ผมได้ผ่านไปเห็นข่าวว่า ช่วงนี้สถานทูตอเมริกา มีโปรสำหรับคนที่เคยมีวีซ่า ทำวีซ่าทางไปรณีย์โดยไม่ต้องสัมภาษณ์ โดยโปรนี้ทางสถานทูตจัดถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564 เลยอยากจะมาอัพเดทหลังจากได้วีซ่ามาอยู่ในมืออีก 10 ปีครับ
คุณสมบัติเบื้องต้นก่อนเลย คือ วีซ่าที่จะขอได้มีเฉพาะ
B1/B2 (ธุรกิจ/ท่องเที่ยว)
หรือ
C1/D (ลูกเรือ)
ที่หมดอายุมาแล้ว
ไม่เกิน 4 ปี และเก็บ biometrics แล้วเท่านั้น หากเข้าคุณสมบัติแรกคุณจะได้ไปต่อ ต่อมาที่ต้องทำคือ
(แม้คำถามหรือแบบฟอร์มจะเป็นภาษาไทย ให้กรอกทุกอย่างเป็นภาษาอังกฤษ ไม่มีเครื่องหมาย / ให้ใช้คำว่า Slash หรือ – แทน เช่น บ้านเลขที่ 123/4 กรอกเป็น 123 slash 4 หรือ 123-4 เป็นต้น)
1. กรอก DS160 ผ่าน
https://ceac.state.gov/GenNIV/Default.aspx
ปัญหาที่เจอทดสอบรูปก่อนเลย ผมถ่ายกับถือถือ และเข้าไปทดสอบในระบบ ซึ่งเป็นคำแนะนำของสถานทูต โดยผมถ่ายกับมือมือด้านหลังเป็นพื้นห้องสีขาว ปรับขนาดหน่อยก็ผ่านได้
https://tsg.phototool.state.gov/photo
ต่อมาก็เป็นคำถามเกี่ยวกับสถานที่อ้างอิงหรือที่อยู่ ตอนแรกก็งงว่าต้องมีด้วย หาข้อมูลไปมาคือกรอกโรงแรงที่เคยพักนั่นเอง และอีกเรื่องที่สำคัญคือ การมาทบทวนเรื่องวัน เดือน ปี ที่เริ่มเรียน เริ่มทำงานทุกที่ อันนี้ค่อนข้างใช้เวลานานทีเดียว หลังกรอก DS160 เสร็จก็จะได้เลขอ้างอิงมา และมาสู่ขั้นตอนต่อไป
2. จ่ายเงินค่าวีซ่า กรอกข้อมูลเข้าสู่ระบบ และพิมพ์แบบฟอร์มชำระเงิน และชำระผ่าน ธนาคารกรุงศรี เป็นเงิน 5,440 บาท ที่ธนาคารจะมีแบบฟอร์มเฉพาะ สำหรับจ่ายค่าวีซ่าสหรัฐ (จ่าย บ่าย 4 เข้าระบบ 9 โมงเช้าของอีกวัน – ไม่แนะนำ swif code เพราะใช้เวลานานกว่าจะอัพเดทในระบบ) ตามนี้
https://cgifederal.secure.force.com/
ในส่วนนี้จะใช้เวลากับการกรอกคุณสมบัติว่ามีคุณสมบัติของวีซ่าผ่านระบบไปรษณีย์รึเปล่าส่วนมากเป็นคำถามเกี่ยวกับความมั่นคง ยาเสพย์ติด และอื่นๆ ทำนองนี้ ไม่ต้องตกใจ หากกรอกไปกรอกไปแล้วไปสู่หน้านัดหมายคิวสัมภาษณ์ ให้ย้อนกลับไปกรอกใหม่ได้เสมอ อาจจะงงกับภาษาไทยเล็กน้อยเพราะคำถามแปลมาจากภาษาอังกฤษ เช่น คุณไม่เคยกินแกงกะหรี่ (Yes/No) อาจเป็นความงงของผมเอง ผมเคยกิน Yes หรือ No หว่า
หากกรอกถูกต้องก็จะเข้าสู่หน้าคุณมีคุณสมบัติยื่นวีซ่าทางไปรษณีย์ แล้วให้เตรียมสิ่งต่างๆ ดังนี้
เอกสารที่ต้องใช้ในการยื่นขอวีซ่าทางไปรษณีย์ (ส่งเท่านี้เท่านั้น ห้ามส่งเกินนะ)
1. แบบฟอร์มยืนยันการสมัครวีซ่าทางไปรษณีย์ที่มีหมายเลข UID และ QR โค้ด
