บ้านรับเลี้ยงเด็กเสียงดัง สามารถฟ้องได้มั้ยคะ?

พอดีอยากทราบค่ะ ว่าสามารถฟ้องได้มั้ย บ้านเรารับเลี้ยงเด็กค่ะมีเด็กอายุ 6 เดือน - 3 ขวบครึ่งค่ะ รวมแล้ว 14 คน ส่วนใหญ่เด็กโตค่ะ เด็กเล็กมี 4 คน มีอยู่วันนึงเด็กที่พึ่งมาใหมาร้องค่ะ เสียงดังมาก น้องไม่เคยอยู่ที่เลี้ยงแบบนี้มาก่อนเลยร้องตามธรรมชาติแหละค่ะ คิดถึงพ่อแม่ เราก็พยายามปลอบสุดๆทั้งให้นม,อุ้ม,ให้ของเล่น,ทำหน้าตลก,ชวนคุยสารพัดค่ะ555 พยายามจนท้อ จนน้องหยุดเอง เราก็เหลือบไปเห็นพี่ข้างบ้านที่เขาทำงาน ส่ายหน้า+กุมขมับ แล้วเราลืมปิดหน้าต่างตอนที่น้องร้อง เราเห็นเลยรีบไปปิดให้ค่ะ เขาก็แจ้งนิติ เราก็แก้ไขค่ะ ทีนี้ประเด็นอยู่อีกบ้านค่ะ หมู่บ้านถนนกว้างค่ะ บ้านคนนี้อยู่อีกฝั่ง ก็แจ้งนิติเหมือนกันค่ะว่า แฟนเขากลับมาจากทำงานไม่ได้นอนพักเพราะเด็กร้องเป็น ชม. แล้วบอกว่า เราไม่ยอมปลอบปล่อยให้เด็กร้อง เราก็งงค่ะ อย่างแรก คือบ้านเขาอยู่เยื้องๆแถมบ้านเค้าปิดประตูกระจก เราก็งงว่าได้ยินด้วยหรอ ไม่ซีค่ะอันนี้แต่เขาบอกว่าเราไม่ยอมปลอบน่ะสิคะ คือเราก็เข้าใจค่ะว่าไม่มีใครชอบให้เด็กร้องไห้หรอกค่ะมันน่ารำคาญ55555 เราก็รำคาญเหมือนกันเราพยายามปลอบแล้วแต่เด็กไม่หยุดร้องให้ เราก็ไม่รู้จะทำไง ปลอบจนน้องหยุดร้องเอง เด็กก็ร้องไม่ถึง ชม. ค่ะ ยืนยันได้เลยค่ะ แล้วเขาเหมือนค่อนข้างจะดูมีปัญหากับบ้านเรา แล้วบอกว่าบ้านเราจะนำเชื้อมารึป่าว คือ ผู้ปกครองเด็กๆได้รับวัคซีนหมดทุกบ้าน ตรวจเชื้อกับแทบทุกอาทิตย์รวมถึงตัวพี่เลี้ยงด้วย (วัคซีนกำลังจะได้รอวันไปฉีด) แต่พี่ข้างบ้านอีกฝั่งก็ทำงานออกกะมาเหมือนกันติดๆกันเลยนะคะ เขาก็ไม่เห็นมีปัญหาอะไรเลย ทั้งนี้ทั้งนั้นคือ บ้านรับเลี้ยงเด็กเสียงดัง พี่เลี้ยงพยายามปลอบแต่เด็กร้องไม่หยุด เพื่อนบ้านเลยบอกจะฟ้องศาล ฟ้องได้มั้ยคะ
**อาจจะพิมพ์ไม่ค่อยรู้เรื่องนะคะ เบลอๆค่ะ5555**
ขอบคุณสำหรับคำตอบและความคิดเห็นทุกๆความคิดเห็นค่ะ ขอบคุณค่ะ ♡♡
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
แจ้งตำรวจหรือฟ้องได้ เพราะเค้าเดือดร้อน บ้านคุณสร้างความรำคาญให้เค้า  บ้านพักอาศัย แบบบ้านเดี่ยวติดๆกันรึเปล่าคะ ? คือถ้าใช่ บ้านจัดสรรสมัยใหม่ที่สร้างคิดๆกัน แค่บ้านข้างๆหรือบ้านตรงข้ามคุยกันธรรมดาในบริเวณรั้วบ้านเค้า บ้านติดกันยังได้ยินเลยค่ะ  เสียงเด็กร้องไห้นี่ดังข้ามไปที 4-5 บ้านเลยนะคะ

