เปิดกระทู้ด้วยคำพูดภาษาจีนของไกด์สาวท้องที่ ยิ้มแย้ม พูดออกมาด้วยเสียงหวาน ชวนฝัน ประหนึ่งหลุดออกมาจากซีรีย์สักเรื่อง ว่า..
ฮางโจวเป็นเมืองหลวงอยู่หลักสิบๆ ปี ถ้าอยากดูประวัติศาสตร์หลักร้อยปีให้ไปปักกิ่ง
แต่หากอยากดูประวัติศาสตร์พันๆ ปี ต้องไปซีอาน และลั่วหยางค่ะ (เมืองละพันกว่าปี)
ประวัติศาสตร์ซีอานนั้นย้อนไปได้หกพันปีเลย ต่อให้ใครไม่เคยสนใจดูหนังหรือซีรีย์จีน ก็น่าจะเคยได้ยินจักรพรรดิดังๆ อย่างจิ๋นซีมา
ฉะนั้นถ้าไปซีอาน ยังไงต้องมีสักวันนึงไปปิงหม่าหยง หรือ Terracotta ค่ะ
วันแรกประเดิมด้วยการขี่จักรยานบนกำแพงกลางเมืองเก่าซีอาน ตอนรถไปส่งให้ลง เรามองว่าไม่ยาวเท่าไหร่หรอกมั้ง ขี่ชิวๆ
แต่แล้ว ขี่ไปๆ แล้วแดดร้อนนะ แต่สนุก สวยดี ลุ้นจนจักรยานช่วงสองยางแตกและโซ่ขาด พื้นช่วงท้ายทรหดมาก รวมๆ เวลาที่ขี่จักรยานสองชั่วโมงกว่าเกือบสาม และมองไม่เห็นว่ามันจะสิ้นสุดตอนไหน เดินลากจักรยานพังๆ อยู่ 20 นาที ดีที่ยืนรอรถกอล์ฟเขามาช่วย 15 นาทีถึงปลายทางนะ
สรุปได้ว่า แม้ช่วงสองที่เขาจะให้เปลี่ยนจักรยานและขี่ต่อฟรี แนะนำว่าไม่ขี่ต่อดีกว่าค่ะ ขี่แค่ช่วงแรก วิวสวยสุดแล้วและเต็มอิ่ม พอถึงจุดเปลี่ยนจักรยาน ให้ลงออกมาเดินเล่นข้างล่างดีกว่า
ลืมชื่อร้านแล้ว ขออภัย แต่อร่อย แนะนำเลย ใครไปซีอาน หาทางไปทานร้านที่ขายเกี๊ยว 18 ชนิด เสิร์ฟมาเป็นเข่งๆ
อร่อยมากค่ะ แพะ แกะ เนื้อ ไก่ มาหมด
เดินเล่นกลางตลาดอิสลาม กลางเมืองซีอาน มันไม่ใหญ่มาก แต่เป็นที่ๆ ไปเที่ยวเองได้ง่ายอยู่ ตอนที่เราไปจีนคนเดียวครั้งแรกปี 2014 ก็ไปเดินเล่นถนนเส้นนี้นานพอดู ยอมให้แม่ค้าขายปิ่นปักผมราคาแพงร้อยกว่าบาทมา แต่โอเคแหละสไตล์ก็ไม่เหมือนที่ไทย
รูปไม่สวยเลย เป็นมื้ออาหารเที่ยงที่เร่งรีบเกินไป บุฟเฟ่ต์อร่อย หลงไหลเส้นเปียงเปียงเมี่ยนของซีอานมาก แต่ถ่ายมาได้เท่านี้ คิวยาวว
เสียดายที่ไปดูอาคารเก่าๆ แล้วเราไม่ได้เก็บรูปมาเลย ไปดู Terracotta เลยดีกว่า
ใหญ่มากค่ะ สำหรับเราที่นี่คือ พิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดที่เคยไปมา เดินไวๆ 3 ชั่วโมงยังได้แค่เกือบทั่ว
