สวัสดีค่ะชื่อแตงนะคะ วันนี้แตงอยากจะมาแชร์ประสบการณ์การปลูกผมที่ 3M Hair Transplant ปลูกผมถาวร by Masterpiece Hospital เผื่อจะเป็นแนวทางในการตัดสินใจสำหรับคนที่คิดอยากจะปลูกผมคร่า
แตงต้องบอกก่อนนะคะ ว่าแตงเป็นคนที่ผมบางและตรงส่วนหน้าผากมันก็เริ่มเถิกขึ้นเรื่อยๆและตรงมุมซ้ายขวามันเริ่มลึกขึ้นไป ซึ่งตรงนี้เองทำให้เวลามัดผมทำให้เรารู้สึกไม่มีความมั่นใจเลยเพราะรู้สึกว่าหน้าผากดูกว้าง แตงคิดว่าหลายคนก็คงเป็นเหมือนกัน เอาจริงๆผมก็เป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้เราดูดีขึ้นบุคลิกภาพดีขึ้นช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้กับตัวเรา (และถ้าคิ้วคือมงกุฏของใบหน้า ผมก็เช่นกัน)
สำหรับการปลูกผม ก็จะมี 3 วิธีที่แพทย์ใช้กันนะคะก็คือ FUE,FUT และ DHI
1. แบบ FUE ใช้เวลาพักฟื้นเพียง 2 วัน เป็นวิธีการนำผมด้านหลังออกมาโดยใช้เทคนิค FUE (เจาะ) ซึ่งทาง 3 M Hair Transplant ใช้หัวเจาะที่มีขนาดเล็ก 0.8 mm โดยทำการเจาะแบบกระจายทำให้ไม่เห็นรอยแผลเป็น
2. แบบ FUT ใช้เวลาพักฟื้นเพียง 5 วัน เป็นวิธีการกรีดหนังศีรษะตื้นๆ บริเวณท้ายทอยซึ่งเป็นบริเวณที่มีรากผมแข็งแรงและมีการหลุดร่วงของเส้นผมน้อยที่สุด
3.แบบ DHI (Direct Hair Implantation) ทำการคัดแยก ตกแต่งกราฟให้สวยงาม และมีสภาพสมบูรณ์ นำไปปลูกด้วยเทคนิคด้วย ปากกา Implanter เพื่อให้ได้ให้ได้ความหนาแน่นที่พอดีเทียบเท่าผมธรรมชาติ เทคนิคนี้ จะช่วยให้ได้การปลูกที่ แน่น ถี่ ละเอียด มากยิ่งขึ้น
เอาละคุณผู้ชมเราจะมาเริ่มกันเลยค่า
อันดับแรกเลยทางโรงพยาบาลจะนัดวัน Consult ให้เราพบกับคุณหมอ คุณหมอที่แตงทำก็คือคุณหมอหมิง (นายแพทย์ ปภณ อัศววรฤทธิ์) แพทย์เฉพาะทางด้านเส้นผม ชำนาญทั้ง เทคนิค DHI, FUE และ FUT และได้รับการยอมรับจาก American Board of Hair Restoration Surgery (ABHRS) 1 ใน 200 ของโลกเลยนะคะ
เมื่อเราพบคุณหมอ หมอก็จะถามเราว่าอยากปลูกผมเพราะอะไร//มีปัญหาตรงไหน//ที่บ้านมีกรรมพันธุ์ใครหัวล้านผมบางหรือป่าว เพราะคุณหมอจะได้รู้ว่าเราผมบางเพราะสารเคมีหรือกรรมพันธุ์ (ตรงนี้เราก็ต้องชี้แจงคุณหมอให้ละเอียดนะคะ เพื่อให้คุณหมอประเมินการรักษาได้ถูกวิธี)
หลังจากนั่นคุณหมอก็ได้อธิบายวิธีทำไว้ 2 วิธี คือ FUT กับ FUE ว่ามีความแตกต่างกันยังไง แถมคุณหมอให้เราตัดสินใจเอาได้เลยว่าอยากทำแบบไหน ซึ่งแตงก็ได้หาข้อมูลมาแล้วคิดว่าทำแบบ FUE (สำหรับความแตกต่างของวิธีการต่างๆคุณหมอจะแนะนำซึ่งมีข้อดีที่แตกต่างกันนะคะ)
คุณหมอจะวาดแนวทรงผมที่เราจะปลูกและคำนวณกราฟที่จะใช้ เราอยากได้แบบไหนก็หา Reference ไปให้คุณหมอได้เลยค่ะ แตงเองอยากได้หน้าหวานกรอบหน้าชัดเจน คุณหมอก็จะดูให้ว่าเข้ากับหน้าเราหรือป่าวหมอใจดีมากคร่า บอกได้เลยว่าเราต้องการประมาณไหนเพื่อให้เราพอใจที่สุดซึ่งผลลัพธ์แตงพอใจมากคร่ากรอบหน้าชัดเจนดูหน้าหวานฉ่ำละมุน 10 เต็ม 100 ไปเลยคร่า
ของแตงคุณหมอประเมินไว้ 2,300 กราฟ พอหลังจาก Consult เสร็จแล้ว พี่พนักงานจะให้เรากรอกข้อมูลและพาเราไปตรวจ COVID-19 พ่วงท้ายตรวจเลือดหาเชื้อ HIV หลังจากนั่นเราก็กลับบ้านเขาจะส่งผลให้เราทาง E-Mail
แล้วอีก 5 วันพบกัน........
