วันนี้เป็นวันที่เรารอคอย วันที่เราได้ไปดูหนังในโรงสักที (หลังจากที่ขลุกกับ Netflix และ Disney+ มานาน) และไม่ใช่แค่เป็นการเข้าโรงหนังครั้งแรกของเราในรอบหลายเดือน แต่เป็นการเข้าห้างครั้งแรกของเราในรอบหลายเดือนด้วย (ปกติอยู่แต่ในห้อง ออกไปไกลสุดคือเซเว่นปากซอย) บรรยากาศก็ดูสุขสันต์เริงรมณ์พอเป็นพิธี เราเลยเลือกดูหนังเจิมโรงหน่อยสัก 2 เรื่อง

เรื่องแรกก็คือ The Conjuring 3 (The Devil Made Me Do It) ส่วนอีกเรื่องก็คือ Malignant ซึ่งเป็นหนังสยองขวัญทั้งสองเรื่อง (555) ซึ่งหลังจากดูจบก็ไม่ผิดหวัง ทั้งสองเรื่องมอบความบันเทิงให้เราได้อย่างเต็มที่ ชนิดที่ว่าดูที่บ้านคงไม่สนุกขนาดนี้ และเราขอบอกเลยว่าทั้งสองเรื่องนี้นั้น ต้องดูในโรงเท่านั้น

...มาเริ่มกันที่เรื่องแรก The Conjuring 3 (The Devil Made Me Do It)

เราชื่นชอบจักรวาล Conjuring เป็นส่วนตัวอยู่แล้ว จะไม่โอเคก็กับแค่ Annabelle ภาคแรกเรื่องเดียว นอกนั้นเราเลิฟมาก (ขนาด The Nun ที่คนด่ากระจาย เรายังดูสนุกเลย)

ก็ไม่แปลกที่เราจะตามไปดูหนังภาคต่อเรื่องหลักของจักรวาลอย่าง The Conjuring เพราะสองภาคแรกทำมาตรฐานไว้ยอดเยี่ยมมาก หนังทั้งน่ากลัวและน่าติดตามในเวลาเดียวกัน อีกทั้งยังเสริมเรื่องความรักเข้ามาได้อย่างลึกซึ้งกินใจคนดูอย่างเรามากๆ

สำหรับ Conjuring ภาคนี้ เราเห็นคำวิจารณ์ก่อนไปดู ก็ไม่ได้รู้สึกว่าอยากดูน้อยลงแต่อย่างใด กลับกันเราดันอยากไปดูมากๆ เสียด้วยซ้ำ เราอยากรู้ว่าเหตุใดหนังถึงรับคำด่าจากคนดูไปหนาหูและไหนจะ 56% บนเว็บมะเขือเน่าอีก ก็เลยอยากรู้นักว่าจะแย่ได้สักแค่ไหนกันเชียว

...หลังจากดูจบ ไม่ผิดหวัง ภาพรวมยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดีถึงดีมาก ถึงแม้จะสู้สองภาคแรกไม่ได้ แต่เป็นภาคที่แตกแขนงออกมาจากการเป็นหนังบ้านผีสิงมาเป็นหนังแนว Witchcraft เต็มตัวได้อย่างน่าสนใจและไม่สูญเสียเสน่ห์ที่ Conjuring เคยทำไว้ในสองภาคแรก แถมภาคนี้ยังเปิดทางให้ภาคต่อไปในจักรวาลได้มี Conflict เอาไว้ขายต่อได้อีกยาว ฉากผีหลอกต่างๆ ทำได้ดี ดูดีมีระดับมากกว่าการประโคมเสียงดังเพื่อให้คนดูตกใจ แต่มีชั้นเชิงในการหลอกคนดูว่าจะโผล่มาตอนไหนกันแน่ (บางฉากที่เคยดูในตัวอย่าง มาดูในหนังเต็มก็ยังคงทำให้ตกใจได้อยู่)

1. น่ากลัว ถ้าข้อนี้ทำได้ดี เราพร้อมเทคะแนนให้แล้ว

2. ฉากเปิด เรายกให้ฉากเปิดในภาคนี้เป็นฉากที่น่ากลัวที่สุดในบรรดาฉากผีหลอกในจักรวาล เป็นฉากที่ตึงเครียดขั้นสุด และดุเดือดขั้นสุด ทำให้เรารู้คร่าวๆ ว่าภาคนี้ไม่ได้ธรรมดาเหมือนที่คาดการณ์ไว้เลย เอาเรื่องอยู่พอตัว

3. การดำเนินเรื่อง ยังคงความน่าติดตามไว้ได้อย่างดี ช่วงสืบสวนเป็นอะไรที่น่าตื่นตาตื่นใจมาก

4. มุกตลก แม้จะไม่ได้เยอะ มีประมาณ 2-3 ฉากได้ แต่ผ่อนคลายความน่ากลัวและตึงเครียดได้ระดับหนึ่ง และจังหวะลงตัว ไม่ดูยัดเยียด

5. Patrick Wilson & Vera Farmiga เล่นดีมากและเล่นดีเสมอมา แสดงเหมือนไม่ได้แสดง

6. ฉากย้อนอดีต เราเกือบร้องไห้... T_T

7. ตอนจบ เป็นการจบที่ทำให้เราเดินน้ำตาปริ่มออกโรง เช่นเดียวกับที่สองภาคแรกเคยทำเอาไว้

8. Michael Chaves กำกับหนังได้ดีกว่าตอน The Curse of La Llorona มากๆ และมีแววว่าจะไปได้ไกลในจักรวาลนี้

1. ผี เอาจริงตัวผีภาคนี้อิทธิฤทธิ์เยอะมากเลยนะ น่าจะเป็นผีตัวที่ปราบยากที่สุดในจักรวาลด้วย แต่นางไม่ค่อยได้ทำอะไรนอกจากเดินไปเดินมาแล้วบิดหักคอคนเล่น

2. จุดคลี่คลาย ง่ายไปมั้ยวะ??? เอางี้จริงดิ??? เห้อออ เสียดายแฮะ

3. Transition อันนี้เป็นจุดเล็กๆ น้อยๆ ไม่ได้เสียหายอะไรมาก แต่รู้สึกตะหงิดที่ช่วงแรกหนังใช้เทคนิค Fade บ่อยเกินไปมั้ย...