งานดินก็มา เขาทำยังไงน้อมันถึงได้สมบูรณ์ ข้ามพันปีมาได้ขนาดนี้
อันนี้ไม่แน่ใจว่าเป็นทองแดงหรือสำริดค่ะ ลืมละ มีสาระให้อ่านเยอะเหลือเกิน
มีทั้งส่วน ที่เป็นห้องแอร์ งามๆ กับส่วนที่โชว์ให้ดูหุ่นดิน บนดินเดิมที่เขาขุดขึ้นมาอยู่ด้านในๆ
เคยดูที่เขามาจัดแสดงแบบ มินิๆ ที่ไทย ถ้าใครดูของจริงแล้ว ไปดูของมินิ เราว่าความอลังการมันอัตราส่วน 100,000:1 เลยค่ะ
ต่อลั่วหยางเลยดีกว่า ไม่รอช้า
ไปลั่วหยาง เริ่มต้นด้วยสถานที่โปรด ของสาวๆ หลายคน คือ ไปดูดอกหมูตั้นฮวา หรือดอกพิโอนี่ ค่ะ ดอกไม้ประจำเมืองลั่วหยาง
ตัวเรานั้นได้ไปชมที่ Wild Goose Pagoda ถ่ายรูปกับดอกไม้และเพื่อนๆ รัวๆ สัก 35-45 นาทีได้
ไปวันธรรมดาแต่ทัวร์ก็ยังลงหนาแน่น ถ้าไปเองได้ แนะนำไปเช้าๆ ตอนเขาเปิดไปเลย ดอกไม้สวยมาก บานสะพรั่ง ช่วง spring พอดี กลางปี ฤดูกาลที่นี่จะคล้ายๆ แคนาดาพอสมควรค่ะ ฤดูอื่นไม่แน่ใจว่าจะสดใสแบบนี้มั้ยนะ
แม้ในบรรดาที่ชมดอกไม้ ยังไม่มีที่ไหนชนะใจเราได้เท่า Butchart Garden ที่แคนาดา และสวนลาเวนเดอร์ในเมลเบิร์นแล้ว แต่ที่นี่ตรึงใจพอสมควร
ให้ตำแหน่งที่สี่ในใจเราไปครอง รองมาจากที่สามอย่างงานดอกไม้ที่เชียงใหม่
กุหลาบสวยๆ ก็เยอะนะคะ แต่พอปลูกรวมๆ กัน ใครๆ ต่างตื่นเต้นไปถ่ายน้องพิโอนี่มากกว่า
ต่อที่ Longmen Grotto เราไปมาตอนช่วงแปดโมง ยังไม่ร้อน อากาศดีเย็นสบาย อากาศบริสุทธิ์สุดๆ เดินชมพระพุทธรูป ที่นับไม่ถ้วนจริงๆ ใครจะโม้ว่ากี่ตัวก็เชิญนะคะ คือเราไม่เชื่อว่ามีคนนับมันหมดนะ
บ่อปลาคาร์ฟใหญ่ และสวยมาก เห็นแล้วรู้สึกสดชื่น
เดินเพลินมากๆ ถ้าทำได้พกของว่างกับน้ำไปปิคนิคเบาๆ ได้ค่ะ ไม่แนะนำให้ซื้อที่นี่ ราคานักท่องเที่ยวพอสมควร อิอิ
รำมวยจีนกันเพลินๆ ในวัด
รูปนี้น่าจะวันที่ไปแวะแถวๆ ไคฟง คนเอเซียส่วนใหญ่ก็จะนึกถึงและรู้จักเปาบุ้นจิ้นกันค่ะ ส่วนฝรั่งไม่ค่อยรู้จักเลย จริงๆ เป็นเมืองเล็กๆ สงบๆ
เดินเล่น จนเจอร้านคาเฟ่บาร์เล็กๆ แอบอยู่ แอบได้มิดชิดจนเกือบไม่เห็นเลยค่ะ