คิดยังไงใช้บ้านพักอาศัยในหมู่บ้านมาเลี้ยงเด็กเล็กๆ 14 คน ? มันไม่เหมาะสมอ่ะค่ะ  ไม่เกรงใจบ้านใกล้เคียงเหรอคะ ?  เข้าใจว่าอยากได้เงิน แต่ถ้าต้องรับเลี้ยงเด็กหลายคนและจะทำเป็นธุรกิจ แบบนี้ออกไปหาเช่าที่ทำเลห่างไกลบ้านเรือนคนดีกว่าค่ะ  ไม่งั้นก็ต้องจำกัดจำนวน เด็ก 5-6 คนก็เยอะแล้วนะสำหรับบ้านเดี่ยวขนาดปานกลาง เกิน 10 คน นี่คงไม่มีใครอยากเป็นเพื่อนบ้าน  เพราะเด็กเล็กๆต้องส่งเสียงร้องอยู่แล้ว

เราเคยเอาลูกไปเนอสตอนอายุขวบปลายๆ  เป็นบ้านเดี่ยวขนาดใหญ่  เราเดินไปรับลูก ได้ยินเสียงลูกร้องดังมาถึงกลางซอย   โชคดีเรารีบเอาลูกออกมา ไปแค่ 2 วัน รู้แล้วว่าลูกไม่โอเค
อวก นอนละเมอ ผวาตลอด  หลังจากออกมาลูกกลัวคนแปลกหน้า ติดแม่หนักกว่าเดิมมากๆ เค้าฝังใจที่เราเคยพาเค้าไปบ้านหลังหนึ่งแล้วทิ้งเค้าไว้กับใครก็ไม่รู้ หลังจากนั้นเวลาไปสถานที่ๆเป็นบ้านหรือห้องปิด เค้าจะกลัวให้อุ้มตลอด
เป็น trauma ที่ใช้เวลาเป็นปีๆกว่าคนเป็นแม่จะเรียกความเชื่อมั่นกลับมาว่าแม่อยู่นี่ไม่ต้องกลัวนะลูก  หลังจากนั้นเริ่มศึกษาเรื่องพัฒนาการเด็กเล็ก ฟังและดูงานวิจัยเกี่ยวกับเด็ก attachment ระหว่างเด็กและแม่ ถึงรู้ว่าเราไม่ควรเอาลูกไปปล่อยให้เค้าทรมานแบบนั้นเลย นึกย้อนไปยังรู้สึกผิดต่อลูก ไม่ใข่สปอยลูก แต่เพราะเด็กเล็กๆตามธรรมชาติไม่ควรต้องห่างแม่ ไม่มีนักจิตวิทยาเด็กคนไหนสนับสนุนให้เด็กห่างแม่ไปอยู่เนอสทั้งวันก่อน 3 ขวบเลยค่ะ ลองอ่านของไทยก็มี นพ.ประเสิรฐ คุณหมอเคยเขียนไว้ว่า "ผู้ปกครองและเจ้าของเนอสเซอรี่ เจ้าของโรงเรียนยังขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับพัฒนาการเด็ก" คนทำธุรกิจเด็กส่วนมากไม่มีความรู้เรื่องเกี่ยวกับพัฒนาการเด็กด้วยซ้ำ เด็กทีมี temperament ต่างกันต้องใช้วิธีเข้าใจและเข้าถึงต่างกัน จะใช้วิธีเลี้ยงเป็นระบบเดียวกันเหมือนหุ่นยนต์ไม่ได้ ที่เมืองนอกเอาเด็กไปทำกิจกรรม 2-3 ชม ก็ไปรับ แรกๆแม่ต้องอยู่ด้วยก่อน  ไม่ควรไปถึงแล้วทิ้งลูกกับใครไม่รู้  เด็กอายุขวบกว่าจนถึง 2 ขวบครึ่งจะติดแม่หรือคนเลี้ยงมาก  วัยนี้ไม่ควรเอาเข้าเนอสไปให้คนอื่นเลี้ยง  เพราะคนที่เนอสไม่มีใครรู้ใจเด็กเท่าแม่หรือคนที่บ้าน แล้วเด็กจะรู้สึกเคว้งคว้าง ทรมานมาก

เด็กที่ร้องไม่หยุด ทางเนอสหรือร.ร.ต้องโทรให้แม่มารับกลับ  อย่าฝืนถ้ารู้ว่าเอาเด็กไม่อยู่ คือคุณทำยังไงเด็กก็ร้องเพราะเด็กต้องการแม่ ไม่ได้ต้องการใคร มันทรมานเด็กคนนึงมากๆ อย่าคิดว่าฝึกเด็กไม่เป็นไรหรอก  นึกถึงตัวคุณเองร้องไห้หนักๆครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ ? การร้องไห้หนักๆเด็กหลั่งสารเครียดออกมา กระทบต่อร่างกายและจิตใจเด็ก  การฝึกต้องค่อยเป็นค่อยไป เช่น แรกๆพ่อแม่ไปด้วยให้เด็กคุ้นกับคนเลี้ยงและสถานที่ก่อน ต่อมาให้อยู่เองแค่ 1 ชม.แล้วค่อยๆเพิ่มเวลา ให้เด็กรู้สึกคุ้นเคยว่าที่นี่ safe เด็กบางคนใช้เวลาในการปรับตัวกับสิ่งแวดล้อมใหม่และคนที่ไม่คุ้นเคยๆยาก คนเลี้ยงต้องทำความเข้าใจเด็กทีมีพื้นฐานอารมณ์ sensitive /ปรับตัวยาก / slow to warm up   ลองหาไปอ่านดูนะคะ ทำงานกับเด็กต้องรู้จักพื้นฐานทางอารมณ์ของเด็กที่เราเลี้ยง เราจะเข้าถึงเค้าง่ายขึ้น

