ตอนที่ BTS ได้รับการแต่งตั้งเป็นทูตพิเศษไปกับ ปธน.เกาหลีใต้ ได้มีช่วงที่ให้สัมภาษณ์รายการข่าวของเครือข่าย ABC ซึ่งคำถามหลายๆ คำถามเป็นเรื่องการสร้างความตระหนักใน เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals) หรือที่เรียกกันสั้นๆว่า SDG 17 เป้าหมาย
(อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่)
https://www.sdgmove.com/aboutsdgs/
หนึ่งในคำถาม-คำตอบที่ได้รับความสนใจและประหลาดใจจากคนที่ได้ฟังคือเรื่อง “ความเท่าเทียมทางเพศ”
ซึ่งเป็นหนึ่งในเป้าหมายของ SDG (เป้าหมายที่ 4)
คำถามจากพิธีกร "พวกคุณเป็นวงชายล้วน และพูดแบบตรงไปตรงมาเกาหลีเป็นประเทศที่มีวัฒนธรรมแบบชายเป็นใหญ่ แต่ที่สหประชาชาติ หนึ่งในค่านิยมหลักใน SDGs ก็คือการให้ความรู้กับผู้หญิง และสร้างความเท่าเทียมทางเพศ (Gender Equality) พวกคุณมีแฟนๆที่เป็นผู้หญิงจำนวนมาก คุณจะบอกอะไรกับพวกเขาเกี่ยวกับความเท่าเทียมทางเพศ และการปฏิบัติเพื่อให้เกิดสิ่งดังกล่าว"
คำตอบจาก RM
“ส่วนตัวแล้วผมได้รับคำวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับเรื่องการเหยียดผู้หญิง (misogyny) ในปี 2015-2016 ซึ่งทำให้ผมนำเนื้อเพลงที่ผมแต่งไปให้อาจารย์ผู้สอนสาขาสตรีศึกษา (Women’s Studies) ช่วยตรวจสอบอีกที ประสบการณ์ตอนนั้นกลายเป็นโอกาสให้ผมได้ทบทวนตัวเองและตั้งคำถามว่าตัวผมเองเพิกเฉยกับเรื่องความเท่าเทียมทางเพศหรือเปล่า ผมอยากจะทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อเอาใจใส่เรื่องนี้ เรียนรู้และพัฒนาขึ้น นี่คือมุมมองของผมในตอนนี้"
คลิปสัมภาษณ์เต็มๆ
สำหรับคนที่อยากรู้ว่าเรื่องในปี 2015-2016 คือเรื่องอะไรนั้นอาจจะดูจากกระทู้เก่าๆ รวมถึงลองดูเพลงแบบซับไทยในสปอยล์ได้ค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://ppantip.com/topic/39907976
จริงๆแล้วตอนที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว BigHit เคยมีออกแถลงการณ์มาแล้วด้วยนะคะ และเป็นเรื่องที่ค่อนข้างฝังใจนัมจุนมากทีเดียวจากการเล่าของรุ่นพี่ที่นัมจุนนับถืออย่าง eAeon ตั้งแต่ปี 2016 ซึ่งเคยทวิตและให้สัมภาษณ์ไว้ว่าเคยให้คำปรึกษานัมจุนเรื่องนี้ซึ่งรู้สึกผิดและคิดมากเรื่องนี้ถึงขั้นนอนไม่หลับ รุ่นพี่ให้คำแนะนำที่ดีมากว่าเรื่องดังกล่าวไม่ใช่ตราบาปหรือรอยแผลเป็นที่ไม่สามารถลบเลือนไปได้ แทนที่จะรู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรมหรือรู้สึกผิดที่โดนต่อว่า