สวัสดีครับ ผมเป็นพนักงานออฟฟิศ เปลี่ยนงานมา 2 ที่ ปัจจุบันเงินเดือนเกือบ 50k งานที่ทำอยู่ค่อนข้างจะเหนื่อยและไม่เป็นตัวของตัวเองเลยครับ ทุกเช้าที่ตื่นมาคือรู้สึกทุกข์ในงานที่ติดขัด รู้สึกกดดันในงานที่เป็นไปไม่ได้แต่ทางผู้บริหารบีบว่าจะเอาไวๆ โดยที่เค้าไม่เข้าใจถึงทีมทำงานว่าด้วยระยะเวลาของระบบมันไม่ได้พัฒนาได้ไวด้วยความเป็นองค์กรใหญ่ต้องต่อคิวงานและมีขั้นตอนเยอะ (เคยคุยกับหัวหน้าในหลาย project แล้ว แต่ก็ยังวนมาโดนงานเร่งแบบเดิมๆ) อีกเรื่องคือการที่ต้องทำตามสิ่งที่ผู้บริหารสั่งลงมาเท่านั้น ถึงแม้ว่าความคิดของเราจะมีเหตุผลมากแค่ไหนก็ตาม
พื้นฐานที่บ้านผมก็ปานกลางครับ เป็นครอบครัวใหญ่ พ่อแม่ทำงานออฟฟิศเกษียณแล้ว มีเงินก้อนเกษียณ มี passive income จากอสังหาพอใช้สบาย ไปเที่ยวต่างประเทศได้ทุกปี ผมก็อยู่กับที่บ้านเก็บเงินทำห้องเล็กๆของตัวเอง กินข้าวที่บ้านเช้าเย็น ยิ่งทุกวันนี้ WFH ก็กินข้าวบ้าน 3 มื้อเลยครับ รถก็ใช้ของที่บ้านคันเก่าเกือบ 20 ปีที่พ่อให้ ไม่มีหนี้อะไร ส่วนตัวเป็นคนประหยัดมากๆครับ ใช้เงินค่ากิน ค่าน้ำ-ไฟ น้ำมัน ทั้งหมดเดือนละไม่ถึงหมื่น ซื้อเสื้อผ้าไปปีละครั้ง ไปเที่ยวตจว.1-2 เดือนครั้ง เที่ยวตปท.ปีละ 1-2 ครั้ง ไม่ได้รู้สึกว่าชีวิตไม่มีความสุขจากการประหยัดมากๆนะครับ ผมกลับมีความสุขมากๆด้วยซ้ำกับการที่เงินเก็บผมมีมากขึ้นเรื่อยๆ กับสิ่งที่ทำให้ผมมีความสุขอีกอย่างคือการออกกำลังกาย ปกติผมจะเล่นเวทและวิ่งครับ ถึงขั้นลงทุนซื้ออุปกรณ์เล่นเวทกับลู่วิ่งมาไว้ที่บ้าน เพราะทั้งพ่อแม่พี่ชายผมก็ออกกำลังกายกันหมดจะได้ไม่ต้องไปเสียค่ายิมครับ ถึงขั้นบางทีอยากลองเป็นเทรนเนอร์หรือทำธุรกิจอะไรเกี่ยวกับการออกกำลังกายและโภชนาการเลยครับ แต่ด้วยงานออฟฟิศที่ทำอยู่ค่อนข้างเหนื่อยมาก และไม่เป็นตัวของตัวเอง ทำให้รู้สึกทุกข์ เหนื่อย และกินเวลาที่ผมอยากทุ่มเทให้กับการออกกำลังกายอย่างมากครับ
ตอนนี้วางแผนทำธุรกิจ product อาหารร่วมกับรุ่นพี่อีกคนอยู่ครับ แต่ยังไม่ค่อยเป็นรูปเป็นร่างมากนัก และเป็นครั้งแรกที่จะลองเริ่มทำธุรกิจแบบจริงๆจังๆ แต่ติดในเรื่องเวลาของงานประจำที่ทำอยู่ทำให้ผมแบ่งเวลามาทำสิ่งที่อยากทำไม่ได้เลยครับ ตอนนี้มีเงินเก็บประมาณ 3 ล้านบาท ในที่นี้คืออยู่ใน Port หุ้น 1.5 ล้านบาท (ส่วนใหญ่เป็นตัวปันผล ถ้าจะขายออกมาทั้ง port ก็มีกำไรแน่นอน) / มีลงทุนในอสังหาไว้ประมาณ 1 ล้านบาทกับที่บ้าน ได้ค่าเช่าประมาณ 10% ต่อปี / อีก 500,000 บาทเป็นเงินเก็บเงินใช้ และกะลงทุนในธุรกิจที่คิดอยู่ครับ
