จุดที่คุณกบ สุวนันท์ พีค ยังไม่มีนางเอกละครคนไหนไปถึงจุดนั้นแม้กระทั่งนางเอกที่ฮอตสุดๆในปัจจุบัน และเป็นจุคพีคที่นางเอกหลายคนอยากเป็น
ตอนนี้คุณกบเป็นตำนานนางเอกอมตะดาวค้างฟ้าที่ยังคงครองความยอดนิยมและบทบาทนางเอก ตัวเอกมาถึงปัจจุบัน

ซุปเปอร์สตาร์
ไม่จำเป็นต้องมีอีเวนท์เยอะ มีโฆษณาชุก หรือมีไลฟ์สไตล์หวือหวาแซ่บซี้ดซู่ซ่าส์
ยกตัวอย่าง ป๋าเบิร์ด-ธงไชย แกก็ไม่ได้เปิดเผยชีวิตส่วนตัวให้ประชาชนเกาะติดอะไรขนาดนั้น
แต่แกก็โด่งดังยาวนานด้วยผลงาน ฝีมือ และการวางตัว

กบ-สุวนันท์ ก็เช่นกัน
แจ้งเกิดจากละคร ดังด้วยละคร และเป็นตำนานด้วยละคร
นางเอกตลอดกาล, นางเอกขวัญใจมหาชน >>> คำนิยามเหล่านี้ ยังใช้กับกบได้เสมอ 😉

เห็นคนชอบยกเรื่องงานโฆษณาของยุคนี้แล้วไปเปรียบเทียบกับยุคนั้น  มันไม่ใช่เลยค่ะ ยุคนั้นเขาไม่ได้เอางานโฆษณามาเป็นตัวชี้วัดนะคะว่าใครมีงานโฆษณาเยอะถือว่าดังมาก   เอาจริงๆที่เอางานโฆษณามาเป็นตัววัดว่ามีงานโฆษณาเยอะถือว่าดังมากก็สักประมาณ10กว่าปีมานี่เอง


ยุคนั้นเขาวัดกันที่ผลงาน  ผลงานใครประสบความสำเร็จเข้าถึงคนได้มากกว่ากัน  หนังใครดัง  ละครใครดัง  เพลงใครดัง  ศิลปินคนนั้นก็ดังไปด้วย


อย่างสมัยที่เราทัน ประมาณปี 2525-2530ตอนต้น ดาราหนังหรือดาราจอเงิน  จะดังกว่าดาราโทรทัศน์หรือดาราจอแก้ว  เบอร์หนึ่งจอเงินที่ได้รับการยอมรับ  อย่างจารุณี  แล้วต่อมา จินตหรา  ตอนที่เป็นเบอร์1แล้วก็ไม่ได้จะมารับงานโฆษณาอะไรมากมาย   แต่ถ้าจะมาบอกว่าสองคนนี้งานโฆษณาไม่เยอะเท่ากับไม่ดัง ไม่ฮอต คือมั่วแล้ว    อย่างจารุณีสมัยพีคสุดๆเราเคยได้ดูคุณ รุจณ์ รณภพ ให้สัมภาษณ์แกบอกเลยว่าแค่ได้ชื่อจารุณีมาเล่น สามารถไปขอเชื่อเงินล่วงหน้าจากเจ้าของโรงหนังแถวปากน้ำโพมาได้ก่อนเลย  คิดดูแล้วกันคนงานโฆษณาไม่เยอะมีพาวเวอร์ขนาดไหน  หลังจากนั้นวงการภาพยนตร์เริ่มตกตำ่ดาราจอเงินมาเล่นจอแก้วกันมากขึ้น  ประกอบกับสัญญาณโทรทัศน์เข้าถึงทุกพื้นที่ของประเทศได้มากขึ้นเข้าสู่ยุครุ่งเรืองของวงการโทรทัศน์การเป็นดาราจอแก้วคือดาราดังของวงการแทนที่จอเงิน


หรืออย่างนักร้องที่ดัง แบบ ดังสุดๆเลย  คริสติน่าร์ อากีล่าร์   ใหม่ เจริญปุระ  ออกเทปขายได้สามล้าน สองล้านตลับ  แต่งตัวแบบไหน ทำผมทรงไหนคนทำตามกันค่อนเมือง  เล่นคอนเสิร์ตทีบัตรขายหมดเกลี้ยงต้องเพิ่มรอบกันรัวๆ พวกนี้งานโฆษณา สองสามปีสักหนึ่งชิ้นได้มั้ง  แบบนี้คือเขาไม่ฮอตงั้นเหรอ?  


ที่นี้วกกลับมาเรื่องความดังของสุวนันท์  สถิติอะไรนี่คนอื่นพูดไปเยอะแล้ว  เอาเรื่องอื่นบ้างแล้วกันนะ



ยุคประมาณ สักปี 2540ปลายๆถึง 2550ต้นๆ  คนดัง เซเลปทั้งหลายจะนิยมออกหนังสือ พ๊อกเก็ตบุ๊คกัน  หนึ่งในนั้นคือคุณวงศ์ชนก ชีวะศิริ หรือคุณมังคุดไฮโซชื่อดังยุคนั้นเลย  แกก็ออกพ็อกเก็ตบุ๊ค(เราซื้อด้วย)  มีอยู่ตอนหนึ่งในหนังสือแก จะเขียนประมาณว่า    “ชีวิตคุดไม่เหมือนนางเอกหรอก เพื่อนคุดยังบอกเลย  หน้าเธอเหมือนกิ๊ก สุวัจนี  ไม่เหมือนกบ สุวนันท์ แล้วเธอจะเป็นนางเอกได้ยังไง”    ยุคนั้นพอพูดถึงภาพลักษณ์นางเอ๊ก นางเอก นางเอกละครไทย  สำหรับคนจำนวนมากหน้ากบ สุวนันท์ลอยมาเป็นคนแรกๆเลย


หรือข่าวดราม่าก่อนคุณกบ จะแต่งงาน ตอนนั้นเป็นข่าวใหญ่มากกกกกก หนังสือพิมพ์ลงกันทุกฉบับ  ในพันทิปยุครุ่งเรืองตอนนั้นกระทู้ขึ้นกันพรึบๆเต็มหน้าบอร์ด ตอบคอมเมนท์กันทู้หนึ่งหลายสิบเม้นท์ เป็นร้อยเม้นท์ก็มี   พอสุดท้ายอุปสรรคต่างๆผ่านไปพอวันแต่งงานก็เป็นข่าวใหญ่สื่อรายงานกันทั่วอีก   แล้วไม่ใช่แค่นั้นนะ  ผลต่อเนื่องจากเรื่องนี้ยังมีอีก   หลังจากนั้นมีข่าว ไฮโซชื่อเล่นว่า “ดา” ตีเช็คเด้งซื้อเพชร  คอลัมน์ซุบซิบไฮโซชื่อดังของหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่เอาไปเขียนเม้าท์ ทำนองว่า ไฮโซชื่อดามีใครบ้าง   “เจ้าแม่กระทิงแดง  ดารณี อยู่วิทยา ไม่ใช่แน่นอน”   “คุณแม่ไม่ปลื้ม ดาริกา ปุณณกัณฑ์  ไม่มีทางเป็นไปได้”   แล้วเขาก็ยกไฮโซชื่อดาอีกสองสามคนซึ่งก็ไม่ใช่ผู้ต้องสงสัย ก็ปิดท้ายว่า แล้วดาไหน?     วลีคุณแม่ไม่ปลื้มมาจากละครขิงก็ราข่าก็แรง แต่ที่เขาเอามาตั้งฉายาให้คุณดาริกาเพราะข่าวกับกบนี่แหละที่ดังมากจริงๆ พูดปุ๊บคนรู้กันทั่ว


และเรื่องที่พิสูจน์ความดัง  พิสูจน์ความเป็นที่รักของมหาชนได้ดีที่สุดคือเรื่องที่กบ มีปัญหากับสื่อใหญ่ระดับเจ้าแม่ของยุคนั้น  ยุคนั้นไม่ได้มีโซเชี่ยลมีเดียให้ดาราออกมาแก้ต่างอะไรได้  ดาราคนไหนมีปัญหากับสื่อคือดับไม่ได้ผุดได้เกิด  ซึ่งก็ไม่ใช่แค่ยุคนั้นเอายุคโซเชี่ยลนี่แหละนางเอกตัวแม่ขาวีนบางคนมีปัญหาแรงๆกับสื่อก็ตกเห็นๆมาแล้ว   ตอนนั้นกบมีปัญหาสื่อเจ้าแม่ของยุคนั้นเลย  โดนโจมตีหนักมากต่อเนื่องกันหลายปี ถึงขั้นจะฟ้องร้องกันด้วย  โดนโจมตีหนักอยู่หลายปีขนาดนั้น ถ้าไม่มีคนรักเยอะจริงคือล้มไปแล้ว  แต่ก็ทำอะไรกบไม่ได้  ตอนละครกบดังยังจะมาสัมภาษณ์ด้วยนะ  จนเกิดข่าวเมาท์กันว่า  นางเอกไม่ยอมให้สัมภาษณ์ถ้ามีนักข่าวสำนักนี้อยู่จนต้องเชิญนักข่าวสำนักนี้ออกไปจากวง    เอายุคปัจจุบันนางเอกว่าฮอตๆมีสักกี่คนที่มีพาวเวอร์ทำแบบนี้ได้

ก็คิดดูแล้วกันว่าเป็นดาราที่ไม่ค่อยออกอีเว้นท์ ไม่ค่อยรับงานโฆษณา
ไลฟ์สไตล์ไม่เป็นที่สนใจ ดังได้ด้วยผลงานการแสดงล้วนๆ

แต่ข่าวเรื่องส่วนตัวเนี่ยดังระดับประเทศนะ
เรียกว่าเป็นดราม่าระดับประเทศเลยแหล่ะ
คิดดูแล้วกันถ้าไม่ใช่ระดับซุปเปอร์สตาร์
จะมีคนสนใจเรื่องส่วนตัวกันทั้งประเทศขนาดนี้เหรอ
งานแต่งงานก็มีฟรีทีวีถ่ายทอดสดอย่างน้อยๆ 2 ช่อง
บางช่องตัดเข้าเบรกกิ้งนิวส์รายงานสดๆ คิดดูแล้วกัน