2. หนังสือเดินทางเล่มใหม่ล่าสุดแบบ 10 ปีของกรมการกงสุล เพื่อจะได้หมดอายุพร้อมวีซ่า ซึ่งจะต้องมีหน้าว่างอย่างน้อยสองหน้าเพื่อการติดวีซ่า
3. หนังสือเดินทางเล่มเก่าที่มีวีซ่าสหรัฐฯที่ท่านได้รับล่าสุดซึ่งยังไม่หมดอายุ หรือ หมดอายุไม่เกิน 48 เดือน (หากวีซ่าดังกล่าวไม่ได้อยู่ในหนังสือเดินทางเล่มปัจจุบัน)
4. ใบยืนยันแบบฟอร์ม DS-160 ที่มีแถบบาร์โค้ด ซึ่งกรอกครบถ้วนและได้ทำการกดยืนยัน (submitted) ออนไลน์แล้ว พิมพ์ออกมา
5. ไปถ่ายรูปใหม่เลย เป็น รูปถ่ายสี 2 รูป บอกร้านว่าถ่ายวีซ่าอเมริกา (ขนาด 5x5 เซนติเมตร หรือ 2x2 นิ้ว พื้นหลังสีขาว มีอายุไม่เกินหกเดือน ไม่สวมใส่แว่นตา คอนแทคเลนส์สี หรือหมวก) เพราะหากผิดคุณสมบัติอาจทำให้ได้วีซ่าช้า
6. ใบเสร็จชำระค่าธรรมเนียมวีซ่าที่ไปจ่ายที่ ธนาคารกรุงศรี ที่เขาพิพม์เป็นสีน้ำเงินให้
หลังจากนั้น ไปยื่นต่อไปรษณีย์ที่รองรับ การยื่นขอวีซ่า ตามนี้
https://www.ustraveldocs.com/th_th/BangkokAndSuburb.pdf
โดยไปรษณีย์จะมีแบบฟอร์มปะหน้าให้กรอกและให้ tracking มา ที่สำคัญคือ ส่งฟรี ด้วยนะ
ผมยื่นเอกสารไปวันพฤหัสบ่าย ได้รับเล่มพร้อมวีซ่า 10 ปี และมัดหนังยางเล่มเก่า พร้อมส่งรูปทั้งสองรูป กลับมา ในวันศุกร์ถัดไป ช่วงบ่าย รวม 8 วัน
และนี่ก็คือเรื่องราวการขอวีซ่าอเมริกาทางไปรษณีย์ โดยไม่ต้องมีสัมภาษณ์ที่ผมเพิ่งได้เล่มมาแบบสดๆ ร้อนๆ ครับ
รายละเอียดเพิ่มเติม
https://www.ustraveldocs.com/th_th/th-niv-visarenew.asp
อัพเดทการขอวีซ่าอเมริกา ผ่าน ทางไปรณีย์โดยไม่ต้องสัมภาษณ์ หมดโปร 31 ธันวาคม 2564
คุณสมบัติเบื้องต้นก่อนเลย คือ วีซ่าที่จะขอได้มีเฉพาะ
B1/B2 (ธุรกิจ/ท่องเที่ยว)
หรือ
C1/D (ลูกเรือ)
ที่หมดอายุมาแล้วไม่เกิน 4 ปี และเก็บ biometrics แล้วเท่านั้น หากเข้าคุณสมบัติแรกคุณจะได้ไปต่อ ต่อมาที่ต้องทำคือ
(แม้คำถามหรือแบบฟอร์มจะเป็นภาษาไทย ให้กรอกทุกอย่างเป็นภาษาอังกฤษ ไม่มีเครื่องหมาย / ให้ใช้คำว่า Slash หรือ – แทน เช่น บ้านเลขที่ 123/4 กรอกเป็น 123 slash 4 หรือ 123-4 เป็นต้น)
1. กรอก DS160 ผ่าน https://ceac.state.gov/GenNIV/Default.aspx
ปัญหาที่เจอทดสอบรูปก่อนเลย ผมถ่ายกับถือถือ และเข้าไปทดสอบในระบบ ซึ่งเป็นคำแนะนำของสถานทูต โดยผมถ่ายกับมือมือด้านหลังเป็นพื้นห้องสีขาว ปรับขนาดหน่อยก็ผ่านได้https://tsg.phototool.state.gov/photo
ต่อมาก็เป็นคำถามเกี่ยวกับสถานที่อ้างอิงหรือที่อยู่ ตอนแรกก็งงว่าต้องมีด้วย หาข้อมูลไปมาคือกรอกโรงแรงที่เคยพักนั่นเอง และอีกเรื่องที่สำคัญคือ การมาทบทวนเรื่องวัน เดือน ปี ที่เริ่มเรียน เริ่มทำงานทุกที่ อันนี้ค่อนข้างใช้เวลานานทีเดียว หลังกรอก DS160 เสร็จก็จะได้เลขอ้างอิงมา และมาสู่ขั้นตอนต่อไป
