สวัสดีครับสมาชิกชาวพันทิปทุกคน วันนี้ผมได้มีโอกาสย้อนกลับไปดูภาพยนตร์รักโรแมนติกเรื่องหนึ่ง เป็นหนังที่เกี่ยวกับคนสองคนซึ่งไม่เคยเห็นหน้า ไม่เคยได้ยินเสียง ไม่เคยสนทนาหรือพูดคุยกันเลยสักครั้ง แต่กลับหลงรักกันผ่านตัวหนังสือในสมุดบันทึก (ผมคิดว่าหลายคนคงรู้แล้ว) ในอุดมคติแล้วมันดูโรแมนติกและดูซาบซึ้งจนผมเองก็แอบอินตามไปหลายฉาก ไม่ว่าจะเป็นการที่เขาทั้งสองต่างตกหลุมรักกันผ่านความในใจ รักผ่านตัวตนบนตัวหนังสือ หรือแม้แต่รูปร่างที่ซ่อนไว้ในขีดของส่วนสูงบนเสาไม้เก่าๆ ในหนังบรรยายว่าทั้งสองไม่เคยเห็นหน้ากันแต่ก็รักกันได้ ก็คงเหมือนกับเราทุกคนที่ไม่เคยเห็นความรักแต่เราก็รู้สึกรัก ไม่เคยเห็นความคิดถึงว่ามันหน้าตาเป็นอย่างไร แต่เราก็คิดถึง ฟังดูแล้วมันเหมือนมีความเป็นไปได้สูงมากทีเดียวที่เราจะรักคนคนหนึ่งได้แบบนั้น แต่สำหรับผมแล้ว หากใครตั้งคำถามกับผมว่า "คนเราจะรักใครสักคนโดยไม่เคยเห็นหน้ากันได้จริงมั้ย?" ผมก็ยังไม่แน่ใจคำตอบของตัวเองเสียทีเดียวว่าคำตอบที่ออกจากปากผมนั้นจะเป็นคำว่า "ได้"
สำหรับผมแล้ว คำว่าดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจยังใช้ได้เสมอมาไม่ว่าจะเป็นเมื่อก่อนหรือกระทั่งตอนนี้ และผมก็เชื่อว่ามันจะใช้ได้กับผมจนถึงอนาคต ไม่ใช่แค่ดวงตาหรอก แต่ผมว่า "หน้าตา" เลยต่างหาก จะว่าผมชอบคนที่หน้าตาเลยก็คงไม่ใช่ ..แต่มันก็คือส่วนหนึ่ง ซึ่งจะสำคัญมากน้อยขนาดไหนนั้นขึ้นอยู่กับแต่ละคน และหลายคนเองก็อาจจะมีความคิดที่ไม่ต่างกัน ไม่เช่นนั้นเราก็คงไม่ถามกันไปกันมากว่าแต่ละคนมี "เสป็คแบบไหน?"
สิ่งที่สำคัญที่สุดในการคบใครสักคนก็คือทัศนคติและความคิดของคนๆนั้นซึ่งเป็นสิ่งที่เราปฏิเสธไม่ได้อยู่แล้ว แต่หน้าตา ท่าที และการแสดงออกล่ะ เราจะไม่มองมันเลยหรือ?
ในฐานะของหนังรัก ผมคงปฏิเสธไม่ได้ว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังรักที่มีคุณภาพสมกับเป็นหนังรักเอามากๆ คุณภาพไปทั้งเนื้อเรื่อง เพลงประกอบ การแสดง รวมทั้งตัวพระเอกนางเอกเอง แต่หลังจากดูม้วนฟิล์มแห่งความรักนั่นจบแล้ว ผมกลับฉุกคิดกับตัวเองขึ้นมาว่า แล้วถ้าในชีวิตจริง นางเอกไม่ได้สวยเหมือนตัวละครในเรื่องล่ะ? ถ้าพระเอกหน้าตาธรรมดาหรือแย่กว่านั้นล่ะ? ความรักนี้ยังจะโรแมนติกหรือสมหวังอยู่รึเปล่า มันจึงทำให้ผมสงสัยกับตัวเองเป็นคำถามที่ไม่แน่ชัดได้ว่า "รัก..ได้หรือเปล่า?" ถ้าเปรียบเทียบให้เห็นในชีวิตจริงก็เหมือนกับการฟังใครสักคนพรรณนาถึงของขวัญชิ้นพิเศษชิ้นโต ซึ่งเราได้ยินผ่านคำพูดตลอดว่าสิ่งนั้นมีสรรพคุณดีงามขนาดไหน สีสวย มีประโยชน์ใช้สอยได้จนเราแอบคิดและเพ้อฝันไปไกลถึงของสิ่งนั้นเสียจนมันดูวิเศษ ทั้งๆที่มันก็เป็นเพียง "ไม้กวาดพลาสติกสีชมพูธรรมดา" และพอได้เวลาดึงริบบิ้นดูของข้างในแล้วก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันพิเศษหรือชอบใจอะไรทั้งที่มันก็มีสรรพคุณตามที่คนเล่าบอกทุกอย่าง ..รักในทัศนคติเป็นไปได้ แต่รักคนคนนั้นที่เป็น "คนจริงๆ" ได้หรือเปล่า?
