ญาติทางแม่เรามา ขออาศัยขายของที่บ้านเราค่ะ ขนของมาไว้ในบ้านวันแรกที่เจอก็คุยกันไม่กี่ประโยคหลอกค่ะ คนที่มาขายเป็นลูกพี่ลูกน้องค่ะแต่เราไม่สนิทเพราะที่บ้านไม่เคยไปมาหาสู่กับบ้านเค้าเท่าไหร่ บ้านเราอยู่ในเมือง บ้านเค้าอยู่นอกเมือง
วันแรก ที่ เค้ามาขายเค้าก็บอกเดี๋ยวทำให้กิน เราก็ทำงานบ้านไปแล้วก็เข้าห้องตากแอร์ข้างบน พักใหญ่ๆคือรู้สึกเหมือนคนเดินขึ้นมาแล้วก็เรียกชื่อเรา พอเปิดประตูมาก็เจอเค้าถือของกินมาให้ ตอนนั้นยังไม่คืดอะไรนะคะ เลยยังไม่ได้พูดให้แม่ฟัง ตอนแม่เราพักเที่ยงปกติแกจะขี่มอไซด์ขึ้นบ้านแต่ทีนี้ เตาพี่แกขวางทางอยู่เลยจอดไว้หน้าบ้าน ช่วงบ่ายแกก็ไปทำงานเราก็เหลือเรากะเค้าสองคน เราก็อยู่ในห้องปกติ แต่เราจะเปิดดูกล้องวงจรปิดดูเป็นพักๆ เค้าก็ขายได้บ้าง ผ่านทางแอปบ้าง ฝนตก ต้องขนเตาไว้ในบ้านอีก จนเย็น 18:00 ถึงปิดร้านในระบบเค้าก็เก็บของบางส่วนเค้าก็กลับบ้าน
วันที่สอง ก็มาตามปกติเหมือนเดิมเลย ไรเดอร์คือมาหน้าบ้านเป็นพักๆ ถึงเวลาก็กลับ
วันนี้ ฝนไม่ตกแต่เอาเตาเข้ามาในบ้าน คือกลิ่นพวกควันอ่ะค่ะมันขึ้นไปบนบ้านเราเลย
แม่เราก็บอกเราให้ล็อคห้องไว้ด้วยเพราะอยู่คนเดียวคนอื่นไปทำงานกันหมดกลับมาก็เย็น แล้วก็ดูกล้องบ่อยๆ เพราะญาติเราคนนี้ แม่เราเล่าให้ฟังนะคะว่าสมัยรุ่นๆแกเคยขาย ยสต. แม่เราเลยไม่ค่อยไว้ใจเท่าไหร่ คำว่าญาติมันค้ำคออยู่ เราเล่าเรื่องที่เค้าข้นมาบนบ้านให้แม่ฟัง แม่ก็แบบ ขึ้นมาได้ไง มันพื้นที่ส่วนตัว เราเห็นด้วยกับแม่เลยค่ะ ที่บ้านเราคืออยู่กัน 4 คน เรา แม่ ลุง 2 คน ตากับยายเสียหมดแล้ว เพราะ อีก 3 ต้องไปทำงานปกติเราก็จะปิดประตูบ้านไว้ตลอดเป็นปกติอยู่แล้ว พอเค้ามาขายของมันรู้สึกไม่เป็นส่วนตัวค่ะ จะเรียกว่าใจแคบไหม คือเรามองว่าก็มันไม่สนิทอ่ะ แล้วที่จริงเค้าไม่ควรขึ้นชั้นสองบ้านคนอื่นด้วย เพราะมันเป็นพื้นที่ส่วนตัวจะเอาของกินมาให้ยังไง เจ้าของบ้านอยู่ชั้นสอง ตะโกนเรียก หรือไม่ก็เอาวางไว้ในครัวก็ได้ แล้วเตาย่างคือฝนไม่ตกนะแต่เอาเข้าาในบ้าน ตอนเเรกเราไม่ได้อะไรหรอกค่ะ แม่เราทักไลน์มาถามเราอยู่ว่ากลิ่นควันขึ้นไปบนบ้านไหม เราเปิดแอร์ค่ะเลยไม่ค่อยได้กลิ่นพอออกมาจากห้องคือกลิ่นนี้ อืม เต็มบ้าน แม่เราก็ไม่ค่อยพอใจหรอกค่ะแต่พูดไม่ได้มาต้องรอดูไปก่อนว่าจะยังไง เราคุยกับเค้าวันแรก เค้าก็บอกถ้ามันขายดีอาจจะขยายหน้าร้าน แต่หน้าร้านใหม่ของเค้าก็ข้างบ้านเรานี่แหละค่ะ แค่คิดตามก็กุมขมับเลย ลองคิดดูค่ะ ค่าเช่าไม่ต้องเสีย ไม่ต้องขนของกลับเยอะ เค้ามาอาศัยบ้านเราทั้งๆที่เค้าก็ไม่เคยมาช่วยบ้านเราเลยมีแต่เราช่วย งานศพยายเราทางเค้าไม่ได้มาฟังพระสวดด้วยซ้ำมาเผาทีเดียว แต่งานศพทางนู้น บ้านเราช่วย เพราะแค่คำว่าญาติอ่ะค่ะ งงว่าทำไมไม่ไปให้ญาติทางอื่นช่วย ญาติฝั่งแม่ เค้าแทบจะไม่ได้นับญาติกับทางเราด้วยซ้ำ เพราะแต่ก่อนบ้านเราจนผ่านหน้าบ้านแทบไม่มองเลย มีอยู่ครั้งนึงไปบ้านญาติด้วยกันนี้แหละทางเค้าไม่แนะนำแม่เราให้ลูกหลานเค้ารู้จักด้วย พอหมดรุ่นตายายแล้วแม่เราก็ไม่สนแล้ว เราก็เหมือนกันค่ะ เพราะมันไม่ได้สนิทไม่ได้รู้จักกันเลยไม่ค่อยแคร์ แล้วพอมาตอนนี้ มันอึดอัดอ่ะค่ะ อยู่แบบนี้มาตั้งนาน แล้วแบบมีใครไม่รู้มาอยู่ในบ้านด้วยเกือบจะทั้งวัน
ถ้าญาติมาอาศัยบ้านเราจะอึดอัดไหม คะ
วันแรก ที่ เค้ามาขายเค้าก็บอกเดี๋ยวทำให้กิน เราก็ทำงานบ้านไปแล้วก็เข้าห้องตากแอร์ข้างบน พักใหญ่ๆคือรู้สึกเหมือนคนเดินขึ้นมาแล้วก็เรียกชื่อเรา พอเปิดประตูมาก็เจอเค้าถือของกินมาให้ ตอนนั้นยังไม่คืดอะไรนะคะ เลยยังไม่ได้พูดให้แม่ฟัง ตอนแม่เราพักเที่ยงปกติแกจะขี่มอไซด์ขึ้นบ้านแต่ทีนี้ เตาพี่แกขวางทางอยู่เลยจอดไว้หน้าบ้าน ช่วงบ่ายแกก็ไปทำงานเราก็เหลือเรากะเค้าสองคน เราก็อยู่ในห้องปกติ แต่เราจะเปิดดูกล้องวงจรปิดดูเป็นพักๆ เค้าก็ขายได้บ้าง ผ่านทางแอปบ้าง ฝนตก ต้องขนเตาไว้ในบ้านอีก จนเย็น 18:00 ถึงปิดร้านในระบบเค้าก็เก็บของบางส่วนเค้าก็กลับบ้าน
วันที่สอง ก็มาตามปกติเหมือนเดิมเลย ไรเดอร์คือมาหน้าบ้านเป็นพักๆ ถึงเวลาก็กลับ
วันนี้ ฝนไม่ตกแต่เอาเตาเข้ามาในบ้าน คือกลิ่นพวกควันอ่ะค่ะมันขึ้นไปบนบ้านเราเลย