ถ้าร้องไห้ทีเป็น ชม วันแรกต้องโทรให้แม่มารับแล้วค่ะ หลายๆวันติดให้แม่มารับบอกแม่เลยว่าน้องยังไม่พร้อม  ชีวิต และจิตใจเด็กสำคัญกว่าเงินค่ะ  เพราะถ้าเด็กเครียดมากๆจะส่งผลต่อการเรียนรู้ นึกถึงตัวเราผู้ใหญ่ร้องไห้เสียใจหนักๆ เราจะมีอารมณ์อยากไปนั่งร้องเพลง ทำกิจกรรมหรือมีจิตใจอยากคิดงานอะไรมั๊ย  คนเราจะเรียนรู้ได้ดีเมื่ออารมณ์ดี  ปล่อยให้เด็กไปร้องไห้ทั้งวันเด็กก็ไม่ได้เรียนรู้อะไร ได้แต่ความ "ทรมาน"  บางคนหนักถึงขั้นกินไม่ลง ร่างกายแปรปรวน นอนไม่หลับ นอนแล้วละเมอ ส่งผลต่อการเจริญเติบโตอีก

ส่วนเรื่องบ้านข้างๆจะฟ้องหรือไม่ ไม่ต้องสนใจ ประเด็นคือบ้านคุณ "สร้างความเดือดร้อน" ให้ผู้อื่น ไม่ใช่เด็กคนนี้ร้องแล้วเค้ารำคาญหรอก คงมีเด็กอื่นๆร้องจนเค้ารำคาญมาก่อน ถ้ามีความเกรงใจเพื่อนบ้านก็ไม่ควรเปิดรับเลี้ยงเด็กที่บ้านค่ะ

เด็กใหม่ที่รับเข้ามาถ้าน้องร้องนาน ปลอบเท่าไหร่ก็ยังร้อง ต้องโทรให้ ผปค น้องมารับ ระหว่างนี้ลองพาน้องมาเดินเล่นชมนกชมไม้หน้าบ้าน รดน้ำต้นไม้ เล่นขุดดิน นับใบไม้ อย่าให้อยู่ในห้องสี่เหลี่ยม เด็กอึกอัด ต้องเปลี่ยนบรรยากาศ ทำยังไงก็ได้ให้เค้ารู้สึกดี  ถ้าทำไมได้ ทำทุกทางแล้ว น้องยังร้องไม่หยุด แสดงว่าน้องยังไม่พร้อมจะห่างจากแม่หรือคนที่บ้าน แนะนำอย่าฝืนน้องค่ะ ปล่อยน้องกลับไปสู่อ้อมกอดแม่  เด็กบางคนหยุดร้องไม่ใช่ปรับตัวได้แล้ว แต่หยุดเพราะเหนื่อย ร่างกายร้องติดต่อกันนานไม่ได้เค้าก็หยุด แต่ใจเค้ายังเศร้าอยู่ บางคนรู้สึกกระทบจิตใจมากๆกลายเป็นเด็กนิ่งๆซึมเศร้าไปเลย  ลองหาข้อมูลโรคเครียดหรือซีมเศร้าในเด็กเล็ก จริงๆไม่มีเด็กคนไหนพร้อมห่างแม่ตั้งแต่เล็ก เด็กคนไหนไม่ร้องไห้ไม่ใช่เก่งนะคะ  หมอเคยบอกว่าเด็กที่ไม่ร้องไห้เวลาเจอคนแปลกหน้าแบบนั้นกลับน่าเป็นห่วง แสดงว่าแม่ไม่ค่อยเลี้ยงตอนเล็กลูกเลยไม่สนิทกับแม่หรือไม่ก็เด็กพิเศษ ที่ขาดความรู้สึกทางอารมณ์ ให้ไปอยู่ไหนกับใครก็ได้  ถ้าเด็กปกติ ที่มีความสัมพันธ์กับแม่ดีแต่เล็กจะต้องร้องไห้หนักเลยถ้าแม่เอาไปปล่อยที่เนอสในวัยเล็กๆแบบนี้   เพราะธรรมชาติสร้างมาให้เด็กวัยเล็กอยู่กับแม่
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่