หนังแผ่นยังจำคำนี้ได้มั้ย
เวลาผ่านไป จะอยู่อย่างปรับตัว หรือหายไปตามกาลเวลา
ถ้าลองนั่งลงแล้วสอบถามถึงคนอายุ 30 ขึ้นไป ความทรงจำเกี่ยวกับ วีดีโอ, วีซีดี, ดีวีดี ล่วงเลยไปจนเฮือกสุดท้ายกับ บลูเรย์ นอกเหนือจากนั้นไม่ว่า จะ 4K, 8K น่าจะถือเป็นของสะสมมีผลทางด้านจิตใจไปซะแล้ว หาใช่การซื้อมาเพื่อเสพ รับชมสิ่งที่อยู่ในแผ่นนั้นๆ
ยังนึกถึง สมัย DVD ยังรุ่งเรือง ยังมีความสุขเวลาได้แวะร้านขาย DVD , Blu Ray แวะไปดูว่าช่วงนี้มีหนังอะไร ออกใหม่ หรือ มีแผ่นหนังที่เล็งๆไว้นานแสนนาน มันจะลดราคารึยังวะ หรือลดแล้ว แต่เราไปซื้อไปไม่ทันได้ซื้อ คนอื่นคว้าไปก่อนแล้วก็อดกันไป อารมณ์คุ้ยๆแผ่นในกระบะลดราคา มันสนุกและลุ้นทุกครั้งว่าจะมีอะไรเด็ดๆ หลุดออกมาหรือไม่
หรือ แผ่น Blu Ray ที่โฆษณาถึงคุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยม ความคมกริ๊บของภาพบนจอ มาพร้อมกับกล่องเหล็กน่าสะสม ราคาโคตรแพง สมัยก่อนตอนแผ่น DVD ออกใหม่ๆราคาจะอยู่ราว 300-400 บาท หรือ Blu Ray ใหม่ๆก็ราวๆ 800-900 บาทต่อแผ่น มันสนุกก็ตรงรอลุ้นแหละว่ามันจะลดราคาลงเมื่อไหร่นี่แหละ แน่ละว่าไม่ต้องรีบซื้อเพราะตัวหนังจริงเราดูมาจากโรงหนัง หรือหลายคนก็มีช่องทางเทาๆดูกันไปเรียบร้อยแล้ว แต่ที่อยากซื้อเพราะชอบหนังเรื่องนั้น อยากเก็บ อยากจับอยากสัมผัสความเป็นเจ้าของ นาทีนี้นะเหรอกลายเป็นของรกบ้านทำเอาหาที่เก็บลำบากอยู่เหมือนกัน ยิ่งชีวิตเด็กรุ่นใหม่ที่อาศัยอยู่ในห้อง พื้นที่ 25-30 ตารางเมตร มันจะไปพอเก็บได้อย่างไรกัน
ผิดกับนาทีนี้ที่เป็นเวลาของ Streaming รายเดือนแสนถูก ภาพและเสียงมาอย่างเนี๊ยบ และเรายังตัดสินผลงานชิ้นนึงในเวลาแค่ 10-12 นาที ถ้าไม่โดนใจ ดึงดูดเราไว้ไม่ได้ เราก็พร้อมจะปิดทิ้ง และหาเรื่องใหม่ดูได้ในทันที ไม่ไม่เหมือนสมัยก่อนที่ซื้อแผ่นมา ก็ทู่ซี้ดูกันต่อไปจนจบเรื่อง เพราะเสียดายค่าแผ่นที่ซื้อมาเพราะมันมีให้เลือกมากมายหลายล้านเรื่องจาก ระบบเทคโนโลยีอันแสนทันสมัย หนังใหม่ๆที่ออกจากโรงหนังไม่นาน ไม่กี่เดือนก็พร้อมมาเสริฟ์เราบนระบบ Streaming สร้างความสะดวกสบาย และมีอีกหลายอาชีพทั้งสีขาวและสีเทาตกงานกันไปตามๆกัน เราจะเริ่มรู้สึกแล้วว่าร้านขายแผ่นดังๆตามห้างเริ่มปิดตัวไปทีละสาขา ทีละสาขา จนมันเลือนหายไปจนกระทั่งคนเดินห้างยังสังเกตไม่เห็นไปเลยด้วยซ้ำ นี่ยังไม่รวมไปถึงแผงขายแผ่นหนังผิดกฏหมายยังมิวายหายไปเรื่อยๆตามกาลเวลา ไม่มีใครต้านทานความเปลี่ยนแปลงไปได้หรอก อยู่ที่ว่าเราจะปรับตัวปรับใจ ไปกับกระแสคลื่นอันเชี่ยวกรากของโลกใบนี้เพื่ออยู่ต่อไปหรือหายจากไปตลอดกาล
แผ่นหนัง ยังจำคำนี้ได้มั้ย?