ไอติม gelato อร่อย ให้คะแนนเต็มมาก อร่อยกว่าแฮกเก้นดาซในจีนและไทยแน่ๆ
ไปต่อกันที่ตงฟงค่ะ ไม่มีไรมากละค่ะ แค่...เก็บตกวัดเส้าหลิน ใครชอบสายบู๊เนี่ย ควรให้เวลากับสถานที่นี้มันทั้งวันไปเลยค่ะ
ตอนที่ไปคือไปถึงหลังอาหารเที่ยง และอยู่ยาวจนถึง 4 โมงกว่าได้ค่ะ มีแต่คนขอเวลาเพิ่มๆ
ขอใส่เครดิตสามรูปสุดท้ายค่ะ มาจากเพื่อนชาวเยอรมัน สามีนางเป็นช่างภาพ และเราชอบรูปของนางมาก ชื่อ ซอนย่า ค่ะ
มีโชว์เวที เกือบๆ ชั่วโมง ไม่ค่อยมีใครออกก่อน ค่อนข้างเข้มข้นเลยค่ะ อัดวิดิโอกันรัวๆ
ออกมาก็ยังดูห้องหับเก่า โบราณวัตถุ และดูพระที่นี่เขาฝึกซ้อมทำฝ่ามือ ทั้งใช้ไม้ กัน ท่าเขาเยอะมาก ดูจากเวทีแล้วมาดูข้างนอกต่อ ยังไม่รู้สึกว่าอะไรมันซ้ำเลย เพลินสุดๆ ในหนังบู๊อย่างยิปมันนี่ค่อนข้างธรรมดาเลย ถ้ามาดูแบบนี้
ที่จริงกระทู้เรา มันคงไม่ได้ตอบได้จริงๆ หรอกค่ะว่าทำไมซีอานกับลั่วหยางถึงเป็นเมืองหลวงที่อุดมประวัติศาสตร์พันปีได้ แต่หวังว่าจะชอบกันนะคะ
จบแล้วค่ะ พอละ ขอตัวไปพักผ่อนต่อ
เที่ยวทิพย์อีกสักนิด ไปดู ซีอาน ลั่วหยางมีดีอะไร ทำไมถึงเป็นเมืองหลวงจีนได้เป็นพันๆ ปี
ฮางโจวเป็นเมืองหลวงอยู่หลักสิบๆ ปี ถ้าอยากดูประวัติศาสตร์หลักร้อยปีให้ไปปักกิ่ง
แต่หากอยากดูประวัติศาสตร์พันๆ ปี ต้องไปซีอาน และลั่วหยางค่ะ (เมืองละพันกว่าปี)
ประวัติศาสตร์ซีอานนั้นย้อนไปได้หกพันปีเลย ต่อให้ใครไม่เคยสนใจดูหนังหรือซีรีย์จีน ก็น่าจะเคยได้ยินจักรพรรดิดังๆ อย่างจิ๋นซีมา
ฉะนั้นถ้าไปซีอาน ยังไงต้องมีสักวันนึงไปปิงหม่าหยง หรือ Terracotta ค่ะ
วันแรกประเดิมด้วยการขี่จักรยานบนกำแพงกลางเมืองเก่าซีอาน ตอนรถไปส่งให้ลง เรามองว่าไม่ยาวเท่าไหร่หรอกมั้ง ขี่ชิวๆ
แต่แล้ว ขี่ไปๆ แล้วแดดร้อนนะ แต่สนุก สวยดี ลุ้นจนจักรยานช่วงสองยางแตกและโซ่ขาด พื้นช่วงท้ายทรหดมาก รวมๆ เวลาที่ขี่จักรยานสองชั่วโมงกว่าเกือบสาม และมองไม่เห็นว่ามันจะสิ้นสุดตอนไหน เดินลากจักรยานพังๆ อยู่ 20 นาที ดีที่ยืนรอรถกอล์ฟเขามาช่วย 15 นาทีถึงปลายทางนะ