สรุป ภาคนี้ยังคงสนุกอยู่ ไม่ได้แย่เลย ใครที่ลังเลว่าควรจะดูในโรงดีมั้ย เราแนะนำเลยว่าควรมากๆ ระบบภาพและเสียงในโรงช่วยเพิ่มอรรถรสให้หนังได้เยอะกว่านั่งดูที่บ้านแน่นอน

...และก็เรื่องที่สองในวันนี้ Malignant

ถ้าให้เปรียบเทียบเป็นอาหาร The Conjuring 3 ก็เหมือนตำไทย แน่นอนว่ารสชาติอาจจะไม่จัดจ้านเท่าตำปูปลาร้าหรือตำซั่วที่คนกินเผ็ดเขาชอบกินกัน แต่รสชาติของ The Conjuring 3 ก็ยังคงผ่านมาตรฐานเชลล์ชวนชิมอยู่ดี เพราะอร่อย แม้เครื่องจะไม่มาก แต่จัดจ้านดีในฐานะตำรสชาติอ่อน

แต่สำหรับ Malignant เป็นเหมือนตำมั่วสูตรยายเพลิง ใส่วัตถุดิบเข้ามามากมายไม่ว่าจะเป็นปูดอง ไข่เค็ม หมูกรอบ กุ้งสด หนวดปลาหมึก ลูกชิ้นเนื้อ ฯลฯ ใส่แบบไม่อั้นเครื่อง แลดูแล้วเหมือนจะไปด้วยกันยากมาก และรสชาติคงโดดออกจากกันจนกินไม่ลง แต่ว่าพ่อครัวมีฝีมือ ปรุงรสได้เข้ากัน และจัดจ้านสุดซอยจนต้องกวักมือเรียกโต๊ะข้างๆ มาชิม

Malignant กำกับและเขียนบทโดย James Wan (ผู้กำกับ The Conjuring ภาค 1 และ 2) เล่าเรื่องราวของนางเอกที่วันหนึ่งดันมองเห็นภาพฆาตรกรสวมชุดดำฆ่าเหยื่อในค่ำคืนอันมืดมิด เธอเลยมาสืบหาความจริงว่าทำไมเธอถึงมีอาการแบบนั้น

...นั่นคือเนื้อเรื่องที่เราสามารถเล่าให้ฟังได้มากที่สุด เพราะถ้าเล่ายาวเกรงว่าจะหลุดสปอยแบบไม่ได้ตั้งใจ เราเลยจะขอแนะนำทุกคนว่าให้ดูแค่ตัวอย่างแล้วไปดูหนังได้เลย หรือไม่ต้องดูแล้วไปดูหนังเลยยิ่งดี เพราะเรื่องนี้ ยิ่งรู้น้อย...ยิ่งสนุก

1. สนุกมากกก เป็นหนังที่บันเทิงเต็มสูบ ตลอดเวลา 2 ชั่วโมงคืออิ่มหนำสำราญเป็นอย่างยวดยิ่ง กราฟความสนุกของหนังพุ่งขึ้นนาทีต่อนาทีเหมือนความเร็วของเครื่องยนต์รถ

2. สะใจ James Wan ใส่เต็มจริงๆ ระทึกก็ระทึกแบบเอาตาย โหดก็โหดจน Saw ไม่กล้านับญาติ น่ากลัวก็น่ากลัวจน The Conjuring ต้องยกนิ้วให้

3. ฉากฆ่า ดุเดือดและมันส์สุดๆ สมควรที่ได้เรต R

4. มุมกล้อง ฉากที่นางเอกวิ่งหนีในบ้านกับฉากแอคชั่นท้ายเรื่อง มุมกล้องเจ๋งสุดๆ

5. Annabelle Wallis จำนางแทบไม่ได้เลย มาเรื่องนี้สวยเด่น และเล่นดีมาก

6. Title Sequence เก๋ดี รายละเอียดเยอะด้วย ต้องสังเกตดีๆ

7. จุดหักมุม ซ่อนปมได้เนียนมาก พอถึงจุดที่เฉลยก็เล่นเอาช็อคซะจนเกือบหงายเงิบ

8. ตัวปีศาจ ออกแบบได้เท่ดี โดยเฉพาะมีด ชอบมากกกกกกกกกกกกก

9. ฉากแอคชั่นช่วงท้าย มันส์สุดอะไรสุด มันส์ยิ่งกว่า Furious 7 ที่ Wan กำกับอีก

1. ช่วง 30 นาทีแรก ปูเรื่องยืดยาวไปนิดนึง แต่ไม่ถึงกับน่าเบื่อจนหาวหวอด พอพ้นช่วงนี้ไปหนังสนุกมากกก

สรุป โคตรชอบ เจ๋งมาก เป็นหนังพล็อตเกรดบีที่ผ่านมือโปรจนได้ผลลัพธ์เป็นหนังเกรดเอที่มีชั้นเชิงมากกว่าเป็นหนังไล่ฆ่าแบบไร้มิติเหมือนหนังเชือดเรื่องอื่นๆ บวกกับดูในโรงด้วย มันฟินสุดๆ

.