เวลาผ่านไป จะอยู่อย่างปรับตัว หรือหายไปตามกาลเวลา
ถ้าลองนั่งลงแล้วสอบถามถึงคนอายุ 30 ขึ้นไป ความทรงจำเกี่ยวกับ วีดีโอ, วีซีดี, ดีวีดี ล่วงเลยไปจนเฮือกสุดท้ายกับ บลูเรย์ นอกเหนือจากนั้นไม่ว่า จะ 4K, 8K น่าจะถือเป็นของสะสมมีผลทางด้านจิตใจไปซะแล้ว หาใช่การซื้อมาเพื่อเสพ รับชมสิ่งที่อยู่ในแผ่นนั้นๆ
ยังนึกถึง สมัย DVD ยังรุ่งเรือง ยังมีความสุขเวลาได้แวะร้านขาย DVD , Blu Ray แวะไปดูว่าช่วงนี้มีหนังอะไร ออกใหม่ หรือ มีแผ่นหนังที่เล็งๆไว้นานแสนนาน มันจะลดราคารึยังวะ หรือลดแล้ว แต่เราไปซื้อไปไม่ทันได้ซื้อ คนอื่นคว้าไปก่อนแล้วก็อดกันไป อารมณ์คุ้ยๆแผ่นในกระบะลดราคา มันสนุกและลุ้นทุกครั้งว่าจะมีอะไรเด็ดๆ หลุดออกมาหรือไม่
หรือ แผ่น Blu Ray ที่โฆษณาถึงคุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยม ความคมกริ๊บของภาพบนจอ มาพร้อมกับกล่องเหล็กน่าสะสม ราคาโคตรแพง สมัยก่อนตอนแผ่น DVD ออกใหม่ๆราคาจะอยู่ราว 300-400 บาท หรือ Blu Ray ใหม่ๆก็ราวๆ 800-900 บาทต่อแผ่น มันสนุกก็ตรงรอลุ้นแหละว่ามันจะลดราคาลงเมื่อไหร่นี่แหละ แน่ละว่าไม่ต้องรีบซื้อเพราะตัวหนังจริงเราดูมาจากโรงหนัง หรือหลายคนก็มีช่องทางเทาๆดูกันไปเรียบร้อยแล้ว แต่ที่อยากซื้อเพราะชอบหนังเรื่องนั้น อยากเก็บ อยากจับอยากสัมผัสความเป็นเจ้าของ นาทีนี้นะเหรอกลายเป็นของรกบ้านทำเอาหาที่เก็บลำบากอยู่เหมือนกัน ยิ่งชีวิตเด็กรุ่นใหม่ที่อาศัยอยู่ในห้อง พื้นที่ 25-30 ตารางเมตร มันจะไปพอเก็บได้อย่างไรกัน
ผิดกับนาทีนี้ที่เป็นเวลาของ Streaming รายเดือนแสนถูก ภาพและเสียงมาอย่างเนี๊ยบ และเรายังตัดสินผลงานชิ้นนึงในเวลาแค่ 10-12 นาที ถ้าไม่โดนใจ ดึงดูดเราไว้ไม่ได้ เราก็พร้อมจะปิดทิ้ง และหาเรื่องใหม่ดูได้ในทันที ไม่ไม่เหมือนสมัยก่อนที่ซื้อแผ่นมา ก็ทู่ซี้ดูกันต่อไปจนจบเรื่อง เพราะเสียดายค่าแผ่นที่ซื้อมาเพราะมันมีให้เลือกมากมายหลายล้านเรื่องจาก ระบบเทคโนโลยีอันแสนทันสมัย หนังใหม่ๆที่ออกจากโรงหนังไม่นาน ไม่กี่เดือนก็พร้อมมาเสริฟ์เราบนระบบ Streaming สร้างความสะดวกสบาย และมีอีกหลายอาชีพทั้งสีขาวและสีเทาตกงานกันไปตามๆกัน เราจะเริ่มรู้สึกแล้วว่าร้านขายแผ่นดังๆตามห้างเริ่มปิดตัวไปทีละสาขา ทีละสาขา จนมันเลือนหายไปจนกระทั่งคนเดินห้างยังสังเกตไม่เห็นไปเลยด้วยซ้ำ นี่ยังไม่รวมไปถึงแผงขายแผ่นหนังผิดกฏหมายยังมิวายหายไปเรื่อยๆตามกาลเวลา ไม่มีใครต้านทานความเปลี่ยนแปลงไปได้หรอก อยู่ที่ว่าเราจะปรับตัวปรับใจ ไปกับกระแสคลื่นอันเชี่ยวกรากของโลกใบนี้เพื่ออยู่ต่อไปหรือหายจากไปตลอดกาล