และแล้วก็ถึงวันปลูกผม ไปถึงพี่พนักงานจะให้เราไปสระผมและเปลี่ยนชุดเป็นของโรงพยาบาลหลังจากนั้นเข้าพบกับคุณหมออีกหนึ่งรอบเพื่อวาดแนวผมที่เราต้องการอีกรอบ (ก็เปลี่ยนแบบอีกสิค่ะ)55555 เสร็จแล้วก็ไปถ่ายรูป 1 กรุบ หลังจากนั้นไปรอในห้อง OR เขาจะให้กินยา แก้อักเสบ,ยา คลายความเครียด (น่าจะเป็นยานอนหลับอ่อนๆ )เสร็จก็ขึ้นไปนอนบนเตียงนอนคว่ำหน้า หนีบเครื่องวัดชีพจรที่นิ้ว และแล้ววินาทีที่สำคัญก็ได้เกิดขึ้น ใจนี้เต้นตุ๊บตุ๊บๆ
คุณหมอก็ได้เริ่มบรรเลงยาชาจุดที่1 2 3 ไปเรื่อยๆ พอชาคุณหมอก็เริ่มลงมีด นี่ก็คือกึ่งหลับเพิ่งตื่นรู้สึกนอนนานมากจนแก้มอะชารู้สึกหน้าชา คือชาไม่ไหวอะ เสร็จแล้วคุณหมอก็ได้ทำการเจาะเอากราฟผมจากด้านหลังเพื่อมาเตรียมปลูก
หลังจากนั้นคุณหมอให้นอนหงายละก็ลงยาชา ถามว่าเจ็บไหม....ไม่เลยเพราะหน้าชาจากการนอน5555 และคุณหมอก็ทำการเจาะรูเพื่อที่จะเตรียมใส่กราฟผมลงไปพอเสร็จก็ไปพักทานข้าวเพื่อรอให้คุณหมอและทีมงานทำการคัดแยกกราฟเพื่อจะมาปลูกข้างหน้า
คุณเอ้ย..พอลุกขึ้นเท่านั้นแหละมึนมาก วิ้งๆไปหมด ”พี่เขาก็ถามเราหิวข้าวหรือยังค่ะ เราก็ตอบหิวแล้วค่ะ หิวข้าวหรือยังคะ อ่าหิวคร่า” ถามเพื่อความชัวร์ เสร็จแล้วก็ไปนั่งรอในห้องรับรองมี Netflix ให้ดูละก็มีข้าวต้มมาให้กับน้ำส้มพอเสร็จสักพักก็มีพี่เขามาเรียกให้ไปเข้าห้องทำการปลูกผม
จากนั้นก็นอนบนเตียงคุณหมอก็ได้ทำการเอายาชาอัดเข้าไปอีกหนึ่งรอบเพื่อให้เราชาแน่แน่ (โดนตบ30 ตลบก็ไม่รู้สึก) หลังจากนั้นก็จะมีทีมของคุณหมอมาทำการวางกราฟลงไปในรูที่คุณหมอได้เจาะลงไปเราก็นอนยาวๆไปเลย เสร็จเดี๋ยวเขาปลุกเอง
ละตอนแรกคุณหมอประเมินเอาไว้ว่า 2,300 กราฟแต่พอทำจริงๆปาไป 2,300++ (ก็อัดไปเลยสิค่ะอื้อ อื้อ) คืออยากจะบอกว่าทีมคุณหมอละเอียดมากๆกับการทำเพราะเขาก็อยากให้งานออกมาดีที่สุด
พอเสร็จแล้วเขาก็พาแตงไปนั่งพักสักแปบ ละพาไปถ่ายรูปหลังจากนั่นไปเปลี่ยนชุด พี่พนักงานก็มาอธิบายวิธีการทานยาและวิธีการดูแลตัวเองหลังทำ ทางโรงพยาบาลจะให้เราเข้าไปสระผมทุกวันตั้งแต่ 1 วันหลังผ่าตัดจนไปถึงวันตัดไหมเลย
