The Information
Information แปลว่า ข้อมูลข่าวสารหรือสารสนเทศ ประกอบขึ้นด้วย form + in หมายถึงการก่อตัวขึ้นภายใน forming inner เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นภายสมอง เมื่อ inform ซ้ำ ๆ ต่อเนื่อง ความคิดก็จะเปลี่ยนไปจากเดิม inform ซ้ำ ๆ เพิ่มอีก จะทำให้ทัศนคติ ความยินดีชื่นชอบเกิดขึ้น inform ซ้ำ ๆ มากเพิ่มขึ้น พฤติกรรมก็จะเปลี่ยนไปจากเดิม สอดคล้องกับหลักการพื้นฐานของการสื่อสาร นั่นคือ KAP. ย่อจาก Knowledge Attitude Practices นั่นเอง
Information ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลาย เช่น Information System -IS. Information & Communication Technology -ICT. รวมทั้งการโฆษณาผ่านสื่อต่าง ๆ เพื่อเพิ่มยอดขาย ทำให้ยุคนี้กลายเป็นยุคข้อมูลข่าวสาร Information Age โดยแท้ แม้ว่ามีชื่อเรียกหลากหลาย แต่ก็หมายถึงสิ่งเดียวกัน เช่นยุคเทคโนโลยี่ ยุคดิจิตอล หรือยุคไซเบอร์ แต่ว่าขณะนี้ โลกประสบภัยพิบัติมากมาย ทั้งที่เทคโนโลยี่เจริญถึงขีดสุด แต่กลับไม่ตอบโจทย์ จึงขอใช้ Information แก้วิกฤตพิชิตภัยพิบัติให้ลดลงจงได้
คำสอนของทุกศาสนา ได้รับการรวบรวมจัดเก็บอย่างเป็นระบบระเบียบ พร้อมที่จะนำไปใช้ประโยชน์ได้ ถือว่าเป็น Information ชั้นเลิศและล้ำค่า เพียงแค่รู้จักเลือกเฟ้นสิ่งที่เหมาะสมกับยุคสมัย เข้าได้กับสถานการณ์ ประยุกต์ด้วยเทคโนโลยีที่มีอยู่ ก็จะเกิดประโยชน์มากมาย ทำให้ภัยพิบัติลดลงได้อย่างแน่นอน
ศาสนาใหญ่ ๆ กล่าวไว้ตรงกัน พุทธ คริสต์ อิสลาม ฮินดู ยูดาห์ ให้ความสำคัญ "กตัญญู รู้คุณ" อยู่เหนือคุณธรรมทั้งหลาย พระพุทธเจ้า ถือว่า กตัญญู รู้คุณ เป็นพื้นฐานของคนดี ส่วนปรมาจารย์ขงจื้อ แห่งศาสนาปราชญ์ กำหนดให้ กตัญญู รู้คุณ เป็นข้อแรกของคุณธรรม 8 (ปาเต๋อ)
เพราะว่า กตัญญู รู้คุณ ทำหน้าที่ปรับสมดุลชีวิต ทำให้ชีวิตราบรื่น มีการทรงตัว ไม่เสียศูนย์ ไม่สะดุดติดขัดล้มลุกคลุกคลาน แม้ว่าสมองปราดเปรื่องเรืองปัญญา สร้างผลงานมากมาย แต่ไม่กตัญญู รู้คุณ ชีวิตก็เสียศูนย์ ตกระกำลำบาก หรือประสบภัยธรรมชาติ
