดคุยกับแม่ค้าขายของออนไลน์ ที่ถูกกระทรวงการคลังเรียกเก็บเงินคืน น้องดรีม แม่ค้าร้านขนมเปี๊ยะ dtwr.dessert ที่ขายขนมผ่านทั้งทางหน้าร้าน และ IG เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า ตนเองและครอบครัวมีอาชีพขายของหลายอย่าง เช่น ขายกล่องพัสดุ และอุปกรณ์กันกระแทกในกล่องพัสดุ ขายขนมเปี๊ยะลาวา มีทั้งหน้าร้าน และออนไลน์ ทำให้ใช้โทรศัพย์ในการเข้าร่วมโครงการ 3 บัญชี รวมมูลค่าที่รัฐบาลเรียกเก็บเงินคืน ประมาณ 5 แสนบาท ซึ่งถือเป็นจำนวนที่มากและไม่มีจ่ายคืน จึงได้ทำเรื่องขอยื่นอุธรณ์ไปแล้ว
ทั้งนี้ ตนมองว่าการขายของออนไลน์ผ่านโครงการของรัฐบาล ไม่ควรเป็นสิ่งที่ผิดเงื่อนไข เพราะเป็นช่องทางหนึ่งในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งในช่วงแรกที่มีโครงการของรัฐ ลูกค้าก็มักจะถามว่าจ่ายคนละครึ่งได้ไหม ซึ่งพอตอบว่าไม่ได้ร่วมโคงการ ปรากฎว่าทั้งลูกค้าประจำและขาจรหายไปเกือบหมด หันไปซื้อคู่แข่งที่มีการร่วมโครงการ เพื่อความอยู่รอด เราก็ต้องร่วมโครงการด้วยเพื่อรักษาฐานลูกค้า หลังจากร่วมโครงการลูกค้ากลับมาเพิ่มมาขึ้น ดังนั้น จึงอยากให้รัฐมองว่าการขายของออนไลน์ก็เป็นการกระตุ้นเศรษฐอย่างหนึ่ง ยิ่งในช่วงโควิดแบบนี้คนกันมาซื้อของออนไลน์เพิ่มมาขึ้น ลดการแพร่ระบาดด้วย จึงอยากให้รัฐช่วยสนับสนุนการขายออกไลน์แบบนี้ให้เหมือนกับการสนันสนุนเดลิเวอรี่
ชายวัย 26 ปี เสียชีวิตหลังฉีดวัคซีนเข็ม 2 ญาติคาใจหมอบอก ‘เส้นเลือดแดงใหญ่ขั้วหัวใจแตก’
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_2985641
ชายวัย 26 ปี เสียชีวิตหลังฉีดวัคซีนโควิดเข็ม 2 ญาติคาใจหมอบอก ‘หลอดเลือดแดงใหญ่ขั้วหัวใจแตก’
วันที่ 11 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดเสรีสามัคคีธรรม บ้านนิคมสร้างตนเองรัตภูมิ ม.7 ต.ท่า ชะมวง อ.รัตภูมิ จ.สงขลา สถานตั้งสวดอภิธรรมศพ นายมโนสิทธิ์ จันทรา อายุ26 ปี ซึ่งเสียชีวิตหลังจากฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 แอสตร้าเซนเนก้า เมื่อวันที่ 24 ก.ย.
