ตั้งแต่ช่วงต้นปี Plan ไว้ว่า อยากเที่ยวนาขั้นบันได บ้านป่าปงเปียง สักหน่อย ก็เลยจัดการไปแย่งชิง ที่พัก ที่สวนป่าดอยบ่อหลวงมาได้ ขนาดนั้น ยังจองบ้าน เอเฟรม ไม่ทันเลยแฮะ ไปได้บ้าน ทิวสน มาแทน และกะว่า อีกคืน จะนอน มนต์เมืองแจ่ม แล้วจ้างรถคนพื้นที่พาเที่ยวทั้งอินทนนท์ และ ป่าปงเปียง สักหน่อย แต่แล้วก็เป็นอันฝันสลาย เพราะ covid มา ทางมนต์เมืองแจ่ม ประกาศปิดไม่มีกำหนด เช่นเดียวกับ ป่าปงเปียง ที่ปิดไม่รับนักท่องเที่ยวด้วย
ได้แต่หวังว่า หากสถานการณ์ดีขึ้น ทั้ง 2 แห่งจะกลับมาเปิด แต่ก็ยังไม่เปิดสักที .. เอาไงดีหว่า จะเลื่อนสวนป่า ก็ไม่มีเวลาแล้ว งั้นหานอนเชียงใหม่ละกัน เลยไปได้ Flora Creek หรือ กฤษดาดอย มา ในราคาแสนจะถูกครับ บวกกับ ผมก็มีธุระที่จะต้องจัดการเกี่ยวกับบ้านที่จังหวัดลำพูน พอดี
17 กันยายน 2564 .. วางแผนการเดินทางสักหน่อย
จากปกติ ผมมักจะออกเดินทางจาก ปราจีนบุรี ในช่วงดึกๆ ให้ไปถึงปลายทางเช้าๆ หรือ สายๆ จะได้ไม่เสียเวลาไปกับการเดินทาง แต่รอบนี้ ติดเคอร์ฟิว ครับ หลายๆจังหวัดที่ต้องผ่าน แม้ไม่ใช่สีแดงเข้ม ก็ประกาศเคอร์ฟิว เช่นกัน ดังนั้น หนทางเดียวก็คือ ต้องมาสตาร์ทจาก กทม และออกกัน ตี 4 เป๊ะ !!
จบเรื่องเวลาในการเดินทางไป ก็ยังมีประเด็นเรื่องการผ่านเข้าออกจังหวัด หลักๆก็คือ เชียงใหม่ ทำการโหลด “CM CHANA” กรอกข้อมูลและ print เอกสารไว้ในรถเรียบร้อย รวมถึง การเตรียม app หมอพร้อม เผื่อกรณีถูกเรียกตรวจ (ผมและป้าที่เดินทางด้วย ผ่านการฉีดวัคซีนมาเรียบร้อยละ)
พาหนะในรอบนี้เป็น HONDA CITY Hatchback นะครับ เพิ่งเอาไปเช็ครอบ 6 เดือน พร้อมถ่ายน้ำมันเครื่องมาเรียบร้อย ขอลองสักหน่อย อยากรู้ว่า เอารถเล็กๆวิ่งทางไกล เจอโค้งแคบๆแบบเส้น 108 จะเป็นอย่างไร
ล้อหมุนตอน ตี 4 เป๊ะ ... ขึ้นทางด่วน เชื่อม อุดรรักษา วิ่งยาวๆจนออก สายเอเชีย ครับ
8.00 น. จอดเติมน้ำมันถังแรก ที่ ปั๊ม PT จ.ตาก (เติมเต็มถัง มาจาก ปราจีนบุรี และเข้ามาค้าง กทม ก่อน 1 คืน นะครับ)
11.30 น. จอดอยู่หน้าวัดพระธาตุหริภุญชัย ละ ความเร็วที่ใช้คือ 100 – 110 กม./ช.ม. ตลอดทาง กับ อัตราสิ้นเปลืองสวยๆที่ 20 กม/ลิตร ครับ