โรงงานและยานพาหนะ ปล่อยควันพิษทำลายชั้นบรรยากาศ ทำให้เกิดปรากฏการณ์เรือนกระจก เกิดภาวะโลกร้อน เกิดภัยแล้ง น้ำท่วม ภัยพายุรุนแรง ตามด้วยความอดอยากยากไร้ ธรรมชาติโอบอุ้มหล่อเลี้ยงมวลมนุษย์ แต่กลับถูกมนุษย์ทำลาย นี่คือ การเนรคุณ นี่คือ เหตุปัจจัยภัยพิบัติทั้งหลาย
หากทำผิดต่อผู้มีพระคุณ มีโทษตามมาทั้งสิ้น เช่นทำผิดต่อพ่อแม่ มีโทษเทียบเท่าทำผิดต่อพระอรหันต์ (อนันตริยกรรม)
พึงระมัดระวัง สำนึกคุณ เทิดทูนบูชาผู้มีพระคุณและตอบแทนคุณสุดกำลัง เพื่อปรับสมดุลชีวิต ผู้มีพระคุณทั้งหลาย เริ่มจาก ธรรมชาติ ศาสดาทุกศาสนา พระโพธิสัตว์ พระพุทธะ พระอรหันต์ พ่อแม่ สถาบันชาติ คุณครู ผู้อุปถัมภ์ค้ำชู ฯลฯ
วิธีการแก้ไขอุปนิสัยความเคยชิน ก็ต้องอาศัยทฤษฎีแนวทางการสื่อสารภายในบุคคล Intrapersonal Communication โดยใช้ถ้อยคำหรือภาษานำพาควบคุมจิตให้อยู่ในแนวทาง จนกว่าจะบรรลุเป้าประสงค์
กราบสำนึกพระคุณฟ้าบารมีบรรพจารย์ หรือ กั่นเซี่ยเทียนเอินซือเต๋อ
กราบสำนึกพระมหากรุณาธิคุณพระแม่องค์ธรรม หรือ เซี่ย ๆ เหลาหมู่ ต้าฉือต้าเปย
กราบสำนึกพระมหากรุณาธิคุณ องค์พระศาสดาและปรมาจารย์ทุกพระองค์ หรือ เซี่ย ๆ จูเทียนเสินเซิ่ง ต้าฉือต้าเปย
กราบสำนึกพระมหากรุณาธิคุณ สมเด็จพระศรีอาริยเมตตรัย หรือ เซี่ย ๆ หมีเล่อจู่ซือ ต้าฉือต้าเปย .............
สามารถคิดถ้อยคำที่เราชอบขึ้นใช้เองได้ ประเด็นอยู่ที่ต้องกล่าวซ้ำ ๆ ทั้งออกเสียงและในใจ จนกว่าจะเกิดความเคยชิน
เมื่อปูพื้นฐานกราบสำนึกคุณเป็นปึกแผ่นแน่นหนาแล้ว ก้าวต่อไปใคร่เห็นผลดุจปาฏิหาริย์ทันอกทันใจ ต้องอาศัยสัจจพลัง คิด พูด และทำ อยู่บนเส้นตรงเดียวกัน ทำมุม 180 องศา เมื่อเริ่มเชื่อมั่นศรัทธา(คิด) แล้วตั้งปณิธาน(พูด) ทุ่มเทสุดกำลัง(ทำ)
"นับว่า เป็นโองการฟ้าปกโปรด 3 ภพเป็นครั้งแรก ในขณะที่โลกใบนี้เกิด-ดับไปแล้ว 7 ครั้ง ยังมีผู้คนทั่วโลกอีกหลายพันล้านชีวิตที่ไม่มีโอกาสกราบรับวิถีธรรม กั่นเซี่ยเทียนเอินซือเต๋อ บุกเบิกเผยแพร่และสร้างสถานธรรม...." เมื่อเชื่อมั่นศรัทธาและสำนึกคุณ(คิด) แล้วกล่าวออกเสียงรวมทั้งในใจทุกวันตามปณิธาน(พูด) จนกว่าจะแปรเปลี่ยนเกิดเป็นรูปธรรม(ทำ)