แม่เราก็บอกเราให้ล็อคห้องไว้ด้วยเพราะอยู่คนเดียวคนอื่นไปทำงานกันหมดกลับมาก็เย็น แล้วก็ดูกล้องบ่อยๆ เพราะญาติเราคนนี้ แม่เราเล่าให้ฟังนะคะว่าสมัยรุ่นๆแกเคยขาย ยสต. แม่เราเลยไม่ค่อยไว้ใจเท่าไหร่ คำว่าญาติมันค้ำคออยู่ เราเล่าเรื่องที่เค้าข้นมาบนบ้านให้แม่ฟัง แม่ก็แบบ ขึ้นมาได้ไง มันพื้นที่ส่วนตัว เราเห็นด้วยกับแม่เลยค่ะ ที่บ้านเราคืออยู่กัน 4 คน เรา แม่ ลุง 2 คน ตากับยายเสียหมดแล้ว เพราะ อีก 3 ต้องไปทำงานปกติเราก็จะปิดประตูบ้านไว้ตลอดเป็นปกติอยู่แล้ว พอเค้ามาขายของมันรู้สึกไม่เป็นส่วนตัวค่ะ จะเรียกว่าใจแคบไหม คือเรามองว่าก็มันไม่สนิทอ่ะ แล้วที่จริงเค้าไม่ควรขึ้นชั้นสองบ้านคนอื่นด้วย เพราะมันเป็นพื้นที่ส่วนตัวจะเอาของกินมาให้ยังไง เจ้าของบ้านอยู่ชั้นสอง ตะโกนเรียก หรือไม่ก็เอาวางไว้ในครัวก็ได้ แล้วเตาย่างคือฝนไม่ตกนะแต่เอาเข้าาในบ้าน ตอนเเรกเราไม่ได้อะไรหรอกค่ะ แม่เราทักไลน์มาถามเราอยู่ว่ากลิ่นควันขึ้นไปบนบ้านไหม เราเปิดแอร์ค่ะเลยไม่ค่อยได้กลิ่นพอออกมาจากห้องคือกลิ่นนี้ อืม เต็มบ้าน แม่เราก็ไม่ค่อยพอใจหรอกค่ะแต่พูดไม่ได้มาต้องรอดูไปก่อนว่าจะยังไง เราคุยกับเค้าวันแรก เค้าก็บอกถ้ามันขายดีอาจจะขยายหน้าร้าน แต่หน้าร้านใหม่ของเค้าก็ข้างบ้านเรานี่แหละค่ะ แค่คิดตามก็กุมขมับเลย ลองคิดดูค่ะ ค่าเช่าไม่ต้องเสีย ไม่ต้องขนของกลับเยอะ เค้ามาอาศัยบ้านเราทั้งๆที่เค้าก็ไม่เคยมาช่วยบ้านเราเลยมีแต่เราช่วย งานศพยายเราทางเค้าไม่ได้มาฟังพระสวดด้วยซ้ำมาเผาทีเดียว แต่งานศพทางนู้น บ้านเราช่วย เพราะแค่คำว่าญาติอ่ะค่ะ งงว่าทำไมไม่ไปให้ญาติทางอื่นช่วย ญาติฝั่งแม่ เค้าแทบจะไม่ได้นับญาติกับทางเราด้วยซ้ำ เพราะแต่ก่อนบ้านเราจนผ่านหน้าบ้านแทบไม่มองเลย มีอยู่ครั้งนึงไปบ้านญาติด้วยกันนี้แหละทางเค้าไม่แนะนำแม่เราให้ลูกหลานเค้ารู้จักด้วย พอหมดรุ่นตายายแล้วแม่เราก็ไม่สนแล้ว เราก็เหมือนกันค่ะ เพราะมันไม่ได้สนิทไม่ได้รู้จักกันเลยไม่ค่อยแคร์ แล้วพอมาตอนนี้ มันอึดอัดอ่ะค่ะ อยู่แบบนี้มาตั้งนาน แล้วแบบมีใครไม่รู้มาอยู่ในบ้านด้วยเกือบจะทั้งวัน