สิ่งที่สำคัญกว่าคือจะตัดสินใจแก้ไขในสิ่งที่ตัวเองขาดความรู้ความเข้าใจหรือเปล่า ซึ่งนัมจุนเป็นคนที่ฟังรุ่นพี่อย่างตั้งใจและเข้าใจถึงเรื่องการแก้ไขปรับปรุงในสิ่งที่ตัวเองขาดไปได้ดีที่สุดเท่าที่รุ่นพี่รู้จักเลย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ส่วนตัวเราคิดว่าที่หลายคนค่อนข้างประทับใจและประหลาดใจกับคำตอบ คงเพราะบังทันอยู่ในประเทศเกาหลีที่สังคมเหมือนจะให้สิทธิพิเศษกับผู้ชายอยู่กลายๆ มีการแอนตี้คนที่เป็น Feminist (ซึ่งจริงๆ RM – นัมจุนก็เคยมีชื่ออยู่ในเว็บไซต์ที่พวก anti-feminist สร้างไว้ล่ารายชื่อคนดังด้วย) และน้อยครั้งที่จะเห็นไอดอลหรือแม้กระทั่งคนดังทั่วไป หรือแม้กระทั่งคนในสังคมรอบตัวเรา ที่จะยอมรับกับก้าวที่พลาดของตัวเองในอดีต โดยเฉพาะการออกมายอมรับเรื่องดังกล่าวต่อสื่อมวลชน และยิ่งกว่าการออกมาขอโทษคือการมองสะท้อนตัวเอง เรียนรู้ที่จะปรับปรุงตัวเองอย่างไรให้ดีขึ้น
นอกจากนี้ RM ยังฉลาดในการตอบ คือคำถามนี้ถ้าตอบในเชิงสอนว่าควรทำอย่างไร หรือตอบส่งๆว่าก็เห็นความสำคัญบลาๆ อาจจะโดนวิพากษ์วิจารณ์หนัก แต่ RM กลับเล่าถึงประสบการณ์ที่ตัวเองเจอและบอกเชิงว่าเค้าก็ยังเรียนรู้และปรับปรุงตัวให้ดีขึ้นอีกด้วย
ภูมิใจในทัศนคติของบังทันจริงๆค่ะ โดยเฉพาะลีดเดอร์คนนี้ ปลื้มมากมาย
การตอบคำถามเรื่อง "ความเท่าเทียมทางเพศ" ของ RM (นัมจุน) BTS
(อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่)
https://www.sdgmove.com/aboutsdgs/
หนึ่งในคำถาม-คำตอบที่ได้รับความสนใจและประหลาดใจจากคนที่ได้ฟังคือเรื่อง “ความเท่าเทียมทางเพศ”
ซึ่งเป็นหนึ่งในเป้าหมายของ SDG (เป้าหมายที่ 4)
คำถามจากพิธีกร "พวกคุณเป็นวงชายล้วน และพูดแบบตรงไปตรงมาเกาหลีเป็นประเทศที่มีวัฒนธรรมแบบชายเป็นใหญ่ แต่ที่สหประชาชาติ หนึ่งในค่านิยมหลักใน SDGs ก็คือการให้ความรู้กับผู้หญิง และสร้างความเท่าเทียมทางเพศ (Gender Equality) พวกคุณมีแฟนๆที่เป็นผู้หญิงจำนวนมาก คุณจะบอกอะไรกับพวกเขาเกี่ยวกับความเท่าเทียมทางเพศ และการปฏิบัติเพื่อให้เกิดสิ่งดังกล่าว"
คำตอบจาก RM
“ส่วนตัวแล้วผมได้รับคำวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับเรื่องการเหยียดผู้หญิง (misogyny) ในปี 2015-2016 ซึ่งทำให้ผมนำเนื้อเพลงที่ผมแต่งไปให้อาจารย์ผู้สอนสาขาสตรีศึกษา (Women’s Studies) ช่วยตรวจสอบอีกที ประสบการณ์ตอนนั้นกลายเป็นโอกาสให้ผมได้ทบทวนตัวเองและตั้งคำถามว่าตัวผมเองเพิกเฉยกับเรื่องความเท่าเทียมทางเพศหรือเปล่า ผมอยากจะทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อเอาใจใส่เรื่องนี้ เรียนรู้และพัฒนาขึ้น นี่คือมุมมองของผมในตอนนี้"