2. จ่ายเงินค่าวีซ่า กรอกข้อมูลเข้าสู่ระบบ และพิมพ์แบบฟอร์มชำระเงิน และชำระผ่าน ธนาคารกรุงศรี เป็นเงิน 5,440 บาท ที่ธนาคารจะมีแบบฟอร์มเฉพาะ สำหรับจ่ายค่าวีซ่าสหรัฐ (จ่าย บ่าย 4 เข้าระบบ 9 โมงเช้าของอีกวัน – ไม่แนะนำ swif code เพราะใช้เวลานานกว่าจะอัพเดทในระบบ) ตามนี้ https://cgifederal.secure.force.com/
ในส่วนนี้จะใช้เวลากับการกรอกคุณสมบัติว่ามีคุณสมบัติของวีซ่าผ่านระบบไปรษณีย์รึเปล่าส่วนมากเป็นคำถามเกี่ยวกับความมั่นคง ยาเสพย์ติด และอื่นๆ ทำนองนี้ ไม่ต้องตกใจ หากกรอกไปกรอกไปแล้วไปสู่หน้านัดหมายคิวสัมภาษณ์ ให้ย้อนกลับไปกรอกใหม่ได้เสมอ อาจจะงงกับภาษาไทยเล็กน้อยเพราะคำถามแปลมาจากภาษาอังกฤษ เช่น คุณไม่เคยกินแกงกะหรี่ (Yes/No) อาจเป็นความงงของผมเอง ผมเคยกิน Yes หรือ No หว่า
หากกรอกถูกต้องก็จะเข้าสู่หน้าคุณมีคุณสมบัติยื่นวีซ่าทางไปรษณีย์ แล้วให้เตรียมสิ่งต่างๆ ดังนี้
เอกสารที่ต้องใช้ในการยื่นขอวีซ่าทางไปรษณีย์ (ส่งเท่านี้เท่านั้น ห้ามส่งเกินนะ)
1. แบบฟอร์มยืนยันการสมัครวีซ่าทางไปรษณีย์ที่มีหมายเลข UID และ QR โค้ด
2. หนังสือเดินทางเล่มใหม่ล่าสุดแบบ 10 ปีของกรมการกงสุล เพื่อจะได้หมดอายุพร้อมวีซ่า ซึ่งจะต้องมีหน้าว่างอย่างน้อยสองหน้าเพื่อการติดวีซ่า
3. หนังสือเดินทางเล่มเก่าที่มีวีซ่าสหรัฐฯที่ท่านได้รับล่าสุดซึ่งยังไม่หมดอายุ หรือ หมดอายุไม่เกิน 48 เดือน (หากวีซ่าดังกล่าวไม่ได้อยู่ในหนังสือเดินทางเล่มปัจจุบัน)
4. ใบยืนยันแบบฟอร์ม DS-160 ที่มีแถบบาร์โค้ด ซึ่งกรอกครบถ้วนและได้ทำการกดยืนยัน (submitted) ออนไลน์แล้ว พิมพ์ออกมา
5. ไปถ่ายรูปใหม่เลย เป็น รูปถ่ายสี 2 รูป บอกร้านว่าถ่ายวีซ่าอเมริกา (ขนาด 5x5 เซนติเมตร หรือ 2x2 นิ้ว พื้นหลังสีขาว มีอายุไม่เกินหกเดือน ไม่สวมใส่แว่นตา คอนแทคเลนส์สี หรือหมวก) เพราะหากผิดคุณสมบัติอาจทำให้ได้วีซ่าช้า
6. ใบเสร็จชำระค่าธรรมเนียมวีซ่าที่ไปจ่ายที่ ธนาคารกรุงศรี ที่เขาพิพม์เป็นสีน้ำเงินให้
หลังจากนั้น ไปยื่นต่อไปรษณีย์ที่รองรับ การยื่นขอวีซ่า ตามนี้ https://www.ustraveldocs.com/th_th/BangkokAndSuburb.pdf
โดยไปรษณีย์จะมีแบบฟอร์มปะหน้าให้กรอกและให้ tracking มา ที่สำคัญคือ ส่งฟรี ด้วยนะ
ผมยื่นเอกสารไปวันพฤหัสบ่าย ได้รับเล่มพร้อมวีซ่า 10 ปี และมัดหนังยางเล่มเก่า พร้อมส่งรูปทั้งสองรูป กลับมา ในวันศุกร์ถัดไป ช่วงบ่าย รวม 8 วัน
และนี่ก็คือเรื่องราวการขอวีซ่าอเมริกาทางไปรษณีย์ โดยไม่ต้องมีสัมภาษณ์ที่ผมเพิ่งได้เล่มมาแบบสดๆ ร้อนๆ ครับ
รายละเอียดเพิ่มเติม https://www.ustraveldocs.com/th_th/th-niv-visarenew.asp