ศักยภาพ ที่มนุษย์ได้รับจากธรรมชาติ บรรดา เมตตาบารมี มโนธรรม จริยธรรม สัจจบารมี และปัญญาบารมี เป็นต้น ต่างก็มีกตัญญู รู้คุณเป็นพื้นฐาน ทั้งนี้เป็นเพราะว่า โลกมี 2 ด้าน มืดและสว่าง กลางวันและกลางคืน น้ำขึ้นและน้ำลง สูงและต่ำ ต่ำต้อยและสูงศักดิ์ ยากไร้และร่ำรวย อีกเยอะแยะ แต่ว่าทั้งหมดทั้งมวลล้วนมี คุณประโยชน์และโทษภัยปะปนกันอยู่ ดังนั้นกตัญญู รู้คุณ คือเข็มทิศที่บ่งชี้เลือกเอาเฉพาะด้านคุณประโยชน์ พร้อมทั้งลบทิ้งโทษภัยให้หมดสิ้น
แม้กระนั้น ยุคขาวอันเป็นยุคท้ายปลายกัลป์ มิเหมือนยุคแดงที่ผ่านมาซึ่งมุ่งเน้นบำเพ็ญปัญญาบารมีก็สำเร็จธรรมได้ ทว่ายุคขาวกลับมีลักษณะเฉพาะตามสมเด็จพระศรีอารียเมตไตรยซึ่งเป็นองค์พระศาสดาปกครองยุคขาว กล่าวคือ มุ่งเน้นบำเพ็ญวิริยะบารมีเป็นสำคัญ สาวกแห่งยุคขาวจึงต้องขยันขันแข็งออกแรงสุด ๆ พูดซ้ำ ๆ ทำซ้ำ ๆ ด้วยศรัทธาเชื่อมั่น หากปรารถนาสำเร็จธรรมภายในชาติเดียว มิเช่นนั้นต้องกลับมาเกิดแล้วบำเพ็ญภายใต้โพธิสมภารแห่งสมเด็จพระศรีอารียเมตไตรยอีกหลายภพหลายชาติ จนกว่าจะบรรลุธรรมกลับคืนสู่นิพพานบ้านเดิม ประเด็นก็คือ ผู้บำเพ็ญธรรมในยุคขาว จะต้องกราบรับวิถีธรรมก่อน จึงจะบำเพ็ญธรรมได้อย่างราบรื่นและไม่ตกหล่นหรือถูกทิ้งไว้ข้างหลัง
อย่างไรก็ตาม ยังต้องขยันขันแข็งอย่างหนัก เช่นเดียวกับที่กล่าวไว้ในวรรคแรก เพราะว่าสาวกในยุคขาว มือคือสมอง ลงมือทำมาก ๆ จึงจะเกิดปัญญา จึงจะสมปรารถนาในขณะยังมีลมหายใจ และสำเร็จธรรมได้ ในที่สุด
หัวใจของ The Information คือ พูดซ้ำ ๆ กระทำซ้ำ ๆ โดยเชื่อมั่นศรัทธาสุดหัวใจ จนกว่าจะสำเร็จสมปรารถนา
The Information
Information ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลาย เช่น Information System -IS. Information & Communication Technology -ICT. รวมทั้งการโฆษณาผ่านสื่อต่าง ๆ เพื่อเพิ่มยอดขาย ทำให้ยุคนี้กลายเป็นยุคข้อมูลข่าวสาร Information Age โดยแท้ แม้ว่ามีชื่อเรียกหลากหลาย แต่ก็หมายถึงสิ่งเดียวกัน เช่นยุคเทคโนโลยี่ ยุคดิจิตอล หรือยุคไซเบอร์ แต่ว่าขณะนี้ โลกประสบภัยพิบัติมากมาย ทั้งที่เทคโนโลยี่เจริญถึงขีดสุด แต่กลับไม่ตอบโจทย์ จึงขอใช้ Information แก้วิกฤตพิชิตภัยพิบัติให้ลดลงจงได้