อยากปรึกษาว่าถ้าจะออกจากงานเพื่อมาเริ่มทำธุรกิจแบบจริงๆจังๆควรหรือไม่ หลายคนอาจจะคิดว่าเงินเดือนเยอะ ออกทำไม แต่ผมรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเอง ทุกข์มากๆ งานหนักมากๆ และไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงินอะไร ใครเคยมีประสบการณ์แบบนี้บ้าง สำเร็จ/ล้มเหลวขนาดไหน? อยากฟังจากหลายๆท่านครับ
ปล. ขอเพิ่มเติมครับ มีคนถามเข้ามาเยอะมากว่าเก็บเงินยังไงได้เยอะขนาดนี้เทียบกับเงินเดือน
1. บริษัททั้งที่เก่าและปัจจุบันมีโบนัส 2-4 เดือนสม่ำเสมอครับ และยังมี Allowance ค่ารักษาพยาบาล ทำฟันต่างๆ ผมไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายพวกนี้เลย (ที่แรกค่าน้ำมันรถไปทำงาน ค่ากินข้าวกลางวันยังมีให้เลยครับ)
2. ผมลงทุนในหุ้นมา 10 ปีแล้วส่วนใหญ่จะเป็นตัวได้ปันผล ซื้อตัวที่ราคาต่ำจริงๆตอนมีวิกฤต รอไปสักพักยังไงก็แทบไม่ติดดอย ปันผลก็มี
3. อสังหาให้เช่าที่ผมลงทุนกับที่บ้านมา 4 ปีแล้วครับ ก็ได้รายได้จากส่วนนี้มาตลอด
4. สำคัญที่สุดคือเรื่องการใช้เงินครับ ผมไม่ได้จดบัญชีรายรับรายจ่ายนะครับ แต่คือได้เงินเดือนมาเท่าไร ผมจะโอนออกจนเหลือ 10,000 บาททุกเดือน และใช้อยู่แค่นั้นครับ ถ้าคิดวนแล้ววนอีกว่าของนั้นจำเป็นที่ต้องจ่ายจริงๆจะรูดบัตรเอาครับ
มีเงินเก็บ 3 ล้านบาท อายุ 29 อยากออกจากงานประจำมาพักใจ และตามหาฝัน
พื้นฐานที่บ้านผมก็ปานกลางครับ เป็นครอบครัวใหญ่ พ่อแม่ทำงานออฟฟิศเกษียณแล้ว มีเงินก้อนเกษียณ มี passive income จากอสังหาพอใช้สบาย ไปเที่ยวต่างประเทศได้ทุกปี ผมก็อยู่กับที่บ้านเก็บเงินทำห้องเล็กๆของตัวเอง กินข้าวที่บ้านเช้าเย็น ยิ่งทุกวันนี้ WFH ก็กินข้าวบ้าน 3 มื้อเลยครับ รถก็ใช้ของที่บ้านคันเก่าเกือบ 20 ปีที่พ่อให้ ไม่มีหนี้อะไร ส่วนตัวเป็นคนประหยัดมากๆครับ ใช้เงินค่ากิน ค่าน้ำ-ไฟ น้ำมัน ทั้งหมดเดือนละไม่ถึงหมื่น ซื้อเสื้อผ้าไปปีละครั้ง ไปเที่ยวตจว.1-2 เดือนครั้ง เที่ยวตปท.