ทั้งนี้ มีการเปิดเผยว่า ภาพกล้องวงจรปิดขณะนายมโนสิทธิ์ จันทรา ผู้เสียชีวิต คุยโทรศัพท์กับภรรยา บอกว่าตนเอง ไม่สบายมาก จะกลับไปบ้านไม่ได้ไปช่วยขายของ แต่คุยได้ไม่นานนายมโนสิทธิ์ ก็ล้มลงไป มีเพื่อนพยายามช่วยกัน รีบนำส่งโรงพยาบาล แต่ไม่ทันนายมโนสิทธิ์เสียชีวิตไปแล้วระหว่างทาง
ด้าน นางสุภาวดี จันทรา อายุ 35 ปี ภรรยา ผู้เสียชีวิตเล่าว่า สามีไปฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า เข็มที่ 2 เมื่อวันที่ 24 ก.ย. เข็มแรกฉีดซิโนเวค มีอาการไข้และผื่นขึ้นตามร่างกาย ใน 2-3 วันแรก อาการไข้ซื้อยาพารามาทานแล้วหาย และหลังจากนั้นมีผื่นขึ้นตามร่างกาย ไปซื้อยาแก้ผื่นมาทาไม่หาย มีอาการปวดขาปวดกระดูกปวดข้อ แต่ไม่ได้ไปหาหมอจนอาการหนักขึ้นแต่ยังไปทำงาน
นอกจากนี้ ภรรยายังสงสัยเรื่องสาเหตุเบื้องต้น หมอแจ้งสภาวะแทรกซ้อนจากโรคหลอดเลือดแดงใหญ่ที่ขั้วหัวใจแตก เนื่องจากสามีไม่เคยมีโรคประจำตัว และไม่มีประวัติการรักษาเลย
นางสุภาวดีกล่าวว่า ก่อนสามีจะเสียชีวิตพูดเป็นลางว่า ถ้าเป็นอะไรไป อยู่ดูแลลูกดีๆ ต้องมีคนเลี้ยงลูกคนหนึ่ง เดี๋ยวเธอได้เงินล้านแล้ว เดี๋ยวเธอสบายแล้ว ไม่ต้องตายตามไปนะ แต่เราคิดว่าขอให้ได้เงินล้าน แต่ถ้าต้องเสียสามีไปไม่ยอม เพราะสามีเป็นเสาหลักครอบครัว มีอะไรจะช่วยตลอด
ขณะที่แม่ผู้เสียชีวิตบอกว่าตนได้ยินข่าวช็อก ไม่คิดว่าลูกชายจะจากไป ตอนนั้นทำอะไรไม่ถูก ก่อนหน้านี้ได้ video call คุยกับลูกชาย ดูตาลูกชาย เศร้าๆ แต่ลูกชายไม่ได้บอกอะไร ลูกชายจะเป็นคนมีอะไรไม่ค่อยพูด ไม่อยากให้แม่ไม่สบายใจ ตอนนี้พยายามทำใจคิดว่าถึงเวลาของลูกชายแล้ว
ส่วนน้าชายผู้เสียชีวิต บอกว่าติดใจเรื่องสาเหตุ การเสียชีวิตของหลานชาย ว่าทำไม หมอถึงบอกว่ามาจากเส้นเลือดแตก โดยไม่บอกสาเหตุว่ามีอะไรไปกระตุ้นทำให้เส้นเลือดหัวใจแตก ตามที่หมอเขียนในใบรับรองแพทย์
ด้านน้องสาวบอกว่าพี่ชายเป็นคนดีรักครอบครัว ดูแลครอบครัวเป็นอย่างดี ดูแลน้องเป็นอย่างดี เสียดายที่ไม่ได้ตอบแทนบุญคุณพี่ชาย ขอให้พี่ชายไปสู่สุคติ รักพี่ชายมากๆ
ทั้งนี้ รายงานข่าวว่าบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า มีเพื่อนญาติพี่น้องและครอบครัว ที่มาช่วยงานศพซึ่งจะมีพีธีฌาปนกิจศพในวันพรุ่งนี้
ผู้ว่าอุดรฯ สั่งปิดหมู่บ้านดงน้อย หลังเจอผู้ป่วยโควิด พรวดเดียว 75 คน
https://www.khaosod.co.th/covid-19/news_6671639
ผู้ว่าอุดรฯ สั่งปิดหมู่บ้านดงน้อย หลังเจอผู้ป่วยโควิด พรวดเดียว 75 คน
เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 11 ต.ค.64 นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี พร้อม นายนิติพัฒน์ ลีลาเลิศแล้ว รองผู้ว่าฯ นำเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่จุดปิดกั้นการเข้าออก บ้านดงน้อย หมู่ 4 ต.เมืองเพีย อ.กุดจับ หลังจากตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิดถึง 75 ราย โดยมี นายวิโรจน์ อุทุมโภค นายอำเภอกุดจับ นำเจ้าหน้าที่ รพ.กุดจับ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข อ.กุดจับ รพ.สต.เมืองเพีย ผญบ. อสม. ชรบ. และผู้เกี่ยวข้องอยู่บริเวณจุดปิดกั้น และจัดตั้งเป็นศูนย์อำนวยการ
