♥♥ กระทู้รำลึกความหลัง หนุ่มๆนักร้องสายพลังเสียง Fly to the Sky ที่ถูกปั้นโดยบ้าน SM
เรียกว่าเป็นปรากฎการณ์ของคู่หู Ballad ที่ไม่ว่าจะออกมากี่อัลบั้มก็ขึ้นชาร์ตแทบทุกครั้งไป ♥♥
ยืนยันความเป็นตำนาน โดยการออกผลงานเพลงมาตั้งแต่ปี 1999 จนถึงปัจจุบัน
หนึ่งใน K-pop Group (Duo) ที่เรียกได้ว่า พี่อยู่มาทุกเจน ตั้งแต่ เจน 1- เจน 4 โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงสมาชิกเลย
Fly to the Sky (플라이 투 더 스카이) เป็นนักร้อง Duo ที่ถูกปั้นโดย SM Entertainment เดบิวต์ครั้งแรกในปี 1999
มีสมาชิกในวงทั้งหมด 2 คน ได้แก่ ฮวานฮี (ฟานี่) และ ไบรอัน
แนวเพลงหลักของวง คือ R&B/ Ballad
Fly to the Sky ได้ปล่อยเพลงเดบิวต์ที่ชื่อว่า Day By Day ออกมาเมื่อปลายปี 1999
ซึ่งแตกต่างจาก Boy Band เพื่อนร่วมค่ายที่เดบิวต์ในยุคนั้นอย่าง H.O.T หรือ Shinhwa
Fly to the Sky เลือกที่จะเดบิวต์ด้วยเพลงช้าแนว R&B ถึงแม้ทั้งคู่จะมีภาพลักษณ์ความเป็นนักร้องไอดอลเมื่อแรกเริ่มก็ตาม
อย่านึกว่ามาสายร้อง แล้วจะไม่มีการเต้น
Fly to the Sky ไอดอลยุคแรกเริ่มแห่งการเต้นในเพลงช้า
อัลบั้มแรกของทั้งคู่ได้รับการตอบรับถล่มทลาย ขายอัลบั้มได้มากกว่า 260,000 ในการเดบิวต์แรก
และยังได้รางวัล Best New Artist award in 2000 ตั้งแต่อัลบั้มแรก
หลังจากนั้นทั้งคู่ออกอัลบั้มถัดมาที่ชื่อว่า The Promise ในปี 2001
โดยสามารถคงความนิยมได้เหมือนเดิม ทั้งยอดอัลบั้มกว่า 230,000 และชาร์ตเพลง
(ความนิยมของ Fly to the Sky ทำให้ SM ถึงกับตั้ง Duo ที่ชื่อว่า Isak N Jiyeon
เป็น Fly to the Sky ภาคผู้หญิงขึ้นมาแต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ)
ต่อมาในปี 2003 Fly to the Sky ปล่อยอัลบั้มที่สามที่ชื่อว่า Sea of Love ออกมา
โดยถึงแม้ว่าเพลงไตเติ้ลอย่าง Sea of Love จะมีท่วงทำนองที่ค่อนข้างสดใส และมีการเต้นเหมือน Boy Band ทั่วไป
ซิงเกิ้ลที่สองของอัลบั้มที่ชื่อว่า Condition of my Heart กลับเป็นเพลงบัลลาดหนักหน่วง
บวกกับภาพลักษณ์ที่โตขึ้นของทั้งสองคน ต่างจากภาพ Flower Boy ที่ค่ายวางไว้ให้ตั้งแต่แรกเริ่ม
แฟนเพลงเริ่มตั้งข้อสังเกตว่า Fly to the Sky กำลังจะละทิ้งการเป็นศิลปินไอดอล
และมุ่งมันกับการเป็นนักร้องบัลลาดที่มีภาพลักษณ์ Masculine อย่างเต็มตัว
ในปี 2003 Fly to the Sky กลับมาอีกครั้งกับอัลบั้มที่ชื่อว่า Missing You
โดยอัลบั้มนี้เรียกได้ว่าเป็นการประกาศอย่างเต็มตัว ว่าทั้งสองคนเลือกที่จะมุ่งมั่นกับการเป็น Ballad Duo มากกว่าไอดอล
โดยเพลง Missing You นี่เองที่สร้างความนิยมให้กับสองหนุ่มมากขึ้นไปอีก
ทั้งยังมีชื่อเสียงมาถึงประเทศไทยอีกด้วย เป็นเพลงที่เรียกได้ว่า
'เพลงชาติของ Fly to the Sky'
ต่อมาในปี 2004 ทั้งคู่ได้ออกอัลบั้มใหม่ที่ชื่อว่า (ออกอัลบั้มทุกปีเลยทีเดียว) Gravity
โดยถึงแม้อัลบั้มนี้จะมีเพลงฮิตอย่าง Gravity และ Good-Bye
อัลบั้ม Gravity กลับเป็นสตูดิโออัลบั้มที่มียอดขายต่ำที่สุดของวง โดยมียอดขายเพียง 90,000 เท่านั้น
(เพลงนี้ได้ Lina แห่ง CSJH มาเป็นนางเอกMV)
ในปี 2004 เป็นปีที่ทั้งคู่ได้มีคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรก ที่ Jamsil Arena หลังจากเดบิวต์มา 5 ปี
ในช่วงปี 2005 นี่เองสองหนุ่มมีการออกอัลบั้ม Greatest Hits ซึ่งรวมเพลงต่างๆของวงไว้
และอัลบั้ม Greatest Hits นี่เอง ที่เป็นอัลบั้มสุดท้าย ภายใต้สังกัด SM
หลังจากหมดสัญญากับ SM Fly to the Sky เลือกที่จะโบยบินไปซบค่ายใหม่อย่าง PFull Entertainment