การปลูกผมในครั้งนี้ไม่เจ็บเลยค่ะทุกคน อาจจะมีหน่วงๆข้างหลังนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหา คือใช้ชีวิตได้แบบปกติมากๆเลยแค่เวลาออกไปไหนมาไหนต้องใส่หมวกที่เค้าให้มาเพื่อกันฝุ่นและแสงแดดแค่นั้นอาหารก็ทานได้ตามปกติแต่ยกเว้นของหมักของดองก่อน 7 วันนะคะ แล้วเดี๋ยวจะมาอัพเดทอาการเรื่อยๆค่า
ปล. การจะทำศัลยกรรมหรือว่าหัตถกรรมอะไรก็แล้วแต่เราควรเลือกหมอให้ดีที่สุดและดูที่ผลงานของคุณหมอ ว่ามีความน่าเชื่อถือแค่ไหนมีมาตรฐานแค่ไหนเพราะนี่คือตัวเราเองที่ทำถ้าสวย ถ้าปังก็ดีไปแต่ถ้าพังโทษใครไม่ได้เลยต้องโทษตัวเองต้องหาข้อมูลดีๆเพื่อความสวย
#คุณหมอน่ารักมากใจดีสุด
#พี่ปอดูแลดีมาก
#3MHairTransplant
#ปลูกผมหมอหมิง
#Masterpiecehospital
#ปลูกผมถาวร
#ปลูกผมมาสเตอร์พีซ
#รีวิวปลูกผม
[CR] แชร์ประสบการณ์ปลูกผม FUE แบบ Female Hairline หน้าหวานฉ่ำ
แตงต้องบอกก่อนนะคะ ว่าแตงเป็นคนที่ผมบางและตรงส่วนหน้าผากมันก็เริ่มเถิกขึ้นเรื่อยๆและตรงมุมซ้ายขวามันเริ่มลึกขึ้นไป ซึ่งตรงนี้เองทำให้เวลามัดผมทำให้เรารู้สึกไม่มีความมั่นใจเลยเพราะรู้สึกว่าหน้าผากดูกว้าง แตงคิดว่าหลายคนก็คงเป็นเหมือนกัน เอาจริงๆผมก็เป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้เราดูดีขึ้นบุคลิกภาพดีขึ้นช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้กับตัวเรา (และถ้าคิ้วคือมงกุฏของใบหน้า ผมก็เช่นกัน)
สำหรับการปลูกผม ก็จะมี 3 วิธีที่แพทย์ใช้กันนะคะก็คือ FUE,FUT และ DHI
1. แบบ FUE ใช้เวลาพักฟื้นเพียง 2 วัน เป็นวิธีการนำผมด้านหลังออกมาโดยใช้เทคนิค FUE (เจาะ) ซึ่งทาง 3 M Hair Transplant ใช้หัวเจาะที่มีขนาดเล็ก 0.8 mm โดยทำการเจาะแบบกระจายทำให้ไม่เห็นรอยแผลเป็น
2. แบบ FUT ใช้เวลาพักฟื้นเพียง 5 วัน เป็นวิธีการกรีดหนังศีรษะตื้นๆ บริเวณท้ายทอยซึ่งเป็นบริเวณที่มีรากผมแข็งแรงและมีการหลุดร่วงของเส้นผมน้อยที่สุด