สรุปได้ว่า แม้ช่วงสองที่เขาจะให้เปลี่ยนจักรยานและขี่ต่อฟรี แนะนำว่าไม่ขี่ต่อดีกว่าค่ะ ขี่แค่ช่วงแรก วิวสวยสุดแล้วและเต็มอิ่ม พอถึงจุดเปลี่ยนจักรยาน ให้ลงออกมาเดินเล่นข้างล่างดีกว่า
ลืมชื่อร้านแล้ว ขออภัย แต่อร่อย แนะนำเลย ใครไปซีอาน หาทางไปทานร้านที่ขายเกี๊ยว 18 ชนิด เสิร์ฟมาเป็นเข่งๆ
อร่อยมากค่ะ แพะ แกะ เนื้อ ไก่ มาหมด
เดินเล่นกลางตลาดอิสลาม กลางเมืองซีอาน มันไม่ใหญ่มาก แต่เป็นที่ๆ ไปเที่ยวเองได้ง่ายอยู่ ตอนที่เราไปจีนคนเดียวครั้งแรกปี 2014 ก็ไปเดินเล่นถนนเส้นนี้นานพอดู ยอมให้แม่ค้าขายปิ่นปักผมราคาแพงร้อยกว่าบาทมา แต่โอเคแหละสไตล์ก็ไม่เหมือนที่ไทย
รูปไม่สวยเลย เป็นมื้ออาหารเที่ยงที่เร่งรีบเกินไป บุฟเฟ่ต์อร่อย หลงไหลเส้นเปียงเปียงเมี่ยนของซีอานมาก แต่ถ่ายมาได้เท่านี้ คิวยาวว
เสียดายที่ไปดูอาคารเก่าๆ แล้วเราไม่ได้เก็บรูปมาเลย ไปดู Terracotta เลยดีกว่า
ใหญ่มากค่ะ สำหรับเราที่นี่คือ พิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดที่เคยไปมา เดินไวๆ 3 ชั่วโมงยังได้แค่เกือบทั่ว
งานดินก็มา เขาทำยังไงน้อมันถึงได้สมบูรณ์ ข้ามพันปีมาได้ขนาดนี้
อันนี้ไม่แน่ใจว่าเป็นทองแดงหรือสำริดค่ะ ลืมละ มีสาระให้อ่านเยอะเหลือเกิน
มีทั้งส่วน ที่เป็นห้องแอร์ งามๆ กับส่วนที่โชว์ให้ดูหุ่นดิน บนดินเดิมที่เขาขุดขึ้นมาอยู่ด้านในๆ
เคยดูที่เขามาจัดแสดงแบบ มินิๆ ที่ไทย ถ้าใครดูของจริงแล้ว ไปดูของมินิ เราว่าความอลังการมันอัตราส่วน 100,000:1 เลยค่ะ
ต่อลั่วหยางเลยดีกว่า ไม่รอช้า
ไปลั่วหยาง เริ่มต้นด้วยสถานที่โปรด ของสาวๆ หลายคน คือ ไปดูดอกหมูตั้นฮวา หรือดอกพิโอนี่ ค่ะ ดอกไม้ประจำเมืองลั่วหยาง
ตัวเรานั้นได้ไปชมที่ Wild Goose Pagoda ถ่ายรูปกับดอกไม้และเพื่อนๆ รัวๆ สัก 35-45 นาทีได้
ไปวันธรรมดาแต่ทัวร์ก็ยังลงหนาแน่น ถ้าไปเองได้ แนะนำไปเช้าๆ ตอนเขาเปิดไปเลย ดอกไม้สวยมาก บานสะพรั่ง ช่วง spring พอดี กลางปี ฤดูกาลที่นี่จะคล้ายๆ แคนาดาพอสมควรค่ะ ฤดูอื่นไม่แน่ใจว่าจะสดใสแบบนี้มั้ยนะ