วัดพระธาตุหริภุญชัย
มาวัดนี้แทบทุกปี แต่ไม่เคยเจอครั้งไหน ที่รถน้อย คนน้อย เท่าครั้งนี้เลย ฝั่งตรงข้ามที่ขายของฝาก ก็เงียบเชียบ ผมเดินทะลุบริเวณที่ขายของฝากไปข้างหลัง หามื้อเที่ยงทาน ก็เหลือเปิดร้านเดียวครับ ข้าวซอยไก่ ซึ่งผมว่า ร้านข้างๆวัด อร่อยกว่านะ (แต่ดันปิด)
พอท้องอิ่ม ก็เดินกลับมาไหว้พระ อย่างที่บอกครับ คนโล่ง คนน้อย อย่างที่ไม่เคยเจอมาก่อน
ไหว้พระเสร็จ ก็ต่อด้วยของโปรด ที่มาทีไร สั่งทุกที “เฉาก๊วยที่อร่อยที่สุดในเมืองมนุษย์” (สำหรับคนชอบหวานนะ)
ออกจากวัดราวๆ 12.30 น. ก็วิ่งต่อไปแถวป่าซาง แวะดูบ้านนิดนึง .. แหม รถจอดพอดีเลย อิอิ
สวนป่าดอยบ่อหลวง
เสร็จธุระเรียบร้อยราวๆ 15.30 น. ก็รีบเดินทางต่อ ออกเส้น 116 ต่อด้วย 108 ครับ วิ่งยาวๆ เข้า อ.ฮอด ผ่าน ออบหลวง ผ่าน สวนสนบ่อแก้ว ซึ่งตั้งแต่ผ่าน ออบหลวง มา ฝนตกหนักมากครับ เปิดปัดน้ำฝนเบอร์แรงสุด (ซึ่ง City เนี่ย ปัดน้ำฝนเบอร์แรงสุด เท่ากับ CRV เบอร์สองเอง) แถมด้วยน้ำขังเกือบตลอดผิวถนนครับ ช่วงนี้ใช้สมาธิกันพอสมควรเลย (โดนแอ่งน้ำหนักๆไปรอบนึง ซึ่งบอกเลยว่า ถ้าเป็นยาง Maxxis ติดรถ หรือ Michelin Pilot Sport 4 คงเหินลงข้างทางไปแล้วล่ะ แต่ RE004 นิ่งกริ๊บ)
สภาพถนน พอเลย ทางขึ้น อ.แม่แจ่ม ถนนก็ดีแล้วครับ (ถนนก่อนหน้านี้ มีปุปะ พอให้ขยับข้อมือหักหลบแก้ง่วงอยู่) พอเลย สวนสนบ่อแก้ว มาไม่ไกล เล็งซ้ายดีๆ แล้วก็เลี้ยวเข้า สวนป่าดอยบ่อหลวง ได้เลย
มีเรื่องเล่า
ก่อนเดินทาง 1 สัปดาห์ ทางสวนป่าฯ โทร.มาคอนเฟิร์มการเข้าพักของผม พร้อมกับ อาหาร ซึ่งมื้อเย็นจะเป็นหมูกระทะ 299 บาท (ทานพอดี 2 คน) กับ อาหารท้องถิ่น (เห็นแว้บๆจำราคาไม่ได้ แต่แพงกว่าหน่อย) และก็ มื้อเช้า เป็นข้าวต้ม ขนมปังปิ้ง หัวละ 100 บาท .. อันนี้ไม่ใช่ปัญหา
ที่เป็นปัญหาคือ จนท. สอบถามว่า ผมเดินทางมาจากไหน และเดินทางอย่างไร ผมแจ้งว่า มาจาก กทม ด้วยรถส่วนตัว .. ทาง จนท บอกว่า ให้ผมเข้าไปกรอกเอกสารที่ สาธารณะสุขจังหวัดก่อน แล้วถึงเอาเอกสารเข้ามายื่นที่ สวนป่า เพื่อเข้าพัก !!!
