จากสโลแกนโฆษณาขนมวอยซ์ที่ว่า "ไม่เหมือนใคร แบ่งไม่ได้" คือสอนให้เด็กไม่รู้จักแบ่งปัน ไม่มีน้ำใจกับเพื่อนฝูง เห็นแก่ตัว ขี้งก อาจทำให้กลายเป็นเด็กอ้วนที่มีน้ำหนักเกินเกณฑ์ได้
เรื่องมีอยู่ว่า เกิดขึ้นในห้องสมุด มี 2 วัยรุ่นนั่งโต๊ะเดียวกัน โดยแอลลี่ลุกขึ้นจะไปหยิบหนังสืออีกเล่มแล้วหยิบขนมวอยซ์มาทับหนังสือหน้าที่จะอ่าน พอหยิบหนังสือเสร็จ วอยซ์ที่วางทับก็หาย แอลลี่ก็ขวนขวายหาวอยซ์ของตัวเองที่วางทับไว้ แล้วค้นตามตัวผู้ชายนั่งตรงข้ามที่กำลังนั่งเล่นเกมอย่างมันส์อยู่ แอลลี่ถามว่า "เห็นวอยซ์เรามั้ย" ผู้ชายบอกว่า "ไม่เห็น" แอลลี่บอกให้ผู้ชายแบมือ แลบลิ้น และแอลลี่ดึงลิ้นผู้ชายไปมาอย่างยาวสุดจนในที่สุดก็เห็นวอยซ์อยู่ในปากผู้ชายในที่สุด แต่จริงๆ มันมีตอนอื่นนอกจากนี้อีก
ถ้าเป็นชีวิตจริงมันก็เกินไปนะ แถมอยู่ในห้องสมุดด้วย งดใช้เสียง งดกินขนมในห้องสมุด เพื่อนก็หยิบขนมไปกินโดยไม่ขออนุญาต ส่วนเจ้าของขนมก็น่าจะมีน้ำใจแบ่งให้เขากินบ้างโดยไม่ต้องให้เขาร้องขอ เกิดเด็กเข้ามาดูแล้วเอาไปเลียนแบบทำไง ต่อให้ขนมอร่อยมากแค่ไหน คำว่าน้ำใจกับแบ่งปันก็ต้องสำคัญมากเช่นกัน ไม่ใช่สักแต่จะสร้างเรื่องให้เด็กเห็นแก่ตัว ไม่มีน้ำใจ อย่าหาทำตามเลยๆๆๆ
โฆษณาขนมวอยซ์ที่ว่า "ไม่เหมือนใคร แบ่งไม่ได้" สโลแกนนี้สอนให้เด็กไม่รู้จักแบ่งปันใช่มะ??
เรื่องมีอยู่ว่า เกิดขึ้นในห้องสมุด มี 2 วัยรุ่นนั่งโต๊ะเดียวกัน โดยแอลลี่ลุกขึ้นจะไปหยิบหนังสืออีกเล่มแล้วหยิบขนมวอยซ์มาทับหนังสือหน้าที่จะอ่าน พอหยิบหนังสือเสร็จ วอยซ์ที่วางทับก็หาย แอลลี่ก็ขวนขวายหาวอยซ์ของตัวเองที่วางทับไว้ แล้วค้นตามตัวผู้ชายนั่งตรงข้ามที่กำลังนั่งเล่นเกมอย่างมันส์อยู่ แอลลี่ถามว่า "เห็นวอยซ์เรามั้ย" ผู้ชายบอกว่า "ไม่เห็น" แอลลี่บอกให้ผู้ชายแบมือ แลบลิ้น และแอลลี่ดึงลิ้นผู้ชายไปมาอย่างยาวสุดจนในที่สุดก็เห็นวอยซ์อยู่ในปากผู้ชายในที่สุด แต่จริงๆ มันมีตอนอื่นนอกจากนี้อีก
ถ้าเป็นชีวิตจริงมันก็เกินไปนะ แถมอยู่ในห้องสมุดด้วย งดใช้เสียง งดกินขนมในห้องสมุด เพื่อนก็หยิบขนมไปกินโดยไม่ขออนุญาต ส่วนเจ้าของขนมก็น่าจะมีน้ำใจแบ่งให้เขากินบ้างโดยไม่ต้องให้เขาร้องขอ เกิดเด็กเข้ามาดูแล้วเอาไปเลียนแบบทำไง ต่อให้ขนมอร่อยมากแค่ไหน คำว่าน้ำใจกับแบ่งปันก็ต้องสำคัญมากเช่นกัน ไม่ใช่สักแต่จะสร้างเรื่องให้เด็กเห็นแก่ตัว ไม่มีน้ำใจ อย่าหาทำตามเลยๆๆๆ