คลิปสัมภาษณ์เต็มๆ
สำหรับคนที่อยากรู้ว่าเรื่องในปี 2015-2016 คือเรื่องอะไรนั้นอาจจะดูจากกระทู้เก่าๆ รวมถึงลองดูเพลงแบบซับไทยในสปอยล์ได้ค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
จริงๆแล้วตอนที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว BigHit เคยมีออกแถลงการณ์มาแล้วด้วยนะคะ และเป็นเรื่องที่ค่อนข้างฝังใจนัมจุนมากทีเดียวจากการเล่าของรุ่นพี่ที่นัมจุนนับถืออย่าง eAeon ตั้งแต่ปี 2016 ซึ่งเคยทวิตและให้สัมภาษณ์ไว้ว่าเคยให้คำปรึกษานัมจุนเรื่องนี้ซึ่งรู้สึกผิดและคิดมากเรื่องนี้ถึงขั้นนอนไม่หลับ รุ่นพี่ให้คำแนะนำที่ดีมากว่าเรื่องดังกล่าวไม่ใช่ตราบาปหรือรอยแผลเป็นที่ไม่สามารถลบเลือนไปได้ แทนที่จะรู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรมหรือรู้สึกผิดที่โดนต่อว่า สิ่งที่สำคัญกว่าคือจะตัดสินใจแก้ไขในสิ่งที่ตัวเองขาดความรู้ความเข้าใจหรือเปล่า ซึ่งนัมจุนเป็นคนที่ฟังรุ่นพี่อย่างตั้งใจและเข้าใจถึงเรื่องการแก้ไขปรับปรุงในสิ่งที่ตัวเองขาดไปได้ดีที่สุดเท่าที่รุ่นพี่รู้จักเลย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ส่วนตัวเราคิดว่าที่หลายคนค่อนข้างประทับใจและประหลาดใจกับคำตอบ คงเพราะบังทันอยู่ในประเทศเกาหลีที่สังคมเหมือนจะให้สิทธิพิเศษกับผู้ชายอยู่กลายๆ มีการแอนตี้คนที่เป็น Feminist (ซึ่งจริงๆ RM – นัมจุนก็เคยมีชื่ออยู่ในเว็บไซต์ที่พวก anti-feminist สร้างไว้ล่ารายชื่อคนดังด้วย) และน้อยครั้งที่จะเห็นไอดอลหรือแม้กระทั่งคนดังทั่วไป หรือแม้กระทั่งคนในสังคมรอบตัวเรา ที่จะยอมรับกับก้าวที่พลาดของตัวเองในอดีต โดยเฉพาะการออกมายอมรับเรื่องดังกล่าวต่อสื่อมวลชน และยิ่งกว่าการออกมาขอโทษคือการมองสะท้อนตัวเอง เรียนรู้ที่จะปรับปรุงตัวเองอย่างไรให้ดีขึ้น
นอกจากนี้ RM ยังฉลาดในการตอบ คือคำถามนี้ถ้าตอบในเชิงสอนว่าควรทำอย่างไร หรือตอบส่งๆว่าก็เห็นความสำคัญบลาๆ อาจจะโดนวิพากษ์วิจารณ์หนัก แต่ RM กลับเล่าถึงประสบการณ์ที่ตัวเองเจอและบอกเชิงว่าเค้าก็ยังเรียนรู้และปรับปรุงตัวให้ดีขึ้นอีกด้วย
ภูมิใจในทัศนคติของบังทันจริงๆค่ะ โดยเฉพาะลีดเดอร์คนนี้ ปลื้มมากมาย