เฮ้ยยย ไม่ใช่แล้วมั้ง !!! .. สวนป่า เข้า ตัวเมือง เชียงใหม่ ไม่ใกล้นะ พอถามย้อนกลับไปว่า มันติดเคอร์ฟิวนะ ถ้าผมมาถึงเชียงใหม่เย็นแล้วสาธารณะสุขจังหวัดปิด จะให้ทำยังไง ? เหมือน จนท. จะงงๆเลยจัดการหาข้อมูลเอง ได้ข้อมูลมาคือ ให้ไปลงทะเบียน ลงชื่อ กับ ตัวแทนเจ้าหน้าที่สาธารณะสุข ประจำอำเภอ ได้เบอร์มา เลยลองโทรถาม
คำตอบก็คือ “ถ้าฉีดวัคซีนแล้ว ให้เข้าไปกรอกเอกสาร ที่สวนป่า ได้เลย ไม่ต้องวิ่งมาหา”... แหมม แค่นั้นแหละ เลยโทรกลับไปแจ้ง จนท นิดนึง เดี๋ยวจะทำนักท่องเที่ยวคนอื่นแตกตื่น
ส่วนของจริง .. ทางสวนป่า ขอแค่บัตรประชาชน ของผู้ที่จะเข้าพัก ไปทำการถ่ายเอกสาร และ เซ็นต์ยืนยันไว้เท่านั้นแหละ ไม่ได้เช็คหมอพร้อม หรือ อะไรใดๆ จะมีเช็คก็คือ slip การโอนเงินจองที่พัก (ปกติ ไม่เคย print ตั้งนานละ) พอคราวนี้ขอดูเลยเปิด Tablet ให้ดู เพราะผมดันไม่ได้ส่งให้ตอน chat ซะงั้น ดีที่ยังเก็บรูป Slip ตอนโอนไว้อยู่
มองจาก จุดที่ check in เข้าไป ขวามือคือ บ้านเอเฟรม จอดรถซ้ายมือได้เลย แต่ถ้าเป็นบ้านทิวสน ก็ขับตรงเข้าไปอีกหน่อยนึง
ที่จอดกว้างๆ เหลือๆ ครับ .. นอกหลังคา ยังจอดได้อีกเพียบ (ทีแรก แอบกลัว จะจอดชิดกันป่าวหว่า)
บ้านทิวสน
บ้านพักอยู่ท่ามกลางป่าสน มาเจอกับ อากาศชื้นๆหลังฝนตกด้วย อย่างฟิน เลยล่ะ .. จะมีบ้านแบบนี้อยู่ 4 – 5 หลังนะครับ หลังนึงจะนอนได้ 2 คน
ข้างล่าง จะเป็นโถงโล่งๆครับ .. ห้องน้ำอยู่ข้างล่างนะครับ มีเครื่องทำน้ำอุ่น 4500W แต่ปรับความแรงน้ำไม่ได้ ทำได้แค่เปิดกับปิด ซึ่งวันที่พัก อุณหภูมิข้างนอก 20 องศา ก็เริ่มเอาไม่อยู่ละ (สภาพห้องน้ำ โทรมไปหน่อย)
ทางขึ้นชั้นสอง เป็นบันไดวน นะครับ ผู้สูงอายุอาจจะขึ้นลำบากหน่อย หรือ ใครเมาๆนี่ มีโอกาสเดินตกลงมาได้นะ 55
ห้องนอน วิวสวยดี มีแอร์ให้ 1 เครื่องครับ ด้วยความที่เป็นไม้ซะเยอะ และ อากาศชื้น ก็จะมีกลิ่นอับสักหน่อยครับ เลยต้องเปิดแอร์นอน ไม่งั้นกลิ่นอับจะแรง ครับ
เก็บข้าวของ แล้วก็เดินสำรวจกันนิดนึงครับ เดินย้อนกลับมาที่จุด check in แล้วเลี้ยวซ้ายครับ ตรงไปหน่อย ซ้ายมือจะเป็นห้องอาหาร ถ้าตรงต่อไปอีกจะเป็นสามแยก
เลี้ยวขวา เป็นโรงแรมครับ
ถ้าตรงขึ้นไป จะเป็นลานกลางเต้นท์ครับ