3.แบบ DHI (Direct Hair Implantation) ทำการคัดแยก ตกแต่งกราฟให้สวยงาม และมีสภาพสมบูรณ์ นำไปปลูกด้วยเทคนิคด้วย ปากกา Implanter เพื่อให้ได้ให้ได้ความหนาแน่นที่พอดีเทียบเท่าผมธรรมชาติ เทคนิคนี้ จะช่วยให้ได้การปลูกที่ แน่น ถี่ ละเอียด มากยิ่งขึ้น
เอาละคุณผู้ชมเราจะมาเริ่มกันเลยค่า
อันดับแรกเลยทางโรงพยาบาลจะนัดวัน Consult ให้เราพบกับคุณหมอ คุณหมอที่แตงทำก็คือคุณหมอหมิง (นายแพทย์ ปภณ อัศววรฤทธิ์) แพทย์เฉพาะทางด้านเส้นผม ชำนาญทั้ง เทคนิค DHI, FUE และ FUT และได้รับการยอมรับจาก American Board of Hair Restoration Surgery (ABHRS) 1 ใน 200 ของโลกเลยนะคะ
เมื่อเราพบคุณหมอ หมอก็จะถามเราว่าอยากปลูกผมเพราะอะไร//มีปัญหาตรงไหน//ที่บ้านมีกรรมพันธุ์ใครหัวล้านผมบางหรือป่าว เพราะคุณหมอจะได้รู้ว่าเราผมบางเพราะสารเคมีหรือกรรมพันธุ์ (ตรงนี้เราก็ต้องชี้แจงคุณหมอให้ละเอียดนะคะ เพื่อให้คุณหมอประเมินการรักษาได้ถูกวิธี)
หลังจากนั่นคุณหมอก็ได้อธิบายวิธีทำไว้ 2 วิธี คือ FUT กับ FUE ว่ามีความแตกต่างกันยังไง แถมคุณหมอให้เราตัดสินใจเอาได้เลยว่าอยากทำแบบไหน ซึ่งแตงก็ได้หาข้อมูลมาแล้วคิดว่าทำแบบ FUE (สำหรับความแตกต่างของวิธีการต่างๆคุณหมอจะแนะนำซึ่งมีข้อดีที่แตกต่างกันนะคะ)
คุณหมอจะวาดแนวทรงผมที่เราจะปลูกและคำนวณกราฟที่จะใช้ เราอยากได้แบบไหนก็หา Reference ไปให้คุณหมอได้เลยค่ะ แตงเองอยากได้หน้าหวานกรอบหน้าชัดเจน คุณหมอก็จะดูให้ว่าเข้ากับหน้าเราหรือป่าวหมอใจดีมากคร่า บอกได้เลยว่าเราต้องการประมาณไหนเพื่อให้เราพอใจที่สุดซึ่งผลลัพธ์แตงพอใจมากคร่ากรอบหน้าชัดเจนดูหน้าหวานฉ่ำละมุน 10 เต็ม 100 ไปเลยคร่า
ของแตงคุณหมอประเมินไว้ 2,300 กราฟ พอหลังจาก Consult เสร็จแล้ว พี่พนักงานจะให้เรากรอกข้อมูลและพาเราไปตรวจ COVID-19 พ่วงท้ายตรวจเลือดหาเชื้อ HIV หลังจากนั่นเราก็กลับบ้านเขาจะส่งผลให้เราทาง E-Mail
แล้วอีก 5 วันพบกัน........
