คณะดนตรีแห่งโรงพยาบาลยุลเจกลับมาพบกับผู้ชมอีกครั้ง วงดนตรีที่ไม่รับงานจ้าง ไม่มีเพลงเป็นของตัวเอง เล่นแต่เพลงฮิต เพลงไม่ฮิตอย่าริมาถาม นักดนตรีไม่ได้เทพ อยู่ห้องผ่าตัดคนไข้มากกว่าห้องซ้อมดนตรี มาห้องซ้อมอาทิตย์ละครั้ง มีความจดจ่อกับมื้ออาหารก่อนซ้อมเพลง และมีชื่อวงแปลกๆ ว่า “สันเขาไดโนเสาร์”  



หนึ่งปีเต็มที่รู้จักรู้ใจกันมา แม้จะคิดว่าคงไม่ต้องแนะนำตัวกันแล้ว แต่ก็แนะนำสักหน่อยนะ 



หมอผี - แชซงฮวา อาจารย์หมอแห่งประสาทศัลยกรรม เป็นศูนย์กลางแห่งแกงค์เสื้อกาวน์ เก่ง ใจดี ยิ้มง่าย หัวเราะง่าย และขำกระจายทุกมุขตลกที่มาจากหมอเพี้ยน ทำงานเยอะ แว็บไปแว็บมาเหมือนผีแยกร่างได้ 



หมอหมี - ยางซอกฮยอง อาจารย์หมอแห่งสูตินรีเวช ผู้ก่อตั้งวงดนตรี “สันเขาไดโนเสาร์” เก่ง ใจดี อบอุ่นเหมือนหมี เห็นนิ่งๆ อย่าไปแหย่เล่น อย่าหาทำจะโดนหมีตบเอาไม่รู้ด้วย เรื่องเมตตา กรุณา มุทิตา ยังอยู่ครบ แต่อุเบกขาอาจจะหย่อนไปนิดๆ โดยเฉพาะกับอดีตลูกเลี้ยงทั้ง 4 



หมอจุ่น - คิมจุนวาน อาจารย์หมอแห่งศัลยกรรมหัวใจและทรวงอก เก่ง ใจดี ปากไม่ตรงกับใจ แสดงออกไม่ตรงกับที่คิด ซึนน้อยกว่าเดิม ซื่อไม่เปลี่ยนแปลง มีคำว่าเหงาแปะอยู่ที่หน้าผาก และมีเงา(สั้นๆ) ชื่อว่าแจhug



หมอเพี้ยน - อีอิกจุน อาจารย์หมอแห่งศัลยกรมตับและถุงน้ำดี เก่ง ใจดี สาระแนเหมือนเดิม เพิ่มติมคือเป็น กามเทพ ไล่ยิงศรรักใส่คนโน้นคนนี้ไปทั่ว นอกจากเป็นจักรวาลของ “จักรวาลน้อย” แล้ว ก็ยังเป็นทุกอย่างให้เธอแล้วของ “คนที่คุณก็รู้ว่าใคร” อีกด้วย



หมอพระ - อันจองวอน อาจารย์หมอแห่งกุมารศัลยกรรม เก่ง ใจดี อ่อนโยนเบอร์สิบ อดทนก็เบอร์สิบ รวยกว่าเพื่อนและจนกว่าเพื่อน เคยฝันอยากบวชเป็นพระ ความฝันกำลังจะสำเร็จ จับพลัดจับผลูกลายเป็นพระเอกอย่างไม่รู้ตัว แต่ที่รู้ชัวร์ๆ คือรู้ใจตัวเอง 



แกงค์เสื้อกาวน์ จากที่กระจัดกระจายกันไป แต่ก็เพราะวอนจังและหมีที่ต่างก็มีเป้าหมายพิเศษ ทำให้เพื่อนรักทั้ง 5 ได้กลับมากระชับมิตรแบบเจอหน้ากันทุกวันอีกครั้ง ณ โรงพยาบาลยุลเจ ไม่ต่างจากสมัยเป็นนักศึกษาแพทย์ปีหนึ่ง ตอนที่พวกเขาทั้ง 5 ได้พบกันเป็นครั้งแรก  



ในวันที่ได้กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง บางคนเลิกกับแฟน บางคนมีแฟนใหม่ที่ต้องซ่อนเร้นปิดบัง บางคนหย่า บางคนถูกทิ้งแถมด้วยลูกเล็ก และบางคนก็หักมุมอย่างชนิดที่คนวงนอกไม่มีทางเชื่อเด็ดขาด เริ่มต้นปีใหม่ในซีซั่นใหม่กับวัย 41 ปี เราจะได้เห็นแง่มุมใหม่ๆ ของคุณหมอทั้ง 5 ที่แปลกตาแต่น่ารักน่าหยิกชนิดที่จะต้องหลงรักพวกเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า 



ชีวิตทุกวันของพวกเขาที่วนเวียนอยู่กับการเกิด ความเจ็บป่วย และการจากลาด้วยความตาย ในสัจธรรมข้อนี้ ยังประกอบไปด้วย การต่อสู้กับความป่วยไข้ ความพยายามของคนไข้ การเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นซึ่งหมายถึงคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าเดิม ความอบอุ่นของครอบครัว ความรักภายในครอบครัว ปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นกับใครก็ได้ และปาฏิหาริย์สามารถเกิดขึ้นได้ทุกวันในโรงพยาบาลยุลเจแห่งนี้ 

 

นอกจากเรื่องราวอันซาบซึ้งในแต่ละเคสของคนไข้และครอบครัว คนดูจะได้เห็นพัฒนาการของเหล่าแพทย์ประจำบ้านในแง่การเรียนรู้ทั้งศาสตร์และศิลป์แห่งการเป็นแพทย์ที่ดีจากอาจารย์หมอที่เก่งและใจดีทั้ง 5 ที่ดำเนินมาตั้งแต่ซีซั่นแรกและต่อเนื่องมาในซีซั่นที่สองนี้ 



ไม่ว่าจะเป็น หมอแจฮัก ศิษย์เอกอ.จุ่น, หมอดราก้อน จากหัวหน้าแพทย์ประจำบ้านที่เติบโตมาเป็นเฟลโลว์, หมอฤดูหนาวแสนยาวนาน ที่เอาชนะพระเจ้าได้สำเร็จ, หมอน้องฮาที่ไม่ว่าจะผิดหวังกี่ครั้ง เธอก็ลุกขึ้นมาใหม่อย่างไวและหัวเราะให้กับทุกความผิดหวังหรือผิดพลาดแล้วเดินหน้าอย่างมีกำลังใจเสมอ 



ยังมีแพทย์ประจำบ้านทั้งรุ่นเก่าและรุ่นใหม่อีกหลายคนจากแต่ละแผนก หมอซอนบิน หมอซองยอง หมอชางมิน หมอคิมกอน หมอแจมิน สองอินเทิร์นคู่แฝด ยุนบก-โฮดง มาสร้างสีสันให้คนดูได้สนุกไปกับชีวิตวุ่นวายทั้งสุขและเศร้าที่วนเวียนอยู่ในแต่ละแผนกของโรงพยาบาลยุลเจ และที่จะขาดไม่ได้คือห้อง ER กับหมอบง-วงใน



ความอบอุ่นที่หมุนอยู่รอบแกงค์เสื้อกาวน์ทั้ง 5 ไม่ว่าจะเป็น อูจู เจ้าจักรวาลน้อย, หลวงพี่เปโตร มาเมื่อไหร่ได้ฮาเมื่อนั้น, ออมม่าโรซ่า แม่หมี ลุงจงซู มาครบทีมเช่นเดิม แม้แต่คนที่ไม่คาดว่าจะได้เจอ ก็อาจจะได้เจอ อะไรก็เกิดขึ้นได้ในยุลเจ  




ความสดใหม่จากเหล่านักแสดงรับเชิญมากฝีมือในแต่ละตอน ทั้งที่คุ้นเคยและคุ้นหน้า ความแปลกใหม่ที่ไม่เคยได้เห็นในซีซั่นแรกอย่างการเปิดบ้านของสองหนุ่มจุ่น-วอนจัง หรือสิ่งที่ไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนักอย่างการมีซีนร่วมกันของบางคู่อย่าง หมี-อิกจุน หรือ จุ่น-หมี ที่จะไม่ได้มาแบบธรรมดาแน่นอน 



นอกจากความซาบซึ้งละมุนหัวใจของบทละครจากนักเขียนอีอูจอง สิ่งที่ไม่เคยขาดหายไปจากงานของผู้กำกับชินวอนโฮ คือเสียงหัวเราะที่บ่อยครั้งก็มาพร้อมกับน้ำตา ไม่ว่าจะเป็นขำจนน้ำตาไหล หรือทั้งขำทั้งซึ้งจนต้องปล่อยให้ความรู้สึกพรั่งพรูออกมาในแบบของเรา

 


พวกเขาทั้ง 5 พรั่งพรูออกมาเป็นบทเพลง เหมือนเช่นเคยในซีซั่นแรกกับ 12 บทเพลงแสนประทับใจ ในซีซั่นนี้ยังมีบทเพลงเยี่ยมๆ อีกมากมายที่อีอูจองเลือกสรรเป็นอย่างดี มอบหน้าที่ให้แกงค์เสื้อกาวน์ ในนามของวง “สันเขาไดโนเสาร์” หรืออีกนัยหนึ่งก็คือวง Mido and Falasol ที่จะมาบรรเลงและขับกล่อมให้เราดูพร้อมฟัง สุข-เศร้า-เหงา-รัก ต่อเติมพลังใจและพลังรักไปกับพวกเขา



เรื่องราวชีวิตรักที่เข้มข้นของคุณหมอทั้ง 5 ดำเนินต่อเนื่องจากซีซั่นแรก ที่ลุ้นมาทั้งซีซั่นที่แล้ว ก็จะได้ลุ้นหนักไปอีกในซีซั่นนี้ ที่เหมือนจะสบายๆ ก็กลายเป็นยากยิ่งนัก ที่เหมือนจะไม่มีหวัง แต่ก็ไม่เคยจะสิ้นหวัง และบ้างก็แค่รอเวลาที่ชัวร์กับคนที่ใช่ 



ความชัดเจนของหมอผีหมอเพี้ยน อิก-ซง ที่ไม่ได้เป็นมหากาพย์แสนยาวนานกว่า 20 ปีของเขาทั้งคู่เท่านั้น แต่คนดูเองก็เหมือนรอคอยมาอย่างยาวนานเคียงข้างเขาทั้งคู่เช่นกัน อิกจุนที่เป็นทุกอย่างให้เธอแล้วมาโดยตลอด ซีซั่นนี้ ซงฮวาจะเป็นอะไรให้อิกจุนได้อีกบ้างนอกจากเป็นเพื่อนสนิท เป็นเพื่อนรักที่รักเพื่อน  . . . เหลือเกิน



น้องลมเย็นที่เอาชนะพระเจ้ามาได้อย่างกล้าหาญ ครอบครองคุณพี่สวนลับจนหมดหัวใจ พวกเขาจะต้องเผชิญกับอะไรอีกหรือไม่ในซีซั่นนี้ อาจเป็นคราวที่วอนจังจะเป็นหลักให้พักพิงและจับมือคนรักเพื่อฝ่าฟันอุปสรรคครั้งใหม่ให้จงได้ 




เจ้าหมีที่ไม่ว่าจะเรื่องไหนๆ ก็เอาแต่หนีอยู่ร่ำไป เจอฝูงชนก็หนี เจอปัญหาก็หนี เจอความรักดีๆ ยังจะหนีอยู่ได้ หมอน้องฮาจะได้ฮาหรือไม่ ไปให้กำลังใจน้องฮา ผู้จับหมีด้วยมือเปล่า กันค่ะ ว่าเธอจะทำสำเร็จหรือไม่  



พี่จุ่น-น้องนก เปิดตัวก่อนใคร มาไวเคลมเร็ว รักจริงหวังแต่ง และทั้งคู่ก็รักกันมากอย่างไม่มีสิ่งใดต้องสงสัย แต่ทำไมพี่จุ่นจึงอยู่ในความไหวหวั่นเสมอ คนที่อยู่ห่างกันแสนไกล แต่เขาก็ได้เข้ามาสู่ชีวิตเธอในฐานะผู้ช่วยชีวิต ความปาฏิหาริย์ที่เป็นจุดเริ่มต้นความรัก กับคำถามว่าไกลแค่ไหนคือใกล้ เป็นระยะทางหรือสิ่งใดกันแน่ที่เป็นอุปสรรค เปิดด้วยจุ่นก็ต้องจบที่จุ่น เอาใจช่วยความรักติดปีกของทั้งคู่กันค่ะ



เอาเข้าจริง ฉันดูซีซั่นนี้ด้วยความรู้สึกผ่อนคลายจนเกือบจะเรียกว่า สบายๆ ได้เลยด้วยซ้ำ เมื่อนึกย้อนไปถึงซีซั่นแรกที่เพิ่งเริ่มรู้จักพวกเขาทุกคน และคาดเดาอะไรแทบไม่ได้เลยกับเรื่องหัวใจในทุกความสัมพันธ์ ลุ้นเกือบทุกตอนว่าจะมีอะไรไม่คาดคิดโผล่มาให้เสียวหัวใจอีกไหม



แต่ในซีซั่นนี้ ทั้งอีอูจองและชินวอนโฮใจดีกับคนดูมาก ใครที่ดูงานของคู่นี้มาพอสมควรจนจับนัยยะที่เป็นสไตล์ของพวกเขาได้ จะไม่ร้อนรนหรือกังวลใดๆ เลย แค่ว่าเขาจะเล่าอย่างไรให้ไม่เฉิ่มไม่เชย ให้สวยงามที่สุดเท่านั้น 



ฉันเคยพูดอยู่หลายครั้ง และจะพูดอีกครั้งว่า การดูงานของอีอูจองและชินวอนโฮให้สนุกที่สุดคืออย่าพยายามเขียนบทเอง แค่ดูไปตามที่เขาเล่าอย่างช่างสังเกตสักหน่อย ต่อให้ไม่รู้เรื่องทฤษฎีอะไรสักนิด ก็ยังสนุกและรื่นรมย์ที่สุด



ความรักก็เหมือนการใช้ชีวิต มีวันที่ราบรื่น สำเร็จทุกสิ่งประสงค์ ก็ย่อมมีวันที่เหมือนก้าวเท้าผิดข้างออกจากบ้าน อะไรๆ ก็พลาดไปหมด เราจึงต้องเตรียมใจให้พร้อมเสมอกับทุกสถานการณ์ ความผิดพลาดคือการเรียนรู้ ความสำเร็จเป็นแรงใจให้สู้ต่อไป 


.
ตราบชีวิตไม่สิ้น เราจะไม่ยอมแพ้ 

ความรักคือชีวิต คือพลังที่ทำให้ชีวิตขับเคลื่อนไป . . ถ้าเขาชอบเขาต้องมา . . ถ้าเธอรักเธอต้องมา . . หากหมอพร้อม เราจะชนะไปด้วยกัน  
.

 
อาจารย์


ลูกศิษย์