รีวิวการรับยาเป๊ปครั้งแรก (PEP) ยาต้านฉุกเฉิน 72 ชม.

เรื่องก็มีอยู่ว่าเราได้ไปมีเพศสัมพันธ์กับแบบ One Night Stand แล้วเผอิญถุงยางแตก 

เราก็ครุ่นคิดอยู่ทั้งวันว่าเราจะทำยังไงดี จนถึงกลางคืนก็คิดมากขนนอนไม่หลับ (เลย 24 ชม.มาแล้ว) แต่ยังโชคดีที่เราไปรับยา PrEP ที่มูลนิธิ Swing Pattaya (แต่วาาหยุดทานไปนานมากแล้ว และเราก็ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ จ.ชลบุรีแล้ว) เลยลองทักไปหาพี่ที่รู้จักที่เขาทำงานที่มูลนิธินี้ไป พี่เขาก็แนะนำเราดีมาก บอกว่ามียาตัวนี้อยู่นะ ที่ให้กินหลังรับเชื้อไม่เกิน 72 ชม. ให้เรารีบไปโรงพยาบาลไปบอกเขาเลยว่สเราถุงยางแตกมานะเดี๋ยวหมอเขาจะเป็นคนจัดการให้เราเอง เขาก็บอกอีกว่าตามโรงพยาบาลใหญ่ๆแถวนี้มีหมดแหละ เราก็เลยเบาใจขึ้นมาหน่อยและนอนหลับไป 

เช้าวันต่อมา(ยังไม่เกิน 48 ชม.) เราก็เลยลองโทรไปถามที่โรงพยาบาลที่ใกล้เราที่สุดดู โทรไปเล่าความกังวลใจให้คุณหมอฟังซึ่งคุณหมอก็ใจดีมาก แนะนำให้เราเข้าไปหาที่โรงพยาบาลพร้อมบอกว่ามียาเป๊ป (PEP) พร้อมในโรงพยาบาล เราก็โอเคแล้วเดินทางไปโรงพยาบาล แต่เจ้ากรรม พอไปถึงโรงพยาบาลและคุยกับคุณหมออีกครั้ง คุณหมอกลับบอกว่ายาเป๊ปที่โรงพยาบาลมี จำกัดไว้ให้แค่คดีถูกข่มขืน และบุคคลากรทางการแพทย์ที่อาจเผลอโดนเข็มฉีดยาของคนไข้เท่านั้น ซึ่งเราก็แอบเซ็ง แต่ก็เราเข้าใจนะ ถึงโรงพยาบาลนี้จะเป็นโรงพยาบาลประจำอำเภอแต่ก็เป็นโรงพยาบาลขนาดกลางๆ เลยไม่ได้มียาไว้สำหรับเหตุอย่างเรา พอคุยกันเรื่องนี้เสร็จสรรพ คุณหมอเลยแนะนำให้เราไปที่โรงพยาบาลของอำเภอข้างๆที่ใหญ่กว่าและมีบริการสำหรับเหตุฉุกเฉินนี้ ซึ่งอยู่ห่างออกไปอีก 30 กม.

11:00 เมื่อมาถึงโรงพยาบาลที่หมอแนะนำ เราก็จัดการไปที่เวชระเบียนเพื่อทำบัตรผู้ป่วย(ใช้บริการครั้งแรก) เราอยากแนะนำทุกคนที่เป็นเหมือนเราว่าเราห้ามอายเด็ดขาด เราต้องบอกเขาไปตรงๆว่าเราไปทำอะไรมา และจะมาติดต่ออะไร (กลัวอายกับกลัวโรค เรากลัวโรคมากกว่า) เมื่อทำบัตรเสร็จแล้ว เราด็ไปรอที่แผนกคลินิกที่เขาให้เราไป ก็นั่งรอซักประวัติไป ของเราไปติดเที่ยงพอดีกว่าจะได้ซักประวัติก็บ่ายโมงเลย แนะนำว่าตอนซักประวัติให้เราบอกทุกอย่างไปตรงๆเลยนะ ห้ามอายเด็ดขาด เพราะหมอเขาคงชินกับเหตุการณ์แบบนี้แล้ว ไม่มีเหตุผลที่เราจะต้องอายเลย (เราเจอแต่หมอใจดี) ซักประวัติเสร็จก็ให้เราเอาใบซักประวัติที่ได้มาไปจองคิวเจาะเลือดต่อไป ของเราที่ต้องตรวจจะมีอยู่ 3 โรค คือ HIV , ซิฟิลิส , เริม (ต้องบอกก่อนว่าคนที่จะรับยาเป๊ปได้ ต้องไม่เป็นผู้ติดเชื้อ HIV มาแล้ว หรือต้องเป็นคนที่มีผลเลือดเป็นลบเท้านั้นนั่นเอง) พอยื่นใบจองคิวเจาะเลือดเสร็จไม่ถึง 5 นาทีเราก็ได้เข้าห้องเจาะเลือดและเจาะเลือดทันที จากนั้นเราก็รอผลเลือดประมาณ 2 ชม. ส่วนของเรารอนานหน่อยเกือบ 3 ชม. และเมื่อผลเลือดออกแล้วเราจะได้รับมารูปแบบเอกสารลับ ซึ่งเราอย่างแกะดูตรงนั้นเลย แต่ก็เกรงใจกลัวหมอด่า เลยได้แต่สวดมนต์ช่วย และนั่งรอให้ถูกเรียกเข้าห้องพบแพทย์ จากนั้นแพทย์ก็จะอ่านผลเลือดให้เรา และนี่คือช่วงเวลาที่ตื่นเต้นที่สุด ผลออกมาว่าเชื้อทั้งสามตัวที่ตรวจให้เรานั้น ผลออกมาเป็นลบหมดเลย (โล่งใจขึ้นมาทันที) จากนั้นแพทย์ก็จะชวนเราคุยพลางซักประวัติเราไปพลาง แพ้ยาตัวไหนไหม กินยาตัวไหนอยู่ มีโรคประจำตัวไหม เคยใช้ยาประเภทนี้ไหม เราต้องตอบตามความจริงให้หมดเลยนะ อย่ากั๊ก อย่าอาย  แล้วหมอก็จะแนะนำว่ามีเพศสัมพันธ์ได้ แต่ถ้าจะให้ดีก็ให้งดไปก่อน   เพื่อป้องกันการรับเชื้อเพิ่ม และบอกผลข้างเคียงของยา. จากนั้นเราก็ลงไปจ่ายตังค์และรับยา ค่าใช้จ่ายทั้งหมดคือ 780 บาท 