และแล้วก็ถึงวันปลูกผม ไปถึงพี่พนักงานจะให้เราไปสระผมและเปลี่ยนชุดเป็นของโรงพยาบาลหลังจากนั้นเข้าพบกับคุณหมออีกหนึ่งรอบเพื่อวาดแนวผมที่เราต้องการอีกรอบ (ก็เปลี่ยนแบบอีกสิค่ะ)55555 เสร็จแล้วก็ไปถ่ายรูป 1 กรุบ หลังจากนั้นไปรอในห้อง OR เขาจะให้กินยา แก้อักเสบ,ยา คลายความเครียด (น่าจะเป็นยานอนหลับอ่อนๆ )เสร็จก็ขึ้นไปนอนบนเตียงนอนคว่ำหน้า หนีบเครื่องวัดชีพจรที่นิ้ว และแล้ววินาทีที่สำคัญก็ได้เกิดขึ้น ใจนี้เต้นตุ๊บตุ๊บๆ
คุณหมอก็ได้เริ่มบรรเลงยาชาจุดที่1 2 3 ไปเรื่อยๆ พอชาคุณหมอก็เริ่มลงมีด นี่ก็คือกึ่งหลับเพิ่งตื่นรู้สึกนอนนานมากจนแก้มอะชารู้สึกหน้าชา คือชาไม่ไหวอะ เสร็จแล้วคุณหมอก็ได้ทำการเจาะเอากราฟผมจากด้านหลังเพื่อมาเตรียมปลูก
หลังจากนั้นคุณหมอให้นอนหงายละก็ลงยาชา ถามว่าเจ็บไหม....ไม่เลยเพราะหน้าชาจากการนอน5555 และคุณหมอก็ทำการเจาะรูเพื่อที่จะเตรียมใส่กราฟผมลงไปพอเสร็จก็ไปพักทานข้าวเพื่อรอให้คุณหมอและทีมงานทำการคัดแยกกราฟเพื่อจะมาปลูกข้างหน้า
คุณเอ้ย..พอลุกขึ้นเท่านั้นแหละมึนมาก วิ้งๆไปหมด ”พี่เขาก็ถามเราหิวข้าวหรือยังค่ะ เราก็ตอบหิวแล้วค่ะ หิวข้าวหรือยังคะ อ่าหิวคร่า” ถามเพื่อความชัวร์ เสร็จแล้วก็ไปนั่งรอในห้องรับรองมี Netflix ให้ดูละก็มีข้าวต้มมาให้กับน้ำส้มพอเสร็จสักพักก็มีพี่เขามาเรียกให้ไปเข้าห้องทำการปลูกผม
จากนั้นก็นอนบนเตียงคุณหมอก็ได้ทำการเอายาชาอัดเข้าไปอีกหนึ่งรอบเพื่อให้เราชาแน่แน่ (โดนตบ30 ตลบก็ไม่รู้สึก) หลังจากนั้นก็จะมีทีมของคุณหมอมาทำการวางกราฟลงไปในรูที่คุณหมอได้เจาะลงไปเราก็นอนยาวๆไปเลย เสร็จเดี๋ยวเขาปลุกเอง
ละตอนแรกคุณหมอประเมินเอาไว้ว่า 2,300 กราฟแต่พอทำจริงๆปาไป 2,300++ (ก็อัดไปเลยสิค่ะอื้อ อื้อ) คืออยากจะบอกว่าทีมคุณหมอละเอียดมากๆกับการทำเพราะเขาก็อยากให้งานออกมาดีที่สุด
พอเสร็จแล้วเขาก็พาแตงไปนั่งพักสักแปบ ละพาไปถ่ายรูปหลังจากนั่นไปเปลี่ยนชุด พี่พนักงานก็มาอธิบายวิธีการทานยาและวิธีการดูแลตัวเองหลังทำ ทางโรงพยาบาลจะให้เราเข้าไปสระผมทุกวันตั้งแต่ 1 วันหลังผ่าตัดจนไปถึงวันตัดไหมเลย
การปลูกผมในครั้งนี้ไม่เจ็บเลยค่ะทุกคน อาจจะมีหน่วงๆข้างหลังนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหา คือใช้ชีวิตได้แบบปกติมากๆเลยแค่เวลาออกไปไหนมาไหนต้องใส่หมวกที่เค้าให้มาเพื่อกันฝุ่นและแสงแดดแค่นั้นอาหารก็ทานได้ตามปกติแต่ยกเว้นของหมักของดองก่อน 7 วันนะคะ แล้วเดี๋ยวจะมาอัพเดทอาการเรื่อยๆค่า
ปล. การจะทำศัลยกรรมหรือว่าหัตถกรรมอะไรก็แล้วแต่เราควรเลือกหมอให้ดีที่สุดและดูที่ผลงานของคุณหมอ ว่ามีความน่าเชื่อถือแค่ไหนมีมาตรฐานแค่ไหนเพราะนี่คือตัวเราเองที่ทำถ้าสวย ถ้าปังก็ดีไปแต่ถ้าพังโทษใครไม่ได้เลยต้องโทษตัวเองต้องหาข้อมูลดีๆเพื่อความสวย
#คุณหมอน่ารักมากใจดีสุด
#พี่ปอดูแลดีมาก
#3MHairTransplant
#ปลูกผมหมอหมิง
#Masterpiecehospital
#ปลูกผมถาวร
#ปลูกผมมาสเตอร์พีซ
#รีวิวปลูกผม
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้