ปีละ 1-2 ครั้ง ไม่ได้รู้สึกว่าชีวิตไม่มีความสุขจากการประหยัดมากๆนะครับ ผมกลับมีความสุขมากๆด้วยซ้ำกับการที่เงินเก็บผมมีมากขึ้นเรื่อยๆ กับสิ่งที่ทำให้ผมมีความสุขอีกอย่างคือการออกกำลังกาย ปกติผมจะเล่นเวทและวิ่งครับ ถึงขั้นลงทุนซื้ออุปกรณ์เล่นเวทกับลู่วิ่งมาไว้ที่บ้าน เพราะทั้งพ่อแม่พี่ชายผมก็ออกกำลังกายกันหมดจะได้ไม่ต้องไปเสียค่ายิมครับ ถึงขั้นบางทีอยากลองเป็นเทรนเนอร์หรือทำธุรกิจอะไรเกี่ยวกับการออกกำลังกายและโภชนาการเลยครับ แต่ด้วยงานออฟฟิศที่ทำอยู่ค่อนข้างเหนื่อยมาก และไม่เป็นตัวของตัวเอง ทำให้รู้สึกทุกข์ เหนื่อย และกินเวลาที่ผมอยากทุ่มเทให้กับการออกกำลังกายอย่างมากครับ
ตอนนี้วางแผนทำธุรกิจ product อาหารร่วมกับรุ่นพี่อีกคนอยู่ครับ แต่ยังไม่ค่อยเป็นรูปเป็นร่างมากนัก และเป็นครั้งแรกที่จะลองเริ่มทำธุรกิจแบบจริงๆจังๆ แต่ติดในเรื่องเวลาของงานประจำที่ทำอยู่ทำให้ผมแบ่งเวลามาทำสิ่งที่อยากทำไม่ได้เลยครับ ตอนนี้มีเงินเก็บประมาณ 3 ล้านบาท ในที่นี้คืออยู่ใน Port หุ้น 1.5 ล้านบาท (ส่วนใหญ่เป็นตัวปันผล ถ้าจะขายออกมาทั้ง port ก็มีกำไรแน่นอน) / มีลงทุนในอสังหาไว้ประมาณ 1 ล้านบาทกับที่บ้าน ได้ค่าเช่าประมาณ 10% ต่อปี / อีก 500,000 บาทเป็นเงินเก็บเงินใช้ และกะลงทุนในธุรกิจที่คิดอยู่ครับ
อยากปรึกษาว่าถ้าจะออกจากงานเพื่อมาเริ่มทำธุรกิจแบบจริงๆจังๆควรหรือไม่ หลายคนอาจจะคิดว่าเงินเดือนเยอะ ออกทำไม แต่ผมรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเอง ทุกข์มากๆ งานหนักมากๆ และไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงินอะไร ใครเคยมีประสบการณ์แบบนี้บ้าง สำเร็จ/ล้มเหลวขนาดไหน? อยากฟังจากหลายๆท่านครับ
ปล. ขอเพิ่มเติมครับ มีคนถามเข้ามาเยอะมากว่าเก็บเงินยังไงได้เยอะขนาดนี้เทียบกับเงินเดือน
1. บริษัททั้งที่เก่าและปัจจุบันมีโบนัส 2-4 เดือนสม่ำเสมอครับ และยังมี Allowance ค่ารักษาพยาบาล ทำฟันต่างๆ ผมไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายพวกนี้เลย (ที่แรกค่าน้ำมันรถไปทำงาน ค่ากินข้าวกลางวันยังมีให้เลยครับ)
2. ผมลงทุนในหุ้นมา 10 ปีแล้วส่วนใหญ่จะเป็นตัวได้ปันผล ซื้อตัวที่ราคาต่ำจริงๆตอนมีวิกฤต รอไปสักพักยังไงก็แทบไม่ติดดอย ปันผลก็มี
3. อสังหาให้เช่าที่ผมลงทุนกับที่บ้านมา 4 ปีแล้วครับ ก็ได้รายได้จากส่วนนี้มาตลอด
4. สำคัญที่สุดคือเรื่องการใช้เงินครับ ผมไม่ได้จดบัญชีรายรับรายจ่ายนะครับ แต่คือได้เงินเดือนมาเท่าไร ผมจะโอนออกจนเหลือ 10,000 บาททุกเดือน และใช้อยู่แค่นั้นครับ ถ้าคิดวนแล้ววนอีกว่าของนั้นจำเป็นที่ต้องจ่ายจริงๆจะรูดบัตรเอาครับ