คำสอนของทุกศาสนา ได้รับการรวบรวมจัดเก็บอย่างเป็นระบบระเบียบ พร้อมที่จะนำไปใช้ประโยชน์ได้ ถือว่าเป็น Information ชั้นเลิศและล้ำค่า เพียงแค่รู้จักเลือกเฟ้นสิ่งที่เหมาะสมกับยุคสมัย เข้าได้กับสถานการณ์ ประยุกต์ด้วยเทคโนโลยีที่มีอยู่ ก็จะเกิดประโยชน์มากมาย ทำให้ภัยพิบัติลดลงได้อย่างแน่นอน
ศาสนาใหญ่ ๆ กล่าวไว้ตรงกัน พุทธ คริสต์ อิสลาม ฮินดู ยูดาห์ ให้ความสำคัญ "กตัญญู รู้คุณ" อยู่เหนือคุณธรรมทั้งหลาย พระพุทธเจ้า ถือว่า กตัญญู รู้คุณ เป็นพื้นฐานของคนดี ส่วนปรมาจารย์ขงจื้อ แห่งศาสนาปราชญ์ กำหนดให้ กตัญญู รู้คุณ เป็นข้อแรกของคุณธรรม 8 (ปาเต๋อ)
เพราะว่า กตัญญู รู้คุณ ทำหน้าที่ปรับสมดุลชีวิต ทำให้ชีวิตราบรื่น มีการทรงตัว ไม่เสียศูนย์ ไม่สะดุดติดขัดล้มลุกคลุกคลาน แม้ว่าสมองปราดเปรื่องเรืองปัญญา สร้างผลงานมากมาย แต่ไม่กตัญญู รู้คุณ ชีวิตก็เสียศูนย์ ตกระกำลำบาก หรือประสบภัยธรรมชาติ
โรงงานและยานพาหนะ ปล่อยควันพิษทำลายชั้นบรรยากาศ ทำให้เกิดปรากฏการณ์เรือนกระจก เกิดภาวะโลกร้อน เกิดภัยแล้ง น้ำท่วม ภัยพายุรุนแรง ตามด้วยความอดอยากยากไร้ ธรรมชาติโอบอุ้มหล่อเลี้ยงมวลมนุษย์ แต่กลับถูกมนุษย์ทำลาย นี่คือ การเนรคุณ นี่คือ เหตุปัจจัยภัยพิบัติทั้งหลาย
หากทำผิดต่อผู้มีพระคุณ มีโทษตามมาทั้งสิ้น เช่นทำผิดต่อพ่อแม่ มีโทษเทียบเท่าทำผิดต่อพระอรหันต์ (อนันตริยกรรม)
พึงระมัดระวัง สำนึกคุณ เทิดทูนบูชาผู้มีพระคุณและตอบแทนคุณสุดกำลัง เพื่อปรับสมดุลชีวิต ผู้มีพระคุณทั้งหลาย เริ่มจาก ธรรมชาติ ศาสดาทุกศาสนา พระโพธิสัตว์ พระพุทธะ พระอรหันต์ พ่อแม่ สถาบันชาติ คุณครู ผู้อุปถัมภ์ค้ำชู ฯลฯ
วิธีการแก้ไขอุปนิสัยความเคยชิน ก็ต้องอาศัยทฤษฎีแนวทางการสื่อสารภายในบุคคล Intrapersonal Communication โดยใช้ถ้อยคำหรือภาษานำพาควบคุมจิตให้อยู่ในแนวทาง จนกว่าจะบรรลุเป้าประสงค์
กราบสำนึกพระคุณฟ้าบารมีบรรพจารย์ หรือ กั่นเซี่ยเทียนเอินซือเต๋อ
กราบสำนึกพระมหากรุณาธิคุณพระแม่องค์ธรรม หรือ เซี่ย ๆ เหลาหมู่ ต้าฉือต้าเปย
กราบสำนึกพระมหากรุณาธิคุณ องค์พระศาสดาและปรมาจารย์ทุกพระองค์ หรือ เซี่ย ๆ จูเทียนเสินเซิ่ง ต้าฉือต้าเปย
กราบสำนึกพระมหากรุณาธิคุณ สมเด็จพระศรีอาริยเมตตรัย หรือ เซี่ย ๆ หมีเล่อจู่ซือ ต้าฉือต้าเปย .............