นายสยาม เปิดเผยว่า ก่อนนี้ทางสาธารณสุขอำเภอกุดจับ และ รพ.สต.เมืองเพีย ได้รับแจ้งจาก รพ.ศูนย์อุดรธานี ว่าพบผู้ติดเชื้อโควิด มีภูมิลำเนาอยู่ที่บ้านดงน้อย จึงได้เข้าสอบสวนควบคุมโรค แยกผู้สัมผัสเสี่ยงสูง สัมผัสเสี่ยงต่ำ และผู้ไม่สัมผัส จากจำนวน 317 ครัวเรือน 1,200 คนเศษ พบผู้สัมผัสเสี่ยงสูงและเสี่ยงต่ำ 720 คน มีการแยกตรวจหาเชื้อทั้งวิธี ATK , Rapid test และ PCR วันแรกพบผู้ติดเชื้อยืนยัน 12 ราย เมื่อวานนี้รายงานผลตรวจพบว่า มีผู้ติดเชื้อเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ นายอำเภอกุดจับ ตัดสินใจปิดทางเข้า-ออกบ้าน ซึ่งมีอยู่ทั้ง 3 เส้นทาง
ผลการตรวจหาเชื้อออกมาล่าสุด ยืนยันการติดเชื้อรวม 75 ราย บางครอบครัวป่วยหมดทั้งบ้าน 1 ในผู้ติดเชื้อเป็นหญิงชรา อายุ 102 ปี เป็นผู้มีอายุมากที่สุดของหมู่บ้านทั้งหมดถูกนำตัวส่ง รพ.กุดจับ, รพ.สนาม และโฮสพิเทล อ.เมืองอุดรธานี ยังเหลือผลการตรวจอีก 10 ราย ยังถูกกักตัวรอผลการตรวจ ส่วนผู้ที่ตรวจไม่พบเชื้อกำหนดให้เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ต้องกักตัวรอดูอาการอยู่ในบ้าน ของตนเองในหมู่บ้าน ในวันพรุ่งนี้จะตรวจหาเชื้อ ปูพรมผู้ถูกกักตัวเป็นรอบที่ 3
โดยในการสอบสวนควบคุมโรคทำให้ อำเภอกุดจับ และสาธารณสุข อ.กุดจับ ออกประกาศ
1. ให้ผู้ไปใช้บริการที่ร้านสะดวกซื้อ (เซเว่นอีลีเว่น) สาขาหน้าตลาดสด เทศบาลตำบลกุดจับ ระหว่างวันที่ 1-7 ต.ค.ให้เฝ้าระวังอาการที่บ้าน 14 วันถ้ามีอาการไข้ไอ เจ็บคอ จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รู้รส มีไข้ปวดตามตัวให้มารับการตรวจหาเชื้อ
2. ให้ผู้ไปร่วมงานศพ ที่วัดบรมสมภรณ์ บ้านหนองแวงคำ หมู่ 10 ต.กุดจับ เมื่อ 5 ต.ค.เวลา 11.00-16.00 น. ให้เฝ้าระวังอาการที่บ้าน 14 วัน ถ้ามีอาการไข้ไอ เจ็บคอ จมูกไม่ได้กลิ่นลิ้นไม่รู้รส ปวดไข้ ปวดตามตัวให้มารับการตรวจหาเชื้อ
จากนั้น นายสยาม ได้มอบถุงยังชีพบรรเทาความเดือดร้อน ให้ทุกครอบครัวในหมู่บ้านรวม 317 ชุด พร้อมกล่าวให้กำลังใจทีมงาน และอาสาสมัครมาช่วยดูแลกัน และเข้าเวรยาม 24 ชม. ตลอดจนไปถึงผู้ถูกกักตัว
ขณะที่ นายพูนทรัพย์ ทองอุ่น ผญบ.บ้านดงน้อย กล่าวว่า การสอบสวนควบคุมโรคเชื้อว่า ผู้ติดเชื้อรายแรกเป็นครอบครัว พ่อค้า-แม่ค้าขายเสื้อผ้าตามตลาดนัด ที่ตระเวนไปขายตามตลาดนัดต่างๆ ทั้งครอบครัวติดเชื้อทั้งหมด 4 คน โดยก่อนหน้านี้ไม่รู้ว่าติดมาเมื่อใด แต่ด้วยบ้านดงน้อยเป็นบ้านสุดท้ายใต้เขื่อนเก็บน้ำห้วยหลวง มีอาชีพทำนา ทำไร่อ้อย ยางพารา และประมง ส่วนใหญ่เป็นญาติพี่น้องกัน ล้อมวงกินข้าว ไปมาหาสู่ ทั้งงานบุญ ประเพณี และงานศพ น่าจะเป็นสาเหตุทำให้ การแพร่เชื้อออกไปเป็นวงกว้าง