พอเห็นห้องพัก เห็นรถที่มาเข้าพัก เทียบกับขนาดห้องอาหาร เลยเดินย้อนกลับมากินหมูกระทะดีกว่า เดี๋ยวไม่มีที่นั่ง (ตอนนั้นน่าจะสัก 5 โมงกว่าเอง) .. อยากนั่งข้างนอกรับลม แต่ฝนตกปรอยๆ เลยอด
เหมือนไม่เยอะ แต่อิ่มใช้ได้เหมือนกันนะ
ไฟสวยๆระหว่างทางกลับบ้านพัก .. จนท. เน้นนัก เน้นหนา ว่า ห้ามเคลื่อนย้ายเฟอร์นิเจอร์ในห้องพักเด็ดขาด เดาว่า ข้างใน มันมีโต๊ะยาว กับ เก้าอี้ คงเพื่อป้องกันประเด็น พวกเอาโต๊ะออกมา นั่งตั้งวงที่ชานหน้าบ้านมังครับ .. ซึ่งก็ดีนะ เพราะ พอค่ำหน่อย ก็เงียบสนิท ไม่มีเสียงดังรบกวนกันครับ
* * * หาเรื่องเดินทาง สวนป่าดอยบ่อหลวง – Flora Creek * * *
ได้แต่หวังว่า หากสถานการณ์ดีขึ้น ทั้ง 2 แห่งจะกลับมาเปิด แต่ก็ยังไม่เปิดสักที .. เอาไงดีหว่า จะเลื่อนสวนป่า ก็ไม่มีเวลาแล้ว งั้นหานอนเชียงใหม่ละกัน เลยไปได้ Flora Creek หรือ กฤษดาดอย มา ในราคาแสนจะถูกครับ บวกกับ ผมก็มีธุระที่จะต้องจัดการเกี่ยวกับบ้านที่จังหวัดลำพูน พอดี
17 กันยายน 2564 .. วางแผนการเดินทางสักหน่อย
จากปกติ ผมมักจะออกเดินทางจาก ปราจีนบุรี ในช่วงดึกๆ ให้ไปถึงปลายทางเช้าๆ หรือ สายๆ จะได้ไม่เสียเวลาไปกับการเดินทาง แต่รอบนี้ ติดเคอร์ฟิว ครับ หลายๆจังหวัดที่ต้องผ่าน แม้ไม่ใช่สีแดงเข้ม ก็ประกาศเคอร์ฟิว เช่นกัน ดังนั้น หนทางเดียวก็คือ ต้องมาสตาร์ทจาก กทม และออกกัน ตี 4 เป๊ะ !!
จบเรื่องเวลาในการเดินทางไป ก็ยังมีประเด็นเรื่องการผ่านเข้าออกจังหวัด หลักๆก็คือ เชียงใหม่ ทำการโหลด “CM CHANA” กรอกข้อมูลและ print เอกสารไว้ในรถเรียบร้อย รวมถึง การเตรียม app หมอพร้อม เผื่อกรณีถูกเรียกตรวจ (ผมและป้าที่เดินทางด้วย ผ่านการฉีดวัคซีนมาเรียบร้อยละ)
พาหนะในรอบนี้เป็น HONDA CITY Hatchback นะครับ เพิ่งเอาไปเช็ครอบ 6 เดือน พร้อมถ่ายน้ำมันเครื่องมาเรียบร้อย ขอลองสักหน่อย อยากรู้ว่า เอารถเล็กๆวิ่งทางไกล เจอโค้งแคบๆแบบเส้น 108 จะเป็นอย่างไร
ล้อหมุนตอน ตี 4 เป๊ะ ... ขึ้นทางด่วน เชื่อม อุดรรักษา วิ่งยาวๆจนออก สายเอเชีย ครับ
8.00 น. จอดเติมน้ำมันถังแรก ที่ ปั๊ม PT จ.ตาก (เติมเต็มถัง มาจาก ปราจีนบุรี และเข้ามาค้าง กทม ก่อน 1 คืน นะครับ)
11.30 น. จอดอยู่หน้าวัดพระธาตุหริภุญชัย ละ ความเร็วที่ใช้คือ 100 – 110 กม./ช.ม. ตลอดทาง กับ อัตราสิ้นเปลืองสวยๆที่ 20 กม/ลิตร ครับ
วัดพระธาตุหริภุญชัย
มาวัดนี้แทบทุกปี แต่ไม่เคยเจอครั้งไหน ที่รถน้อย คนน้อย เท่าครั้งนี้เลย ฝั่งตรงข้ามที่ขายของฝาก ก็เงียบเชียบ ผมเดินทะลุบริเวณที่ขายของฝากไปข้างหลัง หามื้อเที่ยงทาน ก็เหลือเปิดร้านเดียวครับ ข้าวซอยไก่ ซึ่งผมว่า ร้านข้างๆวัด อร่อยกว่านะ (แต่ดันปิด)
พอท้องอิ่ม ก็เดินกลับมาไหว้พระ อย่างที่บอกครับ คนโล่ง คนน้อย อย่างที่ไม่เคยเจอมาก่อน
ไหว้พระเสร็จ ก็ต่อด้วยของโปรด ที่มาทีไร สั่งทุกที “เฉาก๊วยที่อร่อยที่สุดในเมืองมนุษย์” (สำหรับคนชอบหวานนะ)
ออกจากวัดราวๆ 12.30 น. ก็วิ่งต่อไปแถวป่าซาง แวะดูบ้านนิดนึง .. แหม รถจอดพอดีเลย อิอิ
สวนป่าดอยบ่อหลวง
เสร็จธุระเรียบร้อยราวๆ 15.30 น. ก็รีบเดินทางต่อ ออกเส้น 116 ต่อด้วย 108 ครับ วิ่งยาวๆ เข้า อ.ฮอด ผ่าน ออบหลวง ผ่าน สวนสนบ่อแก้ว ซึ่งตั้งแต่ผ่าน ออบหลวง มา ฝนตกหนักมากครับ เปิดปัดน้ำฝนเบอร์แรงสุด (ซึ่ง City เนี่ย ปัดน้ำฝนเบอร์แรงสุด เท่ากับ CRV เบอร์สองเอง) แถมด้วยน้ำขังเกือบตลอดผิวถนนครับ ช่วงนี้ใช้สมาธิกันพอสมควรเลย (โดนแอ่งน้ำหนักๆไปรอบนึง ซึ่งบอกเลยว่า ถ้าเป็นยาง Maxxis ติดรถ หรือ Michelin Pilot Sport 4 คงเหินลงข้างทางไปแล้วล่ะ แต่ RE004 นิ่งกริ๊บ)
สภาพถนน พอเลย ทางขึ้น อ.แม่แจ่ม ถนนก็ดีแล้วครับ (ถนนก่อนหน้านี้ มีปุปะ พอให้ขยับข้อมือหักหลบแก้ง่วงอยู่) พอเลย สวนสนบ่อแก้ว มาไม่ไกล เล็งซ้ายดีๆ แล้วก็เลี้ยวเข้า สวนป่าดอยบ่อหลวง ได้เลย
มีเรื่องเล่า
ก่อนเดินทาง 1 สัปดาห์ ทางสวนป่าฯ โทร.มาคอนเฟิร์มการเข้าพักของผม พร้อมกับ อาหาร ซึ่งมื้อเย็นจะเป็นหมูกระทะ 299 บาท (ทานพอดี 2 คน) กับ อาหารท้องถิ่น (เห็นแว้บๆจำราคาไม่ได้ แต่แพงกว่าหน่อย) และก็ มื้อเช้า เป็นข้าวต้ม ขนมปังปิ้ง หัวละ 100 บาท .. อันนี้ไม่ใช่ปัญหา
ที่เป็นปัญหาคือ จนท. สอบถามว่า ผมเดินทางมาจากไหน และเดินทางอย่างไร ผมแจ้งว่า มาจาก กทม ด้วยรถส่วนตัว .. ทาง จนท บอกว่า ให้ผมเข้าไปกรอกเอกสารที่ สาธารณะสุขจังหวัดก่อน แล้วถึงเอาเอกสารเข้ามายื่นที่ สวนป่า เพื่อเข้าพัก !!!
เฮ้ยยย ไม่ใช่แล้วมั้ง !!! .. สวนป่า เข้า ตัวเมือง เชียงใหม่ ไม่ใกล้นะ พอถามย้อนกลับไปว่า มันติดเคอร์ฟิวนะ ถ้าผมมาถึงเชียงใหม่เย็นแล้วสาธารณะสุขจังหวัดปิด จะให้ทำยังไง ? เหมือน จนท. จะงงๆเลยจัดการหาข้อมูลเอง ได้ข้อมูลมาคือ ให้ไปลงทะเบียน ลงชื่อ กับ ตัวแทนเจ้าหน้าที่สาธารณะสุข ประจำอำเภอ ได้เบอร์มา เลยลองโทรถาม
คำตอบก็คือ “ถ้าฉีดวัคซีนแล้ว ให้เข้าไปกรอกเอกสาร ที่สวนป่า ได้เลย ไม่ต้องวิ่งมาหา”... แหมม แค่นั้นแหละ เลยโทรกลับไปแจ้ง จนท นิดนึง เดี๋ยวจะทำนักท่องเที่ยวคนอื่นแตกตื่น
ส่วนของจริง .. ทางสวนป่า ขอแค่บัตรประชาชน ของผู้ที่จะเข้าพัก ไปทำการถ่ายเอกสาร และ เซ็นต์ยืนยันไว้เท่านั้นแหละ ไม่ได้เช็คหมอพร้อม หรือ อะไรใดๆ จะมีเช็คก็คือ slip การโอนเงินจองที่พัก (ปกติ ไม่เคย print ตั้งนานละ) พอคราวนี้ขอดูเลยเปิด Tablet ให้ดู เพราะผมดันไม่ได้ส่งให้ตอน chat ซะงั้น ดีที่ยังเก็บรูป Slip ตอนโอนไว้อยู่
มองจาก จุดที่ check in เข้าไป ขวามือคือ บ้านเอเฟรม จอดรถซ้ายมือได้เลย แต่ถ้าเป็นบ้านทิวสน ก็ขับตรงเข้าไปอีกหน่อยนึง
ที่จอดกว้างๆ เหลือๆ ครับ .. นอกหลังคา ยังจอดได้อีกเพียบ (ทีแรก แอบกลัว จะจอดชิดกันป่าวหว่า)
บ้านทิวสน
บ้านพักอยู่ท่ามกลางป่าสน มาเจอกับ อากาศชื้นๆหลังฝนตกด้วย อย่างฟิน เลยล่ะ .. จะมีบ้านแบบนี้อยู่ 4 – 5 หลังนะครับ หลังนึงจะนอนได้ 2 คน
ข้างล่าง จะเป็นโถงโล่งๆครับ .. ห้องน้ำอยู่ข้างล่างนะครับ มีเครื่องทำน้ำอุ่น 4500W แต่ปรับความแรงน้ำไม่ได้ ทำได้แค่เปิดกับปิด ซึ่งวันที่พัก อุณหภูมิข้างนอก 20 องศา ก็เริ่มเอาไม่อยู่ละ (สภาพห้องน้ำ โทรมไปหน่อย)
ทางขึ้นชั้นสอง เป็นบันไดวน นะครับ ผู้สูงอายุอาจจะขึ้นลำบากหน่อย หรือ ใครเมาๆนี่ มีโอกาสเดินตกลงมาได้นะ 55
ห้องนอน วิวสวยดี มีแอร์ให้ 1 เครื่องครับ ด้วยความที่เป็นไม้ซะเยอะ และ อากาศชื้น ก็จะมีกลิ่นอับสักหน่อยครับ เลยต้องเปิดแอร์นอน ไม่งั้นกลิ่นอับจะแรง ครับ
เก็บข้าวของ แล้วก็เดินสำรวจกันนิดนึงครับ เดินย้อนกลับมาที่จุด check in แล้วเลี้ยวซ้ายครับ ตรงไปหน่อย ซ้ายมือจะเป็นห้องอาหาร ถ้าตรงต่อไปอีกจะเป็นสามแยก
เลี้ยวขวา เป็นโรงแรมครับ
ถ้าตรงขึ้นไป จะเป็นลานกลางเต้นท์ครับ
พอเห็นห้องพัก เห็นรถที่มาเข้าพัก เทียบกับขนาดห้องอาหาร เลยเดินย้อนกลับมากินหมูกระทะดีกว่า เดี๋ยวไม่มีที่นั่ง (ตอนนั้นน่าจะสัก 5 โมงกว่าเอง) .. อยากนั่งข้างนอกรับลม แต่ฝนตกปรอยๆ เลยอด
เหมือนไม่เยอะ แต่อิ่มใช้ได้เหมือนกันนะ
ไฟสวยๆระหว่างทางกลับบ้านพัก .. จนท. เน้นนัก เน้นหนา ว่า ห้ามเคลื่อนย้ายเฟอร์นิเจอร์ในห้องพักเด็ดขาด เดาว่า ข้างใน มันมีโต๊ะยาว กับ เก้าอี้ คงเพื่อป้องกันประเด็น พวกเอาโต๊ะออกมา นั่งตั้งวงที่ชานหน้าบ้านมังครับ .. ซึ่งก็ดีนะ เพราะ พอค่ำหน่อย ก็เงียบสนิท ไม่มีเสียงดังรบกวนกันครับ