สวัสดีค่ะ คือเรามีปัญหากับคนในบ้าน ต้องขอย้อนไปวันที่ที่เราไม่สบาย คือตกดึกของวันพุธเราพบว่าต้องเองมีอาการของภูมิแพ้ซึ่งก็ไม่รู้ว่าแพ้อะไรแต่เราจะจามและเป็นหวัดคาดว่าแพ้ฝุ่นปกติ มันมีอาการปวดหัวตามมาในวันนั้นพอถึงตอนเช้าของวันถัดมาเราก็มีไข้เล็กน้อยและไม่มีการจามและมีน้ำมูกแล้วแต่อาการปวดหัวไม่ได้หายไปเรานึกว่าเดี๋ยวก็หาย ถัดมาอีกวันคือวันศุกร์เป็นวันที่เราต้องไปโรงเรียนเรารู้ว่าไม่มีไข้แล้วก็ไปโรงเรียน แต่พอถึงโรงเรียนได้ซักพักอาการปวดหัวที่ยังไม่หายมันก็ปวดหนักขึ้นจนเพื่อนเราต้องพาไปห้องพยายาลและเราก็บอกอาการของเราแต่ไม่ได้บอกว่าในวันพุธเรามีอาการแพ้ด้วยครูห้องพยาบาบเลยเขียนใบลาให้เราว่าไข้หวัดเพราะเป็นอาการป่วยตามฤดูฝนและเราก็โทรหาพี่ให้มารับและเซ็นใบออกจากโรงเรียน และในวันเสาร์เราก็มีปัญหากับพี่อีกคนเล็กน้อย พี่คนนั้นบอกว่าเราไม่สนใจเรียนไม่อยากเรียน เพราะพี่คนที่ไปรับเราวันนั้นเค้าก็พาเราไปอนามัยและเราวัดไข้ปกติแต่ไข้ก็ไม่ขึ้นแล้ว พี่คนนั้นคิดว่าเราโกหกจะกลับบ้าน ปกติเราไม่สบายก็นั่งเรียนถ้าไม่โอเคมากๆก็ค่อยไปขอหลับบ้าน ในตอนนั้นเราบอกชัดเจนกับทั้งครูพยาบาลและพยาบาลที่อนามัยว่าปวดหัวไม่ได้เป็นไข้เราบอกว่าไข้เราหายแล้วเราเลยไปโรงเรียนแต่มันดันปวดหัว พี่คนนั้นก็ยืนอยู่ห่างจากเราไม่มากแล้วการที่เราป่วยต้องมีไข้อย่างเดียวหรอคะ ตอนนี้เราก็กลายเป็นคนโกหกไปแล้วเพราะการเข้าใจอะไรผิดๆของคนคนนึง อยากทราบว่าเราผิดรึเปล่าคะ มันคาใจจริงๆ
ถ้าเราไม่สบายเราต้องมีไข้อย่างเดียวมั้ยคะ?