ซึ่งหมอจ่ายยาให้เรามา 10 เม็ด และนัดเราอีก 1 สัปดาห์ถัดไปให้มาตรวจค่าไตและรับยาเพิ่ม (ยานี้มีผลต่อไตมากๆ ต้องดื่มน้ำให้เยอะๆ) 

มาพูดถึงเรื่องยากันบ้าง ยาตัวนี้เราจะต้องกินวันละ 1 เม็ด ในเวลาเดิมทุกวัน ย้ำว่าเวลาเดิมทุกวัน เราเลยตั้งนาฬิกาไว้เลยซึ่งของเราจะเป็นเวลา 20:30 น. เพราะช่วงเวลานี้เราจะว่างแล้ว และเราห้ามเพิ่มขนาดยาเอง และห้ามหยุดยาเองโดยเด็ดขาด หมอสั่งให้กิน 1 เม็ดก็ต้องกิน 1 เม็ดห้ามกินเพิ่มจากนี้ การจะหยุดยาต้องให้หมอเป็นคนสั่งเท่านั้น ห้ามทำเองโดยพลการ 

ผลข้างเคียงของยา หลังจากเรากินยานี้ไป เราเริ่มรู้สึกถึงผลข้างเคียงหลังจากผ่านไป 1 ชม.เลยก็คือ อาการเวียนหัว เราจะเวียนหัวหนักหัวมาก แทบไม่อยากลุกออกจากที่นอนเลย(หมอก็แนะนำให้กินเวลาก่อนนอน) นอกจากจะเวียนหัวแล้วยังทำให้ง่วงด้วย และอีกหนึ่งผลข้างเคียงสำหรับเราคืออาการเห็นภาพหลอน ฟังไม่ผิด เห็นภาพหลอนจริงๆ มันเป็นเหมือนความฝัน แต่เราลืมตาแล้วภาพมันก็ไม่หายไป เราเห็นภาพผีตามไล่ฆ่าคนรวมถึงไล่ฆ่าเราด้วย เห็นคนตายคนโดนฆ่าเต็มไปหมดเลย เหตุการณ์เห็นภาพหลอนมันเกิดขึ้นหลังจากเราเริ่มหลับไปแล้วและเราก็มารู้ตัวอีกทีตอนเช้าแล้ว 

หลังจากลืมตาขึ้นมาภาพหลอนไม่มีแล้วแต่เวียนหัวมากกว่าเดิม แบบเดินๆแล้วล้มลงได้เลย อาการเวียนหัวจะเริ่มหายไปหลังจากตื่นนอนได้ 3~4 ชม. ซึ่งเราตื่นนอน 07:00 น. กว่าจะหายเวียนหัวก็ปาไป 10 โมงแล้ว 

หลังจากนั้นอาการข้างเคียงที่เราเริ่มรู้สึกได้หลังจากตื่นตอนเลยก็คือ คอแห้งบ่อยมากๆ ต้องดื่มน้ำเกือบทุกๆ 20 นาที เพราะเดี๋ยวคอแห้งๆ อยู่อย่างนั้น และอีกอาการคือ  ไม่อยากอาหาร เราไม่รู้สึกหิวไม่รู้สึกอยากกินอะไรเลยยกเว้นหิวน้ำ เห็นอะไรก็รู้สึกไม่อยากกิน จนเวลาผ่านไปเที่ยงแล้ว บ่ายแล้ว ไม่อยากกินก็ต้องกินเพราะจะได้มีแรงสู้ต่อไป  

เหตุการณ์ที่เล่ามานี้คือเราเพิ่งกินยาไปแค่ 1 เม็ดเท่านั้นนะ และคืนนี้ก็จะเป็นการกินยาเม็ดที่ 2 และคาดว่าเราจะต้องอยู่กับอาการเวียนหัว เห็นภาพหลอน เบื่ออาหาร คอแห้งไปแบบนี้อีกราว 1 เดือน 

และนี่ก็คือประสบการณ์ของตัวเราเอง ถ้าเพื่อนๆคนไหนเคยมีประสบการณ์แบบไหนก็ลองมาแลกเปลี่ยนพูดคุยกันนะ ส่วนใครที่เพิ่งจะพลาดถุงยางแตกและกำลังกังวลใจอยู่ก็ลองไปทำตามที่เราทำดูได้นะ 

บ๊ายบาย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่