แม้ในบรรดาที่ชมดอกไม้ ยังไม่มีที่ไหนชนะใจเราได้เท่า Butchart Garden ที่แคนาดา และสวนลาเวนเดอร์ในเมลเบิร์นแล้ว แต่ที่นี่ตรึงใจพอสมควร
ให้ตำแหน่งที่สี่ในใจเราไปครอง รองมาจากที่สามอย่างงานดอกไม้ที่เชียงใหม่
กุหลาบสวยๆ ก็เยอะนะคะ แต่พอปลูกรวมๆ กัน ใครๆ ต่างตื่นเต้นไปถ่ายน้องพิโอนี่มากกว่า
ต่อที่ Longmen Grotto เราไปมาตอนช่วงแปดโมง ยังไม่ร้อน อากาศดีเย็นสบาย อากาศบริสุทธิ์สุดๆ เดินชมพระพุทธรูป ที่นับไม่ถ้วนจริงๆ ใครจะโม้ว่ากี่ตัวก็เชิญนะคะ คือเราไม่เชื่อว่ามีคนนับมันหมดนะ
บ่อปลาคาร์ฟใหญ่ และสวยมาก เห็นแล้วรู้สึกสดชื่น
เดินเพลินมากๆ ถ้าทำได้พกของว่างกับน้ำไปปิคนิคเบาๆ ได้ค่ะ ไม่แนะนำให้ซื้อที่นี่ ราคานักท่องเที่ยวพอสมควร อิอิ
รำมวยจีนกันเพลินๆ ในวัด
รูปนี้น่าจะวันที่ไปแวะแถวๆ ไคฟง คนเอเซียส่วนใหญ่ก็จะนึกถึงและรู้จักเปาบุ้นจิ้นกันค่ะ ส่วนฝรั่งไม่ค่อยรู้จักเลย จริงๆ เป็นเมืองเล็กๆ สงบๆ
เดินเล่น จนเจอร้านคาเฟ่บาร์เล็กๆ แอบอยู่ แอบได้มิดชิดจนเกือบไม่เห็นเลยค่ะ
ไอติม gelato อร่อย ให้คะแนนเต็มมาก อร่อยกว่าแฮกเก้นดาซในจีนและไทยแน่ๆ
ไปต่อกันที่ตงฟงค่ะ ไม่มีไรมากละค่ะ แค่...เก็บตกวัดเส้าหลิน ใครชอบสายบู๊เนี่ย ควรให้เวลากับสถานที่นี้มันทั้งวันไปเลยค่ะ
ตอนที่ไปคือไปถึงหลังอาหารเที่ยง และอยู่ยาวจนถึง 4 โมงกว่าได้ค่ะ มีแต่คนขอเวลาเพิ่มๆ
ขอใส่เครดิตสามรูปสุดท้ายค่ะ มาจากเพื่อนชาวเยอรมัน สามีนางเป็นช่างภาพ และเราชอบรูปของนางมาก ชื่อ ซอนย่า ค่ะ
มีโชว์เวที เกือบๆ ชั่วโมง ไม่ค่อยมีใครออกก่อน ค่อนข้างเข้มข้นเลยค่ะ อัดวิดิโอกันรัวๆ
ออกมาก็ยังดูห้องหับเก่า โบราณวัตถุ และดูพระที่นี่เขาฝึกซ้อมทำฝ่ามือ ทั้งใช้ไม้ กัน ท่าเขาเยอะมาก ดูจากเวทีแล้วมาดูข้างนอกต่อ ยังไม่รู้สึกว่าอะไรมันซ้ำเลย เพลินสุดๆ ในหนังบู๊อย่างยิปมันนี่ค่อนข้างธรรมดาเลย ถ้ามาดูแบบนี้
ที่จริงกระทู้เรา มันคงไม่ได้ตอบได้จริงๆ หรอกค่ะว่าทำไมซีอานกับลั่วหยางถึงเป็นเมืองหลวงที่อุดมประวัติศาสตร์พันปีได้ แต่หวังว่าจะชอบกันนะคะ
จบแล้วค่ะ พอละ ขอตัวไปพักผ่อนต่อ