สามารถคิดถ้อยคำที่เราชอบขึ้นใช้เองได้ ประเด็นอยู่ที่ต้องกล่าวซ้ำ ๆ ทั้งออกเสียงและในใจ จนกว่าจะเกิดความเคยชิน
เมื่อปูพื้นฐานกราบสำนึกคุณเป็นปึกแผ่นแน่นหนาแล้ว ก้าวต่อไปใคร่เห็นผลดุจปาฏิหาริย์ทันอกทันใจ ต้องอาศัยสัจจพลัง คิด พูด และทำ อยู่บนเส้นตรงเดียวกัน ทำมุม 180 องศา เมื่อเริ่มเชื่อมั่นศรัทธา(คิด) แล้วตั้งปณิธาน(พูด) ทุ่มเทสุดกำลัง(ทำ)
"นับว่า เป็นโองการฟ้าปกโปรด 3 ภพเป็นครั้งแรก ในขณะที่โลกใบนี้เกิด-ดับไปแล้ว 7 ครั้ง ยังมีผู้คนทั่วโลกอีกหลายพันล้านชีวิตที่ไม่มีโอกาสกราบรับวิถีธรรม กั่นเซี่ยเทียนเอินซือเต๋อ บุกเบิกเผยแพร่และสร้างสถานธรรม...." เมื่อเชื่อมั่นศรัทธาและสำนึกคุณ(คิด) แล้วกล่าวออกเสียงรวมทั้งในใจทุกวันตามปณิธาน(พูด) จนกว่าจะแปรเปลี่ยนเกิดเป็นรูปธรรม(ทำ)
ศักยภาพ ที่มนุษย์ได้รับจากธรรมชาติ บรรดา เมตตาบารมี มโนธรรม จริยธรรม สัจจบารมี และปัญญาบารมี เป็นต้น ต่างก็มีกตัญญู รู้คุณเป็นพื้นฐาน ทั้งนี้เป็นเพราะว่า โลกมี 2 ด้าน มืดและสว่าง กลางวันและกลางคืน น้ำขึ้นและน้ำลง สูงและต่ำ ต่ำต้อยและสูงศักดิ์ ยากไร้และร่ำรวย อีกเยอะแยะ แต่ว่าทั้งหมดทั้งมวลล้วนมี คุณประโยชน์และโทษภัยปะปนกันอยู่ ดังนั้นกตัญญู รู้คุณ คือเข็มทิศที่บ่งชี้เลือกเอาเฉพาะด้านคุณประโยชน์ พร้อมทั้งลบทิ้งโทษภัยให้หมดสิ้น
แม้กระนั้น ยุคขาวอันเป็นยุคท้ายปลายกัลป์ มิเหมือนยุคแดงที่ผ่านมาซึ่งมุ่งเน้นบำเพ็ญปัญญาบารมีก็สำเร็จธรรมได้ ทว่ายุคขาวกลับมีลักษณะเฉพาะตามสมเด็จพระศรีอารียเมตไตรยซึ่งเป็นองค์พระศาสดาปกครองยุคขาว กล่าวคือ มุ่งเน้นบำเพ็ญวิริยะบารมีเป็นสำคัญ สาวกแห่งยุคขาวจึงต้องขยันขันแข็งออกแรงสุด ๆ พูดซ้ำ ๆ ทำซ้ำ ๆ ด้วยศรัทธาเชื่อมั่น หากปรารถนาสำเร็จธรรมภายในชาติเดียว มิเช่นนั้นต้องกลับมาเกิดแล้วบำเพ็ญภายใต้โพธิสมภารแห่งสมเด็จพระศรีอารียเมตไตรยอีกหลายภพหลายชาติ จนกว่าจะบรรลุธรรมกลับคืนสู่นิพพานบ้านเดิม ประเด็นก็คือ ผู้บำเพ็ญธรรมในยุคขาว จะต้องกราบรับวิถีธรรมก่อน จึงจะบำเพ็ญธรรมได้อย่างราบรื่นและไม่ตกหล่นหรือถูกทิ้งไว้ข้างหลัง
อย่างไรก็ตาม ยังต้องขยันขันแข็งอย่างหนัก เช่นเดียวกับที่กล่าวไว้ในวรรคแรก เพราะว่าสาวกในยุคขาว มือคือสมอง ลงมือทำมาก ๆ จึงจะเกิดปัญญา จึงจะสมปรารถนาในขณะยังมีลมหายใจ และสำเร็จธรรมได้ ในที่สุด
หัวใจของ The Information คือ พูดซ้ำ ๆ กระทำซ้ำ ๆ โดยเชื่อมั่นศรัทธาสุดหัวใจ จนกว่าจะสำเร็จสมปรารถนา