ผมไม่ได้มีเจตนาดูถูกหรือสบประมาทความรักใครนะครับ มันเป็นเพียงความคิดเห็นเล็กๆของผมเอง ที่มองว่า ความรักเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากความรู้สึกก็จริง แต่ความเป็นรูปธรรมที่ออกมาจากความรู้สึกนั่นต่างหากที่เป็นตัวแทนของความรัก เราข้ามเรื่องหน้าตาและมามองถึงการแสดงออกกันบ้าง ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าการที่เราจะรักใครสักคนนั้นโดยส่วนมากแล้วตัวเราเองจะมองที่การกระทำของคนคนนั้นด้วย เริ่มตั้งแต่ความรักที่เพิ่งจะขึ้นช่อหรือตอนจีบกันใหม่ๆ แค่เริ่มต้นเราก็ดูการกระทำของกันและกันเสียแล้ว เขามองเราด้วยสายตาแบบไหน? คิดกับเราอย่างไร? ยกยิ้มบ้างไหมเวลาที่ได้พูดคุยกัน ทุกคนลองนึกภาพคนรักกันที่ไม่เคยแสดงออกต่อกันว่ารักเลยนะครับ ทั้งๆที่ในใจมีความรักเต็มเปี่ยมและรู้อยู่กับใจว่ารักมากเพียงใด แต่อีกคนกลับไม่เคยเห็นมันเลย แล้วเราจะมั่นใจหรือเกิดความรักตอบได้อย่างไร ในหนังอาจมีการพูดคุยหรือแสดงความรู้สึกผ่านตัวหนังสือบนสมุดบันทึกเพื่อให้อีกคนได้อ่านและตอบกลับกันไปมา นั่นคือส่วนสำคัญของเรื่องเลยจริงๆและดูโรแมนติกมาก แต่ทุกวันนี้แค่เราพิมพ์แชทส่งข้อความให้กัน ความรู้สึกยังต่างไปจากการได้ยินได้ฟังน้ำเสียงกันเลย แล้วนับประสาอะไรกับคนไม่รู้จักกันสองคนที่ต้องมองใบหน้ากันผ่านตัวหนังสือ มันจะเป็นไปได้จริงเหรอกับความรักแบบนี้
หลายคนอาจเกิดการแย้งในหัวว่ามันเป็นไปได้ เป็นไปได้สิ เพราะการรักใครสักคน เรา "รักที่ตัวตนของเขา" แต่ลองย้อนกลับไปมองที่คำพูดเมื่อกี๊และทบทวนกับใจตัวเองให้ดีๆนะครับ คำว่า "ตัวตน" ที่อยู่ในวลีรักยอดฮิตนั่น มันหมายรวมทั้งรูปร่างหน้าตา สายตา การแสดงออก หรือแม้แต่น้ำเสียงของเขาด้วยรึเปล่า และถ้าคิดว่ามันเป็นเช่นนั้น ก็ลองกลับไปดูคำถามผมและช่วยยืนยันคำตอบกับผมอีกครั้งหน่อยครับ ว่า "คนเราจะรักใครสักคนโดยไม่เคยเห็นหน้ากันได้จริงมั้ย?"
ปล.ทุกคนคิดเห็นว่าไงกันบ้างครับ แสดงความคิดเห็นกันมาดูนะครับ
คนเราจะรักใครสักคนโดยไม่เคยเห็นหน้ากันได้จริงมั้ย?
สำหรับผมแล้ว คำว่าดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจยังใช้ได้เสมอมาไม่ว่าจะเป็นเมื่อก่อนหรือกระทั่งตอนนี้ และผมก็เชื่อว่ามันจะใช้ได้กับผมจนถึงอนาคต ไม่ใช่แค่ดวงตาหรอก แต่ผมว่า "หน้าตา" เลยต่างหาก จะว่าผมชอบคนที่หน้าตาเลยก็คงไม่ใช่ ..แต่มันก็คือส่วนหนึ่ง ซึ่งจะสำคัญมากน้อยขนาดไหนนั้นขึ้นอยู่กับแต่ละคน และหลายคนเองก็อาจจะมีความคิดที่ไม่ต่างกัน ไม่เช่นนั้นเราก็คงไม่ถามกันไปกันมากว่าแต่ละคนมี "เสป็คแบบไหน?"
สิ่งที่สำคัญที่สุดในการคบใครสักคนก็คือทัศนคติและความคิดของคนๆนั้นซึ่งเป็นสิ่งที่เราปฏิเสธไม่ได้อยู่แล้ว แต่หน้าตา ท่าที และการแสดงออกล่ะ เราจะไม่มองมันเลยหรือ?
ในฐานะของหนังรัก ผมคงปฏิเสธไม่ได้ว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังรักที่มีคุณภาพสมกับเป็นหนังรักเอามากๆ คุณภาพไปทั้งเนื้อเรื่อง เพลงประกอบ การแสดง รวมทั้งตัวพระเอกนางเอกเอง แต่หลังจากดูม้วนฟิล์มแห่งความรักนั่นจบแล้ว ผมกลับฉุกคิดกับตัวเองขึ้นมาว่า แล้วถ้าในชีวิตจริง นางเอกไม่ได้สวยเหมือนตัวละครในเรื่องล่ะ? ถ้าพระเอกหน้าตาธรรมดาหรือแย่กว่านั้นล่ะ? ความรักนี้ยังจะโรแมนติกหรือสมหวังอยู่รึเปล่า มันจึงทำให้ผมสงสัยกับตัวเองเป็นคำถามที่ไม่แน่ชัดได้ว่า "รัก..ได้หรือเปล่า?" ถ้าเปรียบเทียบให้เห็นในชีวิตจริงก็เหมือนกับการฟังใครสักคนพรรณนาถึงของขวัญชิ้นพิเศษชิ้นโต ซึ่งเราได้ยินผ่านคำพูดตลอดว่าสิ่งนั้นมีสรรพคุณดีงามขนาดไหน สีสวย มีประโยชน์ใช้สอยได้จนเราแอบคิดและเพ้อฝันไปไกลถึงของสิ่งนั้นเสียจนมันดูวิเศษ ทั้งๆที่มันก็เป็นเพียง "ไม้กวาดพลาสติกสีชมพูธรรมดา" และพอได้เวลาดึงริบบิ้นดูของข้างในแล้วก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันพิเศษหรือชอบใจอะไรทั้งที่มันก็มีสรรพคุณตามที่คนเล่าบอกทุกอย่าง ..รักในทัศนคติเป็นไปได้ แต่รักคนคนนั้นที่เป็น "คนจริงๆ" ได้หรือเปล่า?
ผมไม่ได้มีเจตนาดูถูกหรือสบประมาทความรักใครนะครับ มันเป็นเพียงความคิดเห็นเล็กๆของผมเอง ที่มองว่า ความรักเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากความรู้สึกก็จริง แต่ความเป็นรูปธรรมที่ออกมาจากความรู้สึกนั่นต่างหากที่เป็นตัวแทนของความรัก เราข้ามเรื่องหน้าตาและมามองถึงการแสดงออกกันบ้าง ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าการที่เราจะรักใครสักคนนั้นโดยส่วนมากแล้วตัวเราเองจะมองที่การกระทำของคนคนนั้นด้วย เริ่มตั้งแต่ความรักที่เพิ่งจะขึ้นช่อหรือตอนจีบกันใหม่ๆ แค่เริ่มต้นเราก็ดูการกระทำของกันและกันเสียแล้ว เขามองเราด้วยสายตาแบบไหน? คิดกับเราอย่างไร? ยกยิ้มบ้างไหมเวลาที่ได้พูดคุยกัน ทุกคนลองนึกภาพคนรักกันที่ไม่เคยแสดงออกต่อกันว่ารักเลยนะครับ ทั้งๆที่ในใจมีความรักเต็มเปี่ยมและรู้อยู่กับใจว่ารักมากเพียงใด แต่อีกคนกลับไม่เคยเห็นมันเลย แล้วเราจะมั่นใจหรือเกิดความรักตอบได้อย่างไร ในหนังอาจมีการพูดคุยหรือแสดงความรู้สึกผ่านตัวหนังสือบนสมุดบันทึกเพื่อให้อีกคนได้อ่านและตอบกลับกันไปมา นั่นคือส่วนสำคัญของเรื่องเลยจริงๆและดูโรแมนติกมาก แต่ทุกวันนี้แค่เราพิมพ์แชทส่งข้อความให้กัน ความรู้สึกยังต่างไปจากการได้ยินได้ฟังน้ำเสียงกันเลย แล้วนับประสาอะไรกับคนไม่รู้จักกันสองคนที่ต้องมองใบหน้ากันผ่านตัวหนังสือ มันจะเป็นไปได้จริงเหรอกับความรักแบบนี้
หลายคนอาจเกิดการแย้งในหัวว่ามันเป็นไปได้ เป็นไปได้สิ เพราะการรักใครสักคน เรา "รักที่ตัวตนของเขา" แต่ลองย้อนกลับไปมองที่คำพูดเมื่อกี๊และทบทวนกับใจตัวเองให้ดีๆนะครับ คำว่า "ตัวตน" ที่อยู่ในวลีรักยอดฮิตนั่น มันหมายรวมทั้งรูปร่างหน้าตา สายตา การแสดงออก หรือแม้แต่น้ำเสียงของเขาด้วยรึเปล่า และถ้าคิดว่ามันเป็นเช่นนั้น ก็ลองกลับไปดูคำถามผมและช่วยยืนยันคำตอบกับผมอีกครั้งหน่อยครับ ว่า "คนเราจะรักใครสักคนโดยไม่เคยเห็นหน้ากันได้จริงมั้ย?"
ปล.ทุกคนคิดเห็นว่าไงกันบ้างครับ แสดงความคิดเห็นกันมาดูนะครับ