โดยให้เหตุผลไว้ว่า ต้องการจะทำงานกับค่ายเล็กๆที่ให้ความสำคัญกับกับการเป็นนักร้อง
มากกว่าการทำงานในเชิงพาณิชย์
ระหว่างช่วงปี 2005-2006 ที่ Fly to the Sky เผชิญปัญหาหนัก
ไว้ว่าจะเป็นข่าวลือ เรื่องที่ทั้งสองไม่ถูกกัน, การแยกวงหลังจากออกจากSM หรือ แม้กระทั่งเรื่องที่ทั้งสองคนเป็นเกย์
ไบรอันได้ออกมาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า
เขาเคยรู้สึกอิจฉาที่ฮวานฮีได้รับความนิยมและถูกชมเรื่องการร้องมากกว่า
เขาได้แนะนำให้ทั้งสองคนแยกทางกันเดิน เพื่ออนาคตที่ดีของทั้งคู่
แต่เมื่อฮวานฮีได้ยินดังนั้นก็โกรธมาก นำไปสู่การทะเลาะ และเกือบได้แยกวงกันจริงๆ
แต่ต่อมาทั้งคู่ก็สามารถปรับความเข้าใจ และตัดสินใจที่จะทำงานร่วมกันในฐานะDuo ต่อไป
เพราะว่า ทั้งสองคนเข้าใจกันมากขึ้น และตระหนักได้ว่าจำเป็นต้องมีกันและกัน
หลังจากย้ายมาค่ายร่วมปี ในปี 2006 สองหนุ่มก็ออกสตูอัลบั้มที่ 6 ที่มีชื่อว่า Transition
โดยในอัลบั้มนี้สามารถกอบกู้ยอดขายกลับมาที่ 160,000 และมีเพลงฮิตอย่าง Like a Man
ที่เรียกได้ว่าเป็น 'เพลงชาติที่สองของวง'
(Live performance พลังเสียงสุดจะยอด)
ในปี 2006 นี้เอง เราจะได้เห็นสองหนุ่ม Fly to the Sky ตามรายการวาไรตี้ต่างๆ ทั้ง X-men, Love Letter
ฮวานฮีเอง ยังได้เป็นพระเอกในเรื่อง Over the Rainbow
เป็นสัญญาณว่าทั้งสองคน เริ่มที่จะโฟกัสกับผลงานเดี่ยวเยอะขึ้น
ไบรอันออกอัลบั้มเดี่ยวในช่วงปลายปี 2006
หลังจากการแยกย้ายการไปทำงานเดี่ยว ทั้งสองคนสยบข่าวลือการแยกวงอีกครั้ง
ด้วยการออกอัลบั้มใหม่ในปี 2007 กับอัลบั้ม No Limitations
ในปี 2009 ทั้งคู่ได้ออกอัลบั้มที่ชื่อว่า Decennium โดยในอัลบั้มนี้ได้มีการกลับมาที่แนวเพลง R&B อีกครั้ง
อัลบั้มนี้เองที่มีการประกาศว่า จะเป็นอัลบั้มสุดท้ายของ Fly to the Sky
จากนี้ไป ทั้งสองคนจะโฟกัสกับการทำงานเดี่ยว โดยไบรอันจะไปสายการแสดง ส่วนฮวานฮีจะเป็นนักร้องเดี่ยว
เรียกได้ว่า หลายๆคนเข้าใจว่า มันคือการปิดตำนาน Fly to the Sky
อย่างไรก็ตามในปี 2014 สิ่งที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นก็เกิดขึ้น
เมื่อ Fly to the Sky กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง หลังจากประกาศแยกทางไป 5 ปี
โดยครั้งนี้ได้เซ็นสัญญากับค่ายเพลงใหม่ H2 Media
และมีการปล่อยอัลบั้มที่ 9 ของวงออกมา ในชื่อ Continuum
เรียกได้ว่าเป็นการกลับมาที่ยิ่งใหญ่ของเจ้าพ่อเพลง Ballad เพราะเพลงไตเติ้ลอย่าง You You You
สามารถขึ้นไปถึงอันดับ 1 ทั้งของ Gaon Chart และ ฺBillboard Korea
และมียอดดิจิตัลดาวน์โหลดมากกว่า 1,250,000 ครั้ง
(ดูไปซู้ดปากไป ร้องเหมือนกินแผ่นเสียงเข้าไป)
หลังจากการกกลับมารวมตัวกันที่เป็นตำนานในครั้งนั้น Fly to the Sky ก็ยังออกผลงานมาอีกเรื่อยๆ
โดยผลงานล่าสุดของทั้งคู่คือเพลง Thank You for being A Part of My life ในอัลบั้ม Fly High เมื่อปี 2019 นั่นเอง
22 ปีกับหนทางบนเส้นทางดนตรีของคนสองคน
22 ปีนับว่าเป็นอีกหนึ่งวงที่ยืนหยัดอยู่มาในวงการได้นานที่สุด
22 ปี 9 สตูดิโออัลบั้ม 1ไลฟ์อัลบั้ม 2อัลบั้มรวมเพลง และ 3EPs
การันตีด้วยรางวัลมากมาย คงไม่ต้องสงสัยกันแล้วว่า Fly to the Sky เป็นศิลปินที่มีคุณภาพ
อยู่ยงคงกระพันในอุตสาหกรรมเพลงเกาหลี ตั้งแต่ เจน 1-เจน4 ได้อย่างไร
♥ ♥ ♥ ♥ ♥
กระทู้รำลึกความหลัง ♥ Fly to the Sky ♥ สองหนุ่ม Duo เสียงทรงพลัง จากค่าย SM ที่อยู่มาตั